3/4

 

Ep.883 – ความน่าสะพรึงของแสนวิญญาณสะบั้น!

 

เกราะทมิฬมีพลังมากกว่าที่คิด ทั้งยังเหมาะสมที่สุดสำหรับทักษะการลอบสังหารของฉินเฟิง

 

หากเขาสามารถเรียนรู้กระบวนท่าวรยุทธที่อยู่ในชิปของหุ่นยนต์ ทักษะการลอบสังหารของฉินเฟิง คงติดปีกทะยานไปอีกขั้น แต่ตอนนี้หากคิดทำ เกรงว่าคงไม่ทันการณ์

 

“ยังไงก็เถอะ มีเท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว! อย่างไรเสีย ด้วยความสามารถในปัจจุบันของฉัน ตราบใดที่หาจังหวะได้ การสังหารเลเวล S ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน”

 

กลิ่นอายทั้งหมดทั้งมวลของฉินเฟิงจางหายไป หากมองด้วยตาเปล่าคุณจะไม่มีทางเห็นตำแหน่งของเขาที่มีเพียงความมืดมิด หากมองด้วยพลังสมาธิและการรับรู้ คุณจะไม่มีทางตรวจพบการดำรงอยู่ของฉินเฟิง

 

ในสนามรบ การต่อสู้ของเลเวล S ทั้งสิบสองคน เป็นฝ่ายมังกรที่ยิ่งสู้ พวกมันก็ยิ่งห้าวหาญขึ้นเรื่อยๆ

 

สามเผ่ามังกรผนึกกำลังต่อสู้กับหลงถิง พวกมันมิใช่คนโง่ ทั้งหมดสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของหลงถิง หากดวลเดี่ยวพวกมันย่อมไม่อาจสังหารศัตรูเบื้องหน้าได้ ดังนั้นอีกสองกระโจนเข้ามาช่วยเหลือ โอบล้อมพัวพัน สลับกันสู้กับหลงถิง และจะมีตัวหนึ่งเสมอ ที่คอยสอดส่องตลอดเวลา พร้อมกระโจนเข้าไปสนับสนุนการดวลของคู่อื่นๆ

 

หากเป็นฝั่งตนกำลังได้เปรียบสูสีก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อใดก็ตามที่มันสังเกตเห็นว่าคู่ประลองฝ่ายมนุษย์มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำ จะตรงเข้าตะลุมบอลในรูปแบบสองต่อหนึ่งทันที

 

ยังไงก็ตาม ทางฝ่ายมนุษย์เองก็ทราบว่าไม่น่าจะจบการต่อสู้ได้ง่ายๆ ดังนั้นพยายามยื้อเวลาออกไป รอให้เลเวล S คนอื่นๆกลับมาสมทบ

 

แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือหวันชิชาง เจ้าตัวแทบไม่สามารถรับมือกับเผ่ามังกรตัวที่อ่อนแอที่สุดได้ แม้เขาจะแข็งแกร่ง แต่หากเผ่ามังกรทุ่มโจมตีไปเรื่อยๆ หวันชิชางอาจตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตได้

 

ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจลากเผ่ามังกรตัวนี้ให้ออกห่างจากคนอื่นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะเดียวกันนี่เป็นการช่วยยื้อเวลาไม่ให้เกิดการปะทะตรงๆ เป็นคู่ประลองที่แยกออกจากสนามรบเพียงคู่เดียว

 

และทิศทางที่หวันชิชางกำลังหลบหนีมา ดันเป็นตำแหน่งของฉินเฟิงพอดี

 

“ได้การล่ะ!”

 

ดวงตาของฉินเฟิงลุกเป็นไฟ จับจ้องร่างของเผ่ามังกรตนนั้น

 

ปัจจุบัน หนึ่งในเผ่ามังกรเลเวล S ก็ตระหนักถึงสถานการณ์ของหวันชิชางได้เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว มังกรเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา ฉลาดไม่น้อยกว่ามนุษย์ ฉะนั้นจะมองไม่เห็นได้อย่างไร?

 

สีหน้าท่าทีของเผ่ามังกรตนนั้นแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายน่าหวาดกลัว เร่งตรงเข้าร่วมสังหาร เห็นได้ชัดว่าต้องการกำจัดหวันชิงชางก่อนเป็นคนแรก

 

“ท่านประธานหวัน อันตราย!”

 

“รีบถอยเร็วเข้า!”

 

คนอื่นๆร้องเตือน ส่วนเลเวล A ที่อยู่ห่างออกไป ขณะนี้แทบอดใจไม่ไหวที่จะพุ่งไปข้างหน้า เพื่อหยุดเผ่ามังกรตนนั้น

 

ต้องรู้นะว่าสถานะของหวันชิชางสำคัญมากจริงๆ องค์กรใหญ่อย่างกลุ่มหวันซ่ง มีผู้เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ สิ่งที่พวกเขานึกถึงไม่ใช่ ‘พวกตนจะสามารถแบ่งสมบัติกันได้มากแค่ไหนหากหวันชิชางตาย’ แต่เป็น ‘หากหวันชิชางตาย พวกเขาจะสูญเสียเงินไปมากแค่ไหน’ … เศรษฐกินของหัวเซี่ย จะถดถอยลงเท่าใดM

 

หวันชิชางพยายามล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่า

 

ตูมมม!

 

ภายใต้ผลพวงจากระลอกคลื่นของการโจมตี อาคารกว่าสามหลังพังทลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง ผู้คนที่อยู่ชายขอบ และแรงปะทะส่งถึง โดนลูกหลงกระอักเลือดคำโต

 

“รีบช่วยท่านประธาน!!”

 

สมาชิกกลุ่มหวันซ่งก้าวออกมา ผู้คนนับพัน ทั้งหมดติดตั้งป้อมปืนพลังงานสูงเอาไว้ก่อนแล้ว เล็งเป้าไปยังเผ่ามังกรที่แยกตัวออกมา

 

ซี่ ซี่ ซี่ ซี่ ซี่ …

 

ลำแสงนับพันถูกยิงจากทุกทิศทาง ระเบิดใส่เผ่ามังกรที่กำลังสู้กับหวันชิชาง

 

กายอันทรงพลังของมัน ภายใต้ผลกระทบจากแรงยิงจากปืนใหญ่นับพัน แม้มีแค่ไม่กี่เกล็ดที่รู้สึกคันและหลุดลอก ทว่าอย่างน้อยก็สามารถบังคับให้มันถอยกลับไปได้

 

อย่างไรก็ตาม เผ่ามังกรอีกตนที่ตรงเข้ามาช่วยรุมหวันชิชาง เวลานี้สามารถประชิดตัวเป้าหมายได้ในที่สุด

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไปลงนรกซะ!” อีกฝ่ายร้องคำรามด้วยความตื่นเต้น ในดวงตาสะท้อนประกายกระหายเลือด วินาทีถัดมา การโจมตีของมันซัดเข้าใส่หวันชิชาง

 

ปงงงงง!

 

คลื่นอัดอากาศกวาดกระจาย มุมปากของหวันชิงชางปรากฏเลือดไหลซิบออกมา บ่งบอกชัดว่าได้รับภายในได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

เผ่ามังกรได้ทีขี่แพะไล่ ก้าวตามติดชัยชนะอีกครั้ง

 

ฉินเฟิงที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง คอยจับจ้องการต่อสู้ วินาทีนั้นดวงตาเขาเปล่งประกายทันใด

 

ช่องโหว่โผล่มาแล้ว!

 

โอกาสทอง ..ในที่สุดก็มาถึงตรงหน้า!

 

ฉินเฟิงเคลื่อนไหวทันใด ทุกสายตา เห็นเงาร่างพุ่งออกจากซากปรักหักพัง แน่นอน ตอนแรกมันก็มีแค่เงาร่างเดียวอยู่หรอก แต่กะพริบตาเพียงครั้ง ลืมตาขึ้นอีกทีกลับโผล่มาเป็นร้อย และจากร้อยเป็นพัน จากพันเป็นหมื่นร่างเงา!

 

“ทักษะหมื่นภูติ!!!”

 

ร่างเงาของฉินเฟิง ถูกปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด เลเวล A หลายคนไม่สามารถมองเห็นเป็นร่างมนุษย์ได้ด้วยซ้ำ พวกเขาเห็นแค่เพียงกลุ่มแสงและเงาสีดำขมุกขมัว

 

ส่วนพวกที่อยู่ต่ำกว่าเลเวล A ลงไป ยังหลงคิดว่าในสายตาพวกเขาเป็นพลุสีดำที่ระเบิดตรงตำแหน่งนั้น

 

มีแค่เฉพาะเลเวล S ที่ตระหนักได้ว่ามีคนๆหนึ่ง เปิดใช้งานวิชาตัวเบา

 

เงาร่างเหล่านี้ แยกตัวออกเป็นกองทัพ แต่เป้าหมายทั้งหมด มีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือมังกรตัวที่ทำร้ายหวันชิชาง

 

ใช่แล้วท่านอ่านไม่ผิด

 

ฉินเฟิงไม่ได้ตรงเข้าสังหารเผ่ามังกรตัวที่อ่อนแอที่สุด มิได้ตรงเข้าลอบสังหารมังกรตัวที่ถูกปืนใหญ่พลังงานนับพันโจมตี แต่เลือกเป้าหมายเป็นเผ่ามังกรที่คิดประชิดสังหารหวันชิชาง

 

ต้องขอบอกว่าอีกฝ่ายโชคไม่ดีเอาซะเลยที่ดันเสนอหน้าออกมาเช่นนี้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องขอบอกว่าโชคของฉินเฟิงน่ะมันดีเกินไป

 

เพราะหลังจากเผ่ามังกรตนนี้เข้าปะทะกับหวันชิชาง อีกฝ่ายก็เข้ามาอยู่ในระยะ 100 เมตรของฉินเฟิงแล้ว สำหรับเลเวล S พิสัยนี้ถือว่าใกล้เกินไป อันเกินกว่าจะทันตั้งตัว

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในแง่ของพลังงาน พลังในร่างของเผ่ามังกรกำลังปั่นป่วน เนื่องจากพลังเก่าเพิ่งถูกรีดใช้ออกไป พลังงานใหม่ยังไม่ทันเร่งเร้าออกมา

 

ฉินเฟิงสบโอกาส ไม่รอช้ากระโจนเข้าเก็บเกี่ยวชีวิตศัตรู!

 

“กระบวนท่าวรยุทธ : แสนสับสังหาร!!”

 

พริบตาที่ฉินเฟิงลงมือ กระบวนท่าวรยุทธเลเวล S ที่แข็งแกร่งที่สุดพลันระเบิดออกมา

 

ปัจจุบันกระบวนท่าหมื่นวิญญาณสะบั้นได้รับการปรับปรุงแล้ว ฉินเฟิงทรงพลังยิ่งกว่าผู้รังสรรค์มัน สามารถดึงพลังของท่าวิญญาณสะบั้น สำแดงอำนาจของมันออกมาได้มากกว่าต้นฉบับ

 

เนื่องจากเขาสังหารสัตว์ร้ายเป็นจำนวนมหาศาล ในขณะที่ผู้รังสรรค์ เข่นฆ่าเพียงมนุษย์

 

จิตวิญญาณของมนุษย์ จะแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจิตวิญญาณของสัตว์ร้ายได้อย่างไร?

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เหล่าวิญญาณภายในศิลาตรึงวิญญาณของฉินเฟิง เพิ่งได้รับพลังที่ถูกปลดปล่อยจากชุดเกราะทมิฬ

 

ณ เวลานี้ ทุกคนสามารถเห็นได้ ว่ามีดในมือฉินเฟิง กำลังสั่นสะท้าน พลังงานอันน่าสยองเกล้าระเบิดออกมา

 

บรึ้มมม!

 

พลังงานล้นทะลัก อานุภาพไม่ด้อยไปกว่าพลังงานในส่วนของเลเวล S เลย เอาจริงๆมันน่ากลัวกว่าซะด้วยซ้ำ

 

แต่ก็ถูกต้องแล้วไง เพราะนี่คือกระบวนท่าที่กระตุ้นโดยกำลังภายในเลเวล S ผสานไปกับความดุร้ายของดวงวิญญาณนับแสนตนที่ระเบิดโจมตีในคราเดียว ท่านสามารถลองจินตนาการดูได้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน

 

เผ่ามังกรที่ตกเป็นเป้าหมาย ยังไม่ทันตอบสนอง จิตวิญญาณนับแสนดวงพุ่งเข้ากลืนร่างมัน ถูกวิญญาณหลายหมื่นตนกัดกินในคราเดียว

 

“อ๊ากกกกก!”

 

เผ่ามังกรกรีดร้องน่าเวทนา

 

ในอากาศที่ว่างเปล่าเบื้องหลังของฉินเฟิง ดวงดาราระยิบระยับทั้งเก้าปรากฏขึ้น แรงกดดันจากกำลังภายในยิ่งถาโถม แสนวิญญาณยิ่งแข็งกร้าว

 

“มอดม้วยไปซะ!!”

 

ฉินเฟิงสับคมมีดอีกครั้ง จิตวิญญาณทรงพลังส่งเสียงโหยหวน กดทับลงไปอีกครา

 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายเช่นนี้ กลับไม่มีใครเลยที่สังเกตเห็นดวงดาราเบื้องหลังฉินเฟิง

 

สิ่งที่ทุกคนเห็น นั่นคือภายใต้คมมีดวิญญาณอันน่าสยดสยองของฉินเฟิง เผ่ามังกรเลเวล S มิอาจทานทนต่อการโจมตี ตัวระเบิดแตกไปในที่สุด

 

โผล๊ะ!!

 

เลือดและเนื้อบินว่อน ขณะเดียวกันพลังงานมหาศาล เริ่มกระจัดกระจายไปในอากาศที่ว่างเปล่าระหว่างสวรรค์และปฐพี

 

เหตุนี้เป็นเพราะ แม้ชาวมังกรจะเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันจัดว่าอยู่ในกึ่งสัตว์ร้าย หลังจากเสียชีวิต พลังงานในร่างกายจะสลายไปตามธรรมชาติ

 

ชุดเกราะทมิฬ , ดวงดารา , และดาวเคราะห์เพชรของฉินเฟิง เริ่มปลดปล่อยแรงดึงดูดมหาศาล กวาดกลืนพลังงานที่กระจัดกระจายทั้งหมดนั้นเข้ามา รวบเข้าสู่ร่างของฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงซึ่งเดิมกำลังจะยกระดับ เมื่อได้รับพลังงานนี้ เงื่อนไขถูกเติมเต็มทันใด ความแข็งแกร่งทางกายภาพพุ่งทะยานไปอีกขั้น!

 

ก้าวขึ้นสู่เลเวล B9 !

 

ยกระดับในสนามรบ กลิ่นอายถูกเปิดเผยออกมา ไม่อาจปกปิดได้เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

 

ทว่ากลิ่นอายที่กระจายไปทั่วสารทิศนี้ กลับทำให้ทุกคนต้องตกตะลึคง

 

“เลเวล B ! เป็นแค่ผู้ใช้พลังเลเวล B ไปได้อย่างไร!?”

 

“เขาเป็นใครกัน? เลเวล B สามารถสังหารเผ่ามังกรเลเวล S ได้จริงๆงั้นหรอ นี่ฉันไม่ได้ฝันไป ..?”

 

“ฉินเฟิง! ที่แท้เขาคือฉินเฟิง!”

 

บางคนสามารถจดจำรูปลักษณ์ของฉินเฟิงได้ ทั้งหมดกรีดร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ