2/4

 

Ep.834 – เผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญา : อสูรโลหิต

 

ผู้คนจากแอฟริกาเหนือ ถูกโยนลงสู่ความโกลาหล ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ

 

เกิดรอยแยกมิติขึ้นอย่างกะทันหัน มันกระจายไปทั่วทุกที่ บีบพวกเขาจนต้องล่าถอยมากระจุกรวมกันในพื้นที่ปลอดภัย บ้างถึงขั้นจำใจละทิ้งเครื่องบิน กระโดดหนีออกมา

 

ปัจจุบันพวกเขาอยู่ห่างจากประตูมิติกลับสู่แม่น้ำสติกซ์ ดังนั้นไม่มีเวลาให้ทันได้ล่าถอย

 

คลิฟส์เมื่อเห็นสถานการณ์ดังกล่าว ตัดสินใจเด็ดขาด ควบคุมเครื่องบินขนาดใหญ่อีกสองลำของเขา มุ่งหน้าเข้าสู่ระยะยิงปืนใหญ่ของเรือเหาะของฉินเฟิง

 

บนเรือเหาะ เมื่อเห็นการกระทำของคลิฟส์ จินห่าวก็หัวเราะออกมา

 

“บุตรแห่งตะวันแห่งกลุ่มตำหนักเทพ ช่างหน้าด้านหน้าทนจริงๆ เมื่อกี้ยังสู้กับท่านประธานอยู่เลย มาตอนนี้คิดขอหลบภัยกับพวกเราซะแล้ว”

 

จินห่าวหันไปมองฉินเฟิงอีกครั้ง คล้ายรอคำสั่งจากเขา ว่าจะให้ยิงอีกฝ่ายเลยหรือไม่ เอาจริงๆการโจมตีก่อนหน้านี้ เป็นแค่การเรียกน้ำย่อยเท่านั้น

 

“อย่าไปสนใจพวกเขา ตอนนี้พวกเราต้องตื่นตัวตลอดเวลา ระมัดระวังให้ดี”

 

ฉินเฟิงกล่าว กระจายพลังสมาธิออกไป สำรวจมิติที่ไม่รู้จัก และความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายที่หลุดออกมา

 

ยังไม่พอ ปรากฏเมืองขนาดใหญ่ในจุดที่ไกลออกไป ซึ่งฉินเฟิงตระหนักได้ทันที ว่าตรงจุดนั้นคือตำแหน่งอะไร

 

คาดว่าสมควรเป็นสมรภูมิธารโลหิต

 

การต่อสู้รุนแรงเกิดขึ้นตรงจุดนั้น!

 

อ้างอิงตามข่าวในชีวิตก่อน ข้อมูลที่รวบรวมมาโดยสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือ สาเหตุหลักๆที่มิติแห่งนี้มีชื่อว่าธารโลหิต ก็เนื่องมาจากสิ่งมีชีวิตอันหลากหลายในมิติแห่งนี้มีความกระหายเลือดอยู่ในตัว

 

ขณะเดียวกัน มิติใหม่ที่ถล่มลงมา มีทั้งสัตว์ร้ายและมนุษย์ เมื่อตกมายังสถานที่นี้ ทันทีที่เข้ามา เกรงว่าคงถูกโจมตีอย่างโหดเหี้ยมไร้ปราณีโดยสิ่งมีชีวิตในมิติธารโลหิต

 

ซึ่งคงนำไปสู่การตกตายของสัตว์ร้ายและมนุษย์นับไม่ถ้วน

 

ยิ่งไปกว่านั้น มิติที่กำลังล่มสลายนี้ ยังซ้อนทับกันกับมิติธารโลหิต การซ้อนทับดังกล่าวจะกินระยะเวลาหลายเดือน , หลายปี หรืออาจหลายร้อยปีก็ได้ใครจะรู้

 

จากฝั่งมิติล่มสลาย กระแสของผู้คนหลบหนีออกมาไม่มีวี่แววว่าจะหยุดยั้ง จู่ๆก็เกิดรอยแยกมิติขึ้น สิ่งนี้ได้กลายเป็นความหวังในการรอดชีวิตของพวกเขา โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวเลย ว่าแท้จริงแล้วรอยแยกเหล่านี้คือปากทางเข้าสู่ขุมนรก

 

กองทัพมนุษย์กระโจนผ่านรอยแยก แม้พวกเขากับสัตว์ร้ายจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่เมื่อก้าวเข้ามา และเห็นสภาพแวดล้อมของมิติอันแปลกประหลาดนี้ พวกเขาก็เริ่มตื่นตระหนก เริ่มหวาดระแวงและหยิบอาวุธขึ้นสู้กับสัตว์ร้าย

 

ขณะเดียวกัน สัตว์ร้ายบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว เพราะเมื่อพวกมันหล่นลงบนยอดเขา สิ่งมีชีวิตสีเลือดนับไม่ถ้วนก็เผยโฉมออกมา มุดเข้าตามผิวหนัง แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของพวกมัน แล้วสูบเลือดจนตาย

 

ทันใดนั้น เพียงระยะเวลาสั้นๆ ซากศพกลาดเกลื่อนไปทุกหนแห่ง สัตว์ร้ายพยายามหลบหนี แต่สุดท้ายทั้งหมดต้องจบชีวิตลง กลิ้งไถลลงตามไหล่เขา ตกไปในแม่น้ำ กลายเป็นซากศพใหม่

 

ในตอนนั้นเอง ท่ามกลางบรรดารอยแยกมิตินับไม่ถ้วน หนึ่งในรอยแยกที่ใหญ่ที่สุด ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อบินออกมา

 

“สัตว์เทวะ … นี่มันกลิ่นอายของสัตว์เทวะ!”

 

จินห่าวในห้องควบคุมเร่งพลังงานบนเรือเหาะถึงขีดสุด ขณะเดียวกันล็อคเป้าลงบนสิ่งมีชีวิตตัวนั้นอย่างรวดเร็ว

 

นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับวัวและม้า ใต้เท้าและบริเวณหางของมันลุกไหม้ด้วยเปลวไฟ แต่ตามลำตัวเป็นเกล็ดสีคล้ายอิฐถูกพอกด้วยโคลน มีความแข็งแกร่งอยู่ในเลเวล A2

 

ร่างกายของมันไม่ได้ใหญ่โตอะไร บางทีอาจกำลังใช้เทคนิคเปลี่ยนรูป ตอนนี้เลยสูงเพียง 5 เมตร ยาวราวๆ 7 – 8 เมตรเท่านั้น ถ้าเทียบกับสัตว์ร้ายธรรมดา ไม่ถือว่ามีขนาดใหญ่อะไร

 

อย่างไรก็ตาม จิตคุกคามที่มันแผ่ออกมา ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย

 

มันร่อนลงบดยอดเขา ดวงตาสะท้อนไปด้วยกลิ่นอายของปัญญา น้ำในแม่น้ำเลือดบางส่วนกระเซ็นเข้าใส่มัน แต่ยังไม่ทันเข้าถึงตัว ก็ถูกเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อยู่รอบกาย ระเหยไปเสียก่อน

 

คล้ายกับว่ามันสามารถตระหนักถึงสภาพแวดล้อมไม่ชอบมาพากล ร่างกายของมันเริ่มสร้างรัศมีเปลวเพลิงขึ้นอย่างรวดเร็ว ห่อหุ้มตัวเองเอาไว้

 

จากนั้น มันย่างเท้าออกไปหลายก้าว แต่เหมือนกำลังเดินอย่างไร้จุดหมาย ไม่กี่ลมหายใจต่อมา มันแหงนหน้ามองฟ้า อ้าปากกู่ร้องคำรามยาว

 

“ลูลูลูลู— ”

 

ระหว่างเสียงแผดร้องยาว เกล็ดตามตัวมันเริ่งเปล่งประกายสีเหลืองสลัว ก่อร่างรังสีแสงขึ้น และกวาดกระจายออกไป

 

วู้มมมม!

 

รังสีแสงวิ่งไกลออกไปนับพันเมตร ด้านหนึ่งพุ่งผ่านอากาศที่ว่างเปล่า อีกด้านหนึ่งตรงเข้าหายอดของภูเขาใหญ่

 

วินาทีต่อมา จุดที่เคยเป็นยอดเขา ถูกตัดออกโดยพลัน พลิกหงายร่วงหล่นลงในแม่น้ำ

 

พื้นดินสีน้ำตาลแดงถูกเผยออกมา

 

แม้ที่เห็นจะไม่ใช่ดินอุดมสมบูรณ์อะไร แต่อย่างน้อยตรงจุดนี้ มันไม่มีพืชกลายพันธุ์อยู่อีกต่อไป!

 

“ลูลูลู ..!” สัตว์เทวะส่งเสียงร้อง สัตว์ร้ายหลายตัวที่กำลังดิ้นรนอย่างยากลำบาก บังเกิดประกายแห่งความหวังของการเอาชีวิตรอด พวกมันตรงไปยังทิศทางของสัตว์เทวะ มารวมตัวกันตรงพื้นที่สี่เหลี่ยมที่เพิ่งสร้างขึ้นทันที

 

“ย้ายขุนเขาถมทะเล … นี่มันเทคนิคอบิลิตี้ย้ายขุนเขาถมทะเลไม่ใช่หรอ!? อานุภาพร้ายแรงจริงๆ!” โจวเจ๋อเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุดินเลเวล B ขณะนี้ เมื่อเห็นสัตว์เทวะปลดปล่อยเทคนิคออกมา ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย

 

เทคนิคย้ายขุนเขาถมทะเล เดิมมิใช่อบิลิตี้ที่รุนแรงอะไร เอาจริงๆแค่เลเวล C ก็สามารถเรียนรู้ได้แล้ว แต่การจะระเบิดอานุภาพของมันให้ได้ขนาดนี้ ใช่ว่าทุกคนจะสามารถบรรลุ เกรงว่าคงมีเฉพาะเลเวล A ขึ้นไปเท่านั้นถึงทำได้

 

โจวเจ๋อสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ถึงการจัดเรียงของอักษรรูนดิน นี่เป็นประโยชน์อย่างมาก มันช่วยให้เขาสามารถเข้าใจเกี่ยวกับอบิลิตี้นี้ได้อีกขั้น

 

ผลลัพธ์นี้ ก็เหมือนในกรณีเดียวกันกับผู้ใช้วรยุทธโบราณระดับต่ำ ที่มักชอบรับชมการประลองของผู้ใช้วรยุทธโบราณระดับสูง มันช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ ได้เข้าใจมากขึ้น

 

ขณะนี้ สัตว์เทวะสร้างพื้นที่ปลอดภัยเสร็จเรียบร้อย สัตว์ร้ายตนแล้วตนเล่าเริ่มปีนป่ายขึ้นไป เหมือนว่าทุกอย่างกำลังกลับคืนสู่ความสงบ

 

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงที่เฝ้ามองทุกฉากเบื้องหน้าเขา ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะตึงเครียด

 

อาการนี้มักเกิดขึ้นเสมอ เมื่อเขารู้สึกถึงอันตราย และไม่นานมันก็เกิดขึ้นจริงๆ

 

ซ่าาาา!

 

ภายในแม่น้ำเลือด จู่ๆเสาเลือดพลันปะทุขึ้น ฉากนี้ไม่ต่างจากน้ำพุเลือดพุ่งสู่ฟากฟ้า ก่อร่างเป็นมังกรน้ำสีเลือด โฉบเข้าหาพื้นราบบนยอดเขาทันที

 

พื้นดินที่ตอนแรกแห้งแล้งมีแต่สีน้ำตาลเหลือง บัดนี้เหนียวหนืดไปด้วยเลือด นอกจากนี้ ท่ามกลางเลือดที่พุ่งลงไป คล้ายมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่

 

“ก๊าซ ก๊าซซซซ … ”

 

เสียงสัตว์ร้ายร้องคำรามด้วยความตกใจ จากนั้นร่างของพวกมันพลันถูกห่อหุ้มไปด้วยน้ำและเลือด ฉุดลากลงใต้ดิน ราวกับว่าตรงจุึดนั้นมิใช่พื้นแข็งอีกต่อไป แต่กลายเป็นแอ่งโคลนเหลว

 

สัตว์ร้ายบนพื้นราบหลายพันตัว ทั้งหมดถูกเสาน้ำโถมเข้าใส่ ไม่หมดเพียงเท่านั้น แต่เสาน้ำเบื้องหน้า ยังปรากฏสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ขึ้น

 

ยังไงก็ตาม รูปมนุษย์นี้ ตลอดทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยเลือด อีกทั้งร่างของมันยังเป็นของเหลว เชื่อมต่อกับเสาน้ำที่กำลังปะทุ และยังดูเหมือนว่าจะมีความสูงเกินสิบเมตร

 

เมื่อกลิ่นอายของการดำรงอยู่ดังกล่าวถูกเผยออกมา ความหวาดกลัวก็ฟุ้งข้างในจิตใจของผู้คน

 

สองตาของฉินเฟิงที่คอยจับจ้องเหตุการณ์ตลอดมา บังเกิดประกายฉายวาบคล้ายสามารถตระหนักได้ถึงสถานะของมัน

 

“เผ่าอสูรโลหิตเลเวล A!”

 

อสูรโลหิตคือเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาแห่งมิติธารโลหิต!

 

และทุกสิ่งมีชีวิตที่เดินทางมาจากมิติล่มสลาย ทั้งหมดคืออาหารหล่อเลี้ยงเบารุงสำหรับเผ่าพันธุ์นี้! อย่างไรก็ตาม ในชีวิตก่อนเผ่าพันธุ์นี้ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสหภาพสาธารณรัฐแอฟริกาเหนือ หรืออาจเรียกว่าภายใต้การควบคุมของพันธมิตรมนุษยชาติก็ได้ พวกมันถูกขังให้อาศัยอยู่ในพื้นที่แคบๆเท่านั้น

 

เผ่าพันธุ์ชนิดนี้ หลังถูกสังหารจะผนึกตัวเองเป็นก้อนเลือด มีคุณสมบัติสามารถยืดอายุขัยและช่วยยกระดับความแข็งแกร่งได้ มันยอดเยี่ยมชนิดที่ว่ากระทั่งเลเวล S ยังถูกล่อลวง!

 

เมื่อมาถึงจุดนี้ อสูรโลหิตถลาลงไปยังพื้นราบ เข้าห่อหุ้มสัตว์ร้ายเหล่านั้นจนหมดสิ้น และพยายามลากพวกมันลงแม่น้ำเลือด หมายจะสูบเลือดทั้งตัวออกมา

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัตว์เทวะเลเวล A แม้อีกฝ่ายจะมีระดับเป็นถึงเทวะก็ตาม แต่อสูรโลหิตกลับไม่หวาดกลัวเลย

 

สถานที่แห่งนี้ คือบ้านของพวกมัน เป็นอาณาจักรที่พวกมันสามารถระเบิดความสามารถออกมาได้ถึงขีดสุด!

 

ขณะเดียวกัน เวลานี้ดวงตาของฉินเฟิงลุกไหม้เป็นประกาย!