1/5

 

Ep.823 – ซากปรักหักพัง

 

หลังจากข้ามผ่านประสบการณ์เอาชีวิตรอดมานานนับเดือน ชาวเมืองฉงโหลว ส่วนใหญ่ได้กลายเป็นผู้ใช้พลังกันหมดแล้ว

 

กระนั้น ในความคิดของพวกเขา ต่อให้ตนสามารถปลุกพลังได้แล้ว ก็ไม่มีความคิดรั้งอยู่ในที่แบบนี้อีกต่อไป

 

เพราะที่นี่มันเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ไม่มีสถานที่ใดปลอดภัย หากต้องเผชิญกับอันตรายแบบนี้ไปเรื่อยๆ พวกเขายอมผูกคอตาย! ดังนั้นการได้กลับไปยังโลกเดิมด้วยสถานะผู้ใช้พลังที่กำเนิดใหม่ ย่อมเป็นอะไรที่ดีกว่า

 

ที่สำคัญก็คือ ในโลกเดิมยังมีอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติ! เจ้าสิ่งนี้ช่วยรับประกันชีวิตของพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขาครอบครองสถานะผู้ใช้พลัง ชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง

 

ยังไงก็ตาม ช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือน ก็ยังมีหลายคนไม่สามารถวิวัฒนาการเป็นผู้ใช้พลังได้ คนเหล่านั้นต้องทนทุกข์อยู่กับประสบการณ์เลวร้ายที่ตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะผู้หญิงของจางหวู่ ไม่มีใครอยากออกจากโลกใบนี้ไปมากกว่าพวกเธอแล้ว

 

ในบรรดาผู้หญิงเหล่านั้น บางคนก็เป็นผู้ใช้พลัง และปรารถนาที่จะล้างแค้นจางหวู่สุดหัวใจ

 

สำหรับคนที่คิดอยู่ต่อ หนึ่งเลยคือชูฟ่าน เขาต้องการฝึกสัตว์ร้ายจอมเขมือบ อีกหนึ่งคือจางหวู่ เนื่องจากคิดว่าโลกใบนี้เป็นของตัวเอง ดังนั้นจึงบังคับผู้หญิงที่อยู่กับตน ไม่ยินยอมให้พวกเธอจากไป

 

ด้วยเหตุนี้ ภายในเมืองฉงโหลว จึงเกิดความขัดแย้งและการต่อสู้กันเองนับครั้งไม่ถ้วน

 

ทีมของชูฟ่าน และทีมของวังฉิน ไม่นานทั้งสองก็รวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดแหงนมองขึ้นไปบนฟ้า ดูคนกลุ่มเฟิงหลีกำลังเชื่อมต่อบันไดสวรรค์ ระเบิดควันไฟสีฟ้าถูกปล่อยลงมา สื่อสัญญาณว่าพวกเขาสามารถผ่านไปได้ คนเหล่านี้ไม่รอช้า ย่ำเท้าลงบนเหล็กกล้าทันที

 

คนข้างล่าง ในที่สุดก็อดใจไม่ไหว ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น

 

“เยี่ยมไปเลย ในที่สุดฉันก็สามารถออกจากสถานที่ต้องสาปแห่งนี้ได้สักที”

 

“รีบเดินเหอะ นายรีบ อย่างน้อยคนอื่นจะได้ออกไปเร็วขึ้น!”

 

“อย่าเบียดกัน!”

 

เกิดเสียงโวยวายที่ในฝูงชน ไม่มีใครคอยจัดระเบียบ ดังนั้นทุกคนแย่งกันหลบหนี

 

โชคดีก็คือ ในครั้งนี้ไม่มีคนเยอะเกินไป และผู้อพยพกระจายมาจากหลายส่วนของเมือง บ้างอยู่ใกล้บ้างอยู่ไกล ดังนั้นจึงไม่แย่งกันขึ้นในคราเดียว

 

ฉินเฟิงยืนอยู่ในห้องควบคุมของเรือเหาะ เฝ้ามองภาพจากโดรนสังเกตการณ์อย่างระแวดระวัง ผู้อพยพราวกับฝูงมดที่อ่อนแอ เกิดการแก่งแย่งกันขึ้นบันไดสวรรค์ ทุกคนต่างเร่งรีบ หมายจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

ชาวเมืองทยอยกันออกมาทีละคน

 

10,000 คน

 

20,000 คน …

 

50,000 ไปจนถึง 60,000 คน!

 

เวลาผ่านไปแค่สองนาที เกือบ 70 – 80% ของผู้อพยพทั้งหมดได้ออกมาแล้ว กลิ่นอายของคนเหล่านี้ เมื่อถูกตรวจสอบโดยพลังสมาธิ พบว่ามันน่ากลัวมาก

 

ผู้ใช้พลังรวมๆทั้งสิ้น 50,000 – 60,000 คน ต่อให้ตำสุดก็อยู่ในเลเวล G5 และสูงสุดมีถึงเลเวล C !

 

นี่ถือเป็นกำลังรบที่ทรงประสิทธิภาพมาก ยังไม่พอ คนเหล่านี้ ยังไม่มีทางเลือกใด นอกจากติดตามฉินเฟิง

 

เนื่องจากการเดิมพันในครั้งก่อนระหว่างฉินเฟิงกับรุ่ยฉง และฉินเฟิงเป็นฝ่ายชนะ ยื่นเงื่อนไขว่าหลังจบการประลอง รุ่ยฉงจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเมืองฉงโหลวอีก

 

และเวลานี้ ต่อให้รุ่ยฉงจะเสียใจมากแค่ไหน เขาก็มาที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว!

 

ฉินเฟิงเฝ้ามองคนกลุ่มนี้ จินตนาการถึงอนาคตและความรุ่งเรืองของเฟิงหลี

 

แต่ในตอนนั้นเอง ภายในมิติทับซ้อนที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทาเงิน จู่ๆก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แรงสะเทือนนี้ค่อนข้างชัดเจน สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่ได้ยินเสียง แต่บันไดสวรรค์ที่เชื่อมต่อระหว่างสองมิติ บัดนี้แกว่งไปมา เอนเอียงจนเกือบจะพังทลายลง

 

สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไปทันที

 

“เร็วเข้า รีบวิ่งออกมา!”

 

สิ้นเสียงของฉินเฟิง ไป๋หลีกับเขาก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสีเงิน ทันใดนั้นเทเลพอร์ตมาปรากฏตัวเหนือน่านฟ้าของมิติทับซ้อน ถัดออกไปเป็นบันไดสวรรค์

 

ช่วงเวลานี้ คนส่วนใหญ่ได้ออกจากมิติทับซ้อนแล้ว ที่ยังเหลือกำลังปีนป่ายในตำแหน่งช่วงบนของบันได ยอดบันไดภายนอกมีผู้ใช้อบิลิตี้โลหะคอยคอยช่วยพยุงอย่างสุดความสามารถ

 

“อ๊าาาา!”

 

เสียงคนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว มีหลายคนเสียหลัก ร่วงหล่นลงไป

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงระเบิดออกทันที ตรงเข้าควบคุมคนที่พลาดพลั้งเหล่านั้น พวกเขาดิ้นรนปัดป่ายมือเท้าอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อพบว่าตัวเองไม่ตกจากบันได ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันไปมองฉินเฟิงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยความซาบซึ้ง

 

ตูม!

 

ฉินเฟิงอัดฉีดกำลังภายในลงสองมือ ตรงเข้าช่วยพยุงด้านหนึ่งของบันไดสวรรค์ ถึงจุดนี้ บันไดสวรรค์จึงสามารถกลับมามั่นคงได้อีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนเมื่อครู่ เกิดขึ้นในมิติทับซ้อน ดังนั้นหลายคนที่กำลังปีนบันได พลาดท่าเพราะแรงสั่นสะเทือน ร่วงหล่นลงไป แต่ ณ จุดนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้

 

ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง พวกเขาตกลงจากที่สูง ยามสัมผัสพื้นเละเหลวกลายเป็นพายเนื้อ

 

ภายในมิติทับซ้อน เริ่มเกิดความโกลาหล

 

“เกิดอะไรขึ้น แผ่นดินไหวงั้นหรอ?”

 

“หรือ … หรือว่าจะเป็นพวกกองทัพสัตว์ร้ายอีกแล้ว!”

 

“หนีสิวะ! มัวยืนบื้ออะไรอยู่อีก!”

 

ผู้อพยพจับมือกัน ช่วยกันฉุดลาก พยายามหลบหนี ปีนป่ายขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

ภายในมิติทับซ้อน ซูฟ่านยืนขึ้นด้วยความประหลาดใจ กวาดมองไปรอบๆ

 

แต่ไม่พบว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรอบตัวเขา ทว่าการสั่นสะเทือนนี้ดูเหมือนจะผุดออกมาจากที่ใดที่หนึ่งอย่างกะทันหัน กระทั่งสัตว์ร้ายจอมเขมือบเบื้องล่างเขา ยังส่งเสียงครวญด้วยความหวาดกลัว

 

ไม่มีวี่แววของกองทัพสัตว์ร้ายปรากฏขึ้น เอาจริงๆแม้แต่สัตว์ร้ายที่ก่อนหน้านี้ออกมาล่ามนุษย์ ปัจจุบันหลบลี้ หายหน้าไม่มีเหลือ ราวกับได้พบเจอศัตรูตามธรรมชาติบางตัว ตัดสินใจวิ่งหนีใครเร็วกว่าคนนั้นรอด

 

เวลานี้ นอกเมืองทางทิศเหนือ อาคารสูงหลายแห่ง จู่ๆพลันพังทลายลง

 

ขณะเดียวกัน ภายนอกสามารถเห็นเหตุการณ์นี้ได้อย่างชัดเจน โดรนของกลุ่มเฟิงหลี ระดมไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว และสามารถจับภาพอันน่าอัศจรรย์เอาไว้ได้

 

ภายที่ฉายออกมา กำแพงเมืองด้านทิศเหนือแตกร้าว จากนั้นเกิดการระเบิดขึ้น ดินทั้งหมดผุดนูนขึ้นจากพื้น คล้ายกับว่ามีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างใต้

 

และสิ่งมีชีวิตที่มุดอยู่ข้างใต้ ดูจากแรงสั่นสะเทือนก็พอบอกได้ว่ามีขนาดใหญ่มาก

 

สิ่งมีชีวิตอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เปิดตัวได้อย่างอลังการมาก มันทำลายทุกสิ่งไปตลอดเส้นทาง อาคารที่เคลื่อนผ่าน ทุกหลังพังทลายลง

 

และทิศทางที่มันตรงมา คือเบื้องหน้าของชูฟ่านพอดี

 

“รีบหลบเร็ว!”

 

ชูฟ่านตะโกน สัตว์ร้ายจอมเขมือบดีดตัวกระเด้งขึ้นทันที พื้นดินเบื้องล่างมันสั่นสะเทือนและปริร้าว!

 

ช่วงจังหวะที่สัตว์ร้ายจากไป บนพื้นดิน สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์บางอย่างผุดขึ้นมาแทบจะในทันที

 

แต่สิ่งมีชีวิตนี้ ดูจากลักษณะของมันแล้ว ในมิติโลกมนุษย์ มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่หายากอะไร

 

เป็น–มังกรตลบปฐพี!

 

ที่แท้ก็เป็นมังกรตลบปฐพี! เดิมมันเป็นเพียงแมลงสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง คอยจู่โจมผู้คนจากพื้นดินเบื้องล่าง แล้วฉุดลากเหยื่อลงใต้ดิน หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

แต่สิ่งมีชีวิตนี้ โดยทั่วไปแล้วเติบใหญ่ได้ถึงเลเวล E ขณะที่หากมันเลเวลเหนือกว่า D จะครอบครองพลังที่สามารถคุกคามเมืองได้

 

แต่ที่โชคดีก็คือ เจ้าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ มันไม่ได้มีศักยภาพที่สามารถไปได้ถึงระดับนั้น เนื่องจากยีนและเซลล์ของมังกรตลบปฐพีเป็นสิ่งมีชีวิตค่อนข้างเรียบง่าย ก่อนยุครอยแยกมิติครั้งใหญ่ มังกรตลบปฐพีถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถบดขยี้ได้หากต้องการ –เดิมมันเป็นแค่ไส้เดือน!

 

แต่ตอนนี้ มังกรตลบปฐพีกลับน่าหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ เส้นผ่านศูนย์กลางของมันกว้างถึง 50 – 60 เมตร หากสัตว์ร้ายจอมเขมือบสูงเท่าตึก 6 ชั้น งั้นของมังกรดินตัวนี้ก็สูงเท่าตึก 20 ชั้น ฝ่ายหลังสามารถกลืนฝ่ายแรกได้ในคำเดียว

 

น่าสะพรึงยิ่งนัก!

 

รูปร่างเช่นนี้ พละกำลังเช่นนี้ คำนวณดูแล้วอย่างน้อยต้องเป็นสัตว์ร้ายที่อยู่ในเลเวล A ขึ้นไปเท่านั้น

 

และดูจากตลอดเส้นทางที่มังกรตลบปฐพีตัวนี้แหวกว่ายมา ก็พอระบุได้เช่นกัน ว่าร่างของมันยาวมากถึง 3 กิโลเมตร!