3/3

Ep.81 – อัพเลเวลสำเร็จ

“ครั้งนี้ทุกคนทำได้ดีมาก” ฮังอวี่กล่าวชมจากใจจริง “พวกคุณก้าวหน้ากว่าในตอนแรกจริงๆ”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียงหนาน ถึงตอนนี้แผลตรงหน้าท้องเธอยังคงมีเลือดไหลอยู่เลย เจ็บปวดจนเม็ดเหงื่อผุดทั่วร่าง แต่ในระหว่างการต่อสู้ เธอไม่รักษาตัวเอง ให้ความสำคัญกับทีมเป็นอันดับแรก ซึ่งนี่คือพื้นฐานของผู้รับหน้าที่สนับสนุน

ส่วนจางเสี่ยวเฉียง แม้ทักษะการใช้สกิลของเขายังไม่แม่นยำ แต่ผลลัพธ์ถือว่าผ่านเกณฑ์ สามารถหยุดพวกโครงกระดูกให้หมดสภาพต่อสู้ได้ในการโจมตีเดียว ทำได้ขนาดนี้นับว่าไม่เลวแล้ว

ส่วนจ้าวหมิงไม่ต้องกล่าวถึง เขาคือนักรบที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกประการ

ฮังอวี่เชื่อ ว่าในอนาคตจ้าวหมิงจะกลายเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน

และสุดท้าย แม้แต่ตัวแถมอย่างนายน้อยหวังฉงก็ยังมีบทบาท สกิลของอีกฝ่ายช่วยให้ฮังอวี่สามารถประหยัดคัมภีร์โดยไม่ต้องใช้มันเลยสักม้วนเดียว

กระบวนการทั้งหมดทั้งมวลในการล่ากูลง่ายกว่าที่คาดไว้

“และพวกเราจะพยายามทำให้ดีกว่านี้!” นักศึกษาเจียงเมื่อได้รับคำชมของมหาเทพ เธออิ่มเอมไปกับความสำเร็จอย่างพึงพอใจ

ฮังอวี่และทั้งสี่ได้รับแต้มวิญญาณกันคนละประมาณ 10 แต้ม ส่วนสินสงครามจากกูลก็ไม่เลวเช่นกัน มันดรอปหินคริสตัลขาวและไอเท็มสามชิ้นในทีเดียว และสามไอเท็มที่ว่ามีสองเป็นอุปกรณ์ อีกหนึ่งเป็นม้วนคัมภีร์

[กรงเล็บกระดูกชั้นยอด] อุปกรณ์เลเวล 4 สีเทาคุณภาพสูง การโจมตีทางกายภาพ +2 โจมตีเลือดออก +2 ค่าความทนทาน15 (ต้องใช้หินคริสตัลเทาแปดก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[ทวนกระดูกกูลสภาพเก่า] อุปกรณ์เลเวล 4 สีขาวคุณภาพต่ำ การโจมตีทางกายภาพ +4 โจมตีพิษ +1 ความว่องไว +2 ค่าความทนทาน 15 (ต้องใช้หินคริสตัลขาวหกก้อนในการนำกลับสู่โลกมนุษย์)

[คัมภีร์สกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัว] คัมภีร์เลเวล 4 สีขาวคุณภาพกลาง ใช้พลังจิต 15 หน่วย ระยะเวลาร่าย 3 วินาที เมื่อใช้งาน จะสามารถปลดปล่อยสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวได้ 1 ครั้ง จำนวนการใช้งานคงเหลือ 2/2

อุปกรณ์เลเวล 4 สีเทาใส 1 ชิ้น , อุปกรณ์เลเวล 4 สีขาวขุ่น 1 ชิ้น , คัมภีร์สกิลเลเวล 4  หนึ่งม้วน และอีก 5 หินคริสตัลขาว

สินสงครามครั้งนี้ไม่น้อยเลย มีสองชิ้นเป็นอาวุธ และรู้ใช่ไหมว่าอาวุธคืออุปกรณ์ที่มีความต้องการในตลาดสูงที่สุด!

อาวุธสีเทาใสคือกรงเล็บแหลมคม สามารถสวมใส่ได้ทั้งสองมือ

อาวุธสีขาวขุ่นคือทวน

โดยทั่วไปแล้วหอกกับทวนจะไม่เหมือนกัน หอกถือเป็นอาวุธสองมือ มันทำดาเมจได้เยอะและมีคุณสมบัติที่สูง ส่วนทวนเป็นแค่อาวุธมือเดียว มันด้อยกว่าในทุกๆด้าน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถสวมโล่เพื่อทดแทนคุณสมบัติที่ขาดหายไปได้

อาวุธกรงเล็บและทวนต่างมีเอฟเฟกต์โจมตี หากเจอเป้าหมายที่มีค่าความต้านทานดีบัฟต่ำ ก็มีโอกาสสูงที่พวกมันจะแสดงเอฟเฟกต์

คัมภีร์สกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวเป็นเป็นไอเท็มเฉพาะของกูล มีโอกาสดรอปเพียง 20 % เท่านั้น

ทว่าเขากลับสามารถดรอปมันได้ตั้งแต่ครั้งแรก นับว่ามีโชคไม่เลว

นี่เป็นคัมภีร์สกิลที่มีประโยชน์มาก เอฟเฟกต์ของมันจะมีประสิทธิภาพสูงเวลาต่อสู้แบบกลุ่มหรือถูกมอนสเตอร์ล้อม คุณค่าของมันไม่ด้อยไปกว่าอุปกรณ์สีขาวเลเวล 4 ทั่วๆไปเลย

“ฉันสะสมครบ 50 แต้มวิญญาณแล้ว” จ้าวหมิงตรวจสอบข้อมูลสถานะของเขา ใบหน้าที่ปกติมักสงบและเคร่งขรึม เวลานี้เผยร่องรอยของความดีใจ “ตอนนี้ฉันสามารถใช้หินสกิล ‘โล่จู่โจม’ ได้แล้ว!”

จ้าวหมิงไม่เสียเวลาคิดเลยสักนิด

เขาหยิบหินสกิลออกมาแล้วเปิดใช้งานมันทันที

50 แต้มวิญญาณที่พึ่งสะสมมาถูกจ่ายไปจนหมดเกลี้ยง

[โล่จู่โจม] (ชิ้นส่วนมรดกของนักรบโล่) เลเวลสกิล 1 แต้มวิญญาณ (0/100) ใช้ 2 พลังจิตเพื่อมอบการโจมตีพิเศษให้แก่โล่ สามารถสร้างเอฟเฟกต์มึนงงแก่เป้าหมายที่ถูกโจมตี ระยะเวลาคูลดาวน์ 15 วินาที

“ขอแสดงความยินดีกับประธานจ้าว!” จางเสี่ยวเฉียงตบตูดเข้ามาประจบอย่างรวดเร็ว “ด้วยสกิลใหม่นี้ พลังรบของประธานจ้าวนับว่าเพิ่มไปอีกขั้น!”

นายน้อยฉงมองด้วยสายตาริษยา หินสกิลในท้องตลาดมีน้อยเกินไป หลายครั้งมีเงินอย่างเดียวไม่สามารถซื้อได้! การมีมันในครอบครอง จะมากจะน้อยต้องอาศัยโชคด้วย!

หากเวลานี้ตนอยู่กับพ่อ บางทีตาแก่อาจช่วยเขาหาหินสกิลซักก้อนให้ก็ได้

แต่นานเสียดายที่ตอนโลกวิญญาณเปิดออก หวังฉงดันไปอยู่ในเมืองหัวเฉิงซึ่งไม่ใช่ถิ่นตน

“สกิลโล่จู่โจมเป็นความสามารถที่มีประโยชน์มากในช่วงแรก” ฮังอวี่กล่าวกับจ้าวหมิง “มันมีโอกาสติดเอฟเฟกต์มึนงงค่อนข้างสูง ช่วยขัดจังหวะได้ดีมาก เมื่อมีสกิลนี้ การล่ากูลของพวกเราจะง่ายขึ้นเยอะ!”

ฮังอวี่อธิบายสั้นๆ แต่นั่นทำให้เหล่าจ้าวตระหนักถึงคุณค่าของสกิลนี้ขึ้นมาทันที

ถ้าให้พูดตามตรง ในแง่ดาเมจที่สกิลนี้ทำได้ มันไม่ต่างอะไรกับซี่โครงไก่ (ไม่มีเนื้อ แทบไม่มีประโยชน์) เอาจริงๆอาจไม่แรงเท่ามีดบินด้วยซ้ำ

แต่เนื่องจากมันเป็นสกิลมรดกของนักรบโล่ ดังนั้นมาพร้อมกับเอฟเฟกต์มึนงงที่มีโอกาสติดค่อนข้างสูง สามารถใช้ขัดจังหวะการร่ายสกิลของมอนสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีประโยชน์มากในช่วงแรก!

คุณค่าของหินสกิลโล่จู่โจมนั้นไม่ด้อยไปกว่าหินสกิลล่องหนเลย! ด้วยระดับราคาที่กำลังเหวี่ยงในปัจจุบัน การที่จ้าวหมิงซื้อมันมาได้ในราคา 50 ล้านหยวน นับว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน!

ระยะเวลาร่ายสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวคือ 1 วินาทึ ส่วนเสียงร่ำร้องของคนตายใช้เวลาราวๆ 2-3 วินาที

จ้าวหมิงสามารถขัดจังหวะการร่ายสกิลของมันได้ เพียงแต่ว่าการจะทำเช่นนั้นจำเป็นต้องใช้ทักษะความแม่นยำและการตัดสินใจที่สูงมาก พูดง่ายกว่าทำเยอะ

“ยังมีกูลอยู่แถวๆนี้”

“พวกเรารีบไปล่ามันต่อเถอะ”

ฮังอวี่ใกล้จะอัพเลเวลแล้ว ดังนั้นต้องรีบรวบรวมแต้มวิญญาณ

คนอื่นๆเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว แต่หวังฉงเหมือนจะยังอยู่ในภวังค์ อิ่มเอมไปกับการต่อสู้เมื่อครู่

เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ร่วมต่อสู้อย่างดุเดือดนับแต่เข้ามายังโลกวิญญาณ พลังรบของคนกลุ่มนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮังอวี่

คนอื่นๆในทีมไว้ใจเจ้าหมอนี่มาก! กระทั่งคนอย่างจ้าวหมิง ยังยอมรับเขาเป็นผู้นำอย่างเต็มใจ ยอมปฏิบัติตามคำสั่งอย่างว่าง่าย

นายน้อยฉงชักเริ่มสนใจในตัวฮังอวี่ซะแล้ว!

แม้การร่วมทีมในครั้งนี้เขาจะไม่มีส่วนร่วมในสินสงคราม

แม้อัตราการแบ่งแต้มวิญญาณจะเหลือเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ

แต่ด้วยหวังฉงยังเป็นเลเวล 1 เมื่อได้รับแต้มวิญญาณของมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 4 จึงมีโบนัสเพิ่มอีกบางส่วน

หวังฉงต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าแต้มวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้น 7 แต้มในคราวเดียว!

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าเขาย่อมสามารถอัพเลเวลได้

ทั้งห้าคนเริ่มออกล่ารอบนอกวิหารเนโครแมนเซอร์ โชคดีที่มอนสเตอร์แถวนี้อยู่กันแบบตัวใครตัวมัน และเสียงหอนของกูล ยังสามารถช่วยระบุตำแหน่งได้ ดังนั้นหาตัวไม่ยาก

ใช้เวลาไม่นาน ทั้งห้าก็เจอกูลอีกตัว เนื่องจากมีประสบการณ์ต่อสู้มาก่อน ทำให้ทุกคนร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น

กูลเงยหน้าขึ้น รวบรวมลมเตรียมปลดปล่อยสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัว

แต่ในจังหวะนั้นเอง จ้าวหมิงราวกับได้รับพรแห่งความฮึกเหิม กระโจนเข้าไปเบื้องหน้า ขณะเดียวกันโล่ในมือเขาเรืองแสง กระแทกเข้าใบหน้ามอนสเตอร์กูล

“ฮู้มมม — อ๊อก!”

เสียงหอนขาดช่วงกลางคัน มอนสเตอร์กูลตกอยู่ในสภาวะมึนงงเป็นเวลา 1-2 วินาที การร่ายสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวโดนขัดจังหวะ

“เหล่าจ้าวทำได้ดีมาก!” ฮังอวี่อดร้องชมไม่ได้

ต้องรู้นะว่านี่ไม่ใช่การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ คุณคิดหรือว่าตัวเองจะสามารถเปิดใช้งานสกิลได้ง่ายๆเหมือนกับตอนกดปุ่มคีย์ลัด? คุณคิดหรือว่าหากเปิดใช้งานสกิลแล้วจะโจมตีโดนเป้าหมายอย่างแม่นยำ?

ในโลกวิญญาณ มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น!

แล้วอีกอย่าง ระยะเวลาแสดงผลมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่โจมตี โล่ตีเข้าที่หัวกับตีเข้าที่บั้นท้ายให้ระยะเวลาเท่ากันหรือไม่?

แน่นอนว่าคำตอบคือไม่! แม้ตีเข้าที่บั้นท้ายอาจทำให้ติดสถานะมึนงงเหมือกันก็จริง แต่ตรงหัวเน้นๆจะแสดงเอฟเฟกต์ได้นานกว่า

แต่ประเด็นก็คือ การใช้โล่ตีหัวสัตรูได้อย่างแม่นยำ มันไม่ใช่สิ่งที่ใครๆสามารถทำได้อย่างแน่นอน ทั้งหมดนี้เกิดจากหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว ปฏิกิริยา เวลา การตัดสินใจ ณ จุดนั้น ฯลฯ

และแน่นอนหนึ่งในที่กล่าวมาอาจมีโชครวมอยู่ด้วยเช่นกัน

แต่ผลลัพธ์เบื้องหน้า มันมากพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเหล่าจ้าวดีเพียงใด

ยังไงก็ตาม ใช่ว่าเอฟเฟกต์มึนงงจะแสดงผลไปเสียทุกครั้ง

เมื่อสู้ต่อไปเรื่อยๆ จะพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว เหล่าจ้าวสามารถสร้างเอฟเฟกต์มึนงงได้ในทุกๆสองในสามครั้ง

แม้โอกาสสำเร็จจะไม่ 100% แต่ก็ยังช่วยลดแรงกดดันของทีมได้เป็นอย่างมาก

หรือต่อให้บางครั้งเขาหยุดสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวไม่ทันเวลา แต่เหล่าจ้าวก็ยังสามารถเก็บโล่จู่โจมไว้ใช้หยุดสกิลเสียงร่ำร้องของคนตายได้

แม้เสียงร่ำร้องของคนตายจะไม่น่ากลัวเท่าเสียงหอนแห่งความหวาดกลัว แต่ก็เป็นสกิลที่สร้างความน่ารำคาญ แต่เมื่อเทียบกับอย่างแรกแล้วมันหยุดได้ง่ายกว่ามาก

เพราะสกิลแรกใช้เวลาร่าย1-2 วินาที แต่สกิลหลังใช้เวลาร่าย 2-3 วินาที

เมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทีมของพวกเขาจะไม่ชนะมอนสเตอร์กูลได้อย่างไร?

หลังจากนั้นไม่นาน กูลตัวที่สองก็ล้มลง

“ไปกันต่อเถอะ”

ตัวที่สามล้มลง

ตัวที่สี่ล้มลง

ตัวที่ห้า …

จำนวนมอนสเตอร์ชั้นยอดบริเวณรอบนอกวิหารเนโครแมนเซอร์นั้นไม่น้อยไปกว่าในแดนฝังกระดูก

แต่พวกกูลหาตัวง่ายกว่าโนมปล้นศพมาก พวกมันมักอยู่ตัวคนเดียวและส่งเสียงหอนดังไปไกล ซึ่งสำหรับพวกฮังอวี่แล้ว นั่นไม่ต่างจากเรียกร้องที่ให้ใจความว่า “มาฆ่าฉันสิ! ฉันอยู่ที่นี่!”

เพียงเดินตามต้นกำเนิดเสียง ก็จะเจอเป้าหมาย หาตัวมันพบได้ง่ายๆ

เมื่อกูลตัวที่ห้าถูกสังหาร

ฮังอวี่และหวังฉงทั้งคู่อัพเลเวลพร้อมกัน

ฮังอวี่สัมผัสได้ถึงแต้มวิญญาณอันท่วมท้น และในพริบตาจู่ๆมันก็ระเบิดกระจายไปทั่วร่าง สมรรถภาพทางกายเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก

เลเวล 4!

ในที่สุดก็มาถึงแล้ว!