2/5

Ep.767 – ฉีกช่องว่างมิติ

“แล้วพวกเราจะเอายังไงกันต่อดี?” ไป๋หลีถาม

ควรไล่ตามโม่ลี่ที่กำลังโกรธแค้นต่อไป หรือฉกฉวยผลประโยชน์ในครั้งนี้ได้แล้วจากไปทันที?

ฉินเฟิงมองไปยังท่าทีเหนื่อยล้าของไป๋หลี  และสภาพตนที่ไม่ดีไปกว่ากันเท่าใดนัก ความแข็งแกร่งของโม่ลี่ มิใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถสังหารมันได้ง่ายๆในตอนนี้

ยังมีโอกาสพ่ายแพ้ได้ แต่หากคิดห้ำหั่นสังหาร ราคาที่ต้องจ่ายออกคงแพงมหาศาล

อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่เพราะหัวขโมยพวกนั้นสร้างปัญหา ฉินเฟิงคงไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำว่ามีการดำรงอยู่ของศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งเปลวเพลิงที่นี่

เหตุที่โม่ลี่รั้งอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะมันกำลังดูดซับอักษรรูนจากศิลาไฟ

ก่อนหน้านี้หากโม่ลี่แสร้งทำเป็นพ่ายแพ้ และหลบหนีกลับเข้าถ้ำ ฉินเฟิงไล่ตามมา โม่ลี่อาจใช้วิธีเดียวกันกับฉินเฟิง เหมือนในตอนที่เขาใช้ศิลาไฟระเบิดใส่แซด เมื่อฉากนั้นเกิดขึ้น ฉินเฟิงกับไป๋หลีคงมิแคล้วพบจุดจบ

โม่ลี่มีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว ยากนักที่จะรับประกันว่ามันไม่มีไม้ตายก้นหีบใดๆอีก ในเมื่อไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายในทันทีได้ ฉะนั้นจะเป็นการดีกว่าหากไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก!

เมื่อคิดได้ดังนี้ ฉินเฟิงก็กล่าวว่า “กลับไปที่ฐานของคลับมังกรดำ แล้วกลับไปยังเมืองหลวงแห่งความมืดพร้อมกับพวกเขา สำหรับเรื่องของโม่ลี่ เอาไว้ค่อยตัดสินกับมันคราวหลัง!”

“ฮึ่ม! ถ้าเจอกันอีกที ฉันต้องถลกหนังมังกรของมันมาตัดเป็นเสื้อผ้าให้ได้ คอยดูเถอะ!” ไป๋หลีส่งเสียงฮึ่มๆในลำคอ และฟังจากที่พูด ดูเหมือนว่าเวลานี้เธอจะยอมรับแล้ว ว่าตนประเมินโม่ลี่ผิดไป ที่เธอเอ่ยปากชักชวนให้สังหารมันเป็นเรื่องที่ผิด และคำพูดของฉินเฟิงถูกต้อง!

หลังต่อสู้มาเป็นเวลายาวนานถึงสามวัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเพลี้ยงพล้ำ ฉะนั้นไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาอีกต่อไป

“มาเถอะ” ฉินเฟิงเรียกสติ

ไป๋หลีพยักหน้า ชักนำฉินเฟิงเทเลพอร์ตมาปรากฏตัวขึ้นในป้อมปราการมังกรดำทันที

ณ เวลานี้ ทุกคนล้วนทราบว่าถึงเวลาที่พวกเขาต้องกลับไปยังเมืองหลวงแห่งความมืดแล้ว ดังนั้นทั้งหมดละการสำรวจ กลับมารวมตัวกันที่นี่ แต่ก็คอยหันซ้ายแลขวาตลอดเวลา เพราะสามารถเกิดการต่อสู้นองเลือดเพื่อแย่งชิงสมบัติกันได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม เมื่อฉินเฟิงกับไป๋หลีปรากฏตัว คนอื่นๆก็ต้องตกใจ หลังจากที่ระบุตัวตนของทั้งสอง คนอื่นๆก็มองมาด้วยแววตาอันซับซ้อน

สองคนนี้ คือคนที่ช่วยล่อโม่ลี่ออกไปเมื่อหลายวันก่อน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ … ถึงจะมีสภาพไม่น่าดูเล็กน้อยก็เถอะ

อย่างไรก็ตาม แม้สภาพไม่น่าดู แต่สามารถกลับมาได้ ก็ถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว!

ฉินเฟิงกับไป๋หลีกลับมาทันทีผ่านอบิลิตี้มิติ ขณะเดียวกัน พวกหัวขโมยเลเวล A กับโม่ลี่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งไกลลิบของเกาะ ก็กำลังตรงเข้ามา

ในหัวใจของฟีนิกซ์เพลิงบังเกิดความไม่สบายใจอันคลุมเครือ รู้สึกได้เสมอว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น แต่ยังคงตัดสินใจเปิดตัวเชื่อมมิติ

“ทุกท่าน หวังว่าการเดินทางมายังเกาะนรกแห่งนี้ คุณจะได้รับประสบการณ์เก็บเกี่ยวที่ดี ช่องว่างมิติจะเปิดในเร็วๆนี้!”

ในบรรดาฝูงชน บางคนเริ่มตื่นตัวโดยอัตโนมัติ แม้ไม่แสดงความรู้สึกใดบนใบหน้า แต่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่บางคนก็เผยอารมณ์ออกมาตรงๆ แสดงออกชัดถึงความสุขและความตื่นเต้น แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปบอกคนที่รอพวกเขาอยู่เบื้องหลัง ว่าตนสามารถคว้าสมบัติที่สามารถทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์ได้

ยังไงก็ตาม มีอยู่หลายคนเช่นกันที่ใบหน้าอึมครึม ทั้งยังสะท้อนไปด้วยรังสีฆ่าฟันและความละโมบในดวงตาของพวกเขา

พวกเขาไม่สามารถเก็บเกี่ยวของดีๆ ดังนั้นไม่เต็มใจจะจากไปมือเปล่าแน่นอน เฝ้ารอจนกว่าจะได้ออกไปข้างนอก ถึงเวลานั้นค่อยลอบสังหารและปล้นชิง!

แต่ไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหน ในใจกำลังคิดอะไร ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังร่างของฟีนิกซ์เพลิง

คนจากคลับมังกรดำได้ทำการติดตั้งตัวเชื่อมมิติเสร็จสิ้นแล้ว มันคือประตูมิติที่มีขนาดสูงกว่าสิบเมตร ต่อให้อยู่ในระยะไกลก็ยังสามารถมองเห็น และนี่ยังเป็นการแจ้งเตือนแก่ผู้ใช้พลังที่ยังมาไม่ถึงให้ทราบ ว่าพวกเขาต้องกลับแล้ว!

ในเวลานั้นเอง ปรากฏเสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังสะท้อนมาจากในระยะไกล

ผู้คนหันไปมองโดยไม่รู้ตัว และพบกับว่ามีผู้ใช้พลังหลายสิบคนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า ตรงมายังทิศทางนี้อย่างรวดเร็ว และเบื้องหลังพวกเขา เป็นสิ่งมีชีวิตอันน่าหวาดกลัวกำลังไล่ตาม

–มังกรไฟโม่ลี่!

“โม่ลี่? ทำไมมันถึงยังมาที่นี่อีก?”

“ชิบหายแล้ว อย่าบอกนะว่ามีใครไปยั่วโมโหมันอีกแล้ว!”

“เจ้าคนกลุ่มนั้น ไม่เข้าท่าแล้ว เรื่องราวจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่พวกเราควรรีบหนีไปก่อน!”

“เฮ้ ฟีนิกซ์เพลิง รีบเปิดทางให้พวกเราเร็วเข้า มัวยืนบื้ออยู่ทำไม จะรอให้ความตายมาเยือนหรอ?”

ผู้ใช้พลังในฝูงชน เริ่มตระหนักได้ว่ากำลังมีเรื่องร้ายแรงบางอย่างเกิดขึ้น

หลายวันก่อนที่โม่ลี่โกรธ แต่มันถูกฉินเฟิงล่อไปไกลโข ครั้งนั้นนับว่าโชคดี แต่ครั้งนี้ ถ้าต้องเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง คงไม่มีใครรับมือไหว

ยิ่งไปกว่านั้น คนส่วนใหญ่ที่นี่มาจากองค์กรมืด ทำไมพวกเขาจะต้องไปมัวสนใจชีวิตของคนอื่นๆด้วย?

โม่ลี่อาละวาดในครั้งก่อน ที่พวกเขาไม่หนีเป็นเพราะไม่มีที่ไป

แต่ปัจจุบัน พวกเขาสามารถหนีได้ โดยการเข้าสู่ช่องว่างมิติ!

ฉินเฟิงเองก็ไม่คิดรั้งอยู่ พาไป๋หลีก้าวไปด้วยกันกับเขา ทักษะหมื่นภูติถูกใช้ออก แหวกผ่านฝูงชนอย่างรวดเร็ว แทรกไปข้างหน้าเพื่อเข้าเป็นคนแรกๆ

เมื่อเห็นฉินเฟิงเป็นตัวอย่าง คนอื่นๆก็ไม่กล้ารั้งอยู่เฉย คนแล้วคนเล่าเริ่มทยอยกันเข้าสู่ประตูเชื่อมมิติ

ขณะเดียวกัน หัวใจของฟีนิกซ์เพลิงแทบจะถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธ

เจ้าคนกลุ่มนี้ เอาแต่ยั่วโมโหโม่ลี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องแบบนี้ มันมิใช่สิ่งที่คลับมังกรดำจะต้องมาคอยตามเช็ดก้นให้พวกเขา  เจ้าพวกนั้น มันไม่สนใจว่าคลับมังกรดำจะเป็นตายร้ายดียังไงด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม หากคิดปิดช่องว่างมิติในตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้

ฟีนิกซ์เพลิงกล่าวอย่างโกรธเคือง “พวกเราไป! ใครช้าก็ทิ้งไว้ที่นี่”

คนของคลับมังกรดำทราบว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน อีกอย่างท้ายที่สุดแล้ว ป้อมปราการแห่งนี้สร้างจากไม้ มันไม่มีค่าอะไรให้ปกป้อง ชีวิตของพวกเขาสำคัญกว่า

ด้วยเหตุนี้ คนจากคลับมังกรดำกลุ่มใหญ่ก็เริ่มทยอยเข้าไปในช่องว่างมิติ

ขณะเดียวกัน หัวขโมยเลเวล A หลายสิบคนก็มาถึง เมื่อเห็นช่องว่างมิติ ก็ราวกับพบเจอผู้ช่วยชีวิต ไม่ต่างจากคนใกล้จมน้ำตายสามารถคว้าซุงท่อนสุดท้ายในชีวิตได้

พวกเขาดีดตัวกระโจนกันเข้าไป

แม้ช่องว่างมิตินี้จะใหญ่ถึงสิบเมตร แต่ไม่ใหญ่พอที่จะรองรับร่างของโม่ลี่ให้เข้าไปได้ ทั้งยังมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง ว่ามิติจะขับไล่มันกลับมา

ไม่ทราบเหมือนกันว่าสาเหตุนี้เกิดจากอะไร แต่น่าจะเป็นกฏเกณฑ์ของมิติ อย่างเช่นว่าหากสิ่งมีชีวิตทรงพลังบางตัวคิดเข้าไปยังอีกมิติ มันมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าจะสูญเสียกำลังรบ ปรับให้เหมาะสมกับสถานที่แห่งนั้นทันที

ทว่าตอนนี้โม่ลี่คลั่งไปแล้ว มันไม่สนใจเรื่องอะไรแบบนั้นทั้งสิ้น!

วูซซซ!

กรงเล็บอันแหลมคมกรีดเปิดช่องว่างมิติ และแหวกมันออก จากนั้นเกิดรอยร้าวอันน่าสะพรึงก่อตัวขึ้น

รอยแยกมิตินี้ ทำให้สัตว์ร้ายจำนวนมากบังเกิดความตื่นตระหนก แต่กลิ่นอายที่กระจายออกมาจากรอยแยก กลับเป็นกลิ่นเนื้อสดๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน

เมื่อโม่ลี่เข้าไปในรอยแยกมิตินี้ สัตว์ร้ายบางตัวก็อดใจไม่ไหว วิ่งตามเข้าไปด้วย!

ขณะเดียวกัน ภายในเมืองหลวงแห่งความืด

ฉินเฟิงเป็นคนแรกที่เข้าประตูมิติ และเป็นคนแรกที่มาถึงเมืองหลวงแห่งความมืด

แต่สถานที่นี้ไม่ใช่จุดเดิมที่เขาเคยใช้เดินทางเข้าไปในเกาะนรกในตอนแรก แต่มันคือรอบนอกของเมืองหลวงแห่งความมืด อยู่ไม่ไกลจากสะพานยักษ์ที่เชื่อมกับฝั่งพันธมิตรมนุษย์

ฉินเฟิงเงยหน้าขึ้น และพบว่าที่นี่อยู่ในระยะอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติ นั่นหมายความว่าไม่สามารถใช้ตัวเชื่อมมิติได้

แต่หากคิดกลับไปยังเมืองเฟิงหลี แน่นอนว่าไป๋หลีสามารถทำได้ทันทีโดยไม่สนใจกฏเกณฑ์ในข้อนี้

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้พลังเลเวล A จำนวนมากเริ่มทยอยออกมาจากช่องว่างมิติ เมื่อโผล่มาพวกเขาก็รีบหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

นั่นเพราะพวกเขาเห็นกับตาว่าโม่ลี่กำลังเข้ามา!

ฉินเฟิงไม่ได้กลับไปยังเมืองเฟิงหลีในทันที เขาพาไป๋หลีแยกตัวออกจากที่นี่

สุดท้ายคนกลุ่มที่สามก็ปรากฏตัวขึ้น

สภาพของคนเหล่านี้ค่อนข้างเลวร้ายมาก ตามร่างกายมีร่องรอยถูกเผา ระหว่างหลบหนีจากการไล่ล่าของโม่ลี่ ทั้งหมดล้วนได้รับบาดเจ็บ

ทว่าเมื่อพวกเขาคิดไปว่าตนสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติได้แล้ว ทันใดนั้น รอยแยกมิติที่บิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้นจากใจกลางช่องว่างมิติที่พวกตนเพิ่งจากมา

แคว่กกก!

เสมือนชั้นอากาศถูกฉีกแยกจากกัน ช่องว่างมิติกลายเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่า 100 เมตรทันที

“อ๊าาาากกกกกก!”

เบื้องหน้ารอยแยกมิติ กลุ่มเลเวล A ที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้น ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที