2/5

 

Ep.758 – เยือนป้อมปราการมังกรดำ

 

นักฆ่ายังคงใช้ออกด้วยทักษะลับ ฝีเท้ายังคงวิ่งตลบ พุ่งผ่านข้างกายฉินเฟิง

 

แต่หลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่เมตร ต้นคอก็บังเกิดรอยเส้นเลือด ศีรษะพลิกหงาย กลิ้งไปคนละทางกับลำตัว!

 

ตกตายโดยไม่ทันรู้ตัว!

 

“ทักษะลับกลืนดารา!”

 

ฉินเฟิงยกฝ่ามือขึ้น ดูดศพของอีกฝ่ายเข้ามา กำลังภายในหลั่งไหลสู่ตันเถียนของฉินเฟิง

 

นักฆ่าคนนี้เลเวล A2 เท่ากับ 20 ทะเลสาบกำลังภายใน!

 

กำลังภายในที่เพิ่งเสียไป เวลานี้ถูกเติมกลับมาแล้ว!

 

“ทักษะหมื่นภูติ!” ฉินเฟิงสำแดงวิชาตัวเบา หลีกซ้ายหลบขวาการโจมตีจากฝูงแมมมอธ วิ่งวนมาถึงตำแหน่งของนักฆ่าคนที่สาม!

 

สำหรับนักฆ่าคนสุดท้าย ขนาดหลบหลีกการโจมตีของแมมมอธรอบๆยังแทบเอาตัวไม่รอด ยิ่งตอนนี้มีฉินเฟิงกระโจนเข้าร่วมวง คงไม่ต้องกล่าวถึง

 

“กวนจินฮ่าว! แกหลอกพวกเรา!”

 

นักฆ่าแหกปากร้องอย่างไม่ยินยอม

 

หน้าผากฉินเฟิงเริ่มยับย่น ทว่ามิได้แสดงความเมตตาใดๆ พุ่งเข้าดับชีวิตศัตรูโดยตรง

 

ขณะเดียวกัน กวนจินฮ่าวที่เดิมกำลังรับชมความสนุก บัดนี้ลอบสบถประโยคหนึ่ง ไม่กล้ารั้งอยู่อีกต่อไป หันหลังวิ่งหนีทันที

 

“พวกแกคิดออกไปฆ่าคนเอง แล้วแบบนี้จะมาโทษฉันได้อย่างไร? แถมก่อนตายยังโยนขี้มาให้อีก เจ้าฉินเฟิงนั่นน่าจะรู้ตัวแล้วว่าฉันอยู่ใกล้ๆ ต้องรีบหนี!”

 

หากเป็นศัตรูคนอื่น ต่อให้ศัตรูที่ว่าเป็นเลเวล S กวนจินฮ่าวมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าทักษะหมื่นภูติของเขาจะสามารถหลบหนีได้

 

แต่สำหรับฉินเฟิงนั้นต่างออกไป อีกฝ่ายเองก็มีทักษะหมื่นภูติเช่นกัน ทั้งยังดูเหมือนมีประสิทธิภาพกว่าของเขาซะอีก ดังนั้นกวนจินฮ่าวขอยอมแพ้ เขาสู้ไม่ได้จริงๆ

 

“นี่สินะคือความหมายของวลีสั่งสอนศิษย์ แต่อาจารย์อดตาย!”

 

กวนจินฮ่าวสบถด่า ทว่าเอาจริงๆ วลีนี้คงไม่ตรงตัวนัก เพราะฉินเฟิงยังไม่คำนับกวนจินฮ่าวเป็นอาจารย์อย่างถูกต้องด้วยซ้ำ!

 

ฉินเฟิงพอจะทราบว่ากวนจินฮ่าวอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่รู้ว่าตรงจุดไหน เพราะท้ายที่สุดแล้วกวนจินฮ่าวก็ระวังตัวแจเช่นกัน อีกฝ่ายอาจหนีไปแล้ว หรือซุ่มอยู่เบื้องหน้าเขาก็ได้

 

กระนั้น ฉินเฟิงยังมีลางสังหรณ์ในใจ ว่ากวนจินฮ่าวน่าจะซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากที่นี่

 

เพราะนักฆ่าพวกนี้ มักจะทำอะไรประมาณนี้อยู่บ่อยๆ

 

หากเป็นเหยื่อคนอื่นๆ แผนการคงสำเร็จไปแล้ว โชคร้ายจริงๆที่ดันเป็นฉินเฟิง

 

แต่ว่าก็ว่าเถอะนะ ความรู้สึกที่ได้เป็นชาวประมง สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในตอนท้าย นี่มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ

 

สมบัติจากคนพวกนี้ ถูกยัดไว้เต็มกระเป๋าของฉินเฟิง

 

หลังจากสังหารนักฆ่าทั้งสาม ฉินเฟิงก็หันมาสังหารฝูงแมมมอธอีกครั้ง ซึ่งมันง่ายดายไม่ต่างจากการเชือดไก่!

 

เวลาค่อยๆไหลผ่านไป จากแมมมอธนับหลายร้อยตัวในฝูง บัดนี้จบชีวิตลงไปแล้วครึ่งหนึ่ง หนามแหลมบนพื้นดินเริ่มลดลง กระทั่งอุกกาบาตที่อยู่เหนือศีรษะ ก็ไม่ค่อยตกลงมาอีกต่อไป

 

กลิ่นอายของเลือดแพร่กระจายไปทั่ว เพียงสูดดมก็ชวนให้บังเกิดความไม่สงบในจิตใจ แมมมอธบางส่วน เริ่มล่าถอยแล้ว

 

จากหนึ่งเป็นสอง …

 

จากสิบเป็นยี่สิบ …

 

ในที่สุดแมมมอธถึงค่อยได้สติ ทว่าราคาของการเรียกสติกลับมา มันคือจำนวนมหาศาล ปัจจุบันมันยอมรับความพ่ายแพ้ วิ่งเตลิดหนีไปทุกทิศทาง

 

ฉินเฟิงไม่คิดไล่ตาม เจ้าแมมมอธพวกนี้แม้ร่างดูเทอะทะ แต่เทคนิคอบิลิตี้ดินที่ครอบครอง ช่วยให้พวกมันสามารถหดขนาดตัวเหลือเพียงเม็ดทรายได้ และเมื่อเป็นแบบนั้นคงไล่จับไม่ทัน

 

“เก็บกวาดกันเถอะ”

 

คราวนี้ก็ถึงเวลาจัดการปัญหาตรงหน้า แมมมอธเหล่านี้มีขนาดใหญ่เกินไปจริงๆ ถ้าเป็นฉินเฟิงในชีวิตก่อน เขาคงเลือกตัดงาช้างเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ขุดแก่นสัตว์ร้ายออกมา ส่วนพวกเนื้อหรือหนังช้างคงไม่มีเวลาจัดการ

 

โชคดีมากๆที่ในชีวิตนี้มีไป๋หลี จึงสามารถเก็บซากแมมมอธทั้งหมดมาได้ และงานชำแหละ คัดแยกที่เหลือก็ปล่อยให้คนของเฟิงหลีจัดการ!

 

ต้องขอบอกว่า ผลการเก็บเกี่ยวในครั้งนี้ เกรงว่าบนโลกมนุษย์ สำหรับคนอื่นๆ คงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำ

 

หลังจากเก็บกวาดพื้นที่ ฉินเฟิงกับไป๋หลีก็เริ่มเดินหน้าต่อ

 

ระหว่างเดินผ่านอาณาเขตของมังกรไฟโม่ลี่ ความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายก็ค่อยๆลดต่ำลงเรื่อยๆ แทบไม่ค่อยเห็นกลุ่มสัตว์ร้ายเลเวล A กระทั่งเลเวล C บางตัวยังโผล่มาให้เห็น

 

เนื่องจากที่นี่ ถือว่าอยู่ในเขตบริเวณของป้อมปราการมังกรดำเช่นกัน

 

แม้เดินทางมาไกล แต่ในที่สุดฉินเฟิงก็สามารถมองเห็นยอดเขาแล้ว และบนจุดสูงสุดของยอดเขา ปรากฏการดำรงอยู่อันเขียวชะอุ่มที่ดูคล้ายกับต้นสน

 

ป้อมปราการมังกรดำ เหมือนจะถูกสร้างขึ้นเพื่อโอบล้อมตำแหน่งต้นสนที่อยู่ใจกลาง อาจกล่าวได่ว่ามันสร้างขึ้นเพื่อคอยปกป้องต้นไม้ต้นนี้ก็ได้

 

–ต้นไม้ปัญญานิรันดร์!

 

“มีของดีอยู่ที่นี่!” ดวงตาของไป๋หลีสว่างไสวขึ้นทันใด เธอสามารถรับกลิ่นของมันได้ในอากาศ

 

ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจาง และกล่าว “ผลของต้นไม้ปัญญานิรันดร์ ย่อมเป็นของดี แต่ต้องไม่ใช้วิธีรุนแรงในการได้รับมัน สิ่งพวกนี้คือของขวัญที่ต้องอาศัยโชค เพราะถ้ารบกวนต้นไม้ปัญญานิรันดร์ ผลลัพธ์จะออกมาร้ายแรงมาก”

 

ฉินเฟิงเคยได้ยินมาว่า การที่สามารถก่อตั้งคลับมังกรดำ , ครอบครองเมือง และกลายเป็นกองกำลังมืดอันดับหนึ่งของหัวเซี่ยได้เช่นนี้ โดยปกติแล้วเลเวล S เพียงลำพังไม่สามารถทำได้

 

ตามข่าวลือ บอกเล่าว่าพวกเขามีกันถึงสามคน แต่หนึ่งในนั้นได้ถูกทำลายไปแล้ว

 

คนที่ถูกทำลายคือผู้ใช้อบิลิตี้ ในเวลานั้นเขาพยายามช่วงชิงผลแห่งปัญญาด้วยกำลัง แม้จะประสบความสำเร็จ แต่หลังจากรับประทานมันไป ก็กลายเป็นคนโง่งม นี่เองคือเหตุผลที่บรรยายไว้ข้างต้นว่าถูกทำลาย

 

แต่ถ้าเป็นของขวัญที่ต้นไม้ปัญญานิรันดร์ยินดีมอบให้ หากได้กินผลของมันเข้าไป จะช่วยเพิ่มพูนพรสวรรค์ทางด้านอบิลิตี้และวรยุทธโบราณได้ หรือบางทีข้อมูลความรู้ที่อยู่ในหัวของพวกเขา จะบรรลุไปอีกขั้น และการเรียนรู้ฝึกฝนจะเป็นไปอย่างง่ายดาย

 

สามารถกล่าวได้ว่า มันช่วยส่งเสริมภูมิปัญญาอย่างแท้จริง

 

ชื่อปัญญานิรันดร์ ก็มาจากคุณสมบัตินี้เอง!

 

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ แต่ฉันรู้ตัวดี ว่าฉันฉลาดมาก แล้วถ้าแบบนั้นต้นไม้ปัญญานิรันดร์จะให้อะไรฉันได้?” ไป๋หลีเอ่ยถาม

 

ฉินเฟิงยิ้ม แต่พอนึกดูก็น่าคิดเหมือนกัน เพราะผลแห่งปัญญาที่แต่ละคนได้รับ มันให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน แม้ผลกระทบโดยรวมจะเหมือนกัน แต่ยังมีบางอย่างที่พิเศษออกไป

 

–อัตลักษณ์ที่เหมาะสมกับผู้กินจะปรากฏขึ้น

 

และฉินเฟิงทราบดี ว่าอัตลักษณ์ของเขา นั่นคืออบิลิตี้สองประสาน

 

สำหรับผู้ใช้อบิลิตี้ การสามารถเรียนรู้และเข้าใจในเทคนิคอบิลิตี้คือสิ่งที่มีประโยชน์มาก พลังที่ช่วยให้สามารถเรียนรู้เทคนิคอบิลิตี้ใหม่ๆได้ นอกจากต้นไม้ปัญญานิรันดร์แล้ว ฉินเฟิงไม่เคยได้ยินว่ามีผลไม้ใดทำได้อีกเลย

 

“แต่เอฟเฟกต์นี้ไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน ฉันมีคุณสมบัติของพลังพิเศษดูดกลืนอยู่แล้ว ทำให้ฉันสามารถครอบครองอบิลิตี้ได้มากกว่าคนอื่นๆ”

 

อันได้แก่ ธาตุไฟ , น้ำ และดิน!

 

อย่างไรก็ตาม ผู้คนย่อมมีความเชื่อในความหวังเสมอ

 

ฉินเฟิงกับไป๋หลี ในที่สุดก็มาถึงเชิงเขาของป้อมปราการมังกรดำ ช่วงเวลานี้ เขาสามารถมองเห็นถึงการดำรงอยู่ของผู้ใช้พลังคนอื่นๆได้ในที่สุด

 

แต่ผู้ใช้พลังเลเวล A หลายคน ก็เห็นฉินเฟิงกับไป๋หลีเช่นกัน

 

“โอ๋? โชคดีชะมัด ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีเลเวล B สองคนสามารถมาถึงที่นี่ได้”

 

“บางทีเลเวล B คนอื่นๆที่ถูกส่งไปไกลอาจตายกันหมดแล้ว มีแต่พวกเขาเท่านั้นล่ะมั้งที่รอด!”

 

“งั้นก็หมายความว่าหลังจากฆ่าเจ้าสองคนนี้ พวกเราน่าจะได้รับสมบัติมาเยอะน่าดู … ”

 

ผู้ใช้พลังเหล่านี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเลเวล A อีกอย่างการข่มขู่รีดไถมันเป็นเรื่องปกติ ใครใช้ให้ผู้ใช้พลังเลเวล B อ่อนแอกว่าพวกเขากันเล่า? คนอ่อนแอสุดท้ายก็เป็นลูกแกะที่รอวันถูกเชือด

 

แต่ประเด็นก็คือ บรรดาเลเวล A ที่พูดแบบนั้นออกมา ทั้งหมดล้วนไม่ได้เข้าร่วมงานประมูลคลับมังกรดำ เพราะพวกเขาไม่มีเงิน!

 

แต่ในตอนนั้นเอง ยังโชคดีที่มีบางคนฉลาดอยู่บ้าง หลังจากได้เห็นฉินเฟิง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 

“พวกนายจะบ้าหรอ? ไม่รู้หรือว่าเลเวล B คนนั้นเป็นใคร!”

 

“นั่นไม่ใช่เลเวล B ทั่วๆไป เขาไม่เหมือนคนอื่นๆ ระวังไปเตะแผ่นเหล็กเข้าโดยไม่รู้ตัว!”

 

“ไอ้พวกงี่เง่า นั่นมันฆาตกรโรคจิต! รีบเผ่นเร็ว! อย่าให้เขาเห็นพวกเรา ก่อนหน้านี้พวกเราเคยปิดล้อมเขามาก่อน ถ้าเกิดเขาอยากคิดบัญชีขึ้นมา ถึงเวลานั้นคิดหนีก็สายเกินไปแล้ว”

 

“ไป ไป ไป!”

 

คนเหล่านั้นหันหลังวิ่งหลบหนีทันที ปล่อยให้คนที่ยังไม่รู้จักตัวตนของฉินเฟิงไว้เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนไหวแล้ว กระทั่งสายตาที่มองไป ยังค่อยๆกลายเป็นเฉียบคมขึ้น

 

ฉินเฟิงมิได้ให้ความสนใจอีกฝ่าย โอบเอวไป๋หลีตรงไปยังต้นไม้ปัญญานิรันดร์