1/3

 

Ep.57 – แผนพัฒนากองทัพพี่หวัง

 

โล้นซ่าและคนอื่นๆได้รับโทรศัพท์จากฮังอวี่ พวกเขามาถึงคฤหาสน์เก่าภายใน 15 นาที ยืนเรียงแถวอย่างนอบน้อมเบื้องหน้าเขา

 

“สวัสดีพี่ใหญ่!”

 

“สวัสดีพี่รองหวังเอ๋อ!” 

 

ฮังอวี่นั่งบนเก้าอี้หวายแล้วถามว่า “ไปโลกวิญญาณครั้งนี้มีอะไรคืบหน้าบ้าง?” 

 

โล้นซ่ารีบพูดว่า “เพราะมีอุปกรณ์ที่พี่ใหญ่มอบให้ ทุกอย่างเลยผ่านไปได้ด้วยดี กลับมาครั้งนี้ฉันเกือบอัพเลเวล 2 แล้ว ส่วนเสืออ้วนกับลิงจ๋อถึงจะแย่กว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่ามีความคืบหน้ามากกว่าเดิม”

 

“ที่ฉันโทรหาพวกนายวันนี้ หลักๆก็เพราะมีเรื่องบางอย่างจะอธิบายให้ฟัง”

 

ฮังอวี่ชี้ไปทางฮัสกี้ที่นอนอยู่ข้างๆเขา แล้วเอ่ยว่า “จากนี้ไป หวังเอ๋อจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหาร ต่อไปถ้าฉันไม่อยู่ มันสามารถออกคำสั่งแทนได้ เข้าใจไหม?”  


ฮัสกี้กระดิกหางอย่างมีความสุข มันตื่นเต้นวิ่งไปมาเป็นวงกลม

 

ว้าว!

 

เจ้านายสุดยอดไปเลย เอ่ยคำเดียวมนุษย์สามคนก็กลายเป็นลูกน้องของเปิ่นหวัง!

 

ขณะเดียวกัน พวกพี่น้องโล้นซ่ามีสีหน้าแปลกไป เพราะถึงแม้พวกเขาจะเรียกฮัสกี้ว่าพี่รอง แต่ยังไงซะมันก็ยังเป็นหมา!

 

ซึ่งตามวิสัยปกติแล้ว หากต้องเป็นลูกน้องรับใช้ของหมาจริงๆ ในใจของพวกเขายากจะเต็มใจยอมรับ

 

อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อมาของฮังอวี่ ไม่เพียงสลายอุปสรรคในใจของทั้งสามเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาตัดสินใจปฏิบัติต่อพี่รองหวังเหมือนดั่งบรรพบุรุษ!

 

“ฉันจะเอาเงินสด 20 ล้านให้ จัดตั้งกองทุนพัฒนาชุมชนมังกรฟ้าเพื่อสร้างทีม , ฝึกฝนบุคลากร และควบรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยหวังเอ๋อจะเป็นคนดูแลเรื่องการเงินทั้งหมด”

 

“แต่พวกนายไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ทำงานสำเร็จตามที่ได้มอบหมาย หวังเอ๋อจะอัดฉีดเงินและแจกจ่ายทรัพยากรให้เอง”

 

ท่าทีของทั้งสามเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นในคราเดียว ในหัวของพวกเขาโล่งกลายเป็นว่างเปล่า

 

20 ล้านหยวน!

 

ไม่ใช่เงิน 1,000 หรือ 2,000 !

 

เงินจำนวนมหาศาลที่ฮังอวี่กล่าวมา หากเป็นคนธรรมดาต่อให้สู้ทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีทางหาได้! 

 

แต่พี่ใหญ่กลับควักมันออกมาในพริบตา ทั้งยังมอบหมายให้ฮัสกี้เป็นคนดูแลเงิน …

 

ไม่คิดเลยว่าพี่ใหญ่จะให้ความสำคัญกับหมาถึงขนาดนี้!

 

นับจากนี้ไป พวกเราต้องทำตัวว่าง่าย มีความสัมพัมธ์ที่ดีกับพี่รอง!

 

ฮังอวี่ขายอุปกรณ์จากโลกวิญญาณได้เงินมา 24.5 ล้านหยวนก็จริง แต่การที่เขายอมควัก 20 ล้านหยวนในทีเดียว นี่ไม่ใช่เพราะความใจกว้างแต่อย่างใด

 

ทว่าเป็นเพราะระบบเศรษกิจในปัจจุบันของโลกกำลังได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ แม้เงินยังคงมีมูลค่า แต่หากปล่อยทิ้งไว้ในมือเฉยๆ นานไปมันจะเสื่อมราคา 

 

ดังนั้นควรรีบใช้ให้เร็วที่สุด!

 

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในสถานที่มีค่า , การจ้างวานคน หรือสร้างกลุ่มของตัวเอง จะอย่างไหนก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น

 

ไม่มีใครหรอกที่จะยอมร่วมหัวจมท้ายไปกับคุณหากปราศจากเงิน

 

อีกอย่าง การฝึกหลอมอุปกรณ์ของเสืออ้วนจำเป็นต้องใช้เงิน หากไม่ผลาญเงินจำนวนมาก ก็อย่าหวังว่าจะฝึกช่างฝีมือวิญญาณได้!

 

ลิงจ๋อได้รับมอบหมายจากฮังอวี่ว่าให้ไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านและชาวบ้านในชุมชนมังกรฟ้า ดังนั้นไม่อาจหลีกเลี่ยงเรื่องการซื้อบุหรี่ แอลกอฮอล์ และของขวัญได้

 

นอกจากนี้ เขายังมีหน้าที่ช่วยฮังอวี่กว้านซื้อหรือเช่าบ้านว่าง  

 

แม้เงินตรานับวันจะยิ่งเฟ้อ ด้อยค่าลง แต่อาณาเขตวิญญาณจะไม่เสื่อมราคาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในตรอกมังกรฟ้า ในอนาคตทุกตารางนิ้วของที่ดินแถบนี้จะมีค่าดั่งทองคำ!

 

ฮังอวี่อ่านข้อมูลครัวเรือน เขาพบว่าแม้ตรอกมังกรฟ้าจะเป็นชุมชนในเมือง แต่มีพื้นที่ว่างค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเช่าหรือซื้อ ก็ล้วนมีโอกาสสำเร็จสูง ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก

 

นอกจากนี้ พื้นที่ว่างๆเหล่านั้นยังสามารถนำมาใช้เป็นฐานของกองทัพพี่หวังและหน่วยต่างๆได้ สามารถมอบพื้นที่บางส่วนให้พี่น้องโล้นซ่าพักอาศัยและดูแลทีมของตน

 

แต่ที่สำคัญที่สุด คือต้องรีบกักตุนอาณาเขตวิญญาณอันล้ำค่านี้ไว้

 

ที่ดินธรรมดาไม่สามารถปลูกพืชวิญญาณได้ ในภายภาคหน้า มีเฉพาะอาณาเขตวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเพาะปลูกมัน 

 

ในอนาคต ทรัพยากรส่วนใหญ่ที่ใช้สำหรับกลั่นยาและการผลิตอื่นๆจะถูกสร้างขึ้นในอาณาเขตวิญญาณ อธิบายแค่นี้คุณคงพอเข้าใจ ว่าอาณาเขตวิญญาณมีความสำคัญเพียงใด

 

ยังไงก็ตาม แม้ราคาบ้านจะลดลงฮวบๆ แต่การกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยังคงต้องการเงินจำนวนมาก 

 

ตอนนี้มีหลายส่วนต้องการเงิน เอาจริงๆแค่ 20 ล้านยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ

 

“หนังสือการทำฟาร์มวิญญาณเล่มนี้ฉันพึ่งได้มา มันมีค่ามาก แต่ไม่เหมาะกับฉัน นายเอาไปใช้ซะ” ฮังอวี่หยิบหนังสือผ่านพื้นที่เก็บของแล้วมอบให้ลิงจ๋อ “ทำหน้าที่ให้ดี อย่าทำให้ฉันผิดหวัง!” 

 

“ขอบคุณพี่ใหญ่!” ลิงจ๋อรู้สึกตื่นเต้นมาก หนังสือเล่มนี้คล้ายกับหินสกิล มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่า 

 

ถ้าลิงจ๋อได้รับเทคนิคทำฟาร์มวิญญาณนี้ไป เขาจะสามารถเร่งการเพาะปลูกต้นไม้วิญญาณได้

 

หากปล่อยให้เขาดูแลต้นไม้วิญญาณซักครึ่งเดือน บางทีพวกมันอาจเติบโตเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์ก็ได้

 

แม้แต่ฮังอวี่ในตอนนี้ หากให้เผชิญหน้ากับขั้นบรอนซ์แบบตัวต่อตัวยังยากเลย 

 

ถ้าในอนาคต คฤหาสน์เก่าสามารถมีผู้พิทักษ์อย่างต้นไม้วิญญาณขั้นโกลด์สองต้นคอยปกป้อง นอกเสียจากมีรถถังบุกเข้ามาในชุมชมตรอกมังกรฟ้า ก็อย่าหวังว่าจะสร้างภัยคุกคามแก่พวกเขาได้

 

ทั้งสามรายงานความคืบหน้าของตัวเองแก่ฮังอวี่ 

 

โล้นซ่าสามารถรวบรวมพี่น้องได้มากกว่าสิบคน ตอนนี้สามารถก่อตั้งหน่วยค้นหาได้แล้ว ทีมๆนี้พร้อมเริ่มงานทันที ดำเนินการตามกลยุทธิ์ที่ฮังอวี่วางเอาไว้

 

ส่วนลิงจ๋อ เขาสามารถติดต่อเจ้าของบ้านหรือตัวแทนได้อย่างราบรื่น ตราบใดที่มีเงินมากพอ เขาสามารถซื้อบ้านในชุมชนมังกรฟ้าได้หลายหลัง เปลี่ยนเจ้าของได้ทันที

 

เสืออ้วนรายงานกับฮังอวี่ “พี่ใหญ่ ของที่พี่ให้มาครั้งก่อน ดูเหมือนฉันจะใช้มันทำอุปกรณ์ได้ เพียงแต่ว่า …. ”

 

“แต่อะไร?” ฮังอวี่เซอร์ไพรส์เล็กน้อย “นายเอามันไปทำอุปกรณ์ได้จริงๆหรอ? ขอฉันดูหน่อย!” 

 

เสืออ้วนหยิบกางเกงขาสั้นสีเทาออกมา แม้เนื้อผ้าจะหยาบมาก แต่ก็เปล่งแสงสีเทาจางๆ ซึ่งหมายความว่ามันคืออุปกรณ์โลกวิญญาณคุณภาพสีเทา

 

ฮังอวี่เปิดผู้ช่วยโลกวิญยาณในมือถือเขา เรียกดูข้อมูลคุณสมบัติของกางเกงขาสั้นตัวนี้  

 

[กางเกงขาสั้นผ้าขนแกะคุณภาพต่ำ] อุปกรณ์เลเวล 1 สีเทาคุณภาพต่ำ ค่าความทนทาน 5 

 

อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติใดๆ ไม่ต่างอะไรจากขยะ!

 

ขนาดกางเกงตัวใหญ่ที่แถมมาตอนเริ่มเกม อย่างน้อยยังช่วยเพิ่มการป้องกันทางกายภาพ +1 แต่นี่มันแย่ยิ่งกว่าซะอีก อ๊าาา!

 

อย่างไรก็ตาม ดวงตาของฮังอวี่กลับเปล่งประกาย  

 

เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเสืออ้วนจะสามารถสร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้

 

อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ช่างฝีมือวิญญาณจะมีอยู่สองวิธีในการสร้างอุปกรณ์ อย่างแรกคือสร้างตามวัสดุที่มี อย่างที่สองคือการหาวัสดุเพื่อหลอมตามแบบแปลน

 

แบบแรกมีค่าใช้จ่ายสูง แต่แบบหลังหาวัสดุยาก แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียเป็นของตัวเอง

 

“นายสร้างกางเกงแบบนี้ได้อีกไหม?”

 

“ตั้งแต่ที่สร้างกางเกงตัวนี้สำเร็จ หลังจากนั้นเหมือนกับว่าฉันสามารถเข้าใจวิธีการสร้างที่แน่นอนของมันได้แบบอัตโนมัติ ตราบใดที่มีขนแกะเขาดาบเป็นวัสดุ ฉันมั่นใจว่าอัตราความสำเร็จมีมากกว่า 50%”

 

“ดีมาก!” ฮังอวี่พูดอย่างพอใจ “นายไปหาขนแกะพวกนั้นได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินเจียงเป่ย แล้วสร้างพวกมันให้เป็นกางเกงขาสั้น”

 

เสืออ้วนไม่เข้าใจ “แต่พี่ใหญ่ กางเกงขาสั้นพวกนี้ไม่เพิ่มคุณสมบัติ … ” 

 

“ไร้สาระน่า กินข้าวต้องกินทีละคำ ข้าวมีทั้งจานนายจะกลืนทีเดียวได้หรอ?” ฮังอวี่โยนกางเกงขนแกะให้เสืออ้วน “ตอนนี้ในโลกวิญญาณยังมีคนอีกมากที่ไม่มีกระทั่งกางเกงใส่”

 

“เพราะฉะนั้น ต่อให้กางเกงตัวนี้ไม่เพิ่มค่าสเตตัส แต่ข้อดีคือมันสามารถนำเข้าสู่โลกวิญญาณได้โดยตรง สร้างเสร็จแล้วจะขายตัวละ  10,000 – 20,000 หยวน ก็ไม่ใช่ปัญหา ขายได้นายก็เอาเงินไปแลกซื้อขนแกะต่อ รู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่ายังไง?”

 

“ในเจียงเฉิงมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน แต่ยังมีผู้คนอีกเป็นล้านที่กำลังวิ่งตัวเปลือยอยู่ในโลกวิญญาณ นายลองคิดดูสิ ตลาดที่มีผู้ซื้อเป็นล้านคนมันใหญ่แค่ไหน? เงินที่ขายได้ก็เอาไปซื้อวัสดุอีกทอดหนึ่ง ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นมันยังช่วยเพิ่มความชำนาญในการหลอมอุปกรณ์ของนายให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย”

 

ดวงตาของเสืออ้วนเป็นประกาย สมกับเป็นพี่ใหญ่ เขามองการณ์ไกลจริงๆ

 

ฮังอวี่โบกมือ “เอาล่ะๆ พวกนายแยกย้ายไปทำงานได้ อย่าเสียเวลาที่นี่เลย” 

 

พี่น้องโล้นซ่ากล่าวคำอำลาและจากไป 

 

หวังเอ๋อถอนหายใจทันที “เจ้านาย เปิ่นหวังพบแล้วว่าโชคชะตาไม่อาจล่วงรู้ การเปลี่ยนแปลงมีขึ้นมีลงเสมอ คาดเดาไม่ได้จริงๆ”

 

ฮังอวี่เหลือบมองมัน “ทำเป็นพูดดี นายก็แค่ฮัสกี้ ไปเอาคำพูดแบบเท่ๆแบบนี้มาจากไหน?” 

 

ฮัสกี้แลบลิ้นอย่างมีความสุข “ฮ่ง! ก็ต้องจากประสบการณ์ของตัวเองอยู่แล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน เปิ่นหวังยังเป็นหมาข้างถนนอยู่เลย และคงไม่มีทางนึกฝัน ว่าวันนี้จะกลายเป็นสุนัขที่ร่ำรวยมีเก็บในมือเป็นสิบๆล้าน นี่ไม่ใช่โชคชะตาหรือ? มองยังไงก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ชัดๆ”

 

“เงินพวกนั้นไม่ใช่ของนาย ฉันแค่มอบให้นายดูแลเท่านั้น อย่าพึ่งได้ใจนัก จงจำเอาไว้ ว่าอำนาจอันยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” ฮังอวี่ลูบหัวสุนัข “ตามฉันมา ฉันจะทำให้นายได้เห็น ว่าปาฏิหาริย์แห่งโชคชะตาที่แท้จริงมันเป็นยังไง”

 

ฮังอวี่ตามเจ้านายเข้าไปในห้อง และพบว่ามีหนังสือเล่มหนากองเป็นชั้นๆวางอยู่บนโต๊ะ

 

หวังเอ๋อเหลือบมองชื่อหนังสือ “วรรณกรรมยุคเก่า , ความมั่งคั่งของประชาชาติ , หลักการจัดการทางวิทยาศาสตร์ , การบริหารอุตสาหกรรมทั่วไป , เศรษฐศาสตร์และสังคม , ศิลปะแห่งสงครามของซุนวู … ”

 

หมาฮัสกี้ร้องฮ่ง ฮ่ง อย่างประหลาดใจ “เจ้านาย นี่มันหนังสือที่เจ้านายพึ่งซื้อใช่ไหม? มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่รักการเรียนรู้จริงๆ ยิ่งเห็นแบบนี้ เปิ่นหวังยิ่งรู้สึกเคารพเจ้านาย  เจ้านายช่างยิ่งใหญ่เหมือนแม่น้ำหวงเหอ … ”

 

ฮังอวี่หัวเราะ “นี่ไม่ได้เตรียมไว้ให้ฉัน ฉันอ่านหนังสือมาเป็นสิบปีแล้ว ไม่อยากอ่านอีกแล้ว” เขายิ้มแล้วลูบหัวสุนัข “สารภาพตามตรง แค่เห็นพวกมันฉันก็รู้สึกคลื่นไส้เหมือนจะอ้วก” 

 

ได้ยินแบบนั้น หวังเอ๋อคล้ายตระหนักถึงบางสิ่ง สองตาสุนัขเบิกกว้าง ก้าวถอยหลังไปสองก้าว “หรือว่าเจ้านายจะ … ”

 

ในเวลานี้ หัวใจของฮัสกี้เกิดลางสังหรณ์ร้าย!

 

“ในอนาคตนายต้องเป็นผู้ช่วยของฉัน ดังนั้นต้องเรียนรู้ในสิ่งที่จำเป็น เข้าใจไหม?”

 

ฮังอวี่ชี้ไปทางกองหนังสือบนโต๊ะ “ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และการบริหาร นี่แค่ล็อตแรกเท่านั้น เดี๋ยวจะมีเล่มอื่นๆตามมาอีก นายต้องเรียนรู้วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ภาษา ฯลฯ ” 

 

“คิดติดตามฉัน ต่อให้เป็นหมาก็ควรมีวัฒนธรรม ”

 

ฮัสกี้พอได้ฟัง ตาขาวมันเหลือกขึ้น แข้งขาแข็ง คล้ายถูกโจมตีอย่างรุนแรง ล้มหมดสติไป

 

แต่ฮังอวี่ไม่สนใจท่าทีนี้ของมัน ฮัสกี้มีพรสวรรค์มาก และนั่นสมควรได้รับการขัดเกลา 

 

มันกินผลไม้ปัญญาระดับมหากาพย์เข้าไป ขอบเขตสมองได้รับการพัฒนาอย่างมาก 

 

ความสามารถในการเรียนรู้และจดจำจของมันดีกว่าฮังอวี่ซะอีก มีศักยภาพที่จะกลายเป็นสุนัขอันโดดเด่น 

 

จะเกิดอะไรขึ้นหากมันได้เรียนรู้เศรษฐศาสตร์ การบริหาร และประวัติศาสตร์?

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันเรียนรู้ภาษาซัก 10 ประเทศ?

 

ทำไมเขาต้องให้มันอ่านวรรณกรรมจากราชวงศ์ถัง? 

 

ทำไมเขาถึงให้มันอ่านศิลปะแห่งสงครามของซุนวู?

 

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ของสุนัข!

 

หากมันสามารถแสดงฝีมือจนคนอื่นมองข้ามเรื่องเผ่าพันธุ์ที่ดูไม่น่าเชื่อถืออย่างฮัสกี้ได้ มันก็จะได้รับการยอมรับจากทุกคน กลายเป็นผู้ช่วยของเขาอย่างเต็มภาคภูมิ

 

ฮังอวี่ยุ่งมากตอนนี้ พลังงานส่วนใหญ่ของเขาใช้ไปกับการเร่งพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้น

 

ดังนั้นในส่วนของการสร้างทีม การจัดการเงินและบริหารบุคคล ทำไมต้องมาสนใจเรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ด้วย?

 

ถ้าทั้งหมดนี้มอบหมายให้หวังเอ๋อได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก