โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.435 – อัตราต่อรอง 400 เท่า

 

สิ่งของจากฟากฟ้ากระจัดกระจายไปทั่ว ส่วนใหญ่แล้วตกลงไปในบันไดขั้นล่างๆ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่กระดอนลงไปลึกนัก หยุดอยู่แค่ชั้นที่ 10 – 20

 

หากสังเกตดีๆ จะพบว่าท่ามกลางเศษสิ่งของมากมายที่ร่วงหล่นลงมา มีบางชิ้นที่เปล่งประกายวาววับน่าหลงไหล

 

และในบางชิ้น พลังงานที่แผ่ออกมาจากมัน ชวนให้หัวใจของผู้คนสั่นไหว

 

บางชิ้นฉินเฟิงพอจะรู้จักมันอยู่บ้าง บางชิ้นก็ไม่รู้จักเลย แต่ที่รู้แน่ๆก็คือ พวกมันเป็นของดีอย่างแน่นอน!

 

เบื้องหน้าเต็มไปด้วยสมบัติมหาศาล!

 

ดวงตาของฝูงชนเบิกกว้าง

 

กระทั่งสีหน้าของเลเวล C ก็ยังแปรเปลี่ยนไป

 

ไม่ปล่อยให้ฝูงชนจ้องนานจนเกินไป เสียงอุปกรณ์สื่อสารก็ดังขึ้น

 

【นับถอยหลังลงทะเบียน : 5 นาที】

 

【นับถอยหลังเดิมพัน : 10 นาที】

 

‘อ้าว ตอนนี้ก็ยังสามารถลงทะเบียนได้อีกงั้นหรอ?’

 

พอได้ยินเสียงประกาศ ความคิดหนึ่งวาบผ่านเข้ามาในหัวของฉินเฟิงอย่างฉับพลัน พลังสมาธิของเขากวาดออกไปรอบๆทันที

 

แม้จะกวาดลงกลางฝูงชน แต่กลับไม่มีใครตระหนักถึงพลังสมาธิของฉินเฟิงเลย

 

นั่นเพราะพลังสมาธิของเขา กวาดลงตรวจสอบเฉพาะแค่ผู้ใช้พลังเลเวล E เท่านั้น

 

ทันใดนั้นเอง การแสดงออกของฉินเฟิงก็กลายเป็นตกตะลึง

 

พลังสมาธิถูกถอนกลับ วิสัยทัศน์เบนไปตกลงบนร่างของวัยรุ่นคนหนึ่ง

 

วัยรุ่นคนนั้น น่าจะอายุราวๆสัก18 – 19 ปี ไม่สูง น่าจะสัก 170 ซม. ดูผอมกะหร่อง ผอมชนิดที่ว่าหากโดนลมพัดแรงๆอาจปลิวได้จริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม แววตาของคนๆนั้น มันแดงก่ำเป็นสีเลือด ราวกับหมาป่าที่กำลังจ้องมองเหยื่ออยู่ตลอดเวลา

 

ให้ความรู้สึกดุร้ายเป็นอย่างมาก!

 

และกลิ่นอายของวัยรุ่นคนนี้ไม่เลวร้ายเลย อายุยังน้อยแต่สามารถก้าวขึ้นสู่เลเวล E ได้แล้ว!

 

อย่างไรก็ตาม ในเมืองหวัง เลเวล E คือตัวตนที่อ่อนแอ พวกเขามักจะได้รับทำแค่งานเบ็ดเตล็ดทั่วไปเท่านั้น นอกจากนี้ยังต้องตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลา แต่ด้วยอายุเพียงเท่านี้ นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว

 

หากเขาเกิดและเติบโตขึ้นในเมืองหวัง และอาศัยอยู่ท่ามกลางกฏแห่งป่าตั้งแต่เกิดจริงๆ แต่รอดชีวิตมาได้ถึงขนาดนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด

 

—ว่าทำไมคนผู้นี้ถึงครอบครองจิตใจอันเข้มแข็ง และความโหดเหี้ยมไร้ปรานี!

 

ฉินเฟิงรู้ดีว่าเขาเป็นใคร

 

คนๆนี้ผู้มีศักยภาพระดับสวรรค์โปรดปรานของเมืองหวัง จิ่นเฟย!

 

และในอนาคตจะกลายเป็นนักล่าอันดับต้นๆของเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล!

 

ได้รับสมญายอดนักฆ่าในเงามืด และยังเป็นผู้ที่สามารถก้าวขึ้นไปถึงเลเวล A !

 

ฉินเฟิงไม่คาดคิดเลย ว่าจะได้มาพบกับอีกฝ่ายที่นี่

 

อย่างไรก็ตาม จิ่นเฟยในปัจจุบัน ยังคงอยู่ในเมืองหวัง ใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานราวกับคนตาย ไม่อาจหลบหนีจากที่นี่ได้

 

กำลังภายในของฉินเฟิง ห่อหุ้มเสียงและส่งผ่านไปยังหูของจิ่นเฟยโดยตรง “ฉันจะให้ตั๋วกับนาย แล้วพานายลงไปในเทียนไต้ งานนี้นายจะได้รับหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของเงินเดิมพัน สนใจไหม?”

 

จิ่นเฟยผงะตกใจ

 

ในโลกภายนอก 10 เหรียญพลังงานมีมูลค่าแค่ 100,000 เหรียญก็จริง แต่สำหรับในเมืองหวัง มันมีค่ามากๆ การที่จิ่นเฟยมาที่นี่ แน่นอนมิได้มาเพื่อเดิมพันแต่อย่างใด

 

เพราะจิ่นเฟยไม่ใช่คนชอบเสี่ยงโชค และอีกอย่างเขาไม่มีทุนในการเล่นพนัน

 

แต่ในทุกๆครั้งที่จิ่นเฟยเลือกจ่ายค่าตั๋วรับชมเข้าสู่มิติเทียนไต้ นั่นเพราะเขาต้องการมาดูการประลอง เพื่อเรียนรู้ ช่วงชิงวิชาของผู้อื่น–

 

–เขาคืออัจฉริยะในด้านวรยุทธโบราณ!

 

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเฟิง สำหรับจิ่นเฟย นี่เปรียบดั่งสายฟ้าฟาดลงใส่หูเขา

 

หากเทียบกับฉินเฟิงแล้ว จิ่นเฟยรู้ดีกว่าเขามากนัก ถึงความน่าหวาดกลัวของเทียนไต้ ต่อให้บอกว่าจะพาเขาลงไป แล้วมอบส่วนแบ่งเดิมพันให้ก็เถอะ แต่นั่นไม่ต่างจากการนำเขาไปตายเลย

 

แล้วอีกอย่าง เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน จิ่นเฟยไม่รู้จักอีกฝ่ายมาก่อนเลย!

 

ยังไงก็ตาม อีกฝ่ายเป็นถึงเลเวล D หากจิ่นเฟยไม่ทำตาม เกรงว่าชีวิตเขาอาจมาถึงทางตัน หนทางเดียวจากนี้คือความตาย

 

ในหัวใจของจิ่นเฟยเต้นครึกโครม เริ่มเค้นสมองขบคิด ว่าตนได้ไปทำให้ใครรู้สึกขุ่นเคือง

 

ระหว่างนั้นเอง ใครคนหนึ่งได้เดินผ่านมาข้างจิ่นเฟย และชนเขาเบาๆอย่างไม่ตั้งใจ

 

ในจังหวะเดียวกัน ถุงใบเล็กๆก็ถูกยัดลงในมือของจิ่นเฟย

 

สิ่งของที่อยู่ข้างใน ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าเป็นเหรียญพลังงาน!

 

1,000 เหรียญพลังงาน นี่เป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับจิ่นเฟย

 

“รีบไปเร็วเข้า เดี๋ยวจะหมดเวลาสมัครซะก่อน”

 

คราวนี้ ภายในเสียงที่ห่อหุ้มไว้ด้วยกำลังภายใน แฝงแรงกดดันจางๆเข้ามาด้วย

 

อันที่จริง ฉินเฟิงไม่ได้ต้องการให้มันออกมาในรูปแบบนี้ ตอนแรก เขาคิดแค่ว่าจะช่วยพาจิ่นเฟยแยกตัวออกจากเมืองหวัง เพราะอีกฝ่ายคือผู้มีพรสวรรค์ เหมาะสมจะนำเข้ามาร่วมกลุ่ม และจะไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไป

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นแววตาตื่นตระหนกของจิ่นเฟย ทั้งท่าทีที่ไม่เต็มใจ ฉินเฟิงก็ตระหนักได้ ว่าจิ่นเฟยในตอนนี้ ยังอ่อนแอเกินไป

 

อ่อนแอจนคิดว่าโอกาสดั่งพระเจ้ากำลังประทานพรให้ในตอนนี้ คือการนำตนเองไปสู่ความตาย

 

แต่คำขู่ของฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยมีผลนัก

 

จิ่นเฟยยังคงลังเล จนกระทั่งเวลารับสมัครในช่วงท้าย ลดลงเหลือ 3 นาที

 

“ไม่ต้องรอแล้ว ไป๋หลี ลงมือเลย”

 

ฉินเฟิงไม่อยากพลาดโอกาสทอง เขาสั่งให้ไป๋หลีให้เข้าควบคุมอีกฝ่ายโดยตรง

 

พลังสมาธิของไป๋หลีกวาดไปตกลงบนร่างของจิ่นเฟยทันที

 

“ไปสมัครซะ!”

 

ประกายแห่งความมีชีวิตชีวาในดวงตาของจิ่นเฟย กลายเป็นมืดมน –จิตสำนึกถูกควบคุมเป็นที่เรียบร้อย

 

ไป๋หลีเป็นจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล C ดังนั้นสมาธิของเธอทรงพลังเป็นอย่างมาก หากคิดควบคุมจิ่นเฟยในเวลานี้ ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ

 

จิ่นเฟยภายใต้การควบคุมของไป๋หลี เริ่มก้าวเดินไปยังโต๊ะของชายในชุดคลุมดำ และวางถุงเหรียญพลังงานลง

 

ชายชุดดำเงยหน้ามองจิ่นเฟยด้วยความประหลาดใจ

 

จิ่นเฟยเป็นผู้ใช้พลังเลเวล E เลยเป็นธรรมดาที่จะมีอุปกรณ์สื่อสารไว้ในครอบครอง แม้จะเป็นแบบไม่ระบุชื่อ แต่ก็ยังพอมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาเก็บเอาไว้อยู่บ้าง

 

ชายชุดดำนำข้อมูลของจิ่นเฟยออกจากอุปกรณ์สื่อสาร และพบว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เลเวล E เท่านั้น!

 

“เลเวล E? หาเรื่องตายรึไง ถ้าสมัครแล้วไม่คืนเงินหรอกนะเข้าใจไหม”

 

ไม่รอช้า ชายชุดดำกวาดถุงบรรจุเหรียญพลังงานเข้าหาตัว และมอบตราผู้เข้าร่วมให้แก่จิ่นเฟยทันที

 

เป็นหมายเลข 444!

 

ซวยจริงๆ ช่างเป็นเลขไม่เป็นมงคลเอาซะเลย (4ของจีน สามารถอ่านออกเสียงว่า ‘ตาย’ )

 

จิ่นเฟยมิอาจควบคุมตนเองได้เลย เจ้าตัวติดตราบนหน้าอก และเดินมาหยุดอยู่ข้างๆฉินเฟิง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ถัดออกไปพอดิบพอดี

 

และแล้วสุดท้าย 5 นาทีของการสมัครก็จบลง เงินเดิมพันของผู้สมัครก็ถูกใส่ลงไป

 

ท่ามกลางเลเวล D จิ่นเฟยที่เป็นเลเวล E โดดเด่นเป็นพิเศษ

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคิดวางเงินเดิมพันข้างจิ่นเฟย

 

ในความเป็นจริงแล้ว จำนวนตัวเลือกเดิมพันค่อนข้างกว้างมาก เพราะมันมีมากกว่า 400 คนให้เลือก แต่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการเดิมพันอย่างแท้จริง มักจะเป็นผู้ใช้พลังเลเวล C เสียมากกว่า

 

เพราะคนเหล่านี้ สำหรับเมืองหวัง ทั้งหมดล้วนถูกเรียกว่าบอสและเป็นคนมีชื่อเสียง

 

พวกเขามักจะพนันข้างลูกน้องของตัวเอง เพื่อชนะเดิมพัน ในขณะที่บอสคนอื่นๆ จะส่งลูกน้องของตนไปคอยขัดขวางลูกน้องของคนอื่นๆ

 

ถึงเวลานี้ ฉินเฟิงได้ค้นพบอีกอย่างหนึ่ง ว่าอัตราต่อรองพื้นฐานสำหรับเลเวล D คนอื่นๆ ทุกการมุ่งลึกลงไปมันจะเพิ่มเป็นทวีคูณ

 

ยกตัวอย่างเช่นในขั้น 5 อัตราต่อรองอยู่ที่ 1 : 1

 

ขั้น 10 อัตราต่อรองเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า

 

ขั้น 15 อัตราต่อรองเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!

 

แน่นอน ว่าคนเหล่านั้น อย่างน้อยก็ต้องรอดชีวิตกลับมาก่อน ผู้เดิมพันถึงจะสามารถรับเงินได้ ในขณะที่ต่อให้สามารถก้าวไปถึงขั้น 20 แต่ไม่รอดกลับมา ก็ไม่ได้เงิน

 

ในขณะที่จิ่นเฟยเป็นเลเวล E เงินรางวัลจากการเดิมพันของเขาเลยสูงลิ่ว!

 

ไปถึงขั้น 5 ของเทียนไต้ รางวัลเดิมพันจะได้รับมากกว่า 5 เท่า ไล่ระดับลงไป เป็น 10 เท่า , 50 เท่า , 100 เท่า และ 200 เท่าตามลำดับ

 

และหากจิ่นเฟยสามารถลงลึกไปถึงชั้น 30 ได้ อัตราเดิมพันจะมากถึง 400 เท่า!

 

เป็นตัวเลขที่ช่างยั่วยวนใจ!

 

“ไป๋หลี ช่วยไปวางเดิมพันหมายเลข 444 ให้ฉันหน่อย เดิมพันที่อัตราต่อรอง 400 เท่า เงินที่จะใส่ลงไปก็ซัก … 10,000 ล้าน!”

 

“ว้าว ถ้าอย่างนั้น หมายความว่าถ้าพวกเราชนะ จะสามารถทำเงินได้มากถึง 4 ล้านล้าน เลยใช่ไหม นั่นมันเทียบเท่าได้กับเงินในบัญชีที่ถูกระงับไปเลย”

 

ไป๋หลีฉีกยิ้มกว้างและกล่าว หมุนตัวเดินไปเข้าร่วมลงพนัน

 

จนถึงตอนนี้ จิ่นเฟยก็ยังถูกควบคุมอยู่ มิอาจขยับเขยื้อนได้เลย แม้จะพยายามเร่งเร้าพลังสมาธิเข้าสู้ แต่ผลลัพธ์มันก็ชัดเจน

 

ราวกับว่าไป๋หลีสามารถครอบครองร่างกายของจิ่นเฟยได้อย่างสมบูรณ์ เธอสั่งการให้พลังสมาธิของจิ่นเฟย กวาดไปยังมุมหลังโถง เพื่อที่จะได้ยินบทสนทนาต่อจากนี้

 

จิ่นเฟยในเวลานี้ไม่รู้ว่าสมควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

“เดิมพันที่ 400 เท่า? ช่างฝันเฟื่อง!”

 

ไม่เพียงแต่จิ่นเฟิยเท่านั้นที่รู้สึกว่านี่มันละเมอเพ้อพก หลังจากที่ไป๋หลีเดิมพัน ชายในชุดดำก็คิดว่าไป๋หลีคงเป็นบ้า

 

เพราะหมายเลข 444 เป็นแค่เลเวล E !

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เช่นนี้ใช่ว่าจะไม่มีมาก่อน เคยมีใครบางคนทุ่มเดิมพันกับคนๆหนึ่ง และให้คนอื่นๆช่วยกันปกป้องคนๆนั้นจนไปถึงที่หมายอยู่เช่นกัน เพียงแต่ว่าในกรณีที่ลึกลงไปถึงขั้นที่ 30 มันไม่เคยมีมาก่อน

 

–นี่มันไร้สาระเกินไป!