โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.429 – เข้าเมือง

 

ฉินเฟิงเร่งเร้ากำลังภายใน มวลน้ำนับสิบปะทุขึ้นทันใด

 

มวลน้ำกำลังภายในของฉินเฟิงแกร่งกว่าอีกฝ่ายมากนัก หากเทียบกันในแง่คุณภาพแบบ 1 ต่อ 1 เกรงว่าฝั่งฉินเฟิงจะแกร่งกว่า 3 – 4 เท่า

 

ดังนั้น 10 มวลน้ำกำลังภายในของฉินเฟิง สรุปสั้นๆว่าทรงอำนาจยิ่งกว่า 2 มวลน้ำของศัตรูถึง 20 เท่า

 

ทั้งสองกำปั้นซัดเข้าใส่กัน แต่ทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเรียกใช้ปราณกำลังภายใน

 

หมายความว่า นี่คือการซัดกันด้วยกำลังภายในเพียวๆ!

 

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ได้ถูกตัดสินอย่างรวดเร็ว ความผันผวนกวาดกระจายจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่าเป็นฝั่งฉินเฟิงที่สามารถกดดันผู้ใช้วรยุทธโบราณอ้วนจนถอยร่นไปได้

 

ขณะที่ทั้งสองกำปั้นยังคงประสาน ไม่แยกจากกัน

 

ไล่ไปตามมือซ้ายของศัตรู ข้างที่ชกใส่ฉินเฟิง แขนเสื้อชุดต่อสู้ของเขาเริ่มเกิดรอยฉีกขาด มันบิดเป็นเกลียว ถูกฉีกกระชากกลายเป็นเศษผ้า ฟุ้งกระจายไปทั่ว

 

นี่คือฉากที่สามารถเกิดขึ้นได้จากกระห้ำหั่นกันระหว่างกำลังภายใน

 

แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้!

 

เป๊าะ!

 

กำลังภายในราวกับหนอนไชกระดูก มันไล่ชอนไชอย่างต่อเนื่องไม่ลดละ กำปั้นอวบเริ่มแปรสภาพเป็นรูปลักษณ์ที่ดูน่าเหลือเชื่อ ถูกทุบจนบี้แบน

 

จากนั้น ก็ตามมาด้วยเสียงเป๊าะ เป๊าะ ดังขึ้นอีกหลายครั้ง กระดูกท่อนแล้วท่อนเล่าของเขาถูกทำลายลง

 

คล้ายกับมิอาจรองรับกำลังภายในได้อีกต่อไป แขนอวบของชายอ้วนที่ไม่ต่างจากถังน้ำ จู่ๆก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างกระทันหัน เลือดและไขมันนับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ข้อมือยันข้อศอก แตกกระจายออกไปทุกทิศทาง

 

กำลังภายในพลุ่งพล่านดุเดือด

 

ปัง!

 

กำลังภายในไหลตรงเข้าสู่ร่างกายคู่ต่อสู้ ฉีกทำลายหน้าอกของชายอ้วนจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ปั่นหัวใจจนแหลกเหลว

 

ผู้ใช้วรยุทธโบราณอ้วนปลิวกระเด็นออกไปทันที ระหว่างทางยังคงเกิดเสียง เป๊าะ เป๊าะ ยามร่วงโครมกับพื้น ทั้งร่างพลันแตกโผล๊ะ มีสภาพไม่ต่างจากบ่อไขมัน

 

เสื้อผ้าฉีกขาด ระเบิดเป็นชิ้นๆ อุปกรณ์รูนสีเงินเลเวล D ที่สวมใส่พังทลายลงโดยสมบูรณ์

 

อุปกรณ์รูนที่ทำจากหนังของสัตว์ร้ายระดับราชันย์ ไม่อาจช่วยอะไรเขาได้เลย

 

หัวใจของเขาถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ ตายชนิดไม่อาจตายได้อีกต่อไป

 

ฉินเฟิงลอบใช้ออกด้วยทักษะลับกลืนดารา สูบเอาสามมวลน้ำกำลังภายในจากศัตรู ก่อนหันไปมองอีกสามคน ที่เวลานี้กำลังเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

พวกเขาไม่คิดเลย ว่าฉินเฟิงจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ใบหน้าของฉินเฟิงยังดูอ่อนเยาว์เกินไป!

 

“เหอ เหอ ไม่คิดเลยแฮะ ว่าจะมีคนเก่งๆแวะมาเยี่ยมเยือนแล้ว” หนึ่งในนั้นเผยสีหน้าแปลกๆออกมา แต่ไม่กล้าแสดงท่าทียะโสอีกต่อไป

 

ผู้ใช้วรยุทธโบราณชายอ้วนเมื่อครู่ ไม่ได้แค่คนอ้วนธรรมดาๆ แต่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ฝึกเทคนิคคู่ขนาน แต่ผลที่ตามมากลับถูกสังหารลงโดยฉินเฟิงอย่างง่ายดาย

 

ระหว่างต่อสู้ พวกเขาสามารถสัมผัสได้ ว่าแม้บนหน้าอกของฉินเฟิงจะติดแค่ตราสัญลักษณ์เลเวล D แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาคือผู้ใช้พลังเลเวล D5

 

“บอกชื่อของนายมา” เลเวล D ที่เฝ้าประตูตระหนักว่าฉินเฟิงมิใช่คนที่สมควรจะยั่วยุ ดังนั้นเกิดความคิดให้ฉินเฟิงเข้าไปในเมือง

 

เพราะอย่างไรเสีย หากฉินเฟิงเป็นคนของพันธมิตรมนุษยชาติจริงๆ สิ่งที่รอเขาอยู่ภายในอาคารแนวกำแพง ก็คือความตาย!

 

“ชื่อฉินเฟิง”

 

เลเวล D เปิดหน้าจออย่างรวดเร็ว และยังเป็นในส่วนของเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล เขาพบชื่อของฉินเฟิง ว่ามันตรงกับประกาศจับเมื่อวันก่อนพอดี

 

“นายไปทำความผิดอะไรมา?”

 

เครือข่ายนักล่าเงินรางวัล มักอัพโหลดประวัติล่าช้าอยู่เสมอๆ แต่ช่างเถอะนั่นมันยิบย่อยไร้สาระ เขาขี้เกียจเสียเวลารอ ถามเอาเลยแล้วกัน!

 

“มีใครบางคนคิดวางกับดักผม ความผิดก็ง่ายๆ : ดันไปทำให้ใครบางคนต้องขุ่นเคือง!” ฉินเฟิงกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

 

ในจุดนี้เลเวล D ที่เฝ้าประตูพอเข้าใจได้ และยังเข้าใจดีเสียด้วย ว่าฉินเฟิงไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์กรมืดแบบเต็มตัว แค่ถูกบีบบังคับให้ต้องเข้ามา

 

แต่คนประเภทนี้ มีมากมายในทุกๆปี

 

แม้จะมาขอหลบภัยในเมืองหวัง แต่ก็มีแค่ไม่กี่คนที่สามารถอยู่รอดในระยะยาวได้

 

และแค่เห็นท่าทีก้าวร้าวของฉินเฟิงหน้าประตู ก็พอคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นอีกคนที่รอดชีวิตได้ไม่นาน

 

“เข้ามาได้”

 

เลเวล D กล่าว พลางเปิดประตูเล็ก

 

เมื่อเห็นว่าเลเวล D ยอมเปิดประตู บางคนที่แอบมองอยู่ในตัวอาคาร ก็ถอนสายตากลับไป อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงรับรู้ได้ ว่ายังมีอีกหลายคน กำลังจ้องมองลงบนร่างของไป๋หลีด้วยสายตาตะกละตะกลาม

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แววตาของฉินเฟิงก็วูบไหวไปด้วยประกายสังหาร!

 

เมื่อก้าวผ่านประตูเล็กๆ ก็ถือว่าทั้งสองได้เหยียบเข้าสู่เมืองหวังอย่างเป็นทางการ

 

สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ค่อยดีนัก แค่เดินข้ามถนน ก็มีกลิ่นเลือดจางโชยมาแตะจมูก ไหนจะกลิ่นเหม็นหืนอีก แสงไฟก็บางตา ฉินเฟิงพบคนธรรมดาที่เดินตามท้องถนน กำลังปัดกวาดทางเดินให้เป็นระเบียบ ไล่ตามทางไปเรื่อยๆจนถึงมุมถนน คนทำความสะอาดก็บังเอิญพบศพถูกทิ้งไว้ เจ้าตัวไม่ปริปากบ่นอะไร เพียงยกศพขึ้นไปวางบนรถตนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และเริ่มลากออกไป

 

ฉินเฟิงเพิ่งเดินข้ามมาถนนอีกเส้น ก็เห็นคนทำความสะอาดอีกคน กำลังพยายามผลักรถที่มีสามศพนอนตายอยู่บนนั้นไปข้างหน้า ในขณะที่คนอื่นๆบนท้องถนน ไม่มีใครเลยที่แสดงท่าทีรู้สึกแปลกใจอะไร

 

ในตอนนั้นเอง เด็กตัวน้อยๆคนหนึ่งที่มีผิวสกปรกวิ่งออกมาจากในที่มืด ดูๆแล้วไม่น่าจะอายุเกิน 4 – 5 ปี ผอมแห้งหนังติดกระดูก บนร่างกายเหมือนจะสวมใส่เสื้อผ้าเหลือใช้ของผู้ใหญ่ ขาดรุ่งริ่งราวกับผ้าขี้ริ้ว ดูน่าสังเวชเหลือเกิน

 

อีกฝ่ายเห็นฉินเฟิงกับไป๋หลี ดวงตาเปล่งประกายสดใส เริ่มเกิดความหวัง

 

“นี่ นี่ พวกคุณกำลังจะไปพักในโรงแรมรึเปล่า?” เด็กน้อยเอ่ยถาม

 

ฉินเฟิงละความสนใจจากอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง จูงมือไป๋หลีเดินต่อไป

 

เมื่อเห็นถึงทัศนคติเด็ดเดี่ยวของฉินเฟิง เด็กน้อยก็อ้อมไปพูดกับไป๋หลีทันที พูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “พวกคุณเพิ่งมาเมืองหวังเป็นครั้งแรกใช่ไหม ฉันจะนำทางให้เอง ที่นี่น่ะมันอันตรายถึงตาย ถ้าเดินสุ่มๆโดยไม่มีฉัน เดี๋ยวพวกคุณอาจกลายเป็นแบบคนพวกนั้นนะ”

 

นิ้วก้อยที่ดูสกปรกของเด็กน้อยชี้ไปทางศพบนรถ

 

ฝีเท้าของฉินเฟิงชะงักทันใด

 

“ฉันไม่ต้องการพักที่โรงแรม แต่อยากจะอยู่ในบ้านเดี่ยว , อพาร์ทเมน หรือวิลล่าก็ได้ เอาที่มันสะดวกสบาย!”

 

ฉินเฟิงยอมเอ่ยปาก

 

ราวกับเห็นแสงแห่งความหวังอยู่เบื้องหน้า เด็กน้อยรีบตอบว่า “วิลล่าก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ … ราคามันแพงมาก แพงมากจริงๆ”

 

เกิดประกายในแววตาของเด็กน้อย นิ้วเล็กๆค่อยๆชูขึ้นมา “ข้อมูลนี้แลกกับ 1 เหรียญพลังงาน”

 

สิ่งนี้สามารถแลกเปลี่ยนในโลกภายนอกได้ถึง 10,000 เหรียญ!

 

ต้องเข้าใจนะว่า ในเมืองหวัง ธุรกรรมผ่านอุปกรณ์สื่อสารไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ดังนั้นทุกการใช้จ่ายจะแลกเปลี่ยนด้วยเหรียญพลังงาน

 

หรือกล่าวอีกความหมายนึงก็คือ 1 เหรียญพลังงาน คือราคาต่ำสุด

 

ฉินเฟิงพยักหน้าอย่าไม่ใส่ใจ ตอบ “ตกลง”

 

“งั้นตามมาได้เลย!”

 

เด็กน้อยหันกลับไป ในแววตาทอประกายความคาดไม่ถึง เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวไม่คิดว่าฉินเฟิงจะถูกหลอกง่ายขนาดนี้

 

เด็กน้อยกวักมือเรียก พาเดินทะลุเข้าไปในซอย

 

“บนถนนสายหลักมักจะเจอพวกคนเลวได้ง่าย ต้องมาทางนี้ เป็นทางลัดไปยังที่ๆคุณต้องการ”

 

เด็กน้อยวิ่งอย่างกระตือรือร้น แต่ฉินเฟิงและไป๋หลี ทั้งคู่เดินเยื้องย่างอย่างเชื่องช้า เพราะความเร็วของเด็กน้อย มันไม่ต่างจากการคลานสำหรับพวกเขา

 

 

ขณะเดียวกัน คนเฝ้าอยู่นอกประตูอีกสามคน กำลังยืนนับ 20 เหรียญพลังงานกันอยู่ สุดท้ายอดใจไม่ไหวต้องพูดออกมา

 

“เขามาจากที่ไหนกันแน่? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาสามารถฆ่าเจ้าอ้วนได้ในหมัดเดียว”

 

“ลองตรวจสอบแบบละเอียดดูสิ เมื่อกี้มันโหลดช้าฉันเลยไม่ทันดู น่าจะมีข้อมูลอยู่บ้างนะ”

 

“เข้าไปดูในเครือข่ายนักล่าเงินรางวัลอีกรอบ!”

 

ทั้งสามเริ่มเปิดใช้งานอุปกรณ์สื่อสารของตนเอง ส่วนเจ้าอ้วนที่เพิ่งตายไป ไม่มีใครสนใจอีกเลย เพราะยังไงซะ เมืองหวังก็เป็นดินแดนแห่งความตายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพื้นดินตรงส่วนไหนมันก็เปื้อนไปด้วยเลือดทั้งนั้น!

 

แม้คนที่เพิ่งตายไป ก่อนหน้านี้จะร่วมเล่นไพ่อยู่ด้วยกันก็ตาม

 

ไม่นาน ทั้งสามก็เห็นข้อมูลแบบเต็มตาในอุปกรณ์สื่อสาร

 

“เชี่ยเถอะ ประกาศจับ 1แสนล้าน!”

 

“ทำไมเขาถึงมีค่าหัวมากขนาดนี้?”

 

ต้องบอกว่า เวลานี้ทั้งสามเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว พวกเขามองหน้ากัน ในใจเริ่มคิดดำเนินแผนการ

 

“ใจเย็นๆ ดูประวัติของมันก่อน”

 

สิ้นเสียง สีหน้าของหนึ่งในสามก็แปรเปลี่ยนไป

 

“เจ้าหมอนั่น มีศักยภาพระดับสวรรค์โปรดปราน และเคยฆ่าเลเวล C มาแล้วมากกว่า 1 คน!”