1/2

Ep.317 – วิดีโอที่ทำให้เลือดเดือดพล่าน

“คืนพรุ่งนี้ราวๆ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนตามเวลาโซนหยานจิง”

“ขอให้ทุกคนที่อยู่ในแคว้นเดียวดายมารวมตัวกัน”

“ผู้นำของแต่ละทีมต้องระดมกำลังและเตรียมการให้พร้อม”

“นับจากตอนนี้ พวกเรายังเหลือเวลาอีกอย่างน้อย 10 กว่าชั่วโมงให้เตรียมตัว เป้าหมายคือบุกยึดเมืองหุบเขาเดียวดายให้ได้ในคราเดียว และครั้งนี้นำทีมโดยฮัง ทุกคนมีคำถามอะไรไหม?”

จ้าวหมิงตะโกนไปยังฝูงชน

แต่ไม่มีใครคัดค้านอะไร

ทุกคนแยกย้ายกันไป ผู้ที่ใกล้เลเวลอัพก็รีบอัพเลเวลอย่างเร่งด่วน ผู้ที่ควรเตรียมไอเท็มก็รีบกลับไปเตรียมพวกมันโดยเร็วเช่นกัน

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่อาจล่าช้า มนุษย์จิ้งจอกยังไม่ทราบข้อมูลโดยละเอียดของมนุษย์ หากพวกมันมีเวลามากพอให้สอดแนมและเรียนรู้ถึงสติปัญญาของมนุษย์ สถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวย

แม้เหลือเวลาไม่ถึงวัน

แต่ภายในระยะเวลาสั้นๆนี้ น่าจะเพียงพอให้ทุกคนเตรียมการ

ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีข้อได้เปรียบมหาศาล

นั่นคือในโลกจริงพวกเขามีประชากรนับพันล้าน!

แม้โครงข่ายการคมนาคมเกือบล่มสลาย แต่ช่องทางการขนย้ายวัสดุยังไม่ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง องค์กรระหว่างประเทศเช่นสมาคมโลกวิญญาณหรือกองกำลังทางทหารยังพอมีช่องทางสำหรับการโยกย้ายทรัพยากร ตลอดจนความสามารถในการเฟ้นหาพวกมัน

นี่คือข้อได้เปรียบที่ชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่ในโลกวิญญาณไม่มี

ประชากรพื้นเมืองในโลกวิญญาณมีจำนวนค่อนข้างบางเบา หากเป็นกองกำลังขนาดเล็ก ยิ่งปราศจากความสามารถในการโยกย้าย

ตลาดท้องถิ่นเป็นอะไรที่หายากมาก คนฝั่งนี้ไม่มีการแบ่งงานทางสังคม เพราะงั้นความเร็วในการพัฒนาเลยตกต่ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ฉูเทียนหัวกล่าว “แล้วพวกเราจะทำยังไงกับมนุษย์จิ้งจอกสองตัวที่ถูกจับ? ”

“อืม เอาเป็นหาทีมมาคอยเฝ้าพวกมันก่อนแล้วกัน” ฮังอวี่ยังไม่มีความตั้งใจจะเค้นข้อมูลพวกมันในเวลานี้ “ตอนนี้ในแคว้นเดียวดายเริ่มมีมนุษย์เข้ามามากขึ้นแล้ว กำลังพลของพวกเราน่าจะเพียงพอ แค่เฝ้าพวกมันซักสิบชั่วโมงไม่น่ามีปัญหาอะไร เก็บพวกมันไว้น่าจะมีประโยชน์กว่า”

เหตุผลที่ฮังอวี่มั่นใจ

เป็นเพราะเสี่ยวไป๋มีเลเวล 10 แล้ว

พลังรบของเธอได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

ผนึกของเธอไม่ใช่สิ่งที่เย่กู่ เย่โน่ สามารถหลุดออกมาได้ในระยะเวลาอันสั้น

วันนึงไม่สั้นไม่ยาวเกินไป เพราะงั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ฮังอวี่กล่าวว่า “เหล่าฉู เรียกระดมชนชั้นยอดของทีมเราทั้งหมดมาที่นี่ ผมจะพาพวกคุณไปอัพเลเวลในวันนี้ หวังว่าพวกเขาจะสามารถอัพเลเวลขึ้นเป็น 9 หรือ 10 ได้”

เจียงหนานตะโกนด้วยความยินดี “พี่มหาเทพจงเจริญ!”

ปัจจุบันเธอมาถึงเลเวล 9 แล้ว

เสี่ยวเฉียงก็เช่นกัน

แม้ว่าในหนึ่งวันอาจไม่สามารถอัพไปถึงเลเวล 10 ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถก้าวกระโดดก้าวใหญ่ ได้รับแต้มวิญญาณสะสมมากขึ้น สามารถนำมันไปอัพเลเวลสกิลหรือเรียนรู้สกิลใหม่ๆได้

ตอนนี้เจียงหนานกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากสกายเน็ตสาขาหยานจิง รวมไปถึงผู้นำหลายคนของประเทศ

ตอนนี้หากเธอต้องการหาซื้อหินสกิล มันไม่ใช่เรื่องยาก

ที่เธอต้องทำก็แค่หาเวลาฝึกฝนสกิล

และสะสมแต้มวิญญาณเพื่อนำไปพัฒนาพวกมัน

จ้าวหมิงเรียกชายร่างผอมเข้ามาก่อนออกเดินทาง “ปันจื่อ เป็นยังไงบ้าง วิดีโอพร้อมรึยัง?”

ปันจื่อหรือชื่อจริงปันหลงคืออดีตมือขวาของจ้าวหมิง ตอนนี้เมื่อรวมทีม เขาจึงกลายเป็นลูกน้องของฮังอวี่

เขาเอ่ยว่า “ท่านประธานโปรดวางใจ ผมอยู่ใกล้ๆสนามรบตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่อัดวิดีโอเอาไว้ เพราะงั้นไม่มีทางพลาดแม้แต่ช็อตเดียว ว่าแต่เราจะเอาวิดีโอพวกนี้ไปเพื่ออะไร?”

จ้าวหมิงกล่าว “การโฆษณาเพื่อสร้างแรงผลักดันมีความสำคัญมากสำหรับเรา หลังจากปล่อยมันออกไป วิดีโอพวกนี้จะช่วยเราได้มาก … นายส่งวิดีโอที่ได้มาให้ฉัน ฉันจะหาคนตัดต่อแล้วอัปโหลดลงเน็ต”

ปันหลงพยักหน้า “รับทราบ”

ฮังอวี่พึ่งมารู้ก็ตอนนี้

ว่าในตอนที่เขาสู้ตัวต่อตัวกับโอนุ

มีหลายคนถ่ายวิดีโอเขาไว้

จ้าวหมิงรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรได้รับการเผยแพร่ นี่ไม่ใช่แค่ช่วยส่งเสริมความนิยมของทีมและชื่อเสียงของฮังอวี่ให้ดียิ่งขึ้น แต่ข้อมูลนี้ยังเป็นประโยชน์แก่ผู้ชม เป็นข้อมูลล้ำค่าเกี่ยวกับการท้าทายโลกวิญญาณ

ไม่ว่าจะภาครัฐและเอกชน

วิดีโอนี้สามารถช่วยพวกเขาได้อย่างมหาศาล

….

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

ในมหาวิทยาลัยหางโจว

ซุนเจาหุยพึ่งกลับมาถึงหอพักหลังจากเสร็จประชุม

เขาคือนักศึกษาปีสี่ของมหาวิทยาลัยหางโจว เดิมเป็นคนยากจนในชนบท แต่ด้วยจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นตั้งใจเรียนอย่างอดทน ทำให้แม้ช่วงมัธยมเขาเรียนในโรงเรียนธรรมดาอันห่างไกล แต่ก็สอบติดมหาลัยดังได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภมูิมีภูมิหลังเป็นคนชนบท บวกกับสถานะครอบครัวที่ยากจน เขาจึงไม่ค่อยมีหน้ามีตาในมหาวิทยาลัย

เขารู้สึกไม่สบายใจกับการเว้นระยะห่างไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของเพื่อนร่วมคลาส และสายตาแปลกๆยามที่คนอื่นๆมองมา

กระทั่งต่อหน้าสาวที่ตัวเองแอบชอบมาสองปีก็ยังไม่กล้าไปสารภาพรักกับเธอ

เอาจริงๆไม่กล้าเข้าไปพูดกับเธอแม้เพียงครึ่งคำ

จนในที่สุด เธอก็ถูกรุ่นพี่ที่ขับ BMW คาบไป

ซุนเจาหุยเคยคิดว่าตราบใดที่เขาพยายามอย่างหนัก เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองได้

แต่ต่อมา เมื่อวันเวลาผ่านไป เขาก็ตระหนักได้อย่างลึกซึ้ง  ว่าความพยายามนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คนจำนวนมากก็กำลังพยายามไม่ต่างจากเขาเช่นกัน และมีหลายคนที่เก่งกว่าเขาอย่างชัดเจน

หลังจากได้เรียนรู้ถึงความจริงอันโหดร้ายนี้

ซุนเจาหุยเคยตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าไปชั่วขณะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกวิญญาณได้มาเยือน ทุกสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้เขาคือประธานสโมสรนักผจญภัยโลกวิญญาณแห่งมหาวิทยาลัยหางโจว เป็นนักรบเลเวล 8 ที่เก่งที่สุดในบรรดาอาจารย์และนักศึกษา ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณที่เขาเอาชนะความกลัว เอาชนะความเจ็บปวด กัดฟันสู้จนค้นพบทางสว่างและคว้ามันมาได้

ปัจจุบันยังมีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ยังติดอยู่ในเลเวล 2 3

มีคนอีกเยอะที่ยังหาค่ายเล็กๆไม่เจอด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ซุนเจาหุยได้เปลี่ยนจากคนจืดจางแทบไม่มีใครเห็น กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในมหาวิทยาลัย  ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และโอกาสครั้งใหญ่ที่มนุษย์ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน!

ตอนนี้ฉันทำได้ดีมากแล้ว!

แต่ก็ต้องสู้ต่อไป!

เขาอยากทำให้ดีที่สุด

อยากจะรู้ว่าตัวเองสามารถปีนป่ายไปได้สูงแค่ไหน

ซุนเจาหุยเปิดมือถือของเขา เดิมคิดว่าจะเข้าไปอ่านกระทู้ล่าสุดของสมาคมโลกวิญญาณเพื่อหาข้อมูล แต่กลับสะดุดตาด้วยโพสต์ใหญ่ตัวหนาๆ

ชื่อกระทู้ : 《ศึกแห่งศักดิ์ศรี ! ผู้นำโลกวิญญาณ VS มนุษย์จิ้งจอก! 》

หือ?

นี่มันวิดีโอของบอสฮังไม่ใช่หรอ?

ในโลกวิญญาณ คนที่ซุนเจาหุยชื่นชอบและเลื่อมใสมากที่สุดคือบอสในตำนานคนนี้!

เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้นำที่สามารถพาทีมออกจากป่าแห่งการเริ่มต้นได้เร็วที่สุดคือบอสฮัง แต่ซุนเจาหุยกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนผู้นี้เลย ได้ข้อมูลมาแค่ว่าพี่ชายคนที่เป็นผู้นำคนนี้มีนามสกุลว่าฮันหรือฮัง เรื่องราวของเขาได้ถูกบันทึกวิดีโอเอาไ้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกัน

เนื้อหาของวิดีโอก็ไม่ใช่ใดอื่น

เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในฐานที่มั่นในถ้ำเมื่อไม่นานมานี้

วิดีโอเริ่มต้นในตอนที่การซุ่มโจมตีของสำนักกระบี่วิญญาณล้มเหลว ทุกคนถูกบังคับให้ถอยร่นมายังตำแหน่งป้องกันสุดท้าย โดยด้านล่างของวิดีโอมีเครื่องหมายลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้อย่างแม่นยำ

ซุนเจาหุยคือผู้ที่มีพลังรบเป็นอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยหางโจว

แต่หากเข้าไปอยู่กับคนในวิดีโอ มากสุดคงอยู่แค่ระดับกลางๆ

อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมือเหล่านี้ เมื่ออยู่ต่อหน้ามนุษย์จิ้งจอก พวกเขาล้วนไร้กำลังจะตอบโต้่

พลรบที่พ่ายแพ้ของสำนักกระบี่วิญญาณถูกบังคับให้เข้าสู่ตำแหน่งป้องกันสุดท้าย มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงที่มีสติปัญญานำกองทัพสมุนกว่า 300 ตัวมาปิดทางเข้าออกเอาไว้

สถานการณ์ตกอยู่ในภาวะตึงเครียด

ฉากนี้ทำให้หัวใจแทบวาย!

ความดุร้าย ไหวพริบ และความแข็งแกร่งของมนุษย์จิ้งจอกช่างน่าหวาดกลัว!

ระดับของศัตรูแตกต่างจากในป่าแห่งการเริ่มต้นอย่างสิ้นเชิง!

นี่น่ะหรือคือพลังที่แท้จริงของชาวโลกวิญญาณ? ชนชั้นยอดรวมไปถึงหัวกะทิมากมายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างโดนบดขยี้!

แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อไป?

การต่อสู้ในครั้งนี้จะจบลงเช่นไร?

ซุนเจาหุยได้เห็นการรับมืออย่างชาญฉลาด

อันดับแรก ฉูเทียนหัวใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลา ยั่วยุมนุษย์จิ้งจอกให้เข้ามาประลองตัวต่อตัวกับมนุษย์ โดยมีจุดประสงค์คือยื้อเวลารอให้บอสฮังนำคนเข้ามาสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม ฉากโศกนาฏกรรมได้ปรากฏขึ้น!

ขุมกำลังชั้นยอดของมนุษย์ก้าวออกไปทีละคน แต่สุดท้ายพวกเขาต่างพ่ายแพ้

ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียวที่สามารถเป็นคู่มือของมนุษย์จิ้งจอก!

ยังไงก็ตาม พวกเขาไม่หวั่นกลัว! ทุกคนตัดสินก้าวออกไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ แม้รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายเหนือกว่า แต่ทั้งหมดก็เพื่อถ่วงเวลา!

เมื่อซุนเจาหุยเห็นมนุษญ์ถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้ามนุษย์จิ้งจอกที่น่าเกลียดน่าชัง มือและเท้าถูกตัดขาด โดนทรมานอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ

ตอนนี้มันไม่เกี่ยวว่าจะแพ้หรือชนะแล้ว

นี่มันเกี่ยวกับกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มากกว่า!

จะมีอะไรน่าโมโหไปกว่าการได้เห็นสหายร่วมเผ่าพันธุ์ถูกพวกต่างเผ่าทำร้ายอย่างไร้ความปราณีแต่ไม่สามารถทำอะไรได้?

ซุนเจาหุยร่ำร้องในใจ “บอสฮังอยู่ที่ไหน! ทำไมเขาถึงยังไม่มาอีก! รีบออกมาจัดการพวกมนุษย์จิ้งจอกบ้าๆนี่ที!”

ในที่สุด

หลังผ่านพ้นการทรมานมนุษย์อย่างโหดร้ายหลายคนติดต่อกัน

บอสฮังก็ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อพอดิบพอดี

เขาหยุดการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ และเอ่ยท้าทายผู้นำมนุษย์จิ้งจอกที่ทรงพลังที่สุดโดยตรง!

ซุนเจาหุยเห็นภาพนี้

เขาอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเย็นเยียบ

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงธรรมดาก็แข็งแกร่งถึงขนาดนี้แล้ว

แต่บอสฮังกลับเอ่ยขอท้าประลองกับผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดามนุษย์จิ้งจอกระดับสูง!

ผู้นำมนุษย์จิ้งจอกยอมรับคำท้า ไม่ช้าก็เข้าเผชิญหน้ากับบอสฮัง การต่อสู้อันดุเดือดและรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ระหว่างการต่อสู้ เสียงดนตรีเร้าอารมณ์ถูกเพิ่มเข้าไป ทำให้ผู้คนที่กำลังรับชมเลือดลมเดือดพล่าน!

แข็งแกร่ง!

ทรงพลัง!

สมควรแล้วที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้นำโลกวิญญาณ!

อันที่จริงแล้ว ในการต่อสู้ ฮังอวี่ด้อยกว่าโอนุเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม วิดีโอได้รับการตัดต่ออย่างรอบคอบ ทางหนึ่งจ้าวหมิงต้องการซ่อนความสามารถบางอย่างของฮังอวี่ ทางหนึ่งเขาต้องการเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งของฮังอวี่ ดังนั้นที่ทุกคนได้เห็นก็คือฉากที่ฮังอวี่กำลังกดดันโอนุอย่างเมามัน

มนุษย์ถูกมนุษย์จิ้งจอกทารุณมาหลายครั้งหลายครา

แต่จู่ๆทุกอย่างกลับตาลปัตร

ทุกการเคลื่อนไหวช่างยอดเยี่ยม!

ทุกการโจมตีชวนให้เลือดของผู้ชมเดือดพล่าน!

ในวิดีโอ ดูเหมือนในที่สุดผู้นำมนุษย์จิ้งจอกจะพ่ายแพ้ ดังนั้นออกคำสั่งให้กองทัพ มนุษย์จิ้งจอกบุกโจมตีด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตาม ขณะที่ฝูงมนุษย์จิ้งจอกวิ่งเข้ามา

ภาพอันน่าตกตะลึงพลันบังเกิดขึ้น!

บอสฮังปลดปล่อยกระบวนท่าคลื่นกระแทกระลอกใหญ่!

ภายใต้คลื่นพลังงานอันน่าสะพรึงกลัว ผู้นำมนุษย์จิ้งจอกถูกฆ่าตายในวินาทีเดียว!

นอกจากนี้ มนุษย์จิ้งจอกอีกหลายสิบตัวก็ถูกสังหารในวินาทีเดียวเช่นกัน อีกทั้งยังมี มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงหลายตัวได้รับบาดเจ็บ

ภาพนี้ชวนให้เลือดลมเดือดพล่านยิ่งกว่าเดิม!

เสียงดนตรีเร้าอารมณ์ยิ่งทำให้หัวใจของผู้ฟังเต้นรัวมากขึ้น!

ถึงจุดนี้ มนุษย์ที่เดิมถูกกดขี่ข่มเหงในถ้ำในที่สุดก็ระเบิดพลังออกมา

ภายใต้การนำของบอสฮัง พวกเขาบุกเข้าปะทะกองทัพมนุษย์จิ้งจอกที่กำลังวุ่นวาย ทุกคนร่วมมือกันโดยไม่คำนึงถึงเพศ อายุ สีผิว หรือสัญชาติ

มนุษย์ละทิ้งสถานะ หรือแนวความคิดเดิมๆทั้งหมดในโลกมนุษย์ไป!

เวลานี้พวกเขาคือหนึ่งเดียวกัน!

ภายใต้การนำของบอสฮัง มนุษย์ต่อสู้เคียงข้างกันและกัน รับมือกับศัตรูอย่างกล้าหาญ!

นี่คือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด!

ยิ่งไปกว่านั้น มันคือศึกแห่งศักดิ์ศรี!

หลังจากซุนเจาหุยดูวิดีโอจนจบ ดวงตาเขาชื้นไปด้วยน้ำใสๆ ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา เปลวไฟในใจถูกจุดติดอย่างสมบูรณ์

ตอนท้ายของวิดีโอมีคำบรรยายแบบเลื่อนขึ้น

เนื้อหาก็คือ : เนื่องจากบอสฮังมาถึงทันเวลา และด้วยความเป็นผู้นำของเขา ฐานที่มั่นของมนุษย์อันแสนล้ำค่าในโลกวิญญาณจึงยังสามารถรักษาเอาไว้และได้รับชัยชนะครั้งใหญ่จากการรุกรานของมนุษย์จิ้งจอก ต่อจากนี้ไป บอสฮังจะเป็นผู้นำทุกคนบุกโจมตีรังของมนุษย์จิ้งจอกอีกครั้งในเวลาประมาณเที่ยงคืนวันนี้ ทุกท่านโปรดติดตาม!

ตามข้อมูลที่บอกไว้ เมืองหุบเขาเดียวดายถูกครอบครองโดยมนุษย์จิ้งจอก มีกองกำลังย่อยมนุษย์จิ้งจอกมากกว่าการบุกโจมตีครั้งนี้ และมีมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงเฝ้าฐานมากกว่าเช่นกัน

มันจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดแน่ๆ!

นี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งประวัติศาสตร์!

สิ่งที่ซุนเจาหุยคิดอยู่ในหัวตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียว นั่นคืออยากเข้าสู่โลกวิญญาณ  รีบออกจากป่าแห่งการเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด!

เขาต้องการเดินตามรอยบอสฮัง ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับผู้คนในวิดีโอ!