3/3

Ep.312 – ถ้ำถูกโจมตี

ข่าวด่วน!

ข่าวด่วน!

กองทัพมนุษย์จิ้งจอกกำลังเคลื่อนพลเข้ามายังฐานที่มั่นในถ้ำ!

จำนวนกองทัพมนุษย์จิ้งจอกคาดว่ามีถึงหลักหลายร้อยตัว และพวกมันกำลังจะมาถึงปากถ้ำในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

“บ้าจริง! ได้ยังไงกัน ทำไมพวกมนุษย์จิ้งจอกถึงมาเคาะประตูถึงหน้าบ้านเร็วกว่าที่คาดไว้?” ฮังอวี่ติดต่อหาฉูเทียนหัวในโลกวิญญาณ “ไม่ใช่ว่าผมบอกแล้วหรอ ว่าทุกครั้งที่ออกไปให้ใช้โพชั่นซ่อนเร้นเพื่อกำจัดกลิ่นอาย”

ฉูเทียนหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ไม่นานมานี้มีคนใหม่ทยอยกันเข้ามามากเกินไป พวกเราไม่สามารถดูแลทั่วถึง สุดท้ายเลยถูกเปิดเผยจนได้”

ฮังอวี่เอ่ยถาม “ตอนนี้ทางนั้นสามารถรวบรวมคนได้เท่าไหร่?”

“ฝ่ายเรามีคนอยู่ประมาณ 112 คน” ฉูเทียนหัวหยุดพักหนึ่งก่อนเอ่ยต่อว่า “ยังไงก็ตาม เนื่องจากนาย จ้าวหมิง เจียงหนาน และชนชั้นยอดคนอื่นๆไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะงั้นฉันคิดว่าพวกเราอาจต้านพวกมันไม่ไหว”

ฮังอวี่ไม่สามารถเข้าสู่โลกวิญญาณได้แล้วในวันนี้

จ้าวหมิง เจียงหนาน และเสี่ยวเฉียงก็พึ่งออฟไลน์ไปเมื่อไม่นาน

ทั้งทีมในตอนนี้จึงมีแค่รองหัวหน้าฉูเพียงคนเดียว ที่เหลือก็เป็นชนชั้นยอดเลเวล 8 อีกไม่กี่คน สมาชิกส่วนใหญ่ยังอยู่ในเลเวล 6 7

แม้ฉูเทียนหัวจะใกล้อัพเลเวล 10

แม้พลังรบ อุปกรณ์และสกิลของเขาจะทรงพลังมาก

กระนั้น

อาศัยเพียงเขาคนเดียว เกรงว่าจะไม่สามารถยื้อสถานการณ์ได้

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูง พวกมันมีพลังรบอย่างน้อยระดับเจ้าถิ่นเลเวล 10 !

มนุษย์จิ้งจอกระดับต่ำตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นยอดเลเวล 10 เมื่อเทียบกับพลังรบฝั่งมนุษย์แล้ว หากเผชิญหน้ากัน ฝ่ายหลังต้องตายแน่นอน!

ฮังอวี่รีบถาม “แล้วคนจากสำนักกระบี่วิญญาณล่ะ?”

ฉูเทียนหัวตอบ “มีคนจากสำนักกระบี่วิญญาณมากกว่าพวกเราเล็กน้อย ลุค คริส ไดอาน่า ทั้งสามคนและชนชั้นยอดจากนิวยอร์กส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกหลักจากทีมอื่นๆอยู่ด้วย”

ฮังอวี่ถอนหายใจโล่งอก อาจเป็นเพราะช่วงเวลาแตกต่างกัน ตอนนี้จึงเป็นช่วงพีคที่ชาวนิวยอร์กออนไลน์ ดังนั้นกำลังหลักของสำนักกระบี่วิญญาณจึงอยู่ที่นั่น

ได้แต่หวังว่าสำนักกระบี่วิญญาณจะแกร่งพอ!

“พวกมนุษย์จิ้งจอกเป็นพวกเจ้าเล่ห์ ครั้งนี้ที่พวกมันตัดสินใจโจมตีก่อน แสดงว่าต้องเตรียมตัวมาอย่างดี อย่าประมาทเด็ดขาด … ผมแนะนำให้พวกคุณใช้ถ้ำเป็นฐานที่มั่นในการป้องกัน” ฮังอวี่กล่าว “สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือปกป้องถ้ำ ต้องมั่นใจว่าจะยื้อต่อไปให้ได้ประมาณ 4 5 ชั่วโมง รอจนถึงเวลารีเฟรชประตูสู่โลกวิญญาณ”

เสียงขรึมของฉูเทียนหัวดังตอบกลับมา “น้อมรับคำสั่ง! พวกเราจะปกป้องที่นี่อย่างเต็มความสามารถ!”

ฮังอวี่วางสายด้วยสีหน้าหดหู่

โชคไม่ดีจริงๆ หวังว่าเหล่าฉูและคนอื่นๆจะทนไหว!

หากถ้ำถูกยึด พวกเขาจะสูญเสียฐานที่มั่นแห่งเดียวไป ถึงเวลานั้นทีมจะแตกสลาย และหลังฟื้นคืนชีพจากความตาย พวกเขาจะถูกสุ่มเกิดทั่วอาณาจักรมังกรโลกา หลังจากนั้นคงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าแต่ละคนจะถูกส่งไปยังซอกมุมใด

และหากถูกชัดจังหวะระหว่างกระบวนการฟื้นคืนชีพ วิญญาณอาจได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีโอกาสถึงขั้นเสียชีวิตในโลกวิญญาณ … ดังนั้นฐานที่มั่นในถ้ำไม่อาจถูกยึดอย่างเด็ดขาด!

ฮังอวี่คิดถึงเรื่องนี้

เขาโทรหาจ้าวหมิงในเซินเจิ้นและเจียงหนานในหยานจิง

บอกให้ทั้งคู่เตรียมตัวล่วงหน้า และพยายามเข้าสู่โลกวิญญาณโดยเร็วที่สุด

ณ อาณาจักรมังกรโลกา

แคว้นเดียวดาย

กองทัพมนุษย์จิ้งจอกได้บุกมาถึงบริเวณหน้าปากถ้ำแล้ว

ครั้งนี้มีมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงมาถึง 6 ตัว และนั่นรวมไปถึงเย่กู่ เย่โน่ที่ฮังอวี่สังหารไปก่อนหน้านี้ ดูเหมือนพวกมันจะฟื้นคืนชีพแล้ว

มนุษย์จิ้งจอกในชุดเกราะ มือถือหอก ขี่หมาป่าหายนะก้าวออกมาข้างหน้า กลิ่นอายของมันทรงพลังมาก สมควรเป็นผู้นำของกองทัพนี้

ชื่อของมันคือโอนุ

เป็นรองขุนนางแห่งเมืองหุบเขาเดียวดาย

อุปกรณ์สวมใส่มีคุณภาพสีเขียวทั้งตัว

พลังรบของมันได้มาถึงระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์เลเวล 10 แล้ว

หรือก็คือมีพลังรบสูงกว่าเย่กูและเย่โน่หนึ่งระดับ

โอนุสูดดมกลิ่น ใบหน้าน่าเกลียดที่ดูสยดสยองของมันแสดงออกถึงความไม่พอใจ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เย่โน่ เย่กู่ พวกเจ้าบอกว่าชาวต่างถิ่นที่นี่น่าจะมีไม่ถึงหลักร้อย แต่จากกลิ่นอายที่เล็ดลอดออกมาจากหุบเขา พวกมันมีมากกว่าร้อยแน่ๆ!”

เย่กู่ เย่โน่ดูเหมือนจะกลัวโอนุมาก

โอนุไม่เพียงแก่กว่าพวกมัน แต่พลังรบยังสูงกว่า เย่กู่ เย่โน่ไม่อาจเทียบได้ บวกกับเรื่องที่ทั้งคู่ตายเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้สูญเสียอุปกรณ์และวัสดุบางส่วนไป ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเมืองหุบเขาเดียวดาย

“บาง … บางทีพวกเราอาจนับพลาดไป”

เย่โน่ฝืนกัดฟันกล่าว

โอนุตวาดขุ่นเคือง “พวกเจ้าคือความอัปยศของมนุษย์จิ้งจอก! ”

ในเวลานี้ มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงที่ถือขวานสองคมก้าวออกมา “โอนุ เอาไว้เดี๋ยวค่อยให้โอกาสขยะทั้งสองแก้ตัว ปล่อยให้พวกมันกวาดล้างชาวต่างถิ่นที่ปรากฏตัวขึ้น!”

มนุษย์จิ้งจอกอีกตัวที่ถือกระบองและโล่เอ่ยขึ้นเช่นกัน “ถูกแล้ว แม้จำนวนจะมากกว่าที่คาดไว้ แต่จากกลิ่นอายที่เล็ดลอดออกมา พวกมันดูอ่อนแอมาก … ของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องถึงมือท่านรองผู้นำ!”

“ถูกต้อง”

“ข้าคิดว่าไม่ต้องถึงมือท่านรอง ให้พวกเราจัดการก็พอ!”

“ฆ่า! ฆ่าพวกต่างถิ่นให้หมด ทำลายฐานที่มั่นของพวกมัน เมืองหุบเขาเดียวดายเป็นของ มนุษย์จิ้งจอก ไม่อนุญาตให้ชาวต่างถิ่นเข้ามายุ่งเกี่ยว!”

มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทุกตนเผยจิตสังหาร

ดั่งคำกล่าวที่ว่าเสือสองตัวไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกัน ดังนั้นเผ่าพันธุ์ในโลกวิญญาณจะไม่ยอมให้ขุมกำลังหรือเผ่าพันธุ์อื่นเข้ามาก้าวก่ายอาณาเขตของตน

เมื่อพบตัวแล้ว

มีแต่ต้องกำจัดทิ้ง!

ไม่มีที่ว่างให้เจรจา!

ในเวลาเดียวกัน

ภายในถ้ำ

หน่วยสอดแนมที่มีสกิลตรวจสอบกลับเข้ามา

สิ่งที่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้คือมี มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงหกตัว และพลรบสายพันธุ์รองมากกว่า 300 ตัว พลังรบและความสามารถเฉพาะตัวของพวกมันยังไม่ชัดเจน แต่ดูแล้วไม่อ่อนแอ เกรงว่าคงยากหากคิดต่อกร

ฉูเทียนหัวจัดประชุมระดับผู้นำจากทีมต่างๆ “มนุษย์จิ้งจอกเป็นสายพันธุ์เจ้าเล่ห์ พวกมันมีไหวพริบ ดังนั้นไม่แนะนำให้ลอบโจมตี อีกอย่างฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง พวกเราในตอนนี้เผชิญหน้าตรงๆไม่ไหว ดังนั้นต้องไม่ออกจากถ้ำ .. ขอแนะนำให้ปักหลักอยู่ข้างใน ขวางทางเข้าเอาไว้ ใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศถ่วงเวลา รอให้ฮังอวี่และคนอื่นๆเข้ามา ”

สรุปคือถ้ามุดหัวอยู่ในถ้ำ พวกเขาจะยังรอดต่อไปได้

แต่เมื่อฉูเทียนหัวกล่าวแบบนี้

ผู้คนฝั่งสำนักกระบี่วิญญาณก็เริ่มเกิดความไม่พอใจขึ้นมา

เพราะนี่ไม่เท่ากับว่าพวกเขาด้อยกว่าฮังอวี่หรอกหรือ!

ทำไมพวกเขาต้องฝากความหวังไว้กับกลุ่มคนของฮังอวี่ด้วย?

สำนักกระบี่วิญญาณแห่งนิวยอร์กเต็มไปด้วยยอดฝีมือ แต่ละคนล้วนมีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นยอดในสิบอันดับแรก ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ขยับมาถึงเลเวล 9 กันแล้ว และมีอุปกรณ์สีเขียวสวมใส่อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง และสืบทอดมรดกชั้น 1 มากกว่า 2 อาชีพ

นอกจากนี้ พวกเขายังมีคัมภีร์สกิล โพชั่นเฉพาะ โพชั่นมนตรา และไพ่ในมืออีกหลายใบ

มองยังไงก็มีพลังรบมากกว่าขุมกำลังที่กระจัดกระจายของฮังอวี่

ชายหัวลานลุคไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของฉูเทียนหัว “ฉู ฉันเข้าใจว่าพวกเราห้ามใจร้อน แต่พวกเราไม่อาจทำตัวหดหัวได้ พวกเราเองก็มีศักยภาพ ไม่จำเป็นต้องฝากความหวังไว้กับกำลังเสริม”

ฉูเทียนหัวขมวดคิ้วและกล่าวว่า “พวกคุณยังไม่เคยสู้กับมนุษย์จิ้งจอก ยังไม่รู้พลังรบของพวกมัน มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงพวกนี้มีพลังรบอย่างน้อยเจ้าถิ่นเลเวล 10 พวกเราต้องรอให้ฮังอวี่และคนอื่นๆเข้ามาจัดการกับพวกมัน!  ”

ลุคหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันยอมรับว่าฮังมีความสามารถ แต่พวกคุณไม่ควรดูถูกสำนักกระบี่วิญญาณแห่งนิวยอร์ก!”

ชาชราคริสช่วยกล่าวเสริม “สภาพแวดล้อมในถ้ำมีความซับซ้อนมาก ตราบใดที่พวกเราวางกับดักและซุ่มโจมตีในถ้ำ เราสามารถใช้ภูมิประเทศถ้ำเพื่อตอบโต้และสะกดพวกมนุษย์จิ้งจอกได้ ไม่จำเป็นต้องรอรวมกำลังทั้งหมด พวกเราก็สามารถขับไล่ศัตรูให้จากไป”

ไดอาน่าพยักหน้าเห็นด้วย “ถึงพลังรบของฮังจะแข็งแกร่ง แต่การเอาแต่รอเขามันเสียเวลาเกินไป แทนที่จะฝากความหวังไว้ที่ฮัง พวกเรามาสู้กับมนุษย์จิ้งจอกด้วยตัวเองดีกว่า ”

ลุคยืนขึ้นโดยไม่รอให้ฉูเทียนหัวโต้เถียง “พวกเราจะดำเนินการทันที ติดตั้งกับดักและซุ่มโจมตีในพื้นที่ต่างๆของถ้ำ ใครอยากไปกับพวกเราก็ตามมา ถ้ามีอุปกรณ์หรือหินคริสตัลดรอป สำนักกระบี่วิญญาณยินดีมอบให้กับทุกคน!”

“ฉันจะไป!”

“ฉันก็จะไปด้วย!”

หลายคนยินดีติดตาม

เหล่าคนจากสำนักกระบี่วิญญาณย่อมไปแน่นอน

มีกระทั่งทีมจากจีน และทีมยุโรปบางคนยังรู้สึกว่าเป็นการดีกว่าหากติดตามลุค

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะในความเห็นของพวกเขา ข้อเสนอของฉูเทียนหัวนั้นค่อนข้างเหมือนคนกลัวหัวหด พวกเขาไม่คิดว่าต่อให้มีกลุ่มของฮังอวี่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก แทนที่จะใช้การป้องกันแบบตั้งรับ สู้ใช้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนภายในถ้ำซุ่มโจมตีดีกว่า

ฉินมู่กระซิบถาม “พวกเราจะเอายังไง?”

ฉูเทียนหัวขมวดคิ้วและพูดว่า “พวกเราจะอยู่ที่นี่ รอคอยการสนับสนุน”