1/2

 

Ep.283 – รางวัลลับ

 

บารุตอาจไม่ใช่หนึ่งในสามแม่ทัพมังกรที่ต่อสู้ได้ดีที่สุดของมังกรคลั่งเฮสการ์

 

เช่นนั้นแล้วทำไมเขาถึงกลายเป็นหนึ่งในสามแม่ทัพใหญ่ได้?

 

นั่นเพราะเขามีมรดกแห่งสงครามที่ไม่ต่ำกว่าขั้น 3!

 

มรดกแห่งสงครามคืออะไร? มันคือสกิลที่ไม่โดดเด่นในการต่อสู้เดี่ยว ทว่าเหมาะสำหรับการต่อสู้แบบกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มใหญ่ โดยทั่วไปแล้วสกิลประเภทนี้จะเป็นสกิลบัฟหมู่แก่พรรคพวกของตนเอง

 

ขณะนี้รัศมีแสงปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้ากองทหารมนุษย์มังกรนับพันโดยมีบารุตเป็นศูนย์กลาง

 

นี่คือ ‘ออร่าโจมตี’ เมื่อเปิดใช้งาน มันจะส่งผลครอบคลุมกองทัพทั้งหมด ซึ่งช่วยเพิ่มพลังโจมตีแก่ทหารในกองทัพ เสริมพลังรบแก่พวกเขา

 

มนุษย์มังกรเดิมเป็นชนชั้นสูงอยู่แล้ว

 

เมื่อได้บัฟนี้เข้าไป ก็ยิ่งกุมความได้เปรียบชัดเจน

 

หากไม่สามารถทำลายอีกฝ่ายได้ในเวลาที่กำหนด

 

เช่นนั้นชาวเผ่าเขาทมิฬคงพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

ภารกิจทดสอบน่าจะเป็นประมาณนี้ : เริ่มจากเลือกข้างไปจนถึงการกระทำที่จะส่งผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลว ผู้ทดสอบต้องมีไหวพริบและความเฉียบแหลม ตัดสินใจเลือกให้ถูกตามสถานการณ์ ต้องทำให้ตาชั่งในสงครามเอนเอียงมาทางตนให้จงได้

 

ผู้นำทั้งสองยังคงสู้กันอย่างดุเดือด

 

ไคโรเขาทมิฬกล้าหาญอย่างยิ่ง มือหนึ่งถือค้อนสงคราม มือหนึ่งถือขวานเล็ก พลังในการฟาดฟันแต่ละครั้งช่างทรงพลังอย่างน่าทึ่ง ผลพวงจากการปะทะกระเทือนไปถึงเหล่าทหารในบริเวณใกล้เคียง เหี้ยมหาญดุดันเป็นอย่างยิ่ง

 

แม่ทัพมังกรบารุตขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว ใต้ฝ่าเท้าของมันคล้ายมีพายุทอร์นาโดรองรับ สามารถยืนกลางอากาศและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยรวมแล้วพลังรบยังถือว่าเหนือกว่าไคโร

 

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน

 

พลรบตนอื่นไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าแทรกแซง

 

จะมีก็แต่นักธนูจากระยะไกลเท่านั้นที่โจมตีก่อกวนสองสามครั้งในบางจังหวะ

 

“เขาทมิฬไคโรแข็งแกร่งกว่าขุนศึกมังกรปฐพีในป้อมปราการหลายเท่า!” กองกำลังมนุษย์ที่อยู่ด้านหลังกองกำลังผสมของชนเผ่าเขาทมิฬเฝ้ามองทั้งสองต่อสู้กัน ฉูเทียนหัวกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน “ด้วยความสามารถในตอนนี้ของพวกเรา มันยากเกินไปถ้าคิดกำจัดระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์เลเวล 10!”

 

ต่อให้มีฮังอวี่ + เสี่ยวไป๋ + เจียงหนาน + จ้าวหมิง + ฉูเทียนหัว + เฉินหยู + ฉินมู่

 

ก็ยังเป็นเรื่องยากหากคิดเอาชนะการดำรงอยู่เช่นเขาทมิฬไคโร!

 

ยิ่งเป็นแม่ทัพมังกรพายุบารุตยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ไคโรกำลังเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด!

 

แน่นอน โลกจำลองมีการปรับสมดุล ทำให้บารุตเลเวลลดลงอยู่ที่ 10 ในระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์เท่านั้น เขาทมิฬไคโรเองก็เช่นกัน หากเป็นในสถานการณ์จริง ทั้งคู่ต้องมีพลังรบในระดับไม่ต่ำกว่าทรราชย์อย่างแน่นอน

 

ป่าแห่งการเริ่มต้นมีกฏเกณฑ์ข้อจำกัดด้านเลเวล

 

ต่อให้เป็นโลกจำลองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้

 

“พวกเราจะสู้ยังไงดี?”

 

“NPC ระดับสัตว์ประหลาดสองตัวกำลังสู้กัน”

 

“มองยังไงก็เข้าไปแทรกแซงไม่ได้!”

 

จ้าวหมิงเอ่ยขึ้นทันที “เสี่ยวเจียง เติมเลือดให้มิโนทอร์!”

 

เจียงหนานร่ายสกิลรักษาขั้น 2 ออกไป แต่เมื่อแสงตกกระทบร่างไคโร พลังชีวิตของเขากลับเพิ่มขึ้นแค่ 1 หน่วยเท่านั้น แทบไม่ส่งผลใดๆเลย

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ความสามารถในการรักษาของเสี่ยวเจียงทรงพลังมาก!”

 

“แล้วจะเพิ่มพลังชีวิตแค่ 1 หน่วยได้ยังไง?”

 

เห็นได้ชัดว่า แม่ทัพมังกรพายุบารุตสังเกตเห็นกลุ่มมนุษย์เหล่านี้

 

มันหัวเราะคลั่ง “มดปลวกแสนอ่อนแอจากที่ไหนกัน? ด้วยพลังอันน้อยนิดของพวกเจ้า คิดต่อกรกับข้าแม่ทัพมังกรพายุ ช่างไร้สาระ!”

 

ไคโรเขาทมิฬเหวี่ยงค้อนอย่างโกรธเคือง

 

คลื่นกระแทกปะทะแม่ทัพมังกร แต่บาดแผลที่พึ่งปรากฏขึ้นของมันกลับถูกรักษาหายทันทีด้วยพลังที่มองไม่เห็น อาการบาดเจ็บหายเป็นปกติในพริบตาราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

 

แม่ทัพมังกรพายุบารุตกล่าวต่อว่า “เปล่าประโยชน์ เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ สุดท้ายพวกเจ้าจะถูกกำจัดจนสิ้นซาก และโดนเนรเทศไปตลอดกาล! ไม่ว่าใครก็หลบหนีไม่พ้น!”

 

ไคโรตวาดขุ่นเคือง “หุบปากซะ!”

 

กองทัพมนุษย์ต่างงงงวย

 

พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?

 

ไฉนเวทย์รักษาถึงใช้ไม่ได้ผลกับไคโร?

 

และเหตุใดแม่ทัพมังกรพายุจึงฟื้นตัวได้ทันทีหลังจากบาดเจ็บ?

 

เดิมไคโรก็อ่อนแอกว่าแม่ทัพมังกรอยู่แล้ว เช่นนั้นแบบนี้เขาจะสู้ได้ยังไง!

 

เฉินหยู “ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราต้องแพ้แน่ ผู้บัญชาการฮัง นายต้องรีบคิดว่าวิธีอะไรซักอย่างแล้ว!”

 

ทุกคนจนปัญญา!

 

ในตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับฮังอวี่

 

ฮังอวี่ไม่ตอบคำใด เขากำลังเฝ้าตรวจสอบสนามรบอย่างใจเย็นด้วยเทคนิคตาเหยี่ยว

 

ศึกนี้ปะทุอย่างสมบูรณ์ จำนวนทหารที่เข้าร่วมสู้ก็มีมากกว่าหมื่นตน ฉากดังกล่าวตระการตามาก ต้องขอบอกว่าต่อให้เป็นสนามรบสมัยโบราณ แต่การที่มีคนสู้กันนับหมื่นในพื้นที่เดียว ยังเป็นอะไรที่อลังการยิ่ง ฉะนั้น สนามรบที่มีการสาดสกิลใส่กันเช่นเบื้องหน้านี้ ยิ่งเหนือจินตนาการเข้าไปใหญ่

 

ไม่ว่าจะสกิล

 

เทคนิคคาถาต่างๆ

 

ส่งผลให้สภาพแวดล้อมในสนามรบระเบิดตูมตามไม่ต่างไปกว่าการรบกันด้วยอาวุธร้อนที่มีอานุภาพร้ายแรง!

 

ฮังอวี่พบว่าปรากฏการณ์นี้น่าสนใจมาก ฉากสงครามดำเนินไปอย่างไหลลื่น

 

ตัวอย่างเช่นฉากไคโรสู้รบกับแม่ทัพมังกรพายุ หรือฉากสายพันธุ์ที่มีสติปัญญาจากค่ายทหารเขาทมิฬกับมนุษย์มังกรตนอื่นๆช่างสมจริง และพวกเขาเหล่านี้ไม่อ่อนแอ บางตนยังมีระดับถึงเจ้าถิ่น

 

สมกับที่เป็นเขตแดนลับ

 

ฉากต่อสู้มีการจัดตั้งโปรแกรมอย่างละเอียดเข้มงวด

 

“เจอแล้ว”

 

ฮังอวี่พบร่างๆหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางแนวรบระยะประชิด

 

มันวูบวาบและหายวับไปอย่างรวดเร็ว –เป็นสัตว์ร้ายมังกรสีน้ำเงิน!

 

รูปร่างของมันเป็นเช่นเดียวกับกิ้งก่าตัวใหญ่ มีตาและเขาข้างเดียว ดูฉลามแกมโกง มันคือสัตว์ขี่ของบารุต – มังกรปีศาจตาเดียว

 

ฮังอวี่เอ่ยเสียงต่ำ “ทุกคนอย่าตื่นตระหนก สัตว์ขี่ของแม่ทัพมังกรพายุมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เป็นมันที่ทำให้คาถารักษาระยะไกลอ่อนแอลง แถมยังมีความสามารถในการถ่ายโอนอาการบาดเจ็บในเวลาเดียวกัน”

 

“ฉันล็อคตำแหน่งของมันได้คร่าวๆแล้ว”

 

“หวังเอ๋อรับแยกร่างไปตามหามัน เสี่ยวไป๋ตามไปแล้วหาโอกาสควบคุมสกัดมันไว้”

 

หวังเอ๋อแยกร่างฮัสกี้ทันที พวกมันวิ่งไปข้างหน้าด้วยเสียงร้องคร่ำครวญของความกลัว ด้านเสี่ยวไป๋เธอเปลี่ยนร่างเป็นแฟรี่ตัวน้อย บินตามหลังไป

 

เวลานี้ คนอื่นๆค่อยๆเริ่มตั้งสติกันได้แล้ว

 

หากไม่ใช่เพราะการเตือนของฮังอวี่

 

จะมีใครบ้างที่สังเกตเห็นสัตว์วิญญาณตัวนี้?

 

ไม่นึกเลยว่าสัตว์วิญญาณตัวนี้คือกุญแจสำคัญในการกำจัดแม่ทัพมังกรพายุ!

 

ระหว่างที่กองทัพมนุษย์เร่งติดตามฮังอวี่ มีหลายคนโดนลูกหลงจากการโจมตีและสกิลต่างๆ

 

พลรบมนุษย์คนแล้วคนเล่าล้มลง ในระยะเวลาสั้นๆ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 10 คน!

 

การสังหารหรือถูกสังหารในการทดสอบจะไม่ได้รับหรือสูญเสียแต้มวิญญาณ นี่คือการทดสอบแบบทีม ตราบใดที่กองทัพมนุษย์เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว แล้วสามารถผ่านการทดสอบได้ ก็จะถือว่าทุกคนผ่าน

 

มังกรปีศาจตาเดียวฉลาดแกมโกงมาก มันมีไหวพริบและรู้จักพรางตัว

 

อีกทั้งการเคลื่อนไหวยังว่องไวทำให้ล็อคเป้าหมายได้ยาก

 

หมาฮัสกี้สองในสี่ร่างถูกสังเวยระหว่างการติดตามค้นหา

 

แต่สองตัวสุดท้ายสามารถล็อคเป้าหมายได้สำเร็จ หนึ่งในนั้นกัดเข้าที่หางของมังกรปีศาจตาเดียว ฮัสกี้ใช้กรงเล็บจิกลงบนเนื้อมังกรปีศาจตาเดียว ตะโกนเสียงดังว่า “ฮ่ง จับได้แล้ว เปิ่นหวังจับได้แล้ว รีบมาเร็วเข้า อ๊ากกก!”

 

มังกรปีศาจตาเดียวก็ไม่ง่ายเช่นกัน

 

ตัวมันเทียบได้กับระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์เลเวล 9

 

หางใหญ่ยกขึ้นและเหวี่ยงตบบนพื้น

 

คลื่นกระแทกส่งสองฮัสกี้ปลิวออกไป ร่างแยกหนึ่งในนั้นพลังชีวิตเหลือ 0 ตายในทันที

 

ร่างจริงหวังเอ๋อก็ได้รับดาเมจมหาศาลเช่นกัน แต่ยังไม่มากพอที่จะสังหารมัน สุนัขตัดสินใจเปลี่ยนร่างหมาป่าดำกลางอากาศ และกระโจนเข้าหามังกรปีศาจตาเดียว ใช้เขี้ยวขย้ำร่างมันไว้

 

“ฮ่ง รีบมาเร็ว เปิ่นหวังจะยื้อไว้ไม่ไหวแล้ว!”

 

ฮังเสี่ยวไป๋ปลดปล่อยฝุ่นลวงตา ขังมังกรปีศาจตาเดียวไว้ข้างใน

 

การปิดล้อมด้วยฝุ่นลวงตามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50 เมตร ตราบใดที่เข้าสู่รัศมีของสกิลขั้น 3 นี้ ประสาทสัมผัสก็จะสับสนตลอดเวลา การรับรู้ด้านทิศทางผิดพลาด ต่อให้เป็นมังกรปีศาจตาเดียว ก็ยากที่จะหลบหนี

 

“โอกาสดีมาถึงแล้ว!”

 

“ทุกคนไปฆ่ามัน!”

 

ฮังอวี่นำฝูงชนเข้าเข่นฆ่า

 

คนกลุ่มใหญ่รีบวิ่งเข้ามาแต่นั่นก็เป็นการดึงดูดพลรบมนุษย์มังกรเช่นกัน

 

เหล่าพลรบมนุษย์มังกรที่อยู่รอบๆได้ก้าวเข้ามาขัดขวาง โจมตีใส่ทุกคนอย่างดุเดือด

 

ซึ่งตามปกติแล้ว มนุษย์มังกรมีเลเวลและพลังรบสูงกว่ามนุษย์ ดังนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะต่อกร หากใช้เวลาสู้นาน กองทัพมนุษย์ทั้งหมดคงถูกกำจัด

 

“ทุกคนฟังทางนี้!”

 

“ปกป้องผู้นำฮัง!”

 

“ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต กลายเป็นศพกองพะเนิน พวกเราก็ต้องปกป้องเขาให้ได้!”

 

หัวหน้าค่ายทั้งสามออกคำสั่งแก่ลูกน้องของพวกเขาทันที

 

ฮังอวี่ค่อนข้างประหลาดใจกับเรื่องนี้ เขาไม่คาดหวังว่าทุกคนจะยอมทำเพื่อตนถึงขนาดนี้

 

“บอสฮัง!”

 

“พวกเราทุกคนเชื่อในตัวนาย!”

 

“ไปจัดการเจ้าสัตว์วิญญาณตัวนั้นซะ!”

 

จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และเฉินหยูนำคนมายืนรอบๆเป็นวงกลม ทางหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้มังกรปีศาจตาเดียวหลบหนี อีกทางหนึ่งเพื่อซื้อเวลา กันไม่ให้พลรบมนุษญ์มังกรเข้ามาก้าวก่าย ยอมเป็นกำแพงมนุษย์ ฝากความหวังทั้งหมดในการผ่านการทดสอบไว้กับฮังอวี่

 

ไม่นึกเลยว่าทุกคนจะเชื่อใจฉันถึงขนาดนี้!

 

แต่ในเมื่อไว้ใจกันขนาดนี้ แล้วฉันจะทำให้ทุกคนผิดหวังได้ยังไง!

 

พลรบมนุษย์คนหนึ่งต่อสู้จนลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขาตายและล้มลงแน่นิ่งกับพื้น

 

ฮังอวี่ฉวยโอกาสนี้ร่วมมือกับเสี่ยวไป๋ หวังเอ๋อ และราชินีมดยักษ์ ปิดล้อมปราบปราม มังกรปีศาจตาเดียว ถึงอย่างไรมังกรปีศาจตาเดียวเป็นแค่ระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์เลเวล 9 ทั้งยังไม่ใช่สายต่อสู้ประชิด สุดท้ายถูกหอกนายพลมังกรปฐพีสังหารลงในที่สุด

 

แต่กว่าจะถึงตอนนั้น

 

จากกองทัพมนุษย์นับร้อยคน

 

เวลานี้เหลือเพียง 60 !

 

สถานการณ์รบโหดร้ายเหนือจินตนาการ!

 

ในเวลานี้ เวทย์มนตร์และคาถาหลายสายโหมกระหน่ำเข้าใส่บารุต

 

บารุตได้รับบาดเจ็บและบาดแผลไม่หายไปเหมือนครั้งก่อนๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าความสามารถในการถ่ายโอนดาเมจของมังกรปีศาจตาเดียวได้หายไปแล้ว เจียงหนานใช้โอกาสนี้รักษาไคโรอย่างรวดเร็ว

 

เติมเลือด 50 – 60 หน่วยในคราเดียว!

 

บาดแผลบนร่างไคโรดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!

 

“ขอบคุณ!” มิโนทอร์เผยสีหน้าปิติยินดี “นักรบต่างเผ่าผู้กล้าหาญ ข้าต้องการให้พวกเจ้าร่วมมือสังการแม่ทัพของมังกรคลั่งด้วยกัน หลังจากเอาชนะชายผู้นี้ ข้ายินดีมอบรางวัลใหญ่เพื่อแสดงความจริงใจในนามเผ่าเขาทมิฬ”

 

มนุษย์ที่เหลือแสดงสีหน้ายินดีเช่นกัน

 

เป็นอย่างที่คิด วิธีการของฮังอวี่ถูกต้องจริงๆ!

 

ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าจะมีภารกิจพิเศษให้พวกเขาทำ

 

ไคโรได้ร้องขอและกล่าวว่าหากเอาชนะแม่ทัพมังกรพายุได้ เขาจะมอบรางวัลใหญ่แก่ทุกคน

 

การทดสอบของเขตแดนลับมีรางวัลระบุไว้ชัดเจน … แต่จากคำพูดของไคโร นี่หมายความว่ามันอาจเป็นรางวัลลับใช่หรือไม่?

 

บางที

 

เขตแดนลับที่ใช้ทดสอบอาจมีรางวัลลับซ่อนอยู่

 

เป็นภารกิจลับที่จะเปิดขึ้นก็ต่อเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตรงกับเงื่อนไข

 

ฮังอวี่ลงมือรวดเร็วและแม่นยำ สามารถกำจัดมังกรปีศาจตาเดียวลงได้

 

ดังนั้นภารกิจลับจึงเปิดแก่ทุกคน นับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่คาดไม่ถึง

 

บารุตขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง “พวกสัตว์เลื้อยคลานอ่อนแอ พวกเจ้าต้องชดใช้ที่บังอาจยั่วยุแม่ทัพมังกรพายุผู้นี้! ”