1/4

 

Ep.276 – ทันเวลาพอดี

 

ขุนศึกมังกรปฐพีแข็งแกร่งเกินไป!

 

ตอนนี้ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถจัดการกับมันได้เพียงลำพัง!

 

ต่อให้เป็นเสี่ยวไป๋ หากต้องรับมือกับมันเพียงลำพังก็เกรงว่าจะสู้ไม่ได้!

 

แม้ฮังอวี่จะเป็นยอดฝีมือระดับสูงในหมู่มวลมนุษย์ แต่เห็นได้ชัดว่ายังไม่อาจเอาชนะเจ้าหมอนี่ได้ แต่เนื่องจากฮังอวี่กล้านำทีมเข้าท้าทายขุนศึกมังกรปฐพี นั่นแสดงว่าเขามีแผนการในใจอยู่แล้ว

 

คนเดียวสู้ไม่ได้ก็จริง

 

แต่ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากเสี่ยวไป๋ ฮังอวี่มั่นใจว่ามีโอกาสชนะ 50%

 

ถ้าเพิ่มอัศวินอันเดธเลเวล 10 เข้ามาจะมีความมั่นใจ 70%

 

แล้วถ้ามีผู้รักษาหรือผู้สนับสนุนที่ทรงพลังซักสองสามคน เขามีความมั่นใจมากกว่า 80%

 

ขุนศึกมังกรปฐพีโดดเด่นในด้านค่าคุณสมบัติเป็นหลัก มันมีพละกำลัง ค่าร่างกายและพลังป้องกันที่สูงมาก แต่ในแง่ความแข็งแกร่งของสกิลและความว่องไว มันอยู่แค่ในระดับเดียวกันชนชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ ดังนั้น ตราบใดที่ร่วมมือกันดีๆ การกำจัดมันก็ไม่น่าใช่ปัญหา

 

แน่นอน

 

ที่กล่าวมาคือในกรณีที่รุมเฆี่ยนตีมันเพียงลำพัง

 

ตอนนี้ขุนศึกมังกรปฐพียังมีผู้รักษาและหน่วยสนับสนุนคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องบน

 

มังกรบินยังคงคอยก่อกวน มักช่วยลอบโจมตีในช่วงเวลาวิกฤต นักบวชมังกรทั้งสองคอยเติมเลือดแก่หัวหน้าของพวกมัน เช่นนี้ ขุนศึกมังกรปฐพียังมีอะไรให้ต้องหวั่นเกรงอีก!

 

ด้วยพลังรบของเสี่ยวไป๋ที่สามารถโจมตีระยะไกล ไม่น่ามีปัญหาในการสังหารนักบวชมังกรและมังกรบินพวกนี้ก็จริง แต่สิ่งที่น่าหวั่นก็คือ ฮังอวี่ต้องทนให้ได้จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฝืนรับการโจมตีของขุนศึกมังกรปฐพีอย่างต่อเนื่อง

 

แต่มากันถึงขนาดนี้แล้ว

 

ไม่มีทางเลือกอีกนอกจากยอมทน!

 

ฮังอวี่จะต้องรับมือกับมันและห้ามผิดพลาดใดๆ

 

ชีวิตก็เป็นนอย่างนี้ จงทำให้ดีที่สุด เชื่อในความมุมานะของตน ส่วนที่ยากที่สุดของสมรภูมินี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือการกำจัดขุนศึกมังกรปฐพี ตราบใดที่โค่นมันลงได้ ชัยชนะของศึกนี้ก็ไม่หนีไปไหน

 

จ้าวหมิงเข้าใจสถานการณ์แนวหลังอย่างชัดเจน

 

ดังนั้น ช่วงเวลาที่ขุนศึกมังกรปฐพีกระโดดลงมา

 

เขาตะโกนว่า “เสี่ยวเจียงไม่ต้องห่วงที่นี่ พวกเรายื้อไหว เธอไปช่วยฮังอวี่ เขาต้องการเธอมากกว่าพวกเรา!”

 

“รับทราบ!”

 

เจียงหนานเองก็คิดแบบเดียวกัน

 

ในช่วงเวลาที่พี่มหาเทพต้องการ

 

เธอจะไม่ไปอยู่เคียงข้างเขาได้อย่างไร?

 

นักศึกษาสาวรีบส่งต่อตำแหน่งคนสั่งการทีมรักษาให้คนที่อยุ่ข้างๆทันที ส่วนตัวเองถือขวานแห่งคำอธิษฐานในมือข้างหนึ่ง และถือโล่สีขาวในมืออีกข้าง วิ่งกลับไปหาฮังอวี่ด้วยสีหน้าตึงเครียด

 

แต่เมื่อเห็นฉากที่จางเสี่ยวเฉียงถูกสังหารตายในพริบตา ใบหน้าน้อยๆของเธอก็ซีดเผือดด้วยความกลัว

 

เสี่ยวเฉียงตายแล้ว!

 

BOSS ตัวนี้น่ากลัวจริงๆ!

 

จะมีคนที่สามารถต่อสู้กับมันแบบตัวต่อตัวได้จริงๆน่ะหรอ?

 

การต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!

 

ฮังอวี่กุมหอกประกายแสงและเข้าสู่สถานะจู่โจมมุมอับ เขาตรงเข้าหาร่างของขุนศึกมังกรปฐพี เคลื่อนไหวไปมาพร้อมทิ่มแทงหอก เผยทักษะการต่อสู้อันยอดเยี่ยม โจมตีขุนศึกมังกรปฐพีติดต่อกันหลายครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม

 

ฮังอวี่รู้สึกว่า

 

ทุกการโจมตีราวกับแทงลงบนแผ่นเหล็ก

 

พลังโจมตีของเขาไม่อ่อนแอ ทว่าสามารถสร้างดาเมจได้เพียงหลักเดียวเท่านั้น

 

ขุนศึกมังกรปฐพีวาดมือ หอกที่ขว้างออกไปสังหารเสี่ยวเฉียงพุ่งฉิวเป็นเส้นแสง ลอยกลับมายังมือเขาทันที ตัวหอกเหวี่ยงออกไปอย่างรวดเร็ว โจมตีในจุดที่ฮังอวี่แทงเข้ามา

 

เคร้ง!

 

สองหอกปะทะกัน

 

ฮังอวี่ถูกแรงปะทะตัวลอยออกถอยไปหลายเมตร

 

ในความรู้สึกเขา มันราวกับถูกช้างชน เลือดไหลย้อนผ่านลำคอขึ้นมา กระดูกซี่โครงร้าว ได้รับดาเมจกว่า 20 หน่วย

 

นี่เป็นเพียงการโจมตีปกของขุนศึกมังกรปฐพีเท่านั้น!

 

แม้ขุนศึกมังกรปฐพีจะไม่เก่งในด้านความเร็วในการเคลื่อนที่และความว่องไว แต่ในฐานะมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์ ความว่องไวของมันก็ยังเร็วกว่าฮังอวี่ อีกทั้งยังมีพลังป้องกันที่ทรงพลังมาก

 

ทั้งตนทั้งร่างเปี่ยมไปด้วยอำนาจ

 

การโจมตีปกติของฮังอวี่ไม่สามารถขยับร่างมันได้เลยแม้แต่น้อย

 

ขณะที่การโจมตีปกติของขุนศึกมังกรปฐพี สามารถขับไล่ฮังอวี่ กระแทกเขากระเด็นออกไปได้อย่างง่ายดาย

 

ขุนศึกมังกรปฐพีไล่ตามทันที ทิ่มแทงหอกด้วยความเร็วสูง

 

ระยะห่างระหว่างทั้งสองมากกว่าห้าเมตร แต่เมื่อแทงออกไป หอกสีทองก็พุ่งเข้ามาราวกับว่ามันยืดขยายได้ และไม่อาจหลบเลี่ยงในระยะทางสั้นๆเช่นนี้

 

คมหอกเจาะทะลุร่างเขา และถูกกระชากกลับไป

 

-61!

 

ตอนนี้ฮังอวี่เองก็อยู่ในสถานะบัฟเช่นกัน

 

ปัจจุบันเขามีพลังชีวิตสูงถึง 150 หน่วย

 

แต่สุดๆก็ยังสามารถทนต่อดาเมจจากสกิลได้แค่ 2 สกิลเท่านั้น

 

ช่วงเวลาที่ฮังอวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แสงแห่งการรักษาอันทรงพลังเข้าห่อหุ้มร่างกายเขาทันที ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย เติมพลังชีวิตที่พึ่งเสียไปกลับมาได้มากกว่าครึ่ง และตามด้วยสกิลรักษาบาดแผลขั้นต้น ฟื้นฟูอีกรอบกว่า 20 หน่วย

 

ผู้ที่ครอบครองสกิลรักษาที่ทรงพลังเช่นนี้

 

ไม่ต้องสงสัยเลย เป็นเจียงหนาน!

 

ในเมื่อมีเจียงหนานอยู่ใกล้ๆ การรับมือกับขุนศึกมังกรปฐพีในช่วงสั้นๆไม่น่าจะมีปัญหา

 

หวังแค่ว่าเสี่ยวไป๋จะรีบกำจัดตัวปัญหาบนฟ้าโดยเร็วไว

 

“รีบบัฟอาวุธให้ฉัน!”

 

เจียงหนานร่ายสกิลของหมอผีออกไปอย่างรวดเร็ว

 

อาวุธของฮังวี่ได้รับเอฟเฟกต์เพิ่มการโจมตีธาตุแสง เขาเปิดใช้งานสกิลคลุ้มคลั่งกระหายเลือด พลังโจมตีเพิ่มขึ้นอีกระดับ และสั่งให้อัศวินอันเดธถอยออกมาจากขุนศึกมังกรปฐพี

 

ปะทะเดือด!

 

-38!

 

ดาเมจที่เพิ่มจากสกิลคลุ้มคลั่งกระหายเลือดนั้นสูงมาก เมื่อรวมกับเอฟเฟกต์บัฟอันทรงพลังจากเจียงหนาน และบวกกับโบนัสจากสกิล จึงสามารถทำดาเมจได้สูงถึง 38 หน่วย กดดันขุนศึกมังกรปฐพีให้ถอยไปสองก้าวได้เป็นครั้งแรก

 

เมื่อเทียบกับค่าพลังชีวิตของขุนศึกมังกรปฐพี

 

ดาเมจเพียงเท่านี้อาจไม่นับเป็นสิ่งใดก็จริง

 

แต่เกรงว่าในบรรดายอดฝีมือของมนุษย์ น่ากลัวว่าคงมีเพียงไม่กี่คนในโลกที่สามารถทำดาเมจแก่ขุนศึกมังกรปฐพีได้สูงขนาดนี้ถูกไหม? ดังนั้นนี่คือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างแน่นอน!

 

ขณะที่ฮังอวี่ทุ่มสมาธิทั้งหมดรับมือกับขุนศึกมังกรปฐพีและได้รับความช่วยเหลือจากเจียงหนานกับอัศวินอันเดธ

 

ฮังเสี่ยวไป๋ยังคงต่อสู้ดุเดือดกับมังกรบินและสองนักบวช

 

ระหว่างนี้เธอกำลังประสบปัญหาที่น่ารำคาญ

 

นักบวชมังกรทั้งสองสลับกันร่ายเวทย์รักษาใส่กัน!

 

แม้สกิลของเสี่ยวไป๋จะสามารถโจมตีพวกมันได้

 

กระนั้น นักบวชมังกรทั้งสองไม่เพียงแต่เติมเลือดให้ตัวเองเท่านั้น แต่มันยังเติมเลือดให้กันและกันอีกด้วย

 

ดาเมจที่เสี่ยวไป๋สร้าง สุดท้ายก็จะถูกฟื้นฟูกลับในไม่ช้า เรื่องโค่นพวกมันไม่น่ากังวลก็จริง แต่เกรงว่าจะใช้เวลานาน และฮังอวี่ไม่น่าจะทนไหวเมื่อถึงตอนนั้น

 

ส่งผลให้เสี่ยวไป๋รู้สึกวิตกอย่างมาก

 

เธอเป็นผู้ใช้วิญญาณที่มีสกิลสายควบคุมหน่วงเหนี่ยวอันแก่กล้า

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสูญเสียพลังไปเยอะ สกิลขั้น 3 หลายสกิลก่อนหน้านี้จึงไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป รวมไปถึงหนึ่งในสกิลฝุ่นลวงตาที่มักใช้บ่อยที่สุดในการต่อสู้

 

นักบวชมังกรทั้งสองขี่มังกรบินเข้าสู้อีกครั้ง

 

เสี่ยวไป๋ปลดปล่อยกลุ่มใบมีดสายลมออกไป

 

ทำดาเมจจำนวนมากในคราเดียว

 

แต่ในตอนนั้นเอง

 

บนตัวนักบวชมังกรทั้งสองก็เริ่มสาดแสงเรืองรอง พวกมันเริ่มทำการรักษาตัวเองพร้อมกัน

 

แต่ในจังหวะนั้นเอง

 

หนึ่งในนักบวชมังกรที่ได้รับบาดเจ็บพลันสั่นสะท้าน

 

มันเข้าสู่สถานะมึนงงและได้รับดาเมจกว่า 40 หน่วย!

 

แส้พลังจิต!

 

มดยักษ์มีปีกตัวหนึ่งบินออกมาจากด้านหลังของเสี่ยวไป๋

 

ปรากกฏว่าเสี่ยวไป๋สั่งการให้ราชินีมดซุ่มโจมตี แม้สกิลควบคุมหน่วงเหนี่ยวที่เธอถนัดที่สุดจะไม่สามารถใช้งานได้ แต่สกิลแส้วิญญาณของราชินีมดหน้าคนก็ยังให้ผลดีเยี่ยม สกิลนี้สามารถขัดจังหวะ สร้างอาการมึนงงอย่างรุนแรง ไม่เพียงหยุดการรักษา แต่ยังทำให้ศัตรูกลายเป็นเป้านิ่ง

 

สายฟ้าฟาดลงบนร่างที่กำลังมึนงง

 

ตามไปติดๆด้วยลูกไฟ!

 

เสี่ยวไป๋ไม่พลาดโอกาสนี้ หากนักบวชมังกรสองตนเติมเลือดพร้อมๆกัน มันเป็นอะไรที่ยุ่งยากสำหรับเธอมาก ดังนั้นกำจัดตัวหนึ่งออกไป สังหารในสามสกิล

 

แส้พลังจิต!

 

ราชินีมดหน้าคนระเบิดสกิลอีกครั้ง

 

สกิลนี้มีผลทันที และไม่อาจหลีกเลี่ยง คราวนี้มันไม่ได้โจมตีใส่นักบวชมังกร แต่โจมตีใส่มังกรบิน เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้หนีรอดไปได้

 

เสี่ยวไป๋ชูมือขึ้น

 

ฝนศรน้ำแข็งโปรยปรายลงมา

 

นักบวชมังกรและมังกรบินได้รับบาดเจ็บสาหัสพร้อมกัน

 

อีกสองสามสกิลโถมเข้าโจมตี นักบวชมังกรตนที่สองถูกฆ่าตายในที่สุด!

 

หลังจากสูญเสียนักบวชมังกร มังกรบินที่เหลือก็ไม่อาจเผชิญหน้ากับเสี่ยวไป๋และราชินีมดยักษ์ได้อีก การต่อสู้ดำเนินไปประมาณ 3 นาที ในที่สุดมอนสเตอร์บนน่านฟ้าทั้งหมดก็ตายลง

 

เสี่ยวไป๋รีบดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังจิตระดับกลางอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อเธอมองลงมา ก็พบว่าอัศวินอันเดธถูกฆ่าตายแล้ว และฮังอวี่กับเจียงหนานกำลังโดนสกิลคลื่นมังกรปฐพีโจมตี

 

ฮังอวี่เสียเลือดไปมากกว่า 50%

 

เจียงหนานเสียเลือดไปมากกว่า 80% และเกือบถูกฆ่าตาย!

 

ฮังเสี่ยวไป๋รีบร่อนลงจากฟ้า ปลดปล่อยกลุ่มใบมีดสายลมเข้าใส่ขุนศึกมังกรปฐพี ขับไล่มันออกไป เธอรีบถามด้วยความเป็นห่วง “พี่ชาย ขอโทษจริงๆ เสี่ยวไป๋มาช้าไป”

 

“ไม่หรอก มาทันเวลาพอดี”

 

ฮังอวี่ลุกขึ้นในสภาพมอมแมมหัวมีแต่ฝุ่น เขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

 

อัศวินอันเดธถูกฆ่าแล้ว หากให้เขาฝืนสู้ต่อไปอีกแค่ครึ่งนาทีคงแบกรับต่อไปไม่ไหวแน่ๆ

 

ฮังอวี่รีบขอให้เจียงหนานรักษาเขา แล้วหันมาพูดกับเสี่ยวไป๋ว่า “เสี่ยวไป๋ ไอ้เวรนี่มันชักจะได้ใจเกินไปแล้ว พวกเรามาร่วมมือกันฆ่ามันให้จบๆไปเถอะ!”

 

ฮังเสี่ยวไป๋พยักหน้า “รับทราบ!”