1/3

 

Ep.273 – ศึกชี้ชะตาใกล้เข้ามาแล้ว

 

ผู้คุมค่ายกลมีคาถาโจมตีมากกว่าสิบชนิด และค่ายกลอีกห้ารูปแบบ อีกทั้งมันยังเป็นประเภทโจมตีระยะไกล บอกได้เลยว่าไม่อ่อนแอ ยากที่จะจัดการ

 

หากเป็นหน่วยรบธรรมดาคงแทบไม่มีโอกาสโค่นเจ้าหมอนี่!

 

ฮังอวี่เก็บสินสงคราม

 

[หินสกิล : ศาสตร์ค่ายกล] สีเขียวคุณภาพสูง , เงื่อนไขการเรียนรู้ : 500 แต้มวิญญาณ

 

[คทาผู้คุมค่ายกลแห่งป้อมปราการ] อุปกรณ์เลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพกลาง , การโจมตีทางเวทย์ + 20 , สติปัญญา +4 , จิตวิญญาณ +3 , ค่าพลังจิต +5 , ค่าความทนทาน 30

 

[เสื้อคลุมผู้วิเศษของผู้คุมค่ายกล] อุปกรณ์เลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพกลาง , การป้องกันทางกายภาพ + 10 , ป้องกันเวทย์ + 10 , สติปัญญา +3 , จิตวิญญาณ +3 , ค่าพลังจิต +5 , ค่าความทนทาน 30

 

อุปกรณ์สีเขียวอ่อนสองชิ้น

 

หินสกิลสีเขียวใสอีกหนึ่งก้อน

 

และที่น่าตื่นตกใจที่สุดย่อมไม่พ้นหินสกิล

 

หินสกิลนี้มิใช่ใดอื่น มันคือสิ่งที่ใช้เรียนรู้ศาสตร์ค่ายกล!

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตราบใดที่ใช้งานมัน คุณจะสามารถสร้างค่ายกลได้!

 

ปรมาจารย์ค่ายกลมีความสำคัญต่อทุกขุมกำลัง

 

หินสกิลศาสตร์ค่ายกลเป็นสกิลสายผลิตประเภทที่หาได้ยากที่สุด

 

ไม่เลว

 

นี่มันของดี!

 

ฮังอวี่ตั้งใจจะขอมันหลังจบงาน และมอบให้แก่เสี่ยวไป๋

 

นอกจากนี้ ผู้คุมค่ายกลยังดรอปไอเท็มสีขาวใสอีกห้าชิ้น รวมไปถึงหินสกิลสีขาวขั้นสองของนักเวทย์ และไอเท็มเฉพาะที่ล้ำค่าอีกหลายชิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นของดี

 

มอนสเตอร์ตัวอื่นๆในสนามรบก็ดรอปไอเท็มดีมากเช่นกัน

 

พวกมันดรอปอุปกรณ์สายนักเวทย์เลเวล 8 หลายชิ้น นอกจากนี้ยังมีหินสกิลขั้น 1 ของนักเวทย์อีกสองก้อน และระหว่างรวบรวมสินสงคราม ทุกคนยังพบหีบสมบัติอีกด้วย

 

มันคือหีบสมบัติสีเงินขาวที่ฝังไปด้วยเพชรพลอยที่ปริร้าว

 

มีขนาดค่อนข้างเล็ก ซ่อนอยู่ในที่ๆยากจะมองเห็น

 

ฮังอวี่กล่าว “หีบสมบัตินี้มีคุณภาพค่อนข้างดี แต่ด้วยขนาดที่เล็ก น่าจะดรอปไอเท็มได้ไม่มาก นักศึกษาเจียง พวกเราจะได้ของดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว”

 

“เชื่อมือฉันเถอะ!”

 

“เรื่องเปิดหีบนี่แหละงานถนัดฉันที่สุด!”

 

เจียงหนานถูสองมือเล็กๆของเธอ

 

เธอก้าวออกไปและเปิดหีบสมบัติทันที

 

เป็นอย่างที่ฮังอวี่บอกไว้ ข้างในหีบมีของไม่มากนัก แค่ไอเท็มสองชิ้นเท่านั้น ชิ้นหนึ่งเป็นสีเขียวใส อีกชิ้นเป็นสีขาวใส และหินคริสตัลเขียวอีก 20 ก้อน

 

“เป็นหินสกิล”

 

“แล้วก็พิมพ์เขียว!”

 

“พี่มหาเทพ ลองตรวจสอบดูว่าเป็นของดีไหม”

 

ฮังอวี่รับไอเท็มสองชิ้นมาและตรวจดูข้อมูลของพวกมัน แต่แล้วดวงตาของเขาก็เผยถึงความเหลือเชื่อ

 

[หินสกิลนักเวทย์ : เทคนิคบลิงค์] สีขาวคุณภาพสูง , หินสกิลขั้น 1 , ชิ้นส่วนมรดกของพ่อมดบลิงค์

 

[พิมพ์เขียวค่ายกล : เขตแดนน่านฟ้า] เงื่อนไขการเรียนรู้ : ศาสตร์ค่ายกลเลเวล 1

 

แม้จะมีไอเท็มแค่สองรายการ

 

แต่มูลค่าของทั้งสองรายการนี้ล้ำค่ามาก

 

เทคนิคบลิงค์อาจเป็นแค่มรดกขั้น 1 แต่อันที่จริงแล้ว หินสกิลนี้มีค่ามากกว่ามรดกสีเขียวขั้น 2 ส่วนใหญ่หลายเท่า สาเหตุก็ง่ายมาก เพราะมันคือมรดกขั้นแรกที่มีคุณสมบัติมิติ!

 

บลิงค์คือเทคนิคมิติ

 

นี่คือหนึ่งในคุณสมบัติที่หายากและมีค่าที่สุด

 

แม้ว่าฮังอวี่จะไม่ใช่นักเวทย์ แต่เขาก็ยังสนใจในสกิลนี้

 

ไอเท็มอีกชิ้นก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน มันคือพิมพ์เขียวในการสร้างค่ายกล ทั้งยังเป็นค่ายกลประเภทป้องกัน ซึ่งมีโอกาสนำไปใช้งานได้จริงสูงมาก

 

นักศึกษาเจียงมีฝีมือจริงๆ จับอะไรเป็นได้ของล้ำค่าไปหมด

 

ฮังอวี่ไม่เอ่ยคำใด

 

เพียงตบลงบนไหล่เจียงหนานเบาๆ แล้วเก็บสินสงครามทั้งหมดไว้กับตัว

 

ตามกฏแล้วสิ่งเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายในตอนท้าย

 

ฮังอวี่เก็บอัศวินอันเดธ จากนั้นนำกล่องวิญญาณออกมาแล้วใส่เครื่องรางอัญเชิญเข้าไป ชารจ์ไอวิญญาณอีกครั้ง

 

“เสี่ยวไป๋ ครั้งนี้ลำบากเธอมากจริงๆ ถ้าไม่มีเธอช่วย พวกเราคงชนะการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้ง่ายๆ”

 

ฮังเสี่ยวไป๋เกาหัวด้วยท่าทีเก้อเขิน มองดูคนอื่นๆ เอ่ยเสียงเบาว่า “เสี่ยวไป๋เต็มใจช่วยทุกคน”

 

สาวน้อยเสี่ยวไป๋ช่างแสนดี!

 

ไม่เพียงทุ่มทำงานหนักจนเลือดตกยางออก

 

แต่ยังไม่หวังผลตอบแทนแม้แต่น้อย

 

แต้มวิญญาณที่ได้มาเธอโอนให้ราชินีมดหน้าคนหมด

 

หวังเอ๋อคืนร่างฮัสกี้ วิ่งเข้ามา “ฮ่ง เจ้านาย พวกเราโค่น BOSS ลงได้อีกตัวแล้ว ต่อไปก็ลุย BOSS ใหญ่กันเลยเถอะ!”

 

ฮังอวี่กล่าว “ตอนนี้ค่ายกลในป้อมปราการถูกทำลายแล้ว พวกเราออกไปเก็บกวาดมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆให้หมด แล้วรวมตัวกับพี่น้องคนอื่นๆ จากนั้นก็สามารถท้าทาย BOSS ใหญ่ได้”

 

เฉินหยูกล่าวอย่างอารมณ์ดี “การผจญภัยครั้งนี้ราบรื่นมาก!”

 

จ้าวหมิงพยักหน้าและกล่าวว่า “พึ่งผ่านไปได้แค่ครึ่งวัน พวกเรายังมีเวลาอีกมาก วันนี้จะต้องยึดป้อมปราการเพื่อเข้าสู่หอคอยเขตแดนให้ได้ … และฉันคิดว่าพวกเราน่าจะเป็นทีมแรกในประเทศที่สามารถออกจากแผนที่เริ่มต้น!”

 

แค่คิดก็เบิกบานใจแล้ว!

 

ทุกคนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

ฉูเทียนหัวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เหอะ พวกนายคิดง่ายเกินไปไหม ขุนศึกมังกรปฐพี BOSS ตัวสุดท้ายนี้ต้องมีพลังมหาศาลแน่ๆ พวกเรายังไม่ได้เริ่มสู้เลย เอาไว้ชนะก่อนเถอะค่อยดีใจ”

 

จางเสี่ยวเฉียงยิ้มและพูดว่า “คุณกังวลอะไรนักหนา ขุนศึกมังกรปฐพีทรงพลังแล้วไง สุดท้ายมันก็สู้ลูกพี่ฮังของพวกเราไม่ได้อยู่ดี”

 

เจียงหนานพยักหน้า “ใช่ ใช่ มีมหาเทพฮังเป็นผู้นำทีม ยังไงพวกเราก็โค่นขุนศึกมังกรปฐพีได้!”

ฉินมู่ผู้มีนิสัยเงียบขรึมยังไม่เอ่ยคำใดเหมือนเคย

 

อย่างไรก็ตาม สังเกตจากพฤติกรรมของเขา

 

เห็นได้ชัดว่าก็คิดแบบนั้นเช่นกัน

 

ฮังอวี่ได้แต่เผยรอยยิ้มอับจนปัญญา ในใจเขามั่นใจแค่ 50% เท่านั้น ขุนศึกมังกรปฐพีแตกต่างจาก BOSS ทุกตัวที่เคยสู้มา

 

เจ้าหมอนี่ทรงพลังมาก!!

 

แต่ในฐานะศูนย์รวมใจของทุกคน

 

ฮังอวี่ไม่สามารถพูดอะไรที่จะไปทำลายขวัญกำลังใจได้

 

“ขุนศึกมังกรปฐพีทรงพลังจริงๆ เท่าที่ผมรู้พลังป้องกันทางกายภาพและป้องกันเวทย์ของเจ้าหมอนี่สูงมาก สูงจนผิดปกติ แถมยังมีพลังชีวิตมากกว่า 1300 หน่วย มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะรับมือได้เพียงลำพัง”

 

“นอกจากนี้ ที่พวกเราต้องสู้ ไม่ใช่แค่ขุนศึกมังกรปฐพี แต่ยังมีมอนสเตอร์ทรงพลังกลุ่มใหญ่ที่อยู่รอบๆ ดังนั้นยากที่จะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตาย ขอให้ทุกคนเตรียมใจตายในการต่อสู้เอาไว้ด้วย”

 

“อย่างไรก็ตาม ถึงความยากจะสูง แต่ด้วยพลังรบของทีมเรา ยังพอมีหวังที่จะคว้าชัยชนะได้ ถึงพวกเราจะตาย แต่ตราบใดที่ทีมสามารถยึดป้อมปราการ สุดท้ายการโจมตีนี้จะไม่สูญเปล่า!”

 

“ในทำนองเดียวกัน ยิ่งเสี่ยง ผลตอบแทนก็ยิ่งมาก!”

 

เจียงหนานกล่าว “ฉันเชื่อในตัวพี่มหาเทพ!”

 

คนอื่นๆ ก็พยักหน้าเช่นกัน

 

“ในเมื่อพวกเรามาถึงที่นี่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะล่าถอยอีก เราพยายามมาเยอะแล้ว คงไม่มีใครเต็มใจที่จะยอมรามือ” จ้าวหมิงกล่าว “คิดสู้ก็ต้องกล้าเสี่ยง พวกเราทุกคนเชื่อในตัวนาย”

 

ฮังอวี่พยักหน้า “งั้นทุกคนไปเตรียมตัวกันเถอะ”

 

ทีมชั้นยอดพากันออกจากห้องลับ

 

ทุกคนไล่กวาดล้างมอนสเตอร์ในบริเวณใกล้เคียง

 

เพื่อป้องกันไม่ให้โดนตลบหลัง ถูกโจมตีจากพวกมนอสเตอร์

 

ในเวลานี้ ชนชั้นยอดกว่า 100 คนได้เก็บกวาดมอนสเตอร์โดยรอบจนเสร็จสิ้นแล้ว ดูเหมือนทุกคนจะได้รับผลกำไรมากมาย

 

ไม่ว่าจะยึดป้อมปราการสำเร็จหรือไม่

 

แค่ผลกำไรที่ได้ตอนนี้ก็คุ้มค่าแ่การเดินทางแล้ว

 

“ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว”

 

“บอสฮังได้โปรดออกคำสั่ง!”

 

พลรบชั้นยอดนับร้อยคนยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ

 

หลังจากต่อสู้มาตลอดครึ่งวัน คนในทีมกว่า 70% – 80% ในที่นี้สามารถอัพเลเวล 6 ได้สำเร็จ

 

นอกจากนี้ยังมีคนที่อัพเลเวล 7 เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

ตัวตนเหล่านี้ไม่ง่ายเลย ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือ

 

ในบรรดาพวกเขา มีหลายคนที่เป็นหัวหน้าทีมของสกายเน็ตและผู้บริหารระดับสูงของสมาคมโลกวิญญาณ

 

อย่างไรก็ตาม แม้มาจากขุมกำลังต่างกัน แต่ในโลกวิญญาณ ทั้งหมดต้องเชื่อฟังคำสั่งของฮังอวี่ และในสายตาพวกเขา ยามมองมายังฮังอวี่ มันเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและเลื่อมใส ไม่ว่าในโลกจริงจะเป็นยังไง แต่ในโลกวิญญาณเขาคือศูนย์รวมใจของทุกคน!

 

เหมือนอย่างเคย

 

ก่อนเริ่มศึกใหญ่ต้องมีการกล่าวปลุกขวัญกำลังใจ

 

จากนั้น ฮังอวี่จัดทีมใหม่อย่างรวดเร็ว

 

ต่อไปคือศึกชี้ชะตา!