เสาร์อาทิตย์ลง 2 ตอน วันนี้ลง 252 253

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.252 – กวาดล้างกลุ่มตู่เซี่ย

 

“เอาล่ะ เตรียมตัวให้พร้อม!”

 

รถล่องเวหาสามคันขับเคลื่อนเข้าสู่ทุ่งล่าอย่างเงียบๆ

 

ไร้ซึ่งอุปสรรคใดระหว่างทาง ทุกคนต่างคิดว่านี่เป็นเพราะผลจากผงขับไล่สัตว์ร้าย แต่ไม่มีใครทราบเลย ว่าเป็นเพราะฉินเฟิงลอบใช้โอบกอดทมิฬต่างหาก

 

ไม่นาน กองทัพเฟิงหลีก็สามารถเข้าใกล้เป้าหมาย

 

การต่อสู้แบบกองกำลังครั้งแรกของสถานชุมชนเฟิงหลี ใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว!

 

ขณะนี้ ท่ามกลางทุ่งล่า ณ แนวเทือกเขาที่เรียงรายกันเป็นรูปตัว U

 

บนภูเขาเดิมทีอุดมสมบูรณ์ เฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ที่ต้นไม้เหี่ยวเฉา ไร้ซึ่งใบบนกิ่งก้าน อีกทั้งหิมะที่ตกหนัก ยังช่วยกลบร่องรอยของมนุษย์

 

แต่หากข้ามฝ่ากองหิมะ และมุ่งตรงมาตามทางข้างหน้า คุณก็จะพบหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา

 

ไม่สิ จะเรียกว่าหมู่บ้านคงจะไม่ถูกต้องนัก สมควรกล่าวว่าเป็นค่ายที่ถูกจัดตั้งโดยรถ RV หลายคันซะมากกว่า ทั้งยังมีแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งไว้ด้านบนรถเพื่อคอยส่งพลังงาน ยังไม่พอ นอกรั้วค่ายยังมีเต็นท์หลังใหญ่ และห้องน้ำที่อยู่ไกลออกไปตั้งอยู่

 

*รถ RV = รถบ้าน

 

ภายในเต็นท์ใหญ่หลังหนึ่ง เสียงเฮฮาดังออกมาไม่หยุด และหากตั้งใจฟังดีๆจะได้ยินเสียงสะอื้นของหญิงสาว

 

“พับผ่าสิ! ไอ้สถานชุมชนเฟิงหลีมันมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไง? ไอ้เด็กบ้านั่นทำเกินไปแล้ว! ”

 

“รอก่อนเถอะ สักวันหนึ่ง พอกลุ่มตู่เซี่ยยิ่งใหญ่ขึ้นเมื่อไหร่ พวกเราจะไปบุกสถานชุมชน และกวาดล้างพวกมันให้เหี้ยนเลย!”

 

“เงินรางวัลหัวละ 10 ล้านมันอะไรกัน? นี่ไม่ถูกต้อง พวกเขารวยมากถึงขนาดนั้นได้ยังไง แค่เฉพาะพวกเราในเต็นท์นี้ก็รวมๆกันเกินกว่า 100 ล้านแล้ว!”

 

“นายประเมินสถานชุมชนเฟิงหลีต่ำเกินไป 100 ล้านน่ะแค่จิ๊บๆ ไม่รู้หรือว่าเฟิงหลีมีการทำธุรกรรมเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญในทุกๆวัน!”

 

“อื้อหือ มากมายขนาดนั้น แถมยังทุกวัน? นี่ไม่เท่ากับเป็นเงินนับหมื่นล้านต่อเดือนเลยหรอ? เพราะแบบนี้เองสินะ ไอ้สารเลวนั่นถึงกล้าตั้งค่าหัวพวกเรา ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันคงแอบบุกเข้าไปในสถานชุมชนของพวกมัน แล้วลักพาตัวเด็กสาวสัก 2 – 3 คนกลับมา ซ่อนตัวอยู่ที่นี่กับพวกเธอดีกว่า! ฉันเบื่อพวกสาวหน้าเดิมๆจะแย่อยู่แล้ว!”

 

ว่าจบ ชายคนนั้นก็ยื่นมือออกไปหยิกผู้หญิงที่ถูกบังคับให้อยู่ในอ้อมแขนเขา ไม่ทราบว่าลงมือหนักไปหรือไร แต่แก้มของหญิงสาว ตรงที่ถูกหยิกกลายเป็นสีม่วงคล้ำทันใด ทว่าฝ่ายหหญิงกลับไม่ตอบสนองใดๆ เพราะทั้งตัวเธอ เกือบทุกจุดต่างฟกช้ำ สะบักสะบอมไม่ต่างกัน —กลายเป็นแค่ตุ๊กตาที่พังไปแล้ว!

 

แน่นอน คนอื่นๆก็รู้สึกเบื่อหน่ายเช่นกัน แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก ทั้งหมดทำได้แค่หลีกเลี่ยงที่จะออกไปข้างนอก เพราะค่าหัวที่ทางเฟิงหลีตั้งน่ะมันโหดร้ายเกินไป!

 

กระทั่งสมาชิกเลเวล G ก็ยังโดนตั้งนำจับ หัวละกว่า 100,000 เหรียญ นี่หมายความว่า ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด ตราบใดที่ๆนั่นมีคนดาวโหลดระบบเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล ทุกคนจะสามารถได้รับข้อมูลของพวกตนทันที

 

ซึ่งผู้ใช้พลังเลเวล G น่ะถูกจัดการได้ง่ายมาก บางทีไม่แน่ว่าตอนนี้อาจมีคนจัดตั้งทีม เพื่อรอล่าพวกเขาแล้วก็ได้!

 

โดยที่พวกคนกลุ่มตู่เซี่ยไม่ทราบเลย ว่าเวลานี้ ท่ามกลางหิมะฤดูหนาว จะมีใครบางคนกำลังเฝ้ามองค่ายของพวกตนอยู่ ในระยะที่ห่างไกลออกไปกว่า 3,000 เมตร

 

–ฉินเฟิงและวังเฉินปีนขึ้นไปบนเนินเขาลูกถัดไป

 

วังเฉินรีบติดตั้งป้อมปืนอย่างรวดเร็ว

 

“มีรถRV มากกว่า 50 คัน คาดว่าน่าจะมีจำนวนประชากรราวๆ 400 คน”

 

“เต็นท์เล็ก 10 หลัง เต็นท์ใหญ่อีก 3 หลัง มีแสงไฟ คาดว่ามีคนอยู่ภายใน”

 

“ส่วนรถRVชั้นหนึ่งสุดหรู คาดว่าน่าจะเป็นที่อยู่ของหัวหน้าพวกมัน”

 

“รถRVชั้นสองอีก 16 คัน คาดว่าแต่ละคัน น่าจะเป็นที่พักของผู้ใช้พลังเลเวล F!”

 

“และหนึ่งในเต็นท์ที่ตั้งขึ้น คาดว่าจะเป็นที่กักขังเชลย”

 

วังเฉินวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว

 

ฉินเฟิงที่อยู่ถัดออกไป และกำลังสังเกตถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พยักหน้าโดยไม่โต้แย้งใดๆ

 

เพราะการวิเคราะห์ของวังเฉิน ไม่มีอะไรผิดพลาด

 

ประชากรศัตรูมีมากกว่าที่คำนวณเอาไว้มากนัก แต่ฉินเฟิงไม่สนใจ —มากกว่าแล้วไง? เขาก็แค่เสียกระสุนเพิ่มเติมอีกนิดๆหน่อยๆก็เท่านั้นเอง

 

เพราะสำหรับสถานชุมชนเฟิงหลีในตอนนี้ สิ่งที่ขาดแคลนน้อยที่สุด ก็คือเงินตรา!

 

“เตรียมตัวยิงปืนใหญ่ แต่ขอให้ระมัดระวังเต็นท์คนบริสุทธิ์ที่ถูกจับมา!”

 

ฉินเฟิงออกคำสั่ง ผู้ใช้พลังของสถานชุมชนเฟิงหลีเร่งประกอบจักรกลอย่างรวดเร็ว

 

ป้อมปืนทยอยถูกติดตั้งอย่างรวดเร็ว หลังจากนับจำนวน พบว่ามีมากถึง 50 กระบอก!

 

นี่แหละคือความร่ำรวย! พอมีเงินมากๆเข้า ก็สามารถทำอะไรขี้โกงแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย

 

“ระวัง — ยิงได้!”

 

ภายใต้คำสั่งของวังเฉิน มือปืนทั้ง 50 คนพลันกดสวิตซ์ทันใด

 

หวือ หวือ หวือ หวือ!

 

ลูกปืนใหญ่สาดแสงสดใส ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า

 

ลูกปืนใหญ่เหล่านี้แม้ไม่ทรงพลังอะไรมากมาย แต่มันก็ไม่อ่อนแอ หากผู้ใช้พลังเลเวล G ไม่ทันหลบเลี่ยง ก็เพียงพอแล้วที่จะตกตายภายใต้แรงระเบิด

 

ตรงกันข้าม ผู้ใช้พลังเลเวล F กลับสามารถหลบเลี่ยงมันได้อย่างง่ายดาย

 

ยิ่งถ้าเป็นมือปืนเลเวล F อาจถึงขั้นสะท้อนกระสุนกลับได้

 

ในเวลาเดียวกัน ภายนอกค่ายกลุ่มตู่เซี่ย หน่วยเวรยามยกมือขึ้นถูกันไปมา บ่นไม่หยุด

 

“ภูเขาลึกขนาดนี้ มันจะไปมีสัตว์ร้ายอยู่ได้ยังไงกัน นี่มันฤดูจำศีลชัดๆ พวกเราโชคร้ายจริงๆ ที่ถูกส่งมาเฝ้ายาม!”

 

“ช่างมันเถอะน่า ฉันพอมีไวน์อยู่บ้าง มาดื่มกันดีกว่า”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า แกนี่มันคนดีเหมือนกันนี่หว่า มา! ดื่มก็ดื่ม!”

 

ทั้งหมดไม่ตื่นตัวหรือระมัดระวังใดๆ เพราะยังไงซะ ค่ายของพวกเขาก็อยู่ห่างไกล ไกลชนิดที่ว่า หากไม่มองจากมุมสูง คงไม่มีทางค้นเจอ

 

ดังนั้นไม่มีใครทันคาดคิด ว่าในวันนี้พวกตนจะถูกลอบโจมตี

 

ดื่มไวน์ไปได้แค่แก้วเดียว เวรยามแต่ละคนก็เริ่มได้ยินถึงเสียงหึ่งหึ่งในหู

 

“เอ๋? นี่ไวน์นายแรงไปรึเปล่า? ทำเอาฉันรู้สึกเวียนหัว ได้ยินเสียงหึ่งๆอยู่ในหูเลย”

 

“หือ? ไม่น่าจะใช่นะ ก่อนหน้านี้ฉันก็ดื่มมันมาหน่อยแล้วเหมือนกัน แต่ไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเลย!”

 

“นั่นไง! ไอ้บ้านี่! แกแอบกินคนเดียวมาก่อนแล้วจริงๆด้วยสินะ!”

 

แต่ก่อนจะทันได้ทะเลาะกัน หนึ่งในนั้นจู่ๆก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาแหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า

 

แม้บริเวณโดยรอบจะถูกปกคลุมไปด้วยพลังสมาธิ คอยบดบังเสียงดัง แต่เมื่อระยะทางของมันใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น สุดท้ายก็ไม่สามารถปิดซ่อนเสียงเอาไว้ได้อีกต่อไป

 

วิซ วิซ วิซ วิซ!

 

ลูกปืนใหญ่ร่วงตกลงจากฟากฟ้า กระทั่งชั้นอากาศที่เสียดสีกับมันยังเกิดสะเก็ดไฟ

 

“พวกเราถูกลอบโจมตี!!!” ชายคนนั้นกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

 

ในเวลาเดียวกัน ผู้ใช้พลังเลเวล F ในค่ายก็ตระหนักถึงกระสุนเหล่านี้

 

เนื่องจากกลุ่มตู่เซี่ยเป็นองค์กรมืด ดังนั้นไม่พวกเขาเลยไม่ค่อยมีมือปืน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนร่ำรวย) แต่ตรงกันข้าม กลับมากไปด้วยผู้ใช้วรยุทธโบราณ

 

เมื่อตระหนักถึงการโจมตี สองมือปืนเลเวล F ในค่ายก็เริ่มโต้กลับทันที

 

“พลังสมาธิสะท้อนกลับ!”

 

ในเสี้ยววินาที ลูกปืนใหญ่กว่า 50 ลูกบนท้องฟ้า ครึ่งแรกพลันพลิกตลบ และพุ่งกลับไปยังทิศทางที่ยิงออกมาทันที ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งยังคงตรงมายังทิศทางเดิม

 

หวือ หวือ หวือ!

 

กระสุนปืนใหญ่ครึ่งหลังบนฟากฟ้า ปะทะเข้ากับกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกสะท้อนกลับมา

 

พริบตาเดียว ท้องฟ้าก็ถูกระบายเป็นสีแดงฉาน

 

บรึ้ม!

 

เสียงระเบิดดังกึกก้อง ปลุกสมาชิกกลุ่มตู่เซี่ยทั้งหมดให้ตื่นจากการหลับไหล ทุกคนวิ่งออกมา ความโกลาหลบังเกิดขึ้น

 

“เร็วเข้า! รีบมองหาที่กำลัง เตรียมตัวถอย!”

 

ระดับสูงของกลุ่มตู่เซี่ยคำรามเกรี้ยวกราด

 

ในเวลาเดียวกัน ผู้ใช้พลังเลเวล E ที่นอนอยู่ในรถRVสุดหรูก็เดินออกมา

 

“ใครกันที่สมองมีปัญหา กล้ามายั่วยุฉัน!”

 

เจ้าของสมญาแมงป่องพิษปรากฏกายขึ้นในความมืดมิด เขาครอบครองใบหน้าท่าทีดูดุร้าย อายุประมาณ 40 ปี ทั้งยังเป็นผู้ใช้พลังเลเวล E มายาวนานนับ 10 ปี อาจกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นอาวุโสในบรรดาองค์กรมืด

 

ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาให้แมงป่องพิษ ทุกผู้คนรู้จักเขาในฐานะผู้นำกลุ่มตู่เซี่ย

 

และเมื่อไม่นานมานี้ เขาสามารถขยายอิทธิพลได้อย่างกว้างขวาง ทั้งยังได้รับเงินมหาศาล ความแข็งแกร่งก้าวหน้าไปอีกขั้น

 

ปัจจุบัน เขาคือผู้ใช้วรยุทธโบราณในเลเวล E6

 

ตูม!

 

แมงป่องพิษไม่รั้งรอ ย่ำเท้าลงกับพื้น สำแดงกำลังภายในเบาๆ ทะยานออกจากหุบเขาไป