โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.238 – เพิ่มความสำเร็จในฐานะนักล่าเงินรางวัล

 

“อ๊ากกก!”

 

แม้จะสวมใส่อุปกรณ์รูนสำหรับป้องกัน แต่ไซคลอปส์ก็ยังไม่วายกรีดร้องน่าสมเพช

 

มังกรไฟโฉบงับเข้าที่คอของเขา จากนั้นก็แปรสภาพเป็นเชือก รัดพันร่างของไซคลอปส์ แล้วฉุดลากเข้าหาฉินเฟิง

 

“ตายซะ!”

 

ฉินเฟิงระเบิดกำปั้น กระทุ้งลงตรงตำแหน่งหัวใจของไซคลอปส์

 

ตูม!

 

อุปกรณ์รูนป้องกันของไซคลอปส์สาดแสงกระพริบไหวคล้ายมิอาจทานทน เพราะหมัดของฉินเฟิง มันเทียบเท่าได้กับการระเบิดโจมตีของสัตว์ร้ายระดับราชันย์!

 

กร๊อบ!

 

สามารถได้ยินถึงเสียงกระดูกแตกหักดังออกมาจากร่างของไซคลอปส์ วินาทีต่อมา ทั้งคนทั้งร่างของไซคลอปส์ก็ถูกแรงส่ง ปลิวละลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

มังกรไฟคลายร่างของไซคลอปส์ โฉบย้อนศรกลับลงมา คราวนี้เป้าหมายคือปรมาจารย์หยิน

 

ร่างศพเองก็วิ่งเข้าหาปรมาจารย์หยินเช่นกัน หมายจะปกป้องนายตน

 

ราชาคลั่งทะยานออกมาเบื้องหน้าอีกครั้ง ระเบิดพละกำลังทั้งหมดที่มีพุ่งเข้าโรมรันกับฉินเฟิง

 

สองคน สี่หมัด และสี่เท้า ระดมเข้าใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ทุกการปะทะส่งเสียงสนั่นอึงอล

 

อย่างไรก็ตาม นี่มันแตกต่างไปจากการปะทะกันในครั้งแรก ช่วงเวลานั้นฉินเฟิงยังคงออมมือ แต่ปัจจุบันไม่คิดยั้งมืออีกต่อไป

 

ส่งผลให้การต่อสู้ด้วยพละกำลังจบลงอย่างรวดเร็ว

 

“ทักษะลับกลืนดารา!”

 

กำลังภายในของฉินเฟิงปะทุโหมอย่างกระทันหัน โถมเข้าพัวพันราชาคลั่ง!

 

ต้องรู้นะว่าทักษะลับกลืนดาราของฉินเฟิงในตอนนี้ยกระดับไปอีกขั้นแล้ว ดังนั้นเป็นธรรมดาที่อำนาจของมันจะมากขึ้น

 

ชั้นอากาศโดยรอบถูกปกคลุมโดยมัน ราชาคลั่งราวกับติดอยู่ในหล่มโคลนที่มิอาจตะกายขึ้นมาได้

 

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า สองมือฉกออกไปคว้าแขนของราชาคลั่งและ–

 

–เป๊าะ!

 

กระดูกแขนของราชาคลั่งถูกหักดังลั่น

 

“อ๊ากก!”

 

เขาโหยหวนน่าสังเวช กำลังภายในปะทุคลุ้มคลั่ง ระเบิดกระบวนท่าวรยุทธทั้งหมดที่ตนมีเพื่อเอาชีวิตรอด สำแดงมันออกมาอย่างน่าตื่นตา

 

ฉากพยุหะกระบวนท่าวรยุทธของผู้ใช้พลังเลเวล E ช่างน่าสยองขวัญเป็นอย่างยิ่ง

 

แต่ชาวเมืองที่กำลังรับชมอยู่คงไม่ทันสังเกตเห็น ว่าภายใต้การควบคุมของทักษะลับกลืนดาราของฉินเฟิง ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของราชาคลั่งถดถอยลงเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นแล้ว แรงปะทะของมันคงดุเดือดยิ่งกว่าในตอนนี้

 

สภาพของราชาคลั่งในปัจจุบัน มันก็แค่ตัวตลกในกำมือของฉินเฟิง

 

กร๊อบ!

 

ฉินเฟิงบิดแขนของราชาคลั่งอีกครั้ง

 

สำหรับราชาคลั่ง สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดคือสองมือของเขา แต่เวลานี้สองแขนดันถูกหัก ดังนั้น ต่อให้เขาจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ร้ายกาจเพียง แต่ก็ยังคงมีความหวาดกลัวซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ และในที่สุดยามนี้มันก็เอ่อล้นออกมา เจ้าตัวตัดสินใจหลบหนีทันที เพื่อรักษาชีวิตน้อยๆของตนเอง

 

ราชาคลั่งย่ำฝ่าเท้าจนพื้นดินแตกร้าว พุ่งเตลิดหนีไม่คิดชีวิต

 

ฉินเฟิงหัวเราะหยัน กลืนดาราปะทุโหมอีกครั้ง

 

แรงดึงดูดซัดกระหน่ำ ฉุดลากอีกฝ่ายกลับมา ฝีเท้าของฉินเฟิงเองก็เร่งความเร็วขึ้นอย่างกระทันหันด้วยกำลังภายใน ทะยานออกไปซัดหนึ่งหมัดเข้าใส่ชายโครงของราชาคลั่ง

 

ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับตันเถียน!

 

ทักษะลับกลืนดาราเริ่มดูดซับกำลังภายในของอีกฝ่ายทันที ทะเลเมฆไหลทะลักราวกับเขื่อนแตก พริบตาเดียวเหือดหายจนเกลี้ยง

 

เมื่อสูญสิ้นกำลังภายใน ราชาคลั่งก็มิอาจทำสิ่งใดได้กระทั่งจะปกป้องตนเอง

 

อีกมือหนึ่งของฉินเฟิงฉกออกไป ตะปบลงเหนือหัวของราชาคลั่งและบิดกร๊อบ! ทันใด

 

หัวของราชาคลั่งหมุน 180 องศา –คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเขาจะต้องพบกับจุดจบเช่นนี้

 

ฉินเฟิงผละมือจากอีกฝ่าย ร่างกายกำยำดั่งปราการเหล็กกล้า ร่วงกระแทกกับพื้น ส่งเสียงดังตึงใหญ่

 

ปัจจุบัน สถานการณ์พลิกผัน ฉินเฟิงสามารถสังหารศัตรู 2 คนลงได้อย่างง่ายดาย

 

มังกรไฟยิ่งมาก็ยิ่งสาดเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ กระทั่งร่างศพที่ทรงพลังก็ยังหวาดเกรงอำนาจของมัน ความว่องไวเริ่มถดถอยลงอย่างช้าๆ ไม่นานก็แปรสภาพเป็นศพไหม้เกรียม

 

ปรมาจารย์หยินเองก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน เร่งหาทางหลบหนีไป

 

“โอบกอดทมิฬ!”

 

ปรมาจารย์หยินปลดปล่อยอบิลิตี้ตนออกมา ความมืดมิดปกคลุมไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังบดบังวิสัยทัศน์ของผู้คน เจ้าตัวฉวยโอกาสนี้หันหลังและวิ่งจากไป

 

ทว่าท่ามกลางความมืดมิด แสงสีเข้มทะมึนกลับกระทบลงบนร่างกายของเขา

 

“นี่มัน อย่าบอกนะว่า … ”

 

ปรมาจารย์หยินก้มหน้า เฝ้ามองสภาพร่างกายที่ดูชราภาพลงอย่างรวดเร็ว เลือดฝาดบนมือของเขา ที่แต่เดิมมีน้ำมีนวลสุขภาพดี บัดนี้เหี่ยวเฉาคล้ายใกล้สิ้นลมหายใจ

 

พริบตาเดียว ผิวหนังของปรมาจารย์หยินก็เหี่ยวแห้ง ไร้ซึ่งความชุ่มฉ่ำ

 

“อ๋า? ฉันลืมซะสนิทเลย ส่วนหัวยังมีประโยชน์อยู่นี่นา”

 

ขณะกล่าว ฉินเฟิงก็วาดมือออกไป รูนแห่งความมืดถูกถอนออกจากร่างศัตรูอย่างรวดเร็ว

 

สภาพของปรมาจารย์หยินเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังดูน่าสังเวชเกินกว่าจะบอกบรรยาย! เขาราวกับคนอดนอนมาหลายวัน

 

ปรมาจารย์หยินยังไม่ทันมีเวลาได้ยินดีกับชีวิตน้อยๆที่เพิ่งรอดตาย ก็ถูกมีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิง ตัดเป็นแนวขวาง สะบั้นศีรษะตนลอยกระเด็นสู่ฟากฟ้า

 

เวลานี้รูนแห่งความมืดของปรมาจารย์หยินสลายหายไป

 

เมื่อวิสัยทัศน์ของฝูงชนกลับมาอีกครา ทั้งหมดเห็นแค่เพียงศีรษะที่ลอยอยู่กลางอากาศ ร่างศพล้มตึง สลายกลายเป็นขี้เถ้า

 

ฉินเฟิงยืนหยัดทรนงอยู่บนเนินเขา ท่าทีองอาจสง่างาม ชูแขนขึ้นเหนือหัว มังกรไฟทรงอำนาจหดกลับเข้ามาในมือของเขา ฉากนี้มิจำเป็นต้องบอกบรรยายว่ามันน่าทึ่งเพียงใด

 

จากนั้นเขาก็คลิกลงบนอุปกรณ์สื่อสาร และกล่าวกับซูซิงฝูว่า “ปิดอุปกรณ์สอดแนมซะ การเก็บกวาดสินสงครามหลังจากนี้ ไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่จะให้คนอื่นรับชม”

 

ซูซิงฝูปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย สลับสับเปลี่ยนวิดีโอทันที

 

ผู้คนในสถานชุมชนเฟิงหลียังไม่ทันหายตกใจ ภาพวิดีโอก็หายไปเสียแล้ว

 

‘การต่อสู้จบลงแล้วอย่างงั้นหรือ?’

 

‘นี่สินะการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้พลังระดับสูง?’

 

‘ราวกับไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถกระทำได้เลย’

 

‘มันจะน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!’

 

ภายในสถานชุมชนเฟิงหลี ทุกผู้คนต่างระเบิดเสียงฮือฮาเกี่ยวกับการต่อสู้ในครั้งนี้

 

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงก็เริ่มเก็บกวาดสิ่งของต่างๆที่ศัตรูทั้งสามของเขาครอบครอง

 

หัวของทั้งหมดถูกตัดออก ตามด้วยอุปกรณ์รูนมิติ และอุปกรณ์รูนที่พวกเขาสวมใส่ ถูกปล้นจนหมด

 

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกมันจะรวยกันถึงขนาดนี้!”

 

–อุปกรณ์รูนแสงสีเงินในเลเวล E สามารถผลิตได้โดยวัตถุดิบระดับราชันย์สัตว์ร้ายเท่านั้น ทั้งยังต้องใช้ต้นทุนในการผลิตเป็นเงินจำนวนมาก ชิ้นเดียวมีมูลค่าหลายร้อยล้าน ถ้าเป็นของดีขั้นต่ำคงสัก 1 พันล้าน แต่ทั้งสามกลับครอบครองอุปกรณ์รูนดังกล่าว ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมฉินเฟิงถึงบอกว่าพวกเขาร่ำรวย

 

แต่ที่ฉินเฟิงไม่ทราบก็คือ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ทั้งสามล้วนได้รับการสนับสนุนจากเล่ยเฉิน

 

อย่างไรก็ตาม มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉินเฟิงต้องประหลาดใจ นั่นคือในพื้นที่มิติของปรมาจารย์หยิน มีการเก็บรวบรวมม้วนกระดาษที่เขียนเกี่ยวกับอบิลิตี้เอาไว้ —มันคือบันทึกการใช้รูนมืด ไม่ว่าจะเป็นกรงเล็บกระดูกที่เขาปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ หรือกระทั่งวิชาลับในการควบคุมร่างศพ!

 

“ยิ่งได้รู้จักมัน ก็ยิ่งพบว่าอบิลิตี้มืดแข็งแกร่งเกินกว่าจินตนาการ สมควรเก็บพวกมันไว้ เพราะบางทีเทคนิคพวกนี้อาจจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ในสักวันหนึ่ง ทั้งยังเหมาะสมที่จะใช้ต่อกรกับกองทัพสัตว์ร้าย!”

 

ฉินเฟิงเก็บม้วนกระดาษไว้กับตัว ส่วนสินสงครามที่เหลือทั้งหมด นำมันไปขายในตลาดมืด!

 

หลังเก็บกวาดสินสงครามเสร็จสิ้น ฉินเฟิงก็เปิดอุปกรณ์สื่อสารอีกครั้ง แต่คราวนี้ติดต่อไปหาจางฮั่วหยาง

 

“เป็นผมเอง พอดีว่าผมได้หัวอาชญากรมาอีก 3 หัว แต่สถานชุมชนเฟิงหลีจำเป็นต้องมีคนคอยปกป้องในเวลานี้ ฉะนั้น คุณช่วยเป็นฝ่ายมาหาผม เพื่อทำการตรวจสอบยืนยันหน่อยจะได้ไหม?”

 

จางฮั่วหยางพอได้ทราบข่าว ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง พอได้สติรีบตอบตกลง

 

“ไม่มีปัญหา ฉันจะออกไปทันที!”

 

ในเวลาเดียวกัน ซูซิงฝูก็เริ่มถ่ายทำโฆษณาตัวใหม่แล้ว!

 

เนื้อหาของโฆษณาในคราวนี้ ถูกแทนที่ด้วยชายสามคนกำลังคุกคามสถานชุมชนเฟิงหลี และเช่นเคย ฉากต่อมาทั้งหมดถูกสังหารลงโดยฉินเฟิง

 

“เอ .. เหมือนว่าสีมันจะชัดมากไปหน่อย แบบนี้คงจะน่ากลัวเกินไป งั้นทำให้มันอ่อนโยนลงสักนิดดีกว่า” ซูซิงฝูเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดัดแปลงโฆษณาอีกเล็กๆน้อยๆ

 

โฆษณาฉากต่อสู้ถูกถ่ายทอดออกไป และปิดท้ายด้วยประโยค–

 

“–ตราบใดที่คุณมาแวะเวียน ทางสถานชุมชนเฟิงหลียินดีให้ความปลอดภัยแก่คุณอย่างเต็มที่!”

 

“แน่นอน ว่าบนโลกใบนี้ มักจะมีผู้คนที่ซุกซนอยู่เสมอ!”

 

และแล้วหัวของทั้งสามก็โชว์หราขึ้นบนโฆษณา

 

ผู้ใช้พลังเลเวล E ในสามเฉิงต่างพากันตกอยู่ในความเงียบงัน

 

หลังจากเวลานี้ไป หากมีคนต้องการสร้างความเดือดร้อน พวกเขาคงต้องคิดให้มากเข้าไว้!

 

 

ครึ่งวันต่อมา

 

เวลาประมาณเที่ยงคืน ตลาดมืดของสถานชุมชนเฟิงหลีก็มีลูกค้ารายแรกมาเยือน และลูกค้ารายนี้ สวมใส่ชุดคลุมสีดำ เป็นชุดเดียวกันกับคนในโฆษณาที่ซูซิงฝูเพิ่งปล่อยออกไป … สวมใส่ชุดเหมือนกันทุกประการ

 

ใช่แล้ว! คนๆนี้คือหนึ่งในสมาชิกขององค์กรมืด ทั้งยังเคยได้พบกับฉินเฟิงมาก่อน …