โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.232 – เงินแลกชีวิต

 

“เกิดอะไรขึ้น!?” เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หยวนฮันก็เริ่มตื่นตระหนก

 

“ก็บอกแล้วไง ถ้าฉันไม่อนุญาตให้ไป เธอก็ไม่สามารถไปได้!” ฉินเฟิงสาวเท้าเข้ามา หัวเราะเสียงเย็นชา

 

แน่นอน ถึงจะบอกว่าฉินเฟิงไม่อนุญาต แต่ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ แท้จริงคือปรมาจารย์มิติอย่างไป๋หลีต่างหาก ดังนั้นหากหยวนฮันคิดจะจากไป มันคงไม่ต่างอะไรกับฝันกลางวัน

 

“งั้นก็มาสู้กันตายไปข้าง!” นักฆ่าสาวร้องลั่น กำลังภายในของเธอพวยพุ่ง กริชในมือสาดประกายระยิบ

 

แต่สิ่งเหล่านี้ ในมุมมองของฉินเฟิง มันดูไม่ต่างจากการจัดแสดงดอกไม้ให้ดูเลย

 

“คลื่นเปลวเพลิง!”

 

เปลวเพลิงพลันลุกฮือขึ้นเบื้องบน โถมลงกลืนกินศัตรู กำลังภายในที่พวยพุ่งของหยวนฮันปะทุเข้าต้านทานกับรูนไฟทันใด

 

ทว่าวินาทีต่อมา ตลอดทั้งร่างกายเธอกลับถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายอันตราย

 

“ก๊าซซซ!”

 

จระเข้มังกรที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน จู่ๆก็อ้าปากกว้างและงับ! อย่างกระทันหัน

 

เป็นฝีมือจากพลังสมาธิในการบดบังการรับรู้ของฉินเฟิง!

 

หยวนฮันต้องการจะหลีกเลี่ยง แต่มันก็สายเกินไป

 

“งั่ม!” สัตว์ร้ายจระเข้มังกรกัดเข้าใส่ขาของเธอ

 

“อ๊าาา!” หยวนฮันกรีดร้องเสียงหลง แต่เพียงพริบตาเดียว ร่างของเธอก็ถูกกัดกระชาก ฉีกออกเป็นชิ้นๆ

 

ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลิงหวูยี่จัดการตัวปัญหาอย่างหวูซือเป็นที่เรียบร้อย เปลี่ยนอีกฝ่ายกลายสภาพเป็นแอ่งน้ำกรดสีเขียวโดยสิ้นเชิง อุปกรณ์รูนมิติก็ถูกชิงมาโดยเขาเช่นกัน

 

ช่วงเวลานี้ เมื่อหันหน้าไปมองกองทัพจระเข้มังกร และผู้ใช้พลังอีกแค่ไม่กี่สิบคนที่ยังเหลืออยู่ ทั้งหมดก็ทำได้แค่ถอย ปีนขึ้นไปตามผนังโพรงใหญ่อีกฝั่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตาม ทิศทางดังกล่าว มันสวนกับทางออกโดยสิ้นเชิง กระทำเช่นนี้ยิ่งเป็นการตัดโอกาสที่พวกเขาจะหลบหนีได้สำเร็จ

 

เพราะประเด็นหลักที่จะสามารถรอดชีวิตไปได้ก็คือ จะต้องไม่อยู่ที่นี่! ภายในรังจระเข้แห่งนี้!

 

อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้กลับต้องเผชิญกับสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นั่นเพราะพวกเขาไม่มีตัวเชื่อมมิติเตรียมพร้อมเอาไว้

 

—ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สามารถทำมัน หรือทำมันไม่ได้หรอกนะ เพราะยังไงซะทั้งหมดคือผู้ใช้พลังเลเวล E ดังนั้นไม่ว่าใครต่างก็มีอุปกรณ์รูนมิติไว้ในครอบครอง จะพื้นที่เล็กหรือใหญ่ก็ว่ากันไป เพียงแต่มันคือสิ่งที่พวกเขาใช้สำหรับเก็บสมบัติที่เก็บเกี่ยวมาได้ และหากพวกเขาดัดแปลงมัน ใช้เป็นตัวเชื่อมมิติ ทุกสิ่งอย่างภายในก็จะหายไป และนั่นคือสิ่งที่พวกเขายอมรับไม่ได้

 

เพราะถ้าจะให้พูดกันตั้งแต่แรกเริ่มเลย พวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร? –เพื่อฟันกำไร! , เพื่อค้นหาโอกาส! , เพื่อเก็บเกี่ยวสมุนไพรชั้นยอด! , เพื่อออกล่าสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่ง มิใช่หรือ?

 

ด้วยเหตุนี้เอง หากต้องสูญเสียทุกอย่างที่ทุ่มเทไป พวกเขาไม่สามารถรับมันได้!

 

“ฉินเฟิง … ไม่สิ ผู้ว่าการฉิน คุณพอจะขายอุปกรณ์รูนมิติให้ฉันหน่อยจะได้ไหม”

 

หนึ่งในบรรดาที่ติดแหง็กอยู่ด้วยกัน ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงอ้อนวอนฉินเฟิงขอความช่วยเหลือ

 

“นั่นสิผู้ว่าการฉิน คุณพอจะขายมันให้ฉันจะได้ไหม ยิ่งเล็กก็ยิ่งดี!”

 

แม้จะกำลังวิ่งหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง แต่ขณะนี้ทุกสายตากลับตกลงบนร่างของฉินเฟิงด้วยความคาดหวัง

 

ฉินเฟิงยิ้มหยัน หันไปสะบัดสร้างทะเลเพลิงปิดทางไล่ของจระเข้มังกร เอ่ยปากกล่าว “ราคาอุปกรณ์รูนมิติในเวลานี้ แตกต่างจากในตอนปกติ เพราะยังไงซะมันคือสิ่งที่สามารถใช้ช่วยให้รอดชีวิตไปได้ ฉะนั้นผมจะขายมันในราคา 100 ล้านเหรียญต่อคน พวกคุณรับมันได้รึเปล่า?”

 

นี่แทบจะเป็นราคาใกล้เคียงกับค่าตั๋ว

 

ฝูงชนจ้องไปทางฉินเฟิงด้วยความโกรธ

 

แต่หลังจากที่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ที่ฉินเฟิงเข้าสกัดกั้นราชันย์จระเข้ และสังหารมันลงในไม่กี่กระบวนท่า พวกเขาก็ไม่กล้าเอ่ยความในใจออกมา

 

“ทุกท่านในที่นี้ ถ้าไม่คิดจะซื้อ ก็ไม่ต้องตามผมมา เชิญไปทางอื่นได้เลย ขอบอกว่าผมไม่ใช่คนดีอะไร ที่จะยอมบุกน้ำลุยไฟไปกับคนไร้ประโยชน์ กรุณาแยกไปตามทางของตัวเองเถอะ!”

 

หากไม่คิดซื้อ แต่ยังต้องการจะใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ขอบอกเลยว่าฝันเถอะ!

 

ตลอดระยะเวลา 10 ปีก่อนเกิดใหม่ ฉินเฟิงไม่ใช่คนเลือดเย็นอะไร แต่ก็เหมือนในครั้งนี้ ที่หากเลือดเย็นแล้ว จะไม่นุ่มนวลหรือปราณีใดๆ

 

ชายคนหนึ่งขบฟันกรอด เอ่ยน้ำเสียงเล็ดลอดไรฟัน “ก็ได้! ฉันยอมจ่าย!”

 

“โอนมาโลด”

 

อีกฝ่ายเพิ่มฉินเฟิงผ่านอุปกรณ์สื่อสาร แล้วได้รับของมา

 

คนอื่นๆเมื่อเห็นฉากนี้ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ต่างพากันโอน 100 ล้านไปให้ฉินเฟิง

 

อันที่จริงตอนนี้ฉินเฟิงครอบครองอุปกรณ์รูนมิติอยู่จนแทบจะล้นมือ! มี 20 ชิ้นเป็นอย่างน้อย! ก่อนยกมันให้คนอื่นๆ ฉินเฟิงเลือกอุปกรณ์รูนมิติที่มีพื้นที่เพียง5-6ลูกบาศก์เมตร กวาดวัตถุดิบทั้งหมดภายในออกมา และให้ไป๋หลีไปเก็บในพื้นที่มิติของเธอ จากนั้นก็มอบมันให้กับคนอื่นๆ

 

คนเหล่านี้ยอมจ่ายในเม็ดเงินแพงกว่าราคาตลาดถึง 3 – 4 เท่า ยิ่งเมื่อเห็นของที่อยู่ฉินเฟิงเก็บไว้ภายในมัน พวกเขาก็แทบจะกระอักเลือด

 

จระเข้มังกรอาละวาดคลั่ง แต่น่าแปลกที่มันไม่อาจทะลุแนวป้องกันของฉินเฟิงมาได้

 

“ผู้ว่าการฉิน พานพบครานี้ จดจำไปชั่วชีวิต ขออวยพรให้ในอนาคตผู้ว่าการฉินมั่งคั่ง ดั่งโผทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์!” คนสุดท้ายกัดฟันกล่าว รู้สึกราวถูกปล้นเงินไป ความโกรธฝังแน่นเต็มอก แม้ปากจะสรรเสริญ หากแต่น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความประชดประชัน

 

ฉินเฟิงทำทีราวกับว่าไม่ตระหนักถึงมัน มุมปากเขายกสูงขึ้นและกล่าว “และคุณเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผมมั่งคั่ง ขอให้เดินทางปลอดภัย อ้อ ผมไม่ส่งนะ!”

 

หน้าอกของอีกฝ่ายรู้สึกราวกับจุกแน่นขึ้น ทั้งตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธ แต่เขาก็เร่งจากไปทันที

 

ปัจจุบัน ภายในถ้ำทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ คือทีม 5 คนของฉินเฟิง

 

“พวกคุณออกไปก่อน ส่วนเรื่องแบ่งปันรางวัลในการล่าราชันย์จระเข้ เอาไว้ค่อยมาคำนวณกันทีหลัง” ฉินเฟิงกล่าว

 

มองไปยังกองทัพจระเข้มังกรที่แสนดุร้าย แต่กลับเป็นแค่ไก่กาในสายตาของฉินเฟิง ทั้งชิหลง และฮั่นเจียนก็เหมือนจะตระหนักได้ว่าฉินเฟิงต้องการทำอะไร

 

หลิงหวูยี่ไม่คัดค้าน พยักหน้าเห็นด้วย เขาเพิ่งสังหารหวูซือลง ดังนั้นครอบครองตัวเชื่อมมิติอยู่ในมือ เพียงสัมผัสมันก็หายวับไปโดยตรง!

 

ฉินเฟิงมอบอุปกรณ์รูนมิติอีกสองชิ้นให้กับชิหลงและฮั่นเจียน ยืนส่งทั้งสอง

 

เฝ้ารอจนทั้งสองจากไป พลังสมาธิของฉินเฟิงก็แพร่กระจายออกมา ด้วยความสามารถระดับ SS อันทรงประสิทธิภาพ ทำให้การรับรู้ในดวงตาของเขาแทบสามารถกวาดไปทั่วทั้งโพรงถ้ำใต้ดิน

 

หลังจากยืนยันว่าไม่มีมนุษย์หลงเหลืออยู่ ฉินเฟิงก็ถอดกรงเล็บเพลิงสีชาดในมือซ้ายออก กุมมีดกษัตริย์ครามในมือขวาของเขาให้แน่นขึ้น และวูบบบบ! โฉบกายไปข้างหน้าทันใด

 

“เอาแต่ขู่ เอาแต่ไล่อยู่ได้ คราวนี้ไม่มีใครคอยเกะกะแล้ว ถึงทีของฉันบ้างล่ะ!” กำลังภายในของฉินเฟิงพลุ่งพล่านดั่งหม้อเดือด พรั่งพรูออกมาไม่หยุดยัี้ง

 

แม้ก่อนต่อสู้ก่อนหน้านี้ สำหรับคนอื่นๆจะคิดว่าพวกตนตกอยู่ท่ามกลางอันตราย แต่สำหรับฉินเฟิง สถานการณ์นี้ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด!

 

เนื่องจากสังหารผู้ใช้วรยุทธโบราณไปหลายคน ทั้งยังได้ดูดซับกำลังภายในจากอีกฝ่ายมา ปัจจุบันกำลังภายในของฉินเฟิงเลยเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

 

อีกทั้งพลังสมาธิเองก็ทะยานขึ้นไปอีกระดับ

 

ก้าวขึ้นสู่เลเวล E3 !

 

ฉินเฟิงวางแผนจะสังหารจระเข้ทั้งหมด ที่เสนอหน้ากลับมาภายในถ้ำนี้ เอาคืนพวกมันที่ทำให้เขาต้องลำบาก!

 

และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ฉินเฟิงจะสังหารพวกมันทั้งกองทัพในคราวเดียว … ด้วยจำนวนนับหมื่นตัวของพวกมัน น่าจะเพียงพอให้เขายกระดับวรยุทธขึ้นไปอีกขั้น!

 

อย่างที่เคยบอกไป หลังจากขึ้นสู่เลเวล E แล้ว การยกระดับแต่ละขั้นจะยากเย็นเป็นอย่างมาก ดังนั้นมีเพียงการต่อสู้ให้หนักยิ่งกว่าเดิมเท่านั้น ถึงจะสามารถตอบสนองต่อตัวฉินเฟิงเองได้

 

ไม่นาน ฉินเฟิงก็กลับมาถึงโพรงใหญ่ขนาดเท่าสนามฟุตบอล เขาพบว่าจระเข้มังกรยังไม่แยกย้ายกันไป อีกทั้งยังมีศพมนุษย์อยู่บนพื้น ตามร่างกายมีร่องรอยถูกกัดกระชาก ในขณะที่นายพลจระเข้บางตัวนอนกลิ้งไปมาท่ามกลางเลือดของราชันย์จระเข้มังกร ก่อนจะจ้องหน้าระดับนายพลด้วยกันเอง คล้ายคิดหมายเริ่มต้นการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธุ์

 

การต่อสู้ที่จะตัดสินว่าใครจะได้ขึ้นเป็นราชันย์สัตว์ร้ายตัวต่อไป!

 

แต่ช่างน่าเสียดาย ที่ความหวังของพวกมันคงไม่มีทางเป็นจริง

 

“เก็บศพของราชันย์จระเข้ซะ” ฉินเฟิงสั่งคำหนึ่ง

 

ไป๋หลีวาดมือ เคลื่อนย้ายศพของราชันย์จระเข้หายวับ มิอาจมองเห็นได้อีกต่อไป

 

การกระทำดังกล่าว พลอยทำให้นายพลสัตว์ร้ายเห็นไป๋หลี

 

ก๊าซซซซซ!

 

เหล่านายพลสัตว์ร้ายโกรธเกรี้ยว กลับมาสมานฉันท์กันอีกครั้ง สับฝีเท้าตรงเข้ามาหมายจะฉีกกระชากร่างของไป๋หลีออกจากกัน

 

แต่พริบตาเดียว ไป๋หลีก็หายวับไป

 

เฝ้ามองไปยังฝูงจระเข้มังกรที่กำลังสับสน พลังสมาธิของฉินเฟิงถูกเร่งเร้าอย่างบ้าคลั่ง

 

“ประกายแสงแห่งความตาย!”

 

ความมืดมิดพลันปกคลุมไปตลอดทั้งถ้ำในพริบตา

 

มิอาจมองเห็นสิ่งใด ฉากนี้แลคล้ายจู่ๆก็มีดาวเคราะห์สีดำปรากฏออกมา ว่ายวนไปตลอดทั้งถ้ำ ไม่ต่างจากดวงอาทิตย์สีดำสนิท ที่สาดแสงเรืองรอง กลืนกินเหล่าจระเข้สัตว์ร้ายที่กำลังอาละวาด ค่อยๆเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกมันทีละน้อย ทีละน้อย

 

จนท้ายที่สุด ก็ตายกันจนหมด!

 

—กองทัพจระเข้มังกร พินาศสิ้นโดยสมบูรณ์!