2/2

 

Ep.229 – แบ่งสินสงคราม

 

เหล่าจ้าวเข้าสกัดมิโนทอร์ เฉินหยู จางเสี่ยวเฉียงเก็บกวาดมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ฮังอวี่กางปีกการ์กอยล์ บินอ้อมไปด้านหลัง เข้าสังหารมอนสเตอร์ที่โจมตีระยะไกลจำพวกนักธนูหรือนักเวทย์

 

พลังรบของมอนสเตอร์เหล่านี้ไม่อ่อนแอ

 

แต่ตราบใดที่รับมืออย่างระมัดระวัง ด้วยพลังรบของทีมๆนี้ ย่อมสามารถขจัดปัญหาได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยง และไม่นานทุกอย่างก็จบลง

 

“ฮ่ง เจ้านาย เปิ่นหวังเลเวลอัพแล้ว!”

 

ฮัสกี้วิ่งวนเป็นวงกลมอย่างมีความสุข

 

คนอื่นๆเผยท่าทีอิจฉาออกมา การเลเวลอัพของสัตว์วิญญาณนั้นยากกว่ามนุษย์มาก ตอนนี้คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถอัพเลเวล 5 ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ฮัสกี้ของฮังอวี่กลับขึ้นเป็นเลเวล 5 ได้แล้ว

 

หมาเก่งกว่าคนเสียอีก อ๊าาาา~

 

[หมาหวังเอ๋อ] (สัตว์วิญญาณกลายพันธุ์) เลเวล 5 , ชั้นยอดขั้นโกลด์ , ค่าพลังชีวิต 170 , ค่าพลังจิต 340 , อัตราฟื้นฟูพลังชีวิต +0.1 , จิตรับรู้ +2 , แต้มวัฒนาการ 47/140 , แต้มวิญญาณ 2/2600 , สกิล: เสริมการดูดซับ , วิวัฒนาการขั้นสูง , จิตสุนัขเทวะ , คลื่นราชาหมาป่า , ปลุกสัญชาตญาณป่าเถื่อน , ร่างแยกวิญญาณหมาป่า

 

หมาหวังเอ๋อทดลองใช้สกิลร่างแยกวิญญาณหมาป่า

 

เมื่อเปิดใช้งาน มันพบว่านอกเหนือจากตัวเองแล้วยังมีสุนัขอีกสามตัว

 

“ฮ่ง!”

 

“เจ้านาย เจ้านาย!”

 

“ดูเปิ่นหวังสิ!”

 

“เปิ่นหวังมีสมาชิกเพิ่มอีกตัวแล้ว”

 

ฮัสกี้สี่ตัววิ่งวนรอบฮังอวี่

 

ฮังอวี่เกิดอาการปวดหัว ความสามารุของสุนัขแข็งแกร่งขึ้นเป็นเรื่องดีก็จริง แต่การมีฮัสกี้เพิ่มมาอีกตัวหนึ่ง นั่นเท่ากับต้องหนวกหูยิ่งกว่าเดิม

 

“ฉันเห็นแล้ว!”

 

“รีบเก็บพวกมันซะ!”

 

“ไม่อย่างนั้นเย็นนี้ฉันจะชวนทุกคนกินเนื้อหมาย่าง!”

 

ฮังอวี่ตรวจสอบข้อมูลร่างแยกของหวังเอ๋อ

 

เขาพบว่าเดิมทีร่างแยกมีพลังชีวิตและพลังจิตอยู่ที่ 50 หน่วย

 

นอกจากนี้ พลังชีวิตและพลังจิตยังตายตัว

 

กล่าวคือ หากพลังชีวิตหรือพลังจิตลดลงเนื่องจากการโดนดาเมจหรือใช้สกิล พวกมันจะไม่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการรักษาหรือโพชั่น

 

ตอนนี้ร่างแยกสุนัขเลเวล 5 แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย

 

พลังชีวิตและพลังจิตของมันเพิ่มขึ้นอย่างละ 10 หน่วย เป็น 60 หน่วย

 

อย่างไรก็ตาม สกิลปลุกสัญชาตญาณป่าเถื่อนของหวังเอ๋อต้องใช้พลังจิต 75 หน่วย

 

หรือความหมายก็คือร่างแยกสุนัขยังไม่สามารถแปลงร่างได้

 

พลังรบของร่างแยกสุนัขยังไม่แก่กล้า

 

นี่ทำให้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย

 

สกิลของสัตว์วิญญาณโดยทั่วไปแล้วจะเป็นสกิลพรสวรรค์

 

หลังจากเลเวลของหวังเอ๋อเพิ่มขึ้น ความสามารถในการแยกร่างก็จะเพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ความสามารถของสกิลแปลงร่างก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน และนั่นนำมาซึ่งการจ่ายพลังจิตในตอนเปิดใช้งานที่เพิ่มขึ้นตามมา

 

สิ่งนี้นำไปสู่สถานการณ์ที่ว่าร่างแยกของหวังเอ๋อคงไม่สามารถใช้สกิลเปลี่ยนร่างได้ตลอดไป

 

ฮังอวี่เริ่มคิดหาวิธีฝึกหวังเอ๋อ

 

การอัพเลเวลสัตว์วิญญาณนั้นเลเวลยิ่งสูงก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ การอัพเลเวลครั้งต่อไปของมันจำเป็นต้องใช้แต้มวิญญาณจำนวนมาก ดังนั้นเขาคิดว่าอาจเน้นไปทางเพิ่มแต้มวิวัฒนาการของหวังเอ๋อแทน

 

“เอาล่ะๆ”

 

“วันนี้พวกเราเหนื่อยมาตลอดทั้งวันแล้ว”

 

“ถึงยังไม่สามารถโจมตีหอคอยเขตแดน แต่ความคืบหน้าในตอนนี้ถือว่าไม่เลว อย่างน้อยพวกเราก็บุกมาถึงพื้นที่หลักได้”

 

ถึงตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว

 

เขาวงกตตอนกลางคืนมีนักล่าจำนวนมาก

 

การเก็บเกี่ยวในวันนี้ใหญ่พอแล้ว และทุกคนก็ค่อนข้างเหนื่อย ไม่จำเป็นต้องเสี่ยง ดังนั้นเก็บข้าวของและกลับไปยังที่หลบภัยโนมส์กันดีกว่า

 

เวลาที่ทุกคนตั้งตารอคอยกำลังมาถึง

 

เพราะหลังจากนี้คือเวลาแจกจ่ายสินสงคราม

 

หินสกิลมรดกที่ดรอปในครั้งนี้มีมากถึง 5 ก้อน!

 

และในบรรดาสินสงครามที่ได้ในครั้งนี้ ภูติปีศาจการ์กอยล์หินกับโนมส์นักกลั่นทำกำไรได้มากที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม แม้ของที่ริบมาได้จะล้ำค่ามาก แต่ในทีมมีสมาชิกหลายคน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการเลือกของที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง

 

สินสงครามที่เป็นของดีมากๆถูกแจกจ่ายออกไปก่อน

 

จ้าวหมิงเลือกอุปกรณ์คุณภาพสูงสองชิ้นอย่าง ‘เข็ดขัดโนมส์คลั่ง’ และ ‘เสื้อคลุมพลังชีวิตแห่งป่าเขียวขจี’

 

ทั้งสองเป็นอุปกรณ์คุณภาพสูง

 

สำหรับจ้าวหมิงแล้ว การได้สวมใส่พวกมันถือเป็นการพัฒนาอันยอดเยี่ยม

 

หากขึ้นสู่เลเวล 7 เมื่อไหร่ เขาจะสามารถสวมใส่อุปกรณ์ทั้งสองชิ้นนี้

 

ไม่ต้องกล่าวถึงโบนัสการป้องกันที่ไม่อ่อนแอ ในฐานะอุปกรณืสีเขียว แค่ค่าพลังชีวิตเพียงอย่างเดียวก็สูงขึ้นกว่า 18 หน่วยแล้ว ขณะเดียวกัน จ้าวหมิงจะได้รับคุณสมบัติฟื้นฟูพลังชีวิตอัตโนมัติด้วย นี่จะช่วยให้สกิลพรสวรรค์ของเขาทรงพลังไปอีกขั้น

 

เจียงหนานเลือก ‘ขวานแห่งคำอธิษฐาน’ , ‘โพชั่นลับความศักดิ์สิทธิ์ของเอลฟ์แห่งแสง’ และ‘หินสกิลนักบวช : ขับไล่ปีศาจ’

 

ขวานแห่งคำอธิษฐาน เป็นอาวุธมือเดียวสีเขียวเลเวล 7

 

พลังโจมตีของมันไม่ต่ำเลย ทั้งยังมีโอกาส 25% ที่จะเพิ่มการโจมตีศักดิ์สิทธิ์ 10 หน่วย ดาเมจโดยรวมของอาวุธมือเดียวชิ้นนี้ไม่ด้อยไปกว่าอาวุธหอกสองมือของ ฮังอวี่เลย

 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ

 

ขวานเล็กด้ามนี้ช่วยเพิ่มทั้งพละกำลังและคุณสมบัติศักดิ์สิทธิ์

 

สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้เจียงหนานเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ระยะประชิด แต่ยังช่วยให้เอฟเฟกต์สกิลของเจียงหนานเพิ่มขึ้นมาก

 

เรื่องโพชั่นลับกับหินสกิลคงไม่ต้องอธิบายถึง

 

ทั้งสองเป็นสิ่งที่เจียงหนานต้องการ

 

ไม่มีใครสามารถแย่งชิงมันไปจากเธอได้!

 

อีกสามคนก็ได้รับในสิ่งที่ตัวเองพอใจเช่นกัน

 

เฉินหยูได้รับ ‘สร้อยข้อมือภูติปีศาจหินสภาพเก่า’ และ ‘หินสกิลสีเขียวขั้น 2 : ระเบิดสายฟ้า’

 

จางเสี่ยวเฉียงได้รับอาวุธคุณภาพสูง ‘คทาเพลิงผลาญ’ และหินสกิลสีขาว

 

ฉูเทียนหัวไม่มีชุดสีเขียวที่เหมาะกับตัวเอง ดังนั้นเขาเลือกหยิบหินสกิลสีขาวสองก้อน และชุดเซ็ทนักเวทย์การ์กอยหินครบชุด พร้อมชุดเซ็ทนักรบอีกจำนวนหนึ่ง และคัมภีร์สกิลล้ำค่าอีกหลายชิ้น

 

ฉินมู่เลือกเอาสร้อยคอสีเขียวอ่อน ‘สร้อยคอภูติปีศาจหิน’ที่ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณพร้อมกับอุปกรณ์สีขาวคุณภาพสูงอีกหลายชิ้น และส่วนแบ่งส่วนหนึ่งมอบให้เฉินหยู นี่คือเหตุผลที่เธอสามารถครอบครองหินสกิลนักเวทย์สีเขียวได้อย่างง่ายดาย

 

คาดว่านี่คงเป็นข้อตกลงระหว่างทั้งคู่

 

ส่วนของดีที่เหลือ

 

เกือบทั้งหมดตกอยู่ในมือฮังอวี่

 

ฮังอวี่ไม่ได้รับหินสกิลมากนักในครั้งนี้

 

เขาเอาหินสกิลขั้น 2 ‘โจมตีลมกรด’ , สกิลสายผลิตสีเขียว ‘เทคนิคเล่นแร่แปรธาตุขั้นกลาง’ และชุดเซ็ทนักรบการ์กอยล์หิน พร้อมอุปกรณ์สีเขียว ‘หน้ากากโนมส์คลั่ง’

 

นอกเหนือไปจากนี้

 

ฮังอวี่ยังรับไอเท็มเฉพาะสีฟ้าขุ่นอย่าง ‘นกหวีดพ่อค้าลึกลับของซามูเอล’ , ‘โน๊ตของซามูเอล’ , ‘พิมพ์เขียว : ธนูคำสาปหิน’ , ‘สูตรโชั่นมนตราพลรบโอเกอร์’ , ‘มนุษย์หมาป่าไร้ถิ่น’ และ ‘ทหารวิญญาณจำแลง’

 

สิ่งเหล่านี้ล้วนมีค่าสำหรับฮังอวี่

 

นกหวีดพ่อค้าลึกลับเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ชิ้นสำคัญ และไอเท็มชิ้นอื่นๆที่กล่าวมาสามารถช่วยเขาได้มาก

 

สำหรับสูตรโพชั่นมนตราทั้งสาม?

 

ร้านขายโพชั่นของฮังอวี่กำลังจะเปิด

 

หากวัตถุดิบของโพชั่นทั้งสามชนิดนี้สามารถหาได้อย่างสม่ำเสมอ พวกมันจะสร้างมูลค่าได้มากกว่าอุปกรณ์สีเขียวเป็นสิบๆชิ้น

 

สำหรับการแจกจ่ายดังกล่าว

 

ทุกคนพอใจมาก

 

มูลค่าส่วนแบ่งของบางคนมากกว่านิดหน่อย หรือน้อยกว่ากันนิดหน่อยก็จริง

 

แต่นั่นไม่สำคัญ

 

เพราะพวกเขาได้รับของแถมอีกเพียบ

 

ส่วนนกหวีดพ่อค้าลึกลับคุณภาพสูง แม้จะไปตกอยู่ในมือของฮังอวี่

 

แต่ฮังอวี่สัญญาว่าจะใช้นกหวีดนี้ร่วมกับทุกคนเมื่อเข้าสู่โลกวิญญาณในครั้งถัดไป

 

ไร้สาระน่า!

 

ก็ถ้าไม่ใช้ร่วมกัน

 

ฮังอวี่จะสามารถใช้งานมันคนเดียวได้หรอ?

 

การอัญเชิญพ่อค้าลึกลับมีค่าใช้จ่ายตั้ง 5000 แต้มวิญญาณเชียวนะ ฮ๊าาาาา~

 

“ผมจะใช้นกหวีดอัญเชิญพ่อค้าลึกลับนี้พร้อมกับทุกๆคนในครั้งหน้าที่เข้าสู่โลกวิญญาณ”

 

“ขอเวลาเตรียมตัวซักสองสามวัน”

 

“ระหว่างนั้นขอให้ทุกคนพยายามรวบรวมหินคริสตัลมาให้ได้มากที่สุด จะได้สะดวกเวลาแลกเปลี่ยนกับพ่อค้าลึกลับ”

 

ทุกคนพยักหน้า

 

พวกเขารู้สึกว่าฮังอวี่ชอบธรรมมาก

 

แม้เขาจะได้นกหวีดไปครอง แต่ทุกคนยังได้รับอนุญาตให้ใช้งานร่วมกันโดยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม ซึ่งจากคำอธิบายของฮังอวี่ การได้แลกเปลี่ยนกับพ่อค้าลึกลับคือโชคอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ก่อนกลับมาโลกวิญญาณอีกครั้งต้องเตรียมตัวให้พร้อม!

 

สินสงครามที่มีค่ารองลงมาที่เหลือ

 

ฮังอวี่หยิบเอาหินคริสตัลเขียวไป 40 ก้อน และไม่เอาหินคริสตัลขาว

 

ส่วนที่เหลือถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียมกันใน 6 คน

 

สำหรับอุปกรณ์สีขาวชิ้นที่เหลือ ฮังอวี่ไม่เอาพวกมันซักชิ้น แต่เขาขอวัสดุที่ดรอปจากพวกโนมส์แทน

 

ฮังอวี่ได้รับวิธีสร้างเครื่องพ่นไฟของหุ่นรบทหารโนมส์แล้ว เขาตั้งใจจะกลับไปทดลองผลิตมัน ซึ่งถึงเวลาอาจมีประโยชน์มาก