โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.216 – ต่อสู้ชุลมุน

 

ฉินเฟิงยื่นมือออกไปคว้าจับมีดกษัตริย์คราม และความรู้สึกแรกที่เขาสัมผัสได้จากมันคือหนัก!

 

มีดเล่มนี้หนักมากๆ

 

แม้จะหนัก แต่ฉินเฟิงกลับรู้สึกชอบมันมากกว่าแบบเก่า

 

เพราะด้วยพละกำลังในปัจจุบันของเขา มีดที่เบาจนเกินไป มันจะแตกต่างอะไรกับการโบกสะบัดขนนก?

 

แน่นอน ว่าหากปรับแต่งด้วยวัตถุดิบระดับไฮเอนด์แล้ว ผู้ที่มีพละกำลังอ่อนแอคงไม่สามารถใช้มันได้ หรือต่อให้ใช้ได้ คงสูญเสียพลังงานไปอย่างมหาศาล

 

แม้นั่นคือข้อดีของรูบิควิเศษ แต่สำหรับหลายๆคนมันคือข้อเสีย เพราะการที่จะสามารถครอบครองวัตถุดิบสัตว์ร้ายในระดับเดียวกับตนเป็นปริมาณมาก ถือว่ามีอยู่น้อยคนนัก ไม่ต้องกล่าวถึงวัตถุดิบระดับสูง

 

แต่สำหรับฉินเฟิง เรื่องที่กล่าวมาไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

 

เขาครอบครองกำลังภายในมากกว่าคนอื่นหลายเท่า

 

กุมประสิทธิภาพในการต่อสู้และพละกำลังอันน่าทึ่ง

 

ไหนจะพลังสมาธิอันแข็งแกร่ง หลังจากทำสัญญา มีดเล่มนี้เลยราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา เปรียบดั่งแขนขาก็มิปาน

 

นี่คืออำนาจแห่งสัญญา

 

ฉินเฟิงมีความสุขมาก

 

เนื่องจากพลังสมาธิถูกดึงมาใช้ไปกับการปรับแต่งอุปกรณ์รูนของตน เขาจึงไม่ทันตระหนักถึงเวลาที่ล่วงเลยไปในระหว่างนั้น รู้สึกตัวอีกที ฉินเฟิงก็พบว่ามันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

 

ไป๋หลีฝังหัวของเธออยู่ใต้ผ้าห่ม หลับไหลพลางส่งเสียงกรนน่ารักๆออกจากปากน้อยๆ

 

ฉินเฟิงเลิกผ้าห่มขึ้น เผยรอยยิ้มแย้มด้วยความสุข โน้มตัวลงประกบริมฝีปากกับไป๋หลี

 

ทว่าในเวลานั้นเอง กลิ่นอายของผู้ใช้วรยุทธโบราณพลันฟุ้งออกมาจากเบื้องล่างของตัวโรงแรม แรงกดดันของเลเวล E กวาดกระจายไปทั่วทั้งตึก

 

วูซซซซ!

 

เสียงกรีดผ่านอากาศดังขึ้น ฟังดูแล้วน่าจะเป็นเสียงหอนของกระสุนปืนใหญ่

 

ฉินเฟิงแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดถึงเรื่องนี้ เขาอุ้มไป๋หลีและกระโจนออกนอกหน้าต่างทันที

 

ตูม!

 

หัวกระสุนปืนใหญ่จิ้มลง ระเบิดประตูทางเข้าโรงแรมโดยตรง

 

วินาทีต่อมา ตลอดทั้งโรงแรมก็สั่นสะเทือน คล้ายกับว่าจะพังครืนลงมา

 

ฝุ่น , ควัน , เสียงโวยวายสะท้อนไปทั่ว เปลี่ยนโรงแรมสุดหรูให้กลายเป็นนรกบนดิน

 

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ไป๋หลีสะดุ้งตื่น เธอพบว่าตัวเองกำลังถูกอุ้มโดยฉินเฟิง เริ่มหันมองสภาพแวดล้อมโดยรอบ

 

ฉินเฟิงห่อหุ้มพลังสมาธิลงบนร่างตน ควบคุมมันให้ลอยล่องหลบเลี่ยงการปะทะในโรงแรม ร่อนตกลงอีกอาคารหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง

 

ณ เวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างทยอยกันออกมาจากโรงแรม ส่วนผู้ใช้พลังบางคนตัดสินใจกระโดดลงมาจากชั้นสูง

 

เพราะต่อให้ตกลงจากตึกสูง แต่สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล E มันไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาถึงแก่ชีวิต!

 

“เสี่ยวไป๋ รีบแต่งตัวซะ”

 

“อะ – โอ้!”

 

เพื่อความสะดวกสบาย หลังจากกลับเข้าห้อง ไป๋หลีเลยกลับไปสวมแค่ชุดว่ายน้ำ คลุมทับด้วยปีกของนางพญามดทอง ระหว่างที่เธอกำลังจะเปลี่ยนเสื้อ ฉินเฟิงก็เร่งสะบัดผ้าห่มที่ติดมือมาตอนกระโจนออกจากโรงแรม วนรอบตัวไป๋หลี ให้ผ้าห่มทำหน้าที่เป็นฉากกั้น บดบังมิให้ทัศนียภาพดีๆเหล่านี้ตกอยู่ภายใต้สายตาของคนอื่นๆ

 

ไม่นาน หลิงหวูยี่ในสภาพกางเกงขาสั้นลายดอกไม้ก็เดินออกมาจากโรงแรม กวาดพลังสมาธิ จนพบตำแหน่งของฉินเฟิงและไป๋หลี จึงกระโดดขึ้นตามไปบนตึก

 

ชิหลงกับฮั่นเจียนก็ออกมาแล้วเช่นกัน แต่ทั้งสองมิใช่ผู้ใช้อบิลิตี้ ดังนั้นการค้นหาจึงไม่สะดวกเหมือนฉินเฟิงกับหลิงหวูยี่ แต่หากเป็นเรื่องไต่กำแพงไม่นับว่าเป็นปัญหาใดๆ

 

ฉินเฟิงส่งเสียงที่ห่อหุ้มกำลังภายในออกไป บอกตำแหน่งของตนให้แก่พวกเขา ไม่นาน ทั้งหมดก็มาสมทบกับบนยอดตึกอีกแห่งหนึ่ง

 

โรงแรมสุดหรูบัดนี้ตกอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ แปรสภาพเป็นซากปรักหักพัง สามารถมองเห็นร่างเงากระพริบไหวไปมาได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ทราบถึงสถานการณ์ต่อสู้ภายใน

 

ชิหลงกับฮั่นเจียนไม่ได้นอนพักผ่อนอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายของพกเขายังคงสวมชุดต่อสู้ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์รูนแนบติดตัว เมื่อเห็นถึงสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขาก็ตกใจไม่น้อย

 

“ฉินเฟิง เป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ” ชิหลงกล่าว

 

“ว่าแต่พวกเราจะเอายังไงดี จะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยรึเปล่า?”

 

“แน่นอนว่าไม่”

 

สถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างชุลมุนมาก เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยหากคิดจะเข้าร่วม ควรกระทำตนดั่งสุภาษิต ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นคอยอยู่ด้านหลัง –พวกเขาควรเฝ้ารออยู่เงียบๆ รอคอยโอกาสที่เหมาะสมจะดีกว่า

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมควรเชื่อฉินเฟิงที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

หลังจากตั๋วทั้งสิบถูกขายออกไป อุปกรณ์มิติที่สามารถส่งผู้คนตรงไปยังสถานที่แห่งนั้นจึงถูกเก็บไว้ในห้องนิรภัยของโรงแรม ทั้งยังมีระบบป้องกันภัยระดับสูง แต่สุดท้ายก็ถูกลอบโจมตีอย่างกระทันหัน

 

คนของเหล่าองค์กรมืดเริ่มเคลื่อนไหวท่ามกลางความมืดมิด ทุกอย่างฉุกละหุก คนที่คอยดูแลห้องนิรภัยจึงไม่สามารถต้านทานได้ เกิดความอลหม่านขึ้น และอาศัยความวุ่นวายนี่เอง ที่ทำให้องค์กรมืดสามารถบุกเข้าไปในห้องนิรภัยที่มีการป้องกันหนาแน่นได้

 

“บังอาจ! นี่พวกแกไม่เห็นกลุ่มหวันซ่งของฉันอยู่ในสายตาเลยรึไง!” เสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังขึ้น ร่างสูงใหญ่ก้าวออกมาข้างหน้าท่ามกลางฝูงชน อีกทั้งเขายังทรงพลังเป็นอย่างมาก

 

บนยอดตึก เมื่อฉินเฟิงและคนอื่นๆเห็นชายคนนี้ พวกเขาก็ต้องประหลาดใจ

 

“นั่นปาหันไม่ใช่หรือ? ผู้จัดการประจำสามเฉิง ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล E7!” ฮั่นเจียนเข้าร่วมงานประมูลทุกปี เลยเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้จักกับระดับสูงของกลุ่มหวันซ่ง

 

ในเวลานั้นเอง เสียงหัวเราะคิกคักก็ดังออกมาจากท่ามกลางความมืดมิด

 

“มิสเตอร์ปา ทำไมถึงส่งเสียงดังน่ารำคาญแบบนั้นล่ะ? ในเมื่ออุปกรณ์ช่องว่างมิติไม่ใช่ของกลุ่มหวันซ่งอีกแล้ว โปรดคิดให้ดี แข็งขืนไปใช่ว่าท่านจะได้อะไร ทำไมไม่ปล่อยให้พวกเราเพลิดเพลินไปกับมันสักเล็กน้อยล่ะ ถ้ายินยอม ทางเราเองก็จะปล่อยท่านจากไปอย่างมีความสุขเช่นกัน ”

 

ระหว่างเปล่งวาจา น้ำเสียงที่แฝงออกมาสัมผัสได้ถึงความเย้ายวน แต่ไม่มีใครกล้าที่จะหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนี้

 

“ระวังตัวให้ดี เธอคือหมาป่าสาว(หลางนู่) เก่งกาจในด้านการลอบสังหาร มีผู้คนมากมายตกตายลงภายใต้เงื้อมมือเธอ และคาดว่าน่าจะเกิดจากพิษ!” ชิหลงกล่าว หมาป่าสาวมักจะออกปฏิบัติการอยู่รอบๆฟูเฉิง ฉะนั้นเขาเลยค่อนข้างรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเธอ

 

“ใช้พิษงั้นหรือ?” หลิงหวูยี่เกิดความสนใจเล็กน้อย

 

สนามรบกำลังระส่ำ โกลาหลยุ่งเหยิง 3 – 5คนต่อสู้ติดพันกับปาหัน ในขณะที่คนอื่นๆพยายามถล่มโจมตี และบุกเข้าไปในห้องนิรภัย แต่น่าเสียดายที่คนเหล่านั้นไม่พบตัวเชื่อมต่อมิติ

 

“มีร่องรอยว่าบางอย่างเพิ่งถูกเคลื่อนย้ายออกไป! รีบค้นหาเร็วเข้า!”

 

“ทำการสแกนหาความผันผวนของกระแสมิติ!”

 

“ทางนั้น!

 

สิ่งที่เรียกกันว่าตัวเชื่อมต่อมิติ คือสิ่งที่ถูกสร้างจากรูนมิติ จึงแตกต่างไปจากอุปกรณ์รูนมิติอื่นๆ

 

ทั้งยังสามารถสแกนหาตำแหน่งได้ง่ายๆ เนื่องจากมันแตกต่างไปจากอุปกรณ์รูนมิติอันอื่นๆ

 

โดยเฉพาะรถล่องเวหาบางรุ่นที่มีฟังก์ชั่นนี้

 

“พวกเราก็เริ่มกันเถอะ”

 

ฉินเฟิงมองไปยังกลุ่มองค์กรมืดที่เริ่มขึ้นรถศึก ขับไล่ติดตามเป้าหมาย ตนก็นำคนรอบกายลงมาข้างล่าง เรียกรถลิมูซีนออกมา และให้ทั้งหมดเข้าไป

 

เรื่องนี้ต้องขอบคุณชิหลง มิฉะนั้นรถของฉินเฟิงคงไม่มีที่นั่งมากถึงขนาดนี้

 

“ดูเหมือนว่าพวกองค์กรมืดจะไล่ตามรถศึกคันหนึ่ง” ชิหลงกล่าวพลางใช้งานอุปกรณ์ตรวจสอบภายในรถ และสามารถระบุตำแหน่งรถศึกที่ถูกไล่ล่าได้อย่างรวดเร็ว

 

ทางฝั่งองค์กรมืด พวกเขาไล่ล่าและพยายามหยุดรถ มือปืนคนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากซันรูฟของรถล่องเวหา ทำการติดตั้งปืนใหญ่และ–

 

–วูซซซ!

 

เสียงกระสุนดังขึ้นอีกครั้ง

 

ณ เวลานี้ รถศึกที่ขับหนีไกลออกไปก็ไม่หยุดรอความตายอยู่นิ่งๆเช่นกัน

 

“สะท้อนกลับ!”

 

วินาทีต่อมา กระสุนพลันถูกสกัดกั้นกลางอากาศ

 

พลังสมาธิของมือปืนพลุ่งพล่าน ต่อต้านซึ่งกันและกัน สุดท้ายกระสุนปืนใหญ่ระเบิดขึ้นกลางอากาศ

 

ฉากนี้ส่งผลให้รถหลายคันที่ไล่ตามหลังมา ทั้งหมดจมอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิงจากการระเบิดของกระสุน

 

แต่เห็นได้ชัดว่าเพียงเท่านี้ไม่อาจหยุดยั้งพวกเขาได้ ตรงกันข้ามกลับเดือดดาลยิ่งขึ้น เหตุการณ์ลุกลามทำลายความสงบสุขยามค่ำคืนของเมืองไห่

 

รถศึกวิ่งอย่างดุเดือดบนท้องถนน ส่งเสียงสนั่นปลุกชาวเมืองให้รู้ว่ากำลังมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!

 

รถศึกหลายคันขับเข้ามาสนับสนุนรถคันข้างหน้า แต่ทั้งหมดก็ถูกกำจัดโดยองค์กรมืดอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีรถศึกที่ไม่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากเข้าร่วมด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือรถของฉินเฟิง ที่เหลือก็คือรถของพวกที่ไม่มีตั๋ว และคนที่ต้องการเข้ามารับส่วนแบ่งเค้กชิ้นนี้

 

ความดุเดือดคล้ายยิ่งมายิ่งปะทุโหมขึ้นเรื่อยๆ

 

“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! ”

 

เสียงแจ้งเตือนประจำเมืองดังขึ้น ตามมาด้วยดังสนั่น

 

“ทุกคนจงหยุดก่อความวุ่นวายให้แก่บิดา!

 

นายพลหน่วยลาดตระเวนเมืองไห่คำรามก้อง เสียงนี้กังวานไปยังฝูงชนที่กำลังแข่งรถชุลมุน —การที่คนเหล่านี้ก่อความวุ่นวายกันในเมืองไห่ นับว่าเป็นการดูหมิ่นเขาอย่างแท้จริง!