2/3

 

Ep.199 – ถึงเวลาแสดงพลังที่แท้จริง

 

ฮังอวี่เหลือบมองไปรอบๆ สำรวจสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว

 

พืชพรรณที่นี่มีความหนาแน่นสูง ต้นไม้สูงตระหง่าน เถาวัลย์พันเป็นเกลียว หญ้าเขียวชอุ่ม เห็ด มอส และพืชร้อนชื้นอีกมากมายงอกเงยเต็มไปหมด เปลี่ยนภูมิทัศน์ดั้งเดิมให้กลายเป็นป่าฝนเขตร้อน

 

ให้ตายเถอะ

 

นี่มันอะไรกัน!

 

นี่ยังใช่ เจียงซินโจวอยู่จริงๆใช่ไหม?

 

นี่นี่คือเกาะกลางน้ำใจกลางเมืองเจียงเฉิงอยู่จริงๆน่ะหรือ?

 

ภาพตรงหน้า มันให้ความรู้สึกเหมือนเกาะบนทะเลทรายเขตร้อนยังไงยังงั้น!

 

หัวเล็กๆโผล่ออกมาจากด้านในเสื้อคลุม “พี่ชายไม่เป็นไรใช่ไหม?”

 

“ไม่เป็นไร แรงปะทะระดับนี้ไม่ถึงกับเป็นภัยคุกคาม” ฮังอวี่กระซิบบอกเธอ “ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่เธอจะแสดงตัว ซ่อนต่อไป รอฟังคำสั่งจากฉัน”

 

“ตกลง”

 

เสี่ยวไป๋มุดกลับเข้าเสื้ออย่างเชื่อฟัง

 

ฮังอวี่ตะโกนไปยังซากปรักหักพังที่กำลังลุกไหม้ “เฮ้ มีใครรอดบ้าง!”

 

เอี๊ยดดดดด

 

เศษซากปรักหักพังถูกผลักออก

 

หวงเหยียนคลานออกมาในสภาพหัวฟู ใบหน้าสกปรกมอมแมม

 

ซุนเฉาเซิ่ง เหลียงตง เหลียงชิว และจีเหวินก็ลุกขึ้นตามเช่นกัน

 

ร่างกายของฮังอวี่แข็งแกร่งและมีค่าตคุณสมบัติที่สูงมาก โดยพื้นฐานแล้วไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

 

ส่วนเลเวล 5 อย่างซุนเฉาเซิ่ง และเลเวล 4 อย่างพวกหวงเหยียน เหลียงตง เหลียงชิว ทุกคนล้วนสวมใส่อุปกรณ์ค่อนข้างดี ดังนั้นมีบาดแผลตื้นๆเท่านั้น

 

แต่จีเหวินมีเลเวลต่ำสุดในทีม ร่างกายค่อนข้างเปราะบาง เลยถูกแทงด้วยเศษเหล็กแหลมสองชิ้น อาการบาดเจ็บดูร้ายแรง แต่ก็ยังห่างไกลจากความตาย

 

ทุกคนช่วยกันดึงเศษเหล็กออก

 

และให้เธอใช้สกิลรักษาบาดแผลขั้นต้น

 

อาการบาดเจ็บหายเป็นปลิดทิ้ง

 

ทั้งหกกลับมาในสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง

 

“ผมอยากรู้จริงๆว่าทำไมต้องเอาเฮลิตคอปเตอร์บุกเข้ามาด้วย? เจ้านี่มันเสียงดังมากไม่ใช่หรอ ตามแผนคือพวกเราต้องตลบหลังมนุษย์ปลา ไม่ใช่ให้มนุษย์ปลามาตลบหลังพวกเรา! ” ฮังอวี่อดบ่นไม่ได้ “ตกลงพวกเรามาดักหลังศัตรู หรือเป็นเหยื่อล่อกลางอากาศเพื่อดึงดูดกำลังหลักของศัตรูให้มาหากันแน่?”

 

หวงเหยียนยิ้มกระอักกระอ่วน

 

ก็เขาไม่คิดว่าจะถูกโจมตีนี่

 

“มาพูดตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว อย่างน้อยพวกเราก็เข้ามาข้างในได้สำเร็จ”

 

“ตราบใดที่พวกเราพบกับทีมอื่นๆที่ถูกส่งมาเหมือนกัน ก็สามารถเริ่มปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ได้”

 

“เสียงเอะอะเมื่อกี้ดังเกินไป” ฮังอวี่ผายมือ “แถมรอบๆนี้ยังเต็มไปด้วยพวกมนุษย์ปลา น่ากลัวว่าก่อนเราจะได้เจอกับทีมอื่น คงถูกพวกมันจับกลายเป็นอาหารเย็นซะก่อน”

 

การลอบแทรกซึมล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด

 

“การบุกโจมตีจากภายนอกเริ่มขึ้นแล้ว พวกมันส่วนใหญ่คงให้ความสนใจในทิศทางนั้น หน้าที่ของพวกเราคือถลุงมันจากด้านหลัง!” บุคลิกของซุนเฉาเซิ่งนั้นเลือดร้อน เขาไม่สามารถทนคำก่นด่าจากคนนอกได้ “ขยะมนุษย์ปลาพวกนี้ปล่อยให้ฉันจัดการเอง ถ้าใครรู้สึกกลัวก็หดหัวอยู่ข้างหลังซะ! ”

 

เข้าใจไว้ซะเจ้าหนู

 

เป็นแค่คนนอก อย่าบังอาจมาพูดจาไม่สมควรในสถานการณ์แบบนี้!

 

เหลียงชิวรีบแก้สถานการณ์ “อันดับแรก สิ่งสำคัญที่สุดคือติดต่อหาทีมอื่นๆและสำนักงานใหญ่”

 

“อุปกรณ์สื่อสารไร้สายได้รับความเสียหาย” ฮังอวี่หยิบมือถือขึ้นมา และพยายามติดต่อผ่านมือถือแทน แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ดูเหมือนว่ามือถือก็มีปัญหาเหมือนกัน ผมโทรออกไม่ได้”

 

นับตั้งแต่มือถือของมนุษย์ทุกคนถูกดัดแปลงโดยเจ้าของเสียงอันน่าเกรงขาม

 

ไม่ต้องพูดถึงการสื่อสารระหว่างโลกจริง

 

กระทั่งการสื่อสารข้ามโลกไปยังโลกวิญญาณก็ยังสามารถทำได้

 

แต่แน่นอน ว่าพลังงานวิญญาณบางครั้งก็ไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง

 

ในเวลานี้ พลังงานวิญญาณอาจถูกคลื่นบางอย่างรบกวน และต้นเหตุคาดว่ามาจากหมอกพวกนี้

 

“พวกเรานัดหมายกับทีมอื่นๆว่าจะไปพบกันที่หมู่บ้านเจียงซิน พื้นที่โดยรวมของเจียงซินโจวนั้นไม่ใหญ่มากมายอะไร ถึงจะติดต่อกันไม่ได้ แต่พวกเราก็สามาถรไปรวมตัวกันที่หมู่บ้านเจียงซินได้!” หวงเหยียนกล่าวทันที “อาศัยจังหวะที่พวกมนุษย์ปลายังไม่ปิดล้อม หาเวลาลงมือซะ! ”

 

“รับทราบ!”

 

ซุนเฉาเซิ่ง เหลียงชิว เหลียงตง จีเหวินตอบพร้อมกัน

 

ทั้งหกกันกระจายประจำตำแหน่งในทีม มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเจียงซิน

 

หมอกในเจียงซินโจวหนาแน่นยิ่งกว่าริมฝั่งแม่น้ำหลายเท่า

 

คนธรรมดาห่างออกไปห้าเมตร ก็ยากจะแยกแยะได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

 

ห่างออกไปสิบเมตร แทบแยกไม่ออกแล้วว่าเป็นคนหรือมอนสเตอร์ นี่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากคนตาบอดมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่สังเกตว่าเขาสามารถแยกแยะวัตถุที่อยู่ห่างจากตัวสิบเมตรได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเลเวลและค่าคุณสมบัติจิตรับรู้ที่สูงกว่าคนอื่นๆ

 

หมอกเหล่านี้ไม่ใช่หมอกธรรมดา

 

แท้จริงแล้วมันคือเอฟเฟกต์ที่เกิดจากพลังงานวิญญาณ

 

ตอนที่ฮังอวี่และหวังเอ๋อสำรวจเขาวงกตด้วยกัน พวกเขาได้รับโสมตาแมวมา และมันช่วยเพิ่มจิตรับรู้ได้ บวกกับเลเวลที่มาถึง 6 ละอองหมอกพวกนี้จึงรบกวนเขาน้อยกว่าคนอื่นๆ

 

“ระวังด้วย!”

 

“มีการซุ่มโจมตี!”

 

ฮังอวี่สังเกตเห็นสองสามร่างกำลังทำลับๆล่อๆ

 

แม้จะเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ยังพอแยกแยะได้ หนึ่งในนั่นคือมนุษย์ปลานักล่า และสามสี่ตัวที่เหลือคือพลรบระดับต่ำของมนุษย์ปลา

 

มนุษย์ปลานักล่าเป็นชนชั้นยอดชั้นบรอนซ์เลเวล 4

 

พลรบระดับต่ำของมนุษย์ปลาเป็นมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 4

 

ชาวมนุษย์ปลาเหล่านี้ พลังรบมากกว่ามนุษย์ปลาที่เคยปรากฏตามถนนเลียบแม่น้ำมาก

 

มนุษย์ปลานักล่าที่ฮังอวี่เคยพบ ตอนนั้นมันมีเลเวลแค่ 3 และเขาไม่เคยเจอมอนสเตอร์เช่น พลรบมนุษย์ปลาระดับต่ำ เจอแค่มนุษย์ปลาคนรับใช้เลเวล 1 2 เท่านั้น

 

ซุนเฉาเซิ่งอาสาออกโรง

 

“ถึงจะยุ่งยากนิดหน่อย”

 

“แต่ก็ยังจัดการได้”

 

“ปลาซิวปลาสร้อยพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง!”

 

ระหว่างกล่าวคำ ซุนเฉาเซิ่งปลดปล่อยสกิลออกมา รังสีแสงเข้าปกคลุมทั่วตัวเขา ร่างกายยืดสูงขึ้น กำยำขึ้น และขนดำเริ่มงอกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากมนุษย์ที่เดิมสูง 180 เซนติเมตร เวลานี้เขากลายเป็นลิงตัวโตขนตำที่สูงถึง 223 เซนติเมตร อีกทั้งยังเป็นลิงที่สวมใส่อุปกรณ์ครบชุด

 

ให้ตายเถอะ

 

นี่มันกอรริลลาชัดๆ

 

ฮังอวี่รู้สึกว่าสกิลนี้เหมาะสมกับชายที่ชื่อซุนเฉาเซิ่งมาก!

 

“อย่าประมาท!” หวงเหยียนรู้ดีว่าซุนเฉาเซิ่งแข็งแกร่งเพียงใด ดังนั้นไม่ปฏิเสธคำขอต่อสู้ แต่หันไปสั่งการคนอื่นๆแทน “เหลียงชิว เหลียงตง ทั้งสองคนช่วยสนับสนุนเขา”

 

หวงเหยียนไม่รอช้า เปิดใช้งานสกิลพรสวรรค์บทกวีสู่สงคราม!

 

ทุกคนได้รับบัฟเพิ่มค่าคุณสมบัติทั้งหมดขึ้นอย่างละ 2 3 หน่วย

 

“ฆ่า!”

 

กอริลล่าซุนเฉาเซิ่งวิ่งออกไปพร้อมขวานรบในมือทั้งสองข้าง

 

เขาเป็นหน้าใหม่ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมได้ไม่นานหลังจากเข้าร่วมสกายเน็ต

 

ด้วยเหตุนี้ ซุนเฉาเซิ่งจึงกระตือรือร้นที่จะแสดงฝีมือของตัวเอง เพื่อสร้างเครดิตและยึดบัลลังก์หัวหน้าทีมในปัจจุบันให้มั่นคง ขณะเดียวกัน ถือเป็นการแสดงให้หัวหน้าทีมคนอื่นๆรวมไปถึงเจ้าคนนอกได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของเขา

 

หวือ หวืออ!

 

มนุษย์ปลานักล่าขว้างหอกก้างปลาสองด้ามสวนกลับมา

 

เหลียงตงเปิดใช้งานสกิลพรสวรรค์ของเขาที่ใช้สำหรับป้องกันทันที โล่แสงทรงกลมปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา มันปลดปล่อยแรงฉุดอันทรงพลังบางอย่าง เข้าครอบคลุมหอกก้างปลา เปลี่ยนทิศทางมัน เคลื่อนข้ามร่างซุนเฉาเซิ่งอย่างรวดเร็ว ตรงมาทางเหลียงตง

 

เคร้ง เคร้ง!

 

หอกก้างปลาสองด้ามกระทบโล่แสง แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

สกิลนี้ของเหลียงตง ฮังอวี่เคยเห็นมาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม พลังรบของเหลียงตงไม่เหมือนในครั้งนั้นอีกต่อไป เอฟเฟกต์ในการป้องกันของโล่แสงแข็งแกร่งขึ้น แม้สกิลของเขาจะไม่สามารถปกป้องได้ทั้งร่างกายเหมือนเกราะศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวหมิง แต่เอฟเฟกต์ป้องกันเชิงพื้นที่นั้นสูงกว่าจ้าวหมิงเล็กน้อย

 

นอกจากนี้ โล่แสงยังมีความสามารถในการดึงดูด

 

มันสามารถบังคับเวทมนตร์หรือลูกศรจากระยะไกลให้เปลี่ยนวิถีได้

 

ดังนั้น เมื่อนำไปใช้ในการต่อสู้แบบทีม มันจะยิ่งดึงดูดการโจมตีของศัตรูได้ดีขึ้น!

 

ภายใต้การปกป้องจากเหลียงตง

 

ซุนเฉาเซิ่งปรี่เข้าหา มนุษย์ปลาดั่งวัวคลั่ง

 

เหลียงชิวขว้างสกิล ‘น้ำค้างเยือกแข็ง’ ออกไป

 

มนุษย์ปลาหลายตัวถูกน้ำค้างเข้าห่อหุ้ม ร่างของพวกมันเริ่มแข็งทื่อ ความเร็วเชื่องช้าลง และได้รับดาเมจอย่างต่อเนื่อง

 

เธอโบกคทาในมือ ขว้างบอลน้ำแข็งก้อนใหญ่ระเบิดกลางกลุ่มมนุษย์ปลา เศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วนทิ่มแทงร่างของพวกมันราวห่าระสุน สร้างดาเมจต่อเนื่อง

 

“ไปลงนรกซะ!”

 

ซุนเฉาเซิ่งเปรียบดั่งกอริลล่าคลั่ง

 

แม้สกิลพรสวรรค์ของเขาจะค่อนข้างประหลาด แต่เอฟเฟกต์ที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติกลับแข็งแกร่งมาก

 

พลรบมนุษย์ปลาหลายตัวถูกขวานตัดเป็นชิ้นๆ ตัวที่ยังรอดปลิวออกไป 5-6 เมตร แต่ก็ถูกสกิลกระโดดสับไล่โจมตี แขนของมนุษย์ปลานักล่าที่เป็นชนชั้นยอดขาดกระเด็น

 

แม้ซุนเฉาเซิ่งจะถูกโจมตีหลายครั้งระหว่างกระบวนการนี้

 

แต่หลังจากเปลี่ยนร่าง พลังป้องกันของเขาเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเป็นอย่างมาก การโจมตีจากพลรบมนุษย์ปลาธรรมดาสามารถเฉือนได้แค่ขนของเขาเท่านั้น ดาเมจที่เกิดขึ้นสามารถกล่าวได้ว่ามีจำกัด และมันไม่เพียงพอที่จะสร้างภัยคุกคาม

 

ซุนเฉาเซิ่งพัวพันกับมนุษย์ปลานักล่าห้าถึงหกกระบวนท่า

 

ในที่สุดคมขวานก็สามารถเฉือนผ่านลำคอของมนุษย์ปลานักล่าได้สำเร็จ

 

ด้วยความร่วมมือของหัวหน้าทีมสกายเน็ตหลายคน มนุษย์ปลาเหล่านี้ถูกกำจัดลงอย่างง่ายดาย

 

หวงเหยียนและฮังอวี่ไม่มีความจำเป็นต้องช่วยลงมือเลย

 

“เป็นยังไงบ้าง?” หวงเหยียนเอ่ยถาม “ถึงสมองของซุนเฉาเซิ่งจะมีปัญหา แต่พลังรบของเขาจัดได้ว่าร้ายกาจ!”

 

ฮังอวี่พยักหน้าเล็กน้อย “ก็พอใช้ได้”

 

หมายความว่ายังไง ก็พอใช้ได้?

 

ในกองพลน้อยที่หนึ่งแห่งสกายเน็ต พลังรบของซุนเฉาเซิ่งจัดอยู่ในห้าอันดับแรก และเขาไม่ได้อยู่รั้งท้ายในอันดับที่ 5 ด้วย

 

หากไม่ใช่เพราะความสามารถในการต่อสู้และศักยภาพที่สูง หัวหน้ากองลั่วคงไม่สนใจเขาเป็นพิเศษ และมอบตำแหน่งหัวหน้าทีมสิบที่เจ้าของคนก่อนพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ให้

 

ทั้งหกคนไม่มีเวลาถอนหายใจโล่งอก

 

ในตอนนั้นเอง เสียงลมหวิวพัดมาจากทุกทิศทาง

 

หอกก้างปลาด้ามแล้วด้ามเล่าขว้างมาจากทิศทางที่แตกต่างกัน

 

ซุนเฉาเซิ่งเป็นคนแรกได้รับการโจมตีนี้ เขาถูกหอกก้างปลาแทง 3 ด้าม ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย “ไม่ได้การ! ยังมีพวกมอนสเตอร์อยู่แถวนี้อีก ดูท่าพวกเราจะถูกล้อมแล้ว!”

 

เหลียงตงถอยกลับมาข้างน้องสาวเขา

 

โล่แสงเมื่อสกัดกั้นหอกก้างปลาสองสามด้าม มันก็เริ่มหมองลง

 

หวงเหยียนรับหน้าที่ปกป้องผู้รักษาที่อ่อนแอที่สุด ถูกหอกก้างปลาแทงใส่เช่นกัน

 

เวรเอ๊ย

 

เหมือนพวกมันจะมาทางทุกทิศทางเลย!

 

จากการสันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่ามีมนุษย์ปลานักล่าประมาณ 5-6 ตน

 

และพวกพลรบมนุษย์ปลาคาดว่าคงมีมากกว่านี้ 3-4 เท่า!

 

“ทุกคนกลับมารวมตัวก่อน!”

 

“ต้องรีบหาทางฝ่าวงล้อม!”

 

ซุนเฉาเซิ่ง เหลียงชิว เหลียงจง มารวมตัวกัน

 

เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงเต็มไปด้วยหมอกหนา พวกเขาจึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าทิศทางใดจึงจะเหมามะสมกับการฝ่าวงล้อม

 

ฮังอวี่จำต้องลงมือเคลื่อนไหว

 

เขาหลับตาลงอย่างสงบ เปิดใช้งานสกิลตรวจสอบ : เทคนิคตาเหยี่ยว!

 

ขอบเขตการมองเห็นจากบนลงล่างถูกครอบคลุมทันที ความสามารถในการตรวจจับอันทรงพลังสามารถทะลุหมอกหนาได้ ทำให้เขามองเห็นสภาพแวดล้อมใกล้เคียงชัดเจน และสามารถระบุตำแหน่งของมนุษย์ปลาแต่ละกลุ่มได้

 

ปรากฏว่ามีมนุษย์ปลานักล่าอยู่ 7 ตัว

 

มีพลรบมนุษย์ปลาอยู่ประมาณ 30 ตัว

 

และพวกมันกำลังใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมอย่างเต็มที่

 

ด้วยความได้เปรียบที่มี พวกมันมีพลังมากพอที่จะสังหารทีมชั้นยอดของสกายเน็ตทั้งหมด!

 

ฮังอวี่เอ่ยว่า “หวงเหยียน พวกคุณถอยกลับไป เดี๋ยวผมจัดการพวกมันเอง”

 

หัวหน้าทีมสกายเน็ตต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจ

 

ตัดสินจากสถานการณ์ในปัจจุบัน จะต้องมีมนุษย์ปลากลุ่มใหญ่ แลพวกนักล่าชั้นยอดไม่น้อยกว่า 5-6 ตัว

 

แล้วแบบนี้เขาจะสามารถจัดการเพียงลำพังได้หรือ?

 

หวงเหยียนตะโกน “เชื่อฟังเขา! พวกเราถอย!”

 

ฮังอวี่เปิดใช้งานเทคนิคล่องหน แยกตัวออกจากทีมทันที

 

ซุนเฉาเซิ่งและจีเหวินดูสับสน : อย่าบอกนะว่าชายคนนี้ตั้งใจจะไล่ฆ่าพวกมันทั้งหมดคนเดียวจริงๆ?

 

ต่อให้มนุษย์ปลาบริเวณนี้จะแยกกันอยู่คนละจุด แต่จุดนึงคาดว่าน่าจะมีหลายตัว แล้วแบบนี้ฮังอวี่จะรับมือพวกมันได้หรอ?

 

หวืออออ!

 

หอกยาวที่รอบๆลั่นไปด้วยกระแสสายฟ้าปรากฏขึ้นในมือเขา

 

ฮังอวี่นำหอกประกายแสงออกจากโลกวิญญาณ

 

แม้เจ้าสิ่งนี้ต้องจ่ายเป็นเงินมากกว่า 10 หินคริสตัลเขียว ทว่าอาวุธชิ้นนี้สามารถใช้ได้อีกนาน และมันเหมาะที่สุดที่จะใช้รับมือกับพวกมนุษย์ปลาในตอนนี้!

 

เสี่ยวไป๋โผล่หัวออกมาอีกครั้ง “พี่ชายอยากให้เสี่ยวไป๋ช่วยไหม?”

 

ฮังอวี่ยิ้มเล็กน้อย “ไม่ ฉันจัดการได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเธอลงมือ”

 

ยกเว้นเกราะไหล่และชุดเซ็ทเครื่องประดับสีเขียวที่ยังไม่ได้นำออกมา

 

อุปกรณ์สวมใส่ในตอนนี้ของฮังอวี่ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เขาอยู่ในโลกวิญญาณ!

 

ประสิทธิภาพของการต่อสู้ในปัจจุบันของฮังอวี่ ไม่ใช่สิ่งที่เหล่าหัวหน้าทีมสกายเน็ตจะจินตนาการได้!

 

แม้ตามปกติฮังอวี่ค่อนข้างทำตัวติดดิน แต่เมื่อถึงเวลาสู้ เขาไม่มีวันออมมือ และตอนนี้ถึงเวลาสำแดงพลังที่แท้จริงของเขาแล้ว!

 

สำหรับฮังเสี่ยวไป๋ เธอคืออาวุธลับที่ดีที่สุดของฮังอวี่

 

หากในเจียงซินโจวมีมนุษย์ปลาที่มีสติปัญญาระดับสูงอยู่จริงๆ เสี่ยวไป๋คือกุญแจสำคัญในการถ่วงดุลอำนาจของมัน ตอนนี้จึงยังไม่ใช่เวลานำเธออกมาใช้งาน