2/3

 

Ep.153 – พลังรบของผู้บัญชาการฮัง

 

ถนนเข้าสู่ค่ายมนุษย์หมูป่าแคบมาก มีพื้นที่พอให้คนสามคนยืนเรียงกันผ่านเข้าไปเท่านั้น และถัดไปราวๆ 40 – 50 เมตร จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อไปถึงตำแหน่งนั้นแล้ว จำเป็นต้องระวังตัวให้มาก

 

ค่ายมนุษย์หมูป่าจะอยู่ห่างออกไปราวๆ 300 – 400 เมตร และไม่มีต้นไม้ใดขวางกั้น

 

เมื่อกองทัพมนุษย์เดินเข้าไปถึงจุดนั้น จะถูกพบตัวได้ง่ายมาก

 

ฮังอวี่สั่งให้ทุกคนหยุด “พวกคุณมีความเห็นว่ายังไง?”

 

“ฉันคิดว่าพวกเราเสียเปรียบมาก” ฉูเทียนหัวให้ข้อสรุปและอธิบาย “ดูนั่นสิ ภูมิประเทศฝั่งค่ายมนุษย์หมูป่าอยู่สูง ขณะที่พวกเราอยู่ในตำแหน่งต่ำ รอบๆค่ายก็เป็นผาลาดชัน ทำให้มีแค่ต้องฝืนทำลายประตูเท่านั้นถึงจะบุกเข้าค่ายได้ ”

 

จ้าวหมิง เฉินหยู และคนอื่นๆต่างขมวดคิ้ว

ฉูเทียนหัวคือเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษระดับสูง

 

ข้อเท็จจริงที่เขาบอกว่าพวกเราต้องโถมโจมตีโดยใช้กำลังเท่านั้นถึงจะพังประตูค่าย มนุษย์หมูป่าได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าการป้องกันของค่ายมนุษย์หมูป่าหนาเพียงใด

 

ฮังอวี่ส่ายหัวและเอ่ยว่า “การโหมกำลังบุกโจมตีซึ่งหน้านั้นเป็นไปไม่ได้ ต้องมีกับดักอยู่ระหว่างทางไปประตูค่ายแน่ๆ ถ้าเร่งรุดไปอย่างไร้สมอง ไม่ต้องถึงมือพวกพี่อ้วนหลายร้อยตัวในค่ายออกมาทุบตีเรา แค่กับดักก็มากพอให้พวกเราตายหมดแล้ว”

 

เอ่ยถึงกับดัก

 

เงาร้ายผุดขึ้นในใจหัวหน้าค่ายทั้งสาม

 

กับดักตามรายทางสู่ด่านหน้าบนยอดเขามนุษย์หมูป่านั้นอันตรายมาก

 

ฉะนั้นค่ายมนุษย์หมูป่าจะมีกับดักอยู่เช่นกันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

 

ยอดฝีมือทั้ง 600 คนจากสามค่ายแม้ฟังดูมาก แต่พลังรบของพวกเขาอ่อนแอเกินไป ยังห่างไกลจากฝั่ง มนุษย์หมูป่า

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้ไม่มีกับดักอยู่ใกล้ๆ แต่พวกมนุษย์หมูป่าก็ย่อมไม่เลือกทางเสี่ยง พวกมันคงหลบอยู่หลังค่าย โจมตีพวกเขาจากเบื้องบน กดดันให้กองกำลังมนุษย์ศิโรราบในพื้นที่โล่งกว้างแถวประตูค่ายแน่นอน

 

และประเด็นก็คือ ค่ายมนุษย์หมูป่าไม่ได้มีแค่ชาวบ้านมนุษย์หมูป่าเท่านั้น

 

แต่ยังมีมอนสเตอร์ชั้นยอดอีกเกือบร้อยตัว!

 

ศึกนี้ช่างยากเย็น แต่ลูกศรเมื่อปล่อยจากธนูแล้วไม่อาจย้อนกลับได้

 

หลังจากจ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และเฉินหยูได้ทราบถึงพลังรบที่แท้จริงของทั้งค่ายมนุษย์หมูป่าแล้ว ทั้งสามกลับค่อนข้างดีใจที่พวกเขาไม่ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุด

 

เพราะภาระนี้ช่างหนักหนาเหลือเกิน

 

แรงกดดันของตำแหน่งผู้บัญชาการนั้นยิ่งใหญ่มาก

 

ขืนสามารถนำพาชัยชนะมาสู่ศึกนี้ได้อย่างงดงาม ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของผู้บัญชาการจะทะยานถึงจุดสูงสุด

 

อย่างไรก็ตาม หากประสบความพ่ายแพ้ ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีส่วนใหญ่อาจได้รับความเสียหายอย่างหนัก และคงไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อีกเลย

 

อาจกล่าวได้ว่า หากฮังอวี่ชนะการต่อสู้ครั้งนี้ แม้เขาจะไม่ได้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าของค่ายไหน แต่เขาก็จะได้รับการเทิดทูนบูชาในฐานะราชาจากสมาชิกของทั้งสามค่าย และมีสิทธิ์มีเสียงเป็นอย่างมากในอนาคต

 

ในทางกลับกัน ถ้าเขาล้มเหลว สิ่งที่ตามมาคือทุกคนเสียแต้มวิญญาณและอุปกรณ์ ถูกสาปส่งไปชั่วกัปชั่วกัลป์

 

“ทุกคนฟังคำสั่ง!”

 

“ทีมหลักตามผมมาก่อน”

 

“ส่วนคนอื่นๆแยกย้ายไปทางซ้ายหรือขวาหาที่กำบัง!”

 

“ขอให้ทุกคนซ่อนตัวไว้ อย่าให้พวกมนุษย์หมูป่าพบตัว!”

 

เหล่าจ้าวและคนอื่นๆไม่เข้าใจ ฮังอวี่ต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่เนื่องจากเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำ ทั้งหมดจึงต้องเชื่อฟังคำสั่ง ถ่ายทอดคำสั่งออกไป

 

หกร้อยคนถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

แต่ละคนมองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่ซ่อน

 

ฮังอวี่รวบรวมคนจากทีมต่อสู้หลัก

 

“ทุกคนฟัง”

 

“พวกเราจะเป็นกลุ่มแรกในฐานะกองหน้า”

 

“งานหลักของพวกเราไม่ใช่แค่กำจัดมนุษย์หมูป่าที่ลาดตระเวณอยู่นอกค่ายเท่านั้น แต่ยังต้องดึงดูดพวกมนุษย์หมูป่ากลุ่มหนึ่งข้างในค่าย ล่อพวกมันออกมาอยู่กลางวงล้อม ”

 

อุบายล่อเสือออกจากถ้ำ?

 

แต่พวกมนุษย์หมูป่าจะติดกับจริงๆน่ะหรือ!?

 

ฮังอวี่ตระหนักดีว่าไม่อาจบุกตีค่ายมนุษย์หมูป่าอย่างเร่งรีบ

 

มนุษย์หมูป่ากลุ่มเล็กๆที่เดินเตร่อยู่นอกค่ายนั้นไม่ได้ไร้ความหมาย ตราบใดที่สามารถกำจัดมนุษย์หมูป่ากลุ่มนี้ได้ ก็มีโอกาสที่จะดึงดูดพวกมนุษย์หมูป่าที่ประจำการอยู่ในค่ายออกมา

 

และหากทยอยกำจัดกลุ่มมนุษย์หมูป่าลงทีละชุด ทีละชุด

 

การต่อสู้ในขั้นต่อไปก็จะง่ายกว่าเดิมมาก!

 

นอกจากนี้ การล่อมนุษย์หมูป่าออกมาสู้ เป็นกลยุทธ์เฉกเช่นเดียวกับเทคนิคหนุ่มหล่อล่อลวงสาวงาม ต้องค่อยๆสะกิด ห้ามเผยความหื่นกระหายออกมามตั้งแต่เริ่มต้น

 

หากให้กองกำลังทั้ง 600 คนโผล่หัวออกมาแต่แรก พวกมนุษย์หมูป่าที่สมควรจะถูกล่อลวงคงได้ก้าวขาไม่ออกและคิดในใจว่า ‘ยืนรอไปเถอะ มีแต่สุนัขโง่เท่านั้นแหละที่จะออกไป!’

 

ทว่าหากพวกมันเห็นว่าศัตรูมีแค่กลุ่มคนเล็กๆเท่านั้น พวกมนุษย์หมูป่าจะคิดว่า ‘ให้ตายเถอะ ไอ้พวกลิงไร้ขนช่างโอหัง เปิดประตูแล้วไปฆ่ามัน!’

 

มนุษย์หมูป่าไม่ค่อยฉลาดนัก แต่อย่างน้อยยังมีความสามารถในการตัดสินใจระดับหนึ่ง

 

พวกมันจะเลือกวิธีการต่อสู้แบบเซฟตัวเองหากมีศัตรูจำนวนมากเกินไป

 

แต่เมื่อศัตรูมีจำนวนน้อย พวกมันจะเลือกวิธีแสดงความก้าวร้าว

 

ดังนั้นกุญแจสำคัญในการล่อให้มาติดกับก็คือ เอนตาชั่งให้พวกมันเห็นว่าฝั่งเราอ่อนแอ ทำแบบนี้จึงจะบรรลุเป้าหมาย

 

ฮังอวี่ซ่อนกำลังพล 600 คนไว้เบื้องหลัง และนำคนเพียง 20 คนออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงกับดักและเสียงเอะอะใหญ่โต ขณะเดียวกันก็เพื่อล่อพวกมนุษย์หมูป่า

 

“ทุกคนหยุด”

 

“ระวังกับดัก”

 

ฮัสกี้อาสา “ฮ่ง! เจ้านาย เรื่องงานอันตรายอย่างสุ่มหาทุ่นระเบิดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยกล้าตายอย่างเปิ้นหวังเอง!”

 

เมื่อได้ยินคำนี้ ตอนแรกฮังอวี่นึกว่าฮัสกี้จะกล้าหาญเดินออกไปหากับดักด้วยตัวเอง

 

แต่อันที่จริงเจ้าหมาฮัสกสี้กลับหลบอยู่เบื้องหลังและส่งจิ้งจอกทั้ง 14 ตัวออกไปแทน

 

จิ้งจอกทั้ง 14 ตัวถูกฮัสกี้ควบคุมอย่างสิ้นเชิง พวกมันเริ่มวิ่งอย่างดุเดือดเข้าไปหญ้าและพุ่มไม้

 

บรึ้มมม!

 

หมาจิ้งจอกตัวหนึ่งถูกกับระเบิดเป่าเป็นชิ้นๆ

 

ปั๊ก!

 

หมาจิ้งจอกตัวหนึ่งถูกท่อนไม้ซุงเหวี่ยงลงมาฟาดร่างเละในพริบตา

 

หวือ หวืออ หวือออ! ห่าธนูโปรยปราย หมาจิ้งจอกสามตัวถูกยิงกลายเป็นเม่น

 

“มีกับดักมากมายจริงๆ ต้องขอบคุณหวังเอ๋อไม่อย่างนั้นพวกเราคงโชคร้าย!” เจียงหนานกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “แต่เจ้าหมา พวกสมุนของนายเหยียบกับดักได้แม่นยำเกินไปหน่อยรึเปล่า!”

 

สุนัขกระดิกหางอย่างภาคภูมิใจ

 

พรสวรรค์ที่แข็งแกร่งของฮัสกี้คืออะไร? แน่นอนว่าคือจมูกอันยอดเยี่ยม!

 

อันที่จริงมันนำทางทุกคนเดินหลบกับดักก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นแล้วเกิดเหตุสุดวิสัยต้องล่าถอยเล่า? ทุกคนไม่โดนกับดักตายกันหมดหรอ?

 

ฮังอวี่สังเกตเห็นมนุษย์หมูป่าเดินเตร่อยู่ใกล้ๆ พวกมันถูกดึงดูดโดยเสียงเอะอะจากกับดัก และกำลังมารวมกันที่นี่ “โอเค พวกเราเตรียมตัวให้พร้อม”

 

ขนาดของมนุษย์หมูป่ากลุ่มนี้ไม่ใหญ่นัก

 

มีมนุษย์หมูป่าขนแดงชั้นยอดสามตัว มนุษย์หมูป่าดำชั้นยอดสองตัว และมนุษย์หมูป่าขาวหนึ่งตัว

 

ฮังอวี่เปิดใช้งานเทคนิคขว้างอาวุธสี่ครั้งติดต่อกัน หอกก้างปลาแต่ละด้ามพุ่งไกลเป็น 100 เมตร เกิดเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศ พุ่งผ่านมนุษย์หมูป่าตัวอื่นๆ ปักลงบนร่าง มนุษย์หมูป่าขนขาวสร้างดาเมจ 48 หน่วย

 

“อื้อหือ!”

 

“นี่มันสกิลโจมตีแบบไหนกัน?”

 

“จะขี้โกงเกินไปแล้ว!”

 

จางเสี่ยวเฉียงอดอุทานออกมาไม่ได้

 

ทันทีที่ฮังอวี่โจมตี เขาขว้างหอกติดต่อกันสี่ครั้ง และทุกนัดโดนมนุษย์หมูป่าขนขาวเลเวล 5 ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ และมันเป็นประเภทที่มีหนังหนาเนื้อหยาบ ทว่าพริบตาเดียวพลังชีวิตของมันกลับลดลงไปมากถึงหนึ่งในสี่ส่วน!

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นฮังอวี่โจมตี ณ ขณะนี้เกือบทั้งหมดแสดงสีหน้าตกตะลึง

 

แม้จะรู้อยู่หรอกว่าฮังอวี่น่ะทรงพลัง แต่ไม่นึกฝันเลยว่าจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้

 

อันที่จริงสกิลข้าวงอาวุธนั้นไม่ได้หายาก ในกำลังพลทั้ง 600 มีหลายคนได้เรียนรู้สกิลนี้มาแล้ว ทว่าทุกคนต้องใช้เวลาคูลดาวน์ 1-2 วินาที

 

แต่ฮังอวี่กลับโจมตีได้อย่างไหลลื่นราวกับเมฆาและสายน้ำ

 

นอกจากนี้ยังขว้างได้ไกล แม่นยำ และรวดเร็ว!

 

จริงๆแล้วที่ฮังอวี่ทำแบบนี้ได้ เป็นเพราะเอฟเฟกต์เวอร์ชั่นอัพเกรดที่ได้มาจากมรดกอาชีพนักสอดแนม

 

ข้าวงอาวุธเลเวล 3 เวอร์ชั่นอัพเกรดมีคูลดาวน์เพียง 0.5 วินาที และหอกก้างปลาเป็นอาวุธสีขาวที่มีโบนัสเพิ่มระยะการโจมตี เมื่อทั้งหมดทั้งมวลรวมกัน จึงสามารถสร้างผลลัพธ์ดังกล่าว

 

“ทุกคนลงมือได้!”

 

“อย่ามัวแต่ตะลึง!”

 

ฮังอวี่หยิบธนูของเขาออกมาและยิงสกิลศรจู่โจมอันทรงพลังออกไป

 

มนุษย์หมูป่าขนขาวถูกตอกด้วยหอกก้างปลาทั้งสี่ จากนั้นตามไปติดๆด้วยสกิลยิงธนูอันทรงพลัง ส่งผลให้ตอนนี้มันล้มตึงลงอยู่หลังสุด

 

ขณะที่มนุษย์หมูป่าตัวอื่นๆวิ่งมาข้างหน้าได้เป็น 10 เมตรแล้ว แต่มนุษย์หมูป่าขนขาวยังไม่เคลื่อนไหว

 

พลังรบของคนในทีมที่ฮังอวี่เลือกมาค่อนข้างดี และอาชีพก็ผสมผสานกันอย่างลงตัว บวกกับมีเมือกพลังงานเตรียมพร้อมเอาไว้ ดังนั้นไม่น่าจะยากหากคิดจัดการกับกลุ่ม มนุษย์หมูป่าเบื้องหน้านี้

 

อย่างไรก็ตาม มนุษย์หมูป่าขนขาวเลเวล 5 ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ต้องได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษ

 

มนุษย์หมูป่าขนขาวสามารถทำดาเมจสูงและมีระยะโจมตีค่อนข้างกว้าง ลูกตุ้มของมัน หวดทีเดียวสามารถปลิดชีพหนึ่งชีวิตได้อย่างง่ายดาย

 

ดังนั้นจึงต้องแยกมันออกจากวงต่อสู้ ห้ามไม่ให้มันพุ่งเข้าใส่คนอื่นๆเด็ดขาด!

 

หลังจากฮังอวี่ยิงศรจู่โจม เขาเปิดใช้งานก้าววายุต่อด้วยล่องหน เอฟเฟกต์ของทั้งสองสกิลซ้อนทับกัน

 

เสมือนดั่งลมกรรโชกแรง ทั้งคนทั้งร่างเขาโฉบผ่านกลุ่มมนุษย์หมูป่าก่อนที่พวกมันจะตอบสนอง

 

ฮังอวี่ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้ามนุษย์หมูป่าขนขาว และไม่รอให้มันตั้งหลัก เขาเหวี่ยงโซ่อย่างรวดเร็ว และลูกตุ้มที่พุ่งออกไปสาดแรงเรืองรองของสกิล –ปะทะเดือด!

 

พละกำลังอันคลุ้มคลั่งโหมกระหน่ำ

 

ร่างมนุษย์หมูป่าขนขาวที่หนักกว่า 700 ปอนด์ถูกหวดลอยกลางอากาศ

 

ฮังอวี่ลากลูกตุ้มกลับมา หมุนควงมันเป็นวงกลมแล้วควบคุมให้กระแทกใส่มนุษย์หมูป่าขนขาวจากเบื้องบน ลากทั้งลูกตุ้มและมนุษย์หมูป่าดิ่งลง เมื่อกระทบดินพื้นยุบตัวเป็นหลุมใหญ่

 

เมื่อกี้เขาเทเลพอร์ตได้หรือเปล่า?

 

ผู้ชายคนนี้เคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง!

 

คนอื่นๆมองไม่เห็นว่าฮังอวี่เข้าปราะชิดตัวมนุษย์หมูป่าขนขาวได้อย่างไร

 

ฮังอวี่หายวับไปจากที่เดิม ข้ามผ่านหลายสิบเมตรในวินาทีเดียว จากนั้นปรากฏตัวขึ้นต่อหน้ามนุษย์หมูป่าขนขาว

 

มีศัตรูที่สามารถทำความเร็วได้ขนาดนี้อยู่บนโลกด้วยหรือ!

 

มนุษย์หมูป่าขนขาวเกิดคำถามขึ้นในใจ ตอนนี้บอกตรงๆว่ามันยังคงสับสนไม่หาย!

 

ต้องทราบนะว่า มนุษย์หมูป่าขนขาวเป็นถึงชนชั้นยอดขั้นซิลเวอร์เลเวล 5 เวลานี้มันจึงเสียหน้ามากที่ถูกทุบตีอย่างหนักโดยสิ่งมีชีวิตที่สมควรเป็นได้แค่อาหารของตัวเอง

 

มนุษย์หมูป่าขนขาวร้องคำราม มันตั้งหลักยืนตัวตรง และเหวี่ยงลูกตุ้มโซ่ออกไปหลายครั้ง แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายว่องไวเกินไป ไม่สามารถโจมตีโดนได้ ในทางกลับกัน มันถูกขว้างเมือกพลังงาน 5-6 ก้อนเข้าใส่

 

มนุษย์หมูป่าขนขาวโกรธจัด!

 

มันตัดสินใจปลดปล่อยสกิล!

 

อย่างไรก็ตาม ศัตรูเบื้องหน้าไม่คิดเปิดโอกาสนี้ให้กับมัน

 

ฮังอวี่ขว้างอะไรบางอย่างออกไป เจ้าสิ่งนี้ยามอยู่ในมือเขามันไม่โดดเด่นเตะตา แต่หลังจากกระทบลงบนตัวของมนุษย์หมูป่าขนขาวแล้ว กลับเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงในพริบตา จะเป็นอะไรไปได้อีกหากไม่ใช่ระเบิดเมือกเขียว!