5/5

 

Ep.145 – ราชามดขั้นโกลด์

 

ด้วยความช่วยเหลือจากเทคนิคตาเหยี่ยว

 

ทีมเล็กๆของฮังอวี่จึงสามารถหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์กระจุกตัวหนาแน่น เลาะไปตามขอบสมรภูมิ ค่อยๆเข้าใกล้ราชามด

 

“ราชามดอยูห่างออกไปอีกราวๆ 300 เมตร ตรงนั้นมีมดดำยักษ์สามตัวอยู่ข้างๆ และมีมดยักษ์ธรรมดาอีกสิบกว่าตัวอยู่ใกล้ๆ ”

 

ดวงตาของหลินหลานสว่างไสวขึ้นเล็กน้อย “ดูเหมือนจะมีไม่มากนัก”

 

“มดผู้พิทักษ์ทั้งสามตัวที่เฝ้าอยู่ข้างราชามด ไม่เหมือนกับมดดำยักษ์ทั่วไป” ฮังอวี่กระซิบเสียงต่ำ “แต่พวกมันคือมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ เพราะงั้นได้เจอกันเมื่อไหร่ พวกมันต้อนรับเราเต็มที่แน่ ”

 

“ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์?”

 

ขนาดผู้พิทักษ์ยังเป็นถึงขั้นซิลเวอร์??

 

และตามปกติลูกพี่มักแข็งแกร่งกว่าลูกน้อง ฉะนั้นคนอื่นๆในทีมเดาว่าราชามดต้องอยู่ในขั้นโกลด์ 100%

 

แต่นี่ก็เหมือนกับตอนที่ฮังอวี่สามารถเอาชนะเนโครแมนเซอร์ในวิหารของมัน หากอยากคว้าชัยชนะ ต้องอาศัยอุปกรณ์ปราบปรามและการร่วมแรงร่วมใจกันของทีม

 

“ราชามดมีพลังรบอยู่ในขั้นโกลด์ ส่วนผู้พิทักษ์ข้างกายมันทั้งสามตัวเป็นขั้นซิลเวอร์ นอกจากนี้ยังมีมดยักษ์ธรรมดาอีกสิบกว่าตัวคอยคุ้มกันอยู่รอบนอก พวกเรามีกันแค่ไม่กี่คน เกรงว่าจะไม่มีโอกาสชนะ” ซูหยุนปิงรู้สึกกดดันมาก “เว้นแต่พวกเราจะจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยนานไป ฝูงมดที่อยู่ใกล้ๆก็จะมาปิดล้อมพวกเรารอบทิศทาง ถึงเวลานั้นต่อให้ติดปีกก็บินหนีไปไม่ได้”

 

ใช่!

 

มันเสี่ยงเกินไป!

 

และคนในทีมมีน้อยเกินไป ขณะที่เป้าหมายมีจำนวนเยอะกว่าหลายเท่า!

 

“อย่ามัวแต่พูดเรื่องไร้ประโยชน์ ต่อให้ต้องตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเราต้องทำภารกิจให้สำเร็จ!” หัวหน้าหน่วยหวงเหยียนกล่าวพลางยกเครื่องยิงจรวด ท่าทีของเขาดูมั่นคง น้ำเสียงหนักแน่นมาก “แนวป้องกันทะเลสาบซิงโกวจะพ่ายแพ้ไม่ได้!”

 

สหายจากสกายเน็ตแต่ละคนล้วนมีสีหน้าจริงจัง ทำท่าทีราวกับว่าพร้อมเสียสละได้ทุกเมื่อ

 

ซูหยุนปิงหันมาพูดกับฮังอวี่ “ครั้งนี้ฉันฝากชีวิตไว้กับนายแล้ว อยากจะทำอะไรก็ว่ามาเลย!”

 

พวกเรามาไกลกันขนาดนี้ จะให้หันหลังกลับมันคงไม่ได้ ฉะนั้นหันมาไว้ใจฮังอวี่จะเหมาะสมกว่า

 

สังเกตจากสถานการณ์ตอนถนนเลียบริมแม่น้ำ ฮังอวี่พบว่าซูหยุนปิงเป็นผู้หญิงที่รักการผจญภัยมาก

 

ภารกิจสังหารราชามดเป็นงานอันตราย

 

แต่หากทำสำเร็จ จะได้รับเครดิตดีๆมากมาย

 

ฮังอวี่ไม่ได้มีอุดมการณ์ชั้นสูงเหมือนกับคนของสกายเน็ต หากไม่มีโอกาสประสบความสําเร็จ 50% หรือมากกว่านั้น ไม่มีทางที่เขาจะมาเสี่ยงชีวิต

 

ยิ่งความรู้สึกรักการผจญภัเหมือนซูหยุนปิงยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง

 

ฮังอวี่เกลียดการผจญภัยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกจริง เขามีชีวิตเดียว ตายแล้วคือตายเลย

 

ดังนั้นอะไรที่เสี่ยงหากเลี่ยงได้เขาจะเลี่ยง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังรบเลเวล 5 ของฮังอวี่ บวกกับสกิลล่องหนเวอร์ชั่นอัพเกรด เขามั่นใจว่าตัวเองสามารถหลบหนีได้

 

ดังนั้นต่อให้สถานการณ์เลวร้ายที่สุด เขาก็ยังพอมีความสามารถในการปกป้องตัวเอง

 

แต่ราชามดจะต้องถูกฆ่า

 

ยังไงก็ต้องฆ่ามันให้จงได้! มิฉะนั้นกองทัพนี้จะไม่มีวันแตกพ่าย!

 

ซึ่งหากกองทัพแตกพ่ายและมดยักษ์นับพันตัวถูกสังหาร นั่นคือผลประโยชน์ล็อตใหญ่ของฮังอวี่

 

เขาสามารถรวบรวมพลังงานให้ดอกบัวได้ รวมรวบไอวิญญาณแก่เครื่องรางอัญเชิญ และนี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่จำเป็นต้องใช้เมื่อเข้าสู่โลกวิญญาณในครั้งหน้า

 

นอกจากนี้ แม้ราชามดยักษ์จะไม่ได้หายากและมีค่าเท่ากับราชินีมด

 

แต่เจ้าหมอนี่ก็ไม่ธรรมดา การรวบรวมวัตถุดิบจากมันจะให้ของที่ดีมากเช่นกัน

 

ดังนั้นหากราชามดถูกปิดล้อมและถูกคนของพวกสกายเน็ตสังหาร แบบนั้นเขาก็จะไม่สามารถรวบรวมวัตถุดิบจากตัวมันได้

 

ฮังอวี่จึงตัดสินใจเลือกพาทีมเล็กๆมา และเมื่อเป็นทีมเล็ก วัตถุดิบของราชามดก็เรียกได้ว่าจะกลายเป็นของเขาแทบ 100% !

 

นอกจากนี้ยังสามารถทำกำไรได้มากมาย และเขาจะเอาให้คุ้มอย่างแน่นอน!

 

หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว!

 

ยิ่งปล่อยให้ล่าช้า ก็ยิ่งมีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้มากขึ้น

 

การเดินทางครั้งนี้มีสมาชิกทั้งสิ้น 7 คน ได้แก่

 

ฮังอวี่ ซูหยุนปิง หลินหลาน หวงเหยียน เหลียงชิว และหัวหน้าจากสกายเน็ตอีกสองคน

 

เหล่าสหายระดับหัวหน้าจากสกายเน็ตแต่ละคนล้วนพกอาวุธประจำตัวที่ดูอันตรายถึงชีวิต

 

หวงเหยียนถือเครื่องยิงจรวด เหลียงชิวและคนอื่นๆถือไรเฟิลหนัก ซึ่งอาวุธเหล่านี้สามารถใช้กับพวกมดยักษ์ได้ ยังพอสร้างดาเมจสังหารอยู่บ้าง แต่ยากที่จะเป็นภัยคุกคามต่อราชามด

 

กระดองของราชามดเปี่ยมไปด้วยพลังงานทางวิญญาณ มันแข็งแกร่งทนทานยิ่งกว่าโลหะผสมไทเทเนี่ยม

 

หากคิดจัดการราชามด จำเป็นต้องใช้อาวุธที่มีพลังงานทางวิญญาณเฉกเช่นเดียวกัน

 

“อันที่จริงกลยุทธ์ครั้งนี้ง่ายมาก เรื่องราชามดยกให้ฉันจัดการ ส่วนที่เหลือขอฝากทุกคนด้วย”ฮั่งอวี่มอบหมายงานให้ทุกคนก่อน และเอ่ยสรุปดังนี้

 

ซูหยุนปิงเผยท่าทีกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับแผนการ “แบบนั้นมันไม่เสี่ยงไปสำหรับนายหรอ?”

 

“เรื่องนี้ช่วยไม่ได้ ก็ใครใช้ให้คนอื่นนอกจากฉันสู้พวกมันไม่ได้เล่า?”

 

ซูหยุนปิงหดหู่มาก ฉันอุตส่าพูดเพราะเป็นห่วงนาย ช่วยอย่าหยาบคายเวลาคนอื่นแสดงความจริงใจได้ไหม?

 

เออ แล้วแต่เลย ในเมื่อสู้ไหว งั้นก็จัดการเองแล้วกัน!

 

“ไปเถอะ”

 

ฮังอวี่ส่งสัญญาณมือ หลายคนรีบเข้าใกล้ราชามด

 

ซูหยุนปิงเปิดใช้งานสกิล ยกไม้เท้าชูขึ้นสูง ปลดปล่อยพลังงานอันล้นหลามที่เกือบจะโปร่งใส ยากที่จะแยกแยะด้วยตาเปล่าออกมา

 

นี่คือสกิลของผู้ใช้วิญญาณ เป็นมรดกของอาชีพ ‘นักมายากล’ – โรงละครแห่งความเงียบ!

 

สกิลนี้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ กินรัศมีประมาณ 200 เมตร

 

โลกทั้งใบตกอยู่ในความเงียบสงัด เสียงกระสุนปืน และระเบิดจากระยะไกล จะไม่สามารถได้ยินได้

 

ภายในโรงละครแห่งความเงียบ บรรยากาศคล้ายหยุดนิ่ง ให้ความรู้สึกชวนขนลุก

 

สกิลนี้ค่อนข้างพิเศษ มันสามารถลดปรากกฏการณ์การสั่นสะเทือนได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้คุณสมบัติและพลังโจมตีของเป้าหมายอ่อนแอลง

 

สายตาของมดยักษ์ปกติย่ำแย่มากอยู่แล้ว เมื่อพวกมันถูกลดการได้ยินและการสั่นสะเทือน การรับรู้ของพวกมันจึงต่ำเตี้ยยิ่งกว่าเดิม

 

ถึงขนาดที่ว่าตอนนี้พวกเขาเข้ามาใกล้ในระยะหลักสิบเมตรแล้ว พวกราชามดก็ยังไม่สังเกตเห็น

 

หัวหน้าหน่วยหวงเหยียนยกเครื่องยิงจรวดขึ้น

 

จรวดถูกยิงออกไป ระเบิดเข้ากลางวงมดยักษ์หลายตัว

 

แต่ที่มันให้ความรู้สึกว่าแปลกก็คือ หลังจากยิงจรวด และจรวดเกิดการระเบิดแล้ว ตลอดทั้งกระบวนการกลับเงียบสนิท ราวกับมีคนกดปุ่มปิดเสียงแล้วดูหนัง

 

จรวดโดนเข้าเต็มๆราชามดยักษ์

 

มดผู้พิทักษ์ตัวอื่นๆก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

 

ทว่าแม้ราชามดกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น แต่มันไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร ในทางกลับกัน มดดำยักษ์สามตัวได้รับบาดเจ็บร้ายแรง

 

ก่อนที่มดยักษ์จะทันได้ตอบสนอง หวงเหยียนปล่อยเครื่องยิงจรวดในมือเขา เรียกกระบี่จากโลกวิญญาณออกมา และปลดปล่อยสกิลไปพร้อมๆกัน

 

“บทกวีสู่สงคราม!”

 

นี่คือสกิลพรสวรรค์สายสนับสนุน มันช่วยให้สมาชิกทีมทั้งเจ็ดได้รับพรจากบัฟ ค่าคุณสมบัติทั้งหมดของทุกคนเพิ่มขึ้น 2 หน่วย

 

จะ ‘โรงละครแห่งความเงียบ’ ของ ซูหยุนปิงก็ดี หรือ ‘บทกวีสู่สงคราม’ ของหวงเหยียนก็ดี สองสกิลนี้มีระยะเวลาคงอยู่นานหลายนาที มีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้

 

แทบจะในเวลาเดียวกัน หัวหน้าทีมสกายเน็ตทั้งสามก็เริ่มลงมือ

 

เหลียงชิวยกแขนขึ้น เรียกหมอกน้ำแข็งร่วงหล่นจากฟ้า โอบล้อมราชามดและมดผู้พิทักษ์เอาไว้

 

นี่คือสกิลพรสวรรค์ของเธอ ‘น้ำค้างเยือกแข็ง’

 

เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ได้เห็นจากคลิปในเน็ต มันทรงพลังกว่าเดิมมาก ทั้งยังครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ นอกจากนี้เอฟเฟกต์แช่แข็งยังทรงพลังยิ่งกว่าเดิมเช่นกัน

 

หากอาศัยเพียงความสามารถในการชะลอเป้าหมายของเธอเพียงอย่างเดียว คงยากที่จะลดความเร็วของราชามดลงได้

 

ดังนั้นฮังอวี่จึงเรียกตัวหัวหน้าสองคนจากสกายเน็ตที่มีสกิลคล้ายกันติดมาด้วย

 

สกิลของหัวหน้าทีมอีกสองคนถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน

 

ทางหนึ่งคือ ‘ลำแสงเชื่องช้า’ อีกทางหนึ่งคือ ‘ปลดปล่อยแรงโน้มถ่วง’

 

ทุกสกิลมุ่งเป้าไปที่ราชามด

 

อย่างไรก็ตาม รัศมีของพวกมันมีโอกาสที่สามารถโจมตีโดนมดดำยักษ์ที่อยู่ใกล้ได้เช่นกัน

 

มดยักษ์นับสิบที่อยู่ใกล้ๆตระหนักถึงการมาเยือนของผู้ไม่หวังดี พวกมันพากันวิ่งตรงเข้ามา

 

หลินหลานเปิดใช้งานสกิลพรสวรรค์ ‘ควบคุมพายุ’ โบกคทาในมือ ก่อพายุลูกเล็กๆขึ้นทันที และเริ่มสั่งการมันดั่งใจนึก!

 

พายุเคลื่อนไหวอย่างอิสระเหมือนงูเลื้อย มดยักษ์หลายตัวถูกยกขึ้นจากพื้น

 

ระหว่างนั้นเธอปล่อยใบมีดสายลมออกไป เชือดเฉือนมดยักษ์กลางอากาศให้ตายคาที่

 

หลินหลานคือมือขวาของซูหยุนปิง ทั้งพลังรบและความสามารถล้วนโดดเด่นน่าทึ่ง

 

เธอเป็นนักเวทย์ที่สามารถโจมตีในระยะกลางได้อย่างยอดเยี่ยม งานหลักคือการขัดขวางและเก็บกวาดมอนสเตอร์กลุ่มเล็กๆ

 

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว!

 

และเวลามีจำกัด!!

 

หากแก้ปัญหาเชื่องช้า พวกเขาอาจถูกพวกมันปิดล้อมเอาได้!!!