2/3

 

Ep.113 – สวนแห่งความมืด

 

ในที่สุดการผจญภัยในโลกวิญญาณครั้งแรกของสุนัขก็เริ่มต้นขึ้น

 

หวังเอ๋อตื่นเต้นมาก จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของมันลุกโชน เชิดหน้าชูคอ เดินอย่างหนักแน่นมั่นคง อยู่ในท่วงท่าที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อต้อนรับจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่จุดสูงสุดของชีวิตสุนัข!

 

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มันเดินเข้าไปในสวนแห่งความมืด แข้งขาทั้งสี่ของหวังเอ๋ออ่อนเปลี้ยขึ้นมาทันที มันหมอบลงกับพื้น ใช้สองอุ้งเท้าปิดจมูกสุนัขเอาไว้ เห่าเสียงดัง

 

“ฮ่ง! ตาย ตาย ตาย นี่มันกลิ่นอะไรกัน เหม็นจนเกือบจะฆ่าเปิ่นหวังได้เลย!”

 

สวนแห่งความมืดเป็นสถานที่ลับที่ต้องเข้าผ่านทางวิหารเนโครแมนเซอร์เท่านั้น

 

สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นแปลกๆ ของซากศพที่เน่าเปื่อย ชวนให้ผู้คนรู้สึกเหมือนเข้ามาในกองขยะขนาดใหญ่ ภายใต้กลิ่นนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงหมาหวังเอ๋อ กระทั่งเจียงหนานยังดมกลิ่นยังเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน

 

การรับกลิ่นของสุนัขนั้นไวกว่ามนุษย์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังเอ๋อ จมูกของมันดีกว่าสุนัขทั่วๆไปหลายเท่า

 

“ฮ่ง! เปิ่นหวังหายใจไม่ออก ขอลี้ภัยเข้าไปในมิติสัตว์วิญญาณได้ไหม?”

 

“ลี้ภงลี้ภัยบ้าอะไร ก็แค่มีกลิ่นเหม็นนิดหน่อย อดทนแล้วทำตัวให้ชิน นายจำเป็นต่อการเดินทางครั้งนี้”

 

ฮัสกี้กุมขมับ รู้สึกราวกับโดนบังคับให้กระโดดลงไปในถังบำบัดน้ำเสียแล้วไม่สามารถปีนออกมาได้ หากปล่อยนานไปคงหมดลมหายใจตาย

 

ทรมานกันแบบนี้ฆ่าเปิ่นหวังให้ตายเลยซะดีกว่า อ๊าาาาา~

 

เจียงหนานพยายามบังคับตัวเอง ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม เธอหันไปมองรอบๆ เริ่มสังเกตการณ์

 

นักศึกษาสาวพบว่าสถานที่แห่งนี้ต่างจากวิหารเนโครแมนเซอร์และแดนฝังกระดูก

 

ที่แห่งนี้เกลื่อนไปด้วยโครงกระดูกในสภาพที่ยังสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีเห็ดสีดำจำนวนมากเติบโตขึ้นบนกระดูกเหล่านั้น

 

และเจ้าเห็ดดำนี่เองที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นน่าขยะแขยง มันเรียกว่าเห็ดศพ เป็นวัสดุระดับต่ำ สามารถถอนเก็บได้ทันที

 

และพวกมันกระจายอยู่ทั่วทุกที่ในสวนแห่งความมืด หากต้องการเก็บเกี่ยวเห็ดศพมากแค่ไหนก็ตามสบายเลย ว่าแต่วัตถุเหม็นเน่าพวกนี้มันมีประโยชน์อะไรกัน?

 

“เอีะ? มีซอมบี้กับพวกมอนสเตอร์โครงกระดูกอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนจะต่างจากข้างนอกนิดหน่อย”

 

เจียงหนานสังเกตเห็นมอนสเตอร์เคลื่อนไหวอยู่รอบๆ แต่บนตัวซอมบี้และโครงกระดูกเหล่านั้น ทั้งตัวของพวกมันปกคลุมไปด้วยเห็ดสีดำ ดูน่าสยดสยองมาก สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้คน

 

“นั่นคือซอมบี้กาฝากกับโครงกระดูกกาฝาก พวกมันเป็นมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 4”

 

แค่มอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 4?

 

งั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวล!

 

“หวังเอ๋อไม่ต้องกลัวนะ มอนสเตอร์เลเวล 4 อาจจัดการยากซักหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นสร้างภัยคุกคามให้แก่พี่มหาเทพแน่นอน” เธอปลอบสุนัข จากนั้นถามฮังอวี่ว่า “มอนสเตอร์เห็ดศพพวกนี้ดูแปลกมาก เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันจะมีความสามารถต่างจากซอมบี้และโครงกระดูกทั่วๆไป”

 

ไม่เลวจริงๆ ดูเหมือนว่านักศึกษาสาวจะเติบโตขึ้นอีกแล้ว!

 

“พวกมันแข็งแกร่งพอๆกับมอนสเตอร์ซอมบี้และโครงกระดูกในเลเวลเดียวกัน แต่มีสกิลระเบิดตัวเองจากเห็ดศพเพิ่มเข้ามา อำนาจสังหารรุนแรงมาก ถ้าถูกพวกมันล้อม ต่อให้เป็นฉันก็รับมือไม่ไหว”

 

“แต่นั่นไม่ใช่ส่วนที่เลวร้ายที่สุด” เสียงของฮังอวี่แปรเปลี่ยนไป “แม้ดูเหมือนเป็นมอนสเตอร์ทั่วๆไป แต่ที่จริงแล้วพวกมันคือมอนสเตอร์อัญเชิญ เมื่อถูกสังหาร จะไม่ปล่อยแต้มวิญญาณออกมา ไม่ดรอปไอเท็ม ฆ่าไปก็ไม่ตาย”

 

“เป็นงั้นหรอกหรอ? แต่ถ้ามันเป็นมอนสเตอร์อัญเชิญ งั้นใครเป็นคนเรียกพวกมันมา? ฉันไม่เห็นวี่แววมอนสเตอร์ตัวอื่นอยู่แถวๆนี้เลย”

 

“มอนสเตอร์ที่อัญเชิญพวกมันคือ ‘ปีศาจเห็ดศพ’ เป็นมอนสเตอร์ประเภทพืช แม้เคลื่อนไหวไม่ได้ แต่มีความสามารถในการพรางตัวอันยอดเยี่ยม เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสังเกตเห็นด้วยตาเปล่า และพวกซอมบี้กับโครงกระดูกที่เห็น คือผู้คุ้มกันที่ปีศาจเห็ดศพอัญเชิญมา”

 

ปีศาจเห็ดศพเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอด ตามปกติแล้วพวกมันคือเลเวล 4 ขั้นบรอนซ์ แต่ก็มีบ้างที่เป็นเลเวล 4 ขั้นซิลเวอร์

 

ปีศาจเห็ดศพโดยทั่วไปจะมีสกิลหลายอย่าง เช่น กาฝากเห็ดศพ , พรางตัวขั้นสูง , สปอร์พิษ และระเบิดเพลิงซากศพ พูดได้เลยว่ารับมือยากมาก

 

กาฝากเห็ดศพเป็นสกิลที่ใช้อัญเชิญซอมบี้กาฝากและโครงกระดูกกาฝาก

 

ปีศาจเห็ดศพจะปล่อยร่างจำลองขนาดเล็กจำนวนมากของมันออกมา เมื่อกาฝากเกาะตัวบนโครงกระดูก จะมอบพลังงานให้แก่พวกมัน เปลี่ยนให้เป็นอันเดธ ปลุกพวกมันขึ้นมา

 

สวนแห่งนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

 

แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยอันเดธที่เกาะแน่นไปด้วยเห็ดกาฝาก แสดงว่าต้องมีปีศาจเห็ดศพอยู่ที่นี่หลายตัว

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปีศาจเห็ดศพสามารถพรางตัวได้ ดังนั้นไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า

 

หากคุณเข้าใจผิดว่าซอมบี้กาฝากและโครงกระดูกกาฝากเป็นแค่มอนสเตอร์ที่เร่ร่อนอยู่บริเวณนี้ นั่นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่

 

“พวกเราต้องตามหาปีศาจเห็ดศพที่อยู่ในสถานะพรางตัว พยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับพวกโครงกระดูกและซอมบี้”

 

หากเป็นคนอื่นๆ คงได้แต่ลองโจมตีสุ่มๆดู ซึ่งทำแบบนั้นไม่เพียงอันตรายแต่ยังใช้เวลานาน

 

ตรงกันข้ามกับฮังอวี่ เขามีทางเลือกที่ดีกว่า

 

ฮังอวี่เตะหวังเอ๋อที่กำลังแกล้งตาย “เจ้าหมา มัวทำอะไรอยู่ หยุดอู้ซักที ถึงเวลาแสดงฝีมือของนายแล้ว”

 

เฮ้อ! สถานที่ผีสางเช่นนี้ สุนัขจะใช้ชีวิตช่างลำบากลำบน

 

หวังเอ๋อบ่นอุบ มันลุกขึ้น และสูดกลิ่นอย่างไม่เต็มใจ

 

“เปิ่นหวังเหมือนได้กลิ่นบางอย่างที่ต่างออกไป … เป็นกลิ่นที่เหม็นยิ่งกว่า ถ้าให้แยกแยะแบบละเอียดแล้วล่ะก็ เจ้าสิ่งนี้มีกลิ่นเหมือนสมุนไพรแต่มีพิษปะปนอยู่”

 

“นั่นแหละ นั่นคือกลิ่นของปีศาจเห็ดศพไม่ใช่กลิ่นพวกอันเดธ มันคือมอนสเตอร์ประเภทพืช รีบหาที่ตั้งของมัน หลังจบภารกิจ นายจะได้รับรางวัลอย่างงาม!”

 

“น้อมรับคำสั่ง!”

 

เมื่อได้ยินว่าจะได้รับรางวัล อารมณ์ของฮัสกี้กลายเป็นสดใสขึ้นมาทันที ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็สามารถระบุตำแหน่งของปีศาจเห็ดศพได้อย่างแม่นยำ

 

ปีศาจเห็ดศพซ่อนตัวมิดชิดมาก มันงอกอยู่ข้างในกองกระดูก ไม่สามารถมองเห็นได้โดยอาศัยตาเปล่าเพียงอย่างเดียว

 

อย่างไรก็ตาม ที่เป็นปัญหาไม่ใช่แค่มีบางสิ่งบางอย่างปกคลุมมัน แต่ยังมีพวกอันเดธกาฝาก 8-9 ตัวเดินเตร่อยู่ใกล้ๆ

 

พวกซอมบี้กาฝากและโครงกระดูกกาฝากที่ถูกอัญเชิญมา ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังฆ่าไม่ตาย ตัวหนึ่งล้มลง อีกตัวจะลุกขึ้นมาแทนที่ ทางที่ดีควรเลี่ยงพวกมันและกำจัดปีศาจเห็ดศพโดยตรงจะเหมาะกว่า

 

นอกจากนี้สกิลล่องหนไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของพวกพวกอันเดธ นี่ยิ่งทำให้เป็นปัญหามากเข้าไปอีก

 

เจียงหนานรวบรวมความกล้า “ฉันจะไปล่อพวกมันให้เอง”

 

“อย่าทำแบบนั้น งานของเธอคือร่วมมือกับฉัน และฉันต้องรับประกันว่าเธอต้องไม่ตาย

 

ในตอนนั้นเอง ฮัสกี้รู้สึกได้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองมา มันหดคอแสดงท่าทีขี้ขลาดทันที “ฮ่ง! เจ้านายคงไม่คิดให้เปิ่นหวังออกไปกำจัดกับมอนสเตอร์พวกนี้หรอกใช่ไหม? เปิ่นหวังสู้พวกมันไม่ได้หรอกนะ!”

 

“ฉันไม่ได้ขอให้นายกำจัดพวกมัน แค่ล่อออกไปก็พอ ด้วยความว่องไวที่นายมี น่าจะพอทำได้ ในบรรดาทีมของเราตอนนี้ นายเป็นตัวเดียวที่มีสี่ขา วิ่งไวที่สุด เพราะงั้นรีบไปเร็วเข้า!”

 

“ฮ่ง! เจริญล่ะ เปิ่นหวังเป็นหมาที่น่าสงสารจริงๆ ”

 

แม้หวังเอ๋อจะบ่นเจ้านาย แต่มันก็ทราบเช่นกันว่าวันนี้ฮังอวี่ตารางานแน่นมาก ดังนั้นไม่เสียเวลา ขยับเท้าทั้งสี่ พุ่งออกไปเหมือนลูกศร

 

เจียงหนานดูประหลาดใจมาก “หวังเอ๋อวิ่งเร็วจัง!”

 

ฮังอวี่พยักหน้า “หวังเอ๋อเป็นเลเวล 2 ชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ แม้ความสามารถในการต่อสู้จัดอยู่ในระดับปานกลาง แต่ในเรื่องความเร็วในการเคลื่อนที่มันว่องไวไม่ด้อยไปกว่าฉันเลย”

โครงกระดูกกาฝาก ซอมบี้กาฝากสังเกตเห็นมันทันที ค่อยๆเยื้องย่างเข้ามาล้อมสุนัขราวกับฉลามได้กลิ่นเลือด

 

“ฮ่ง! ไอ้พวกโครงกระดูกน่าเกลียด ซอมบี้น่าเกลียด แน่จริงมากัดก้นฉันสิ!”

 

“จงดูเทคนิคส่ายก้นซ้ายขวาของเปิ่นหวัง กัดไม่ได้อะดิ ตามมาไม่ทันอะเด้”

 

“ฮ่ง ฮ่ง ฮ่ง! ฝีเท้าไวแค่นี้เองหรือ? นี่คือความเร็วทั้งหมดที่พวกแกมี? พวกแกนี่มันความอัปยศของเหล่าอันเดธชัดๆ!”

 

ฮัสกี้แหกปาก ขณะเดียวกันวิ่งวนไปมา ตัวมันรวดเร็วจนเป็นเส้นสายฟ้าสีดำ ฉวัดเฉวียนเหมือนงู

 

โครงกระดูกและซอมบี้ตอบสนองเชื่องช้า หากคิดทำร้ายหมา ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

หวังเอ๋อรับหน้าที่ล่อหลอกได้อย่างดีเยี่ยม

 

“เตรียมตัวให้พร้อม ฉันไปก่อนล่ะ”

 

ฮังอวี่เตือนเจียงหนาน เขาสวมโล่กลมบนแขนซ้าย หยิบทวนกระดูกกูลขึ้นมาในมือขวา และรีบวิ่งไปยังทิศทางที่ปีศาจเห็ดศพตั้งอยู่

 

แม้จะไม่สามารถแยกแยะมันได้ด้วยตาเปล่า แต่ขอแค่โจมตีตำแหน่งที่หวังเอ๋อระบุไว้ก็พอ

 

ปะทะเดือด!

 

ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลโดยตรง

 

ทวนทะลวงออกไปด้วยพละกำลังอันน่าอัศจรรย์

 

กองกระดูกเสมือนแก้วที่เปราะบาง แตกหักทีละชิ้น

 

ฮังอวี่รู้สึกว่าเขาแทงโดนบางอย่างที่อ่อนนุ่ม เหมือนก้อนยางที่ยืดหยุ่น แต่เต็มไปด้วยความหนืด

 

ตีโดนแล้ว!

 

ร่างสีดำปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที มันคือเห็ดดำขนาดใหญ่ดูน่าเกลียดสุดๆ

 

ถูกเผง!

 

เจ้านี่แหละ!

 

มอนสเตอร์ชั้นยอดปีศาจเห็ดศพเลเวล 4!

 

อัตราการดรอปของมอนสเตอร์ชั้นยอดไม่จำเป็นต้องสูงเสมอไป ปีศาจเห็ดศพแม้โอกาสดรอปของจะน้อยกว่ามอนสเตอร์ข้างนอก แต่มอนสเตอร์ประเภทนี้มักมาพร้อมไอเท็มพิเศษติดตัว

 

ฮังอวี่ต้องการบางอย่างจากปีศาจเห็ดศพ เจ้าสิ่งนี้จะช่วยได้มากสำหรับแผนการขั้นต่อไป