3/3

 

Ep.105 – มีแค่ฉันที่ทำร้ายมันได้!

 

ต้นบัวบนแท่นหินเหี่ยวเฉาลงไปมาก สูญเสียพลังงานทางวิญญาณไปไม่น้อย

 

นี่คือสิ่งที่ต้องแลกมาเมื่อถูกสกิลรวบรวมวัตถุดิบขั้นต่ำร่ายใส่แล้วล้มเหลว

 

หากดอกบัวยังคงสดใหม่ งั้นจะมีสกิลรวบรวมวัตถุดิบขั้นสูงไว้ให้เรียนรู้ทำไม?

 

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่มันไม่เหี่ยวเฉาอย่างสมบูรณ์ แสดงว่ายังมีโอกาสเหลืออยู่ ไม่ช้าก็เร็วย่อมสามารถได้รับในสิ่งที่ต้องการ

 

แต่เมื่อล้มเหลวติดต่อกัน 40 -50 ครั้ง ดอกบัวก็เริ่มเหี่ยวเฉาลงจนเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่ามันจะสูญเสียพลังงานทางวิญญาณไปแล้วเกินกว่าครึ่ง

 

ยังไงก็ตาม ฮังอวี่ไม่ใจอ่อน เขายังคงบีบคั้นดอกบัวต่อไป เรีกยร้องสมบัติจากมันอย่างไม่ลดละ

 

จนถึงตอนนี้ จระเข้ลายดำเริ่มกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง แต่เขาไม่เหลือสกิลเสียงหอนแห่งความหวาดกลัวให้ใช้อีกต่อไป

 

หากถูกเจ้าพวกนี้ล้อมกรอบ ที่เหลือคงได้แต่รอถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

 

แม้ใจจะอยากได้สมบัติมากกว่านี้ แต่สุดท้ายชีวิตสำคัญกว่า เฮ้อ~

 

ไม่สามารถได้รับวัตถุดิบที่ต้องการ ฮังอวี่เสียดายมาก แต่สถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตแล้ว เขาไม่สามารถโค่นจระเข้นับสิบตัวพร้อมกันได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าบริเวณรอบๆนี้มีแต่น้ำ ยิ่งเพิ่มโอกาสแพ้ให้เขามากขึ้นไปอีก

 

ฮังอวี่กัดฟันใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบอีกสองครั้งก่อนจากไป ทว่าเมื่อสกิลครั้งสุดท้ายถูกเปิดใช้งาน ดอกบัวทองกลับเหี่ยวเฉาลงทันตา มันเกือบจะแห้งเหือดในเวลาเดียวกัน

 

พลังงานวิญญาณสีม่วงสว่างไสว เฉิดฉายออกมาจากดอกบัวทอง ลอยมารวมตัวกันอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือของฮังอวี่ เริ่มก่อตัวเป็นวัตถุ กลายเป็นดอกบัวทองที่ปกคลุมไปด้วยรัศมีพลังงานวิญญาณสีม่วง

 

“การรวบรวมสำเร็จ!”

 

“คุณได้รับดอกบัวทองรวมวิญญาณ”

 

พลังงานวิญญาณสีม่วง เป็นเครื่องหมายของไอเท็มระดับราชันย์

 

ฮังอวี่เกิดความปิติยินดีขึ้นทันที เจ้าดอกบัวนี่แหละคือสิ่งที่ฮังอวี่ต้องการมาก มันคือหนึ่งในไอเท็มที่ดีที่สุดของดอกบัวทองที่สามารถหาได้จากสกิลรวบรวมวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังเป็นไอเท็มที่มีประโยชน์มากๆสำหรับฮังอวี่

 

จริงดังคาด อย่างที่เขาว่ากัน เง็กเซียนมักอวยพรคนหล่อ!

 

ถึงโชคของฉันจะไม่ค่อยดีนัก แต่ทุกครั้งในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อมักประสบความสำเร็จเสมอ!

 

ซ่าาาา!

 

เกิดน้ำกระเซ็น จระเข้ลายดำเข้าจู่โจม

 

ฮังอวี่ทราบดีว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมามัวมีความสุข สถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างอันตราย ต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่!

 

โครม!

 

เกิดเสียงปะทะดังสนั่น ปากแหลมของจระเข้พุ่งเข้าหาฮังอวี่ ชนเข้าใส่โล่ที่เขาพึ่งเรียกออกมาอย่างแรง

 

ฮังอวี่ถูกผลักกระเด็น ถอยครูดไปเกือบสองเมตร แขนข้างที่ถือโล่ด้านชาเพราะแรงปะทะ ราวกับที่โดนโล่ไม่ใช่ปากจระเข้ แต่เป็นค้อนปอนด์ขนาดใหญ่ที่ถูกเหวี่ยงโดยชายฉกรรจ์

 

ฮังอวี่พอกระเด็นออกมาก็มีเวลาพักหายใจเฮือกหนึ่ง ระหว่างนั้นเขาหยิบคัมภีร์สกิลอีกม้วนออกจากมิติเก็บของ และเปิดใช้งานสกิลรากพัวพันทันที

 

วินาทีถัดมา เถาวัลย์นับไม่ถ้วนทะลุลทะลวงจากแท่นหิน เข้าพัวพันฝูงจระเข้ที่อยู่ใกล้ๆ

 

ในฐานะที่เป็นคนขี้เหนียวไม่ต้องการเสียของ ฮังอวี่ดึงต้นบัวที่อยู่ในสภาพเหี่ยวเฉาติดมือมาด้วย แล้วกระโดดออกไป เหยียบแผ่นหลังของพวกจระเข้บนผิวน้ำที่กำลังถูกสกิลรากพัวพัน ถีบตัวส่งไปยังผนังหินที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่สถานะล่องหนทันที

 

จมูกของจระเข้ไม่ดีเท่าสุนัข แต่ก็ยังประมาทไม่ได้!

 

เหล่าจระเข้ที่อยู่ในน้ำและไม่ถูกสกิลรากพัวพัน เมื่อไม่เห็นฮังอวี่ก็เริ่มใช้ความรู้สึกตามกลิ่นเอา ว่ายตรงมายังทิศทางของเขา แต่พวกมันยังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ชัดเจน

 

การตามหาเหยื่อด้วยกลิ่น เห็นได้ชัดว่าต้องใช้เวลาสักพัก

 

ความแข็งแกร่งทางกายภาพในฐานะนักรบเลเวล 4 ของฮังอวี่ระเบิดขึ้นทันใด

 

เขาปีนไปตามผนังหินที่เปียกและลื่นด้วยความเร็วที่เกินกว่าขีดจำกัดของมนุษย์

 

ฮังอวี่กระโจนกลางอากาศ กระโดดลงน้ำในริเวณปากทางออกถ้ำ

 

ระหว่างลอยอยู่กลางอากาศ เขาพลิกร่างกลับมา ยิงหน้าไม้โครงกระดูกติดต่อกัน ปล่อยศรสามดอกลงบนผิวน้ำในพริบตา

 

ซ่าาาาา!

 

จระเข้ที่กำลังไล่ตามถูกลูกศรขวางทาง บังคับให้ต้องหยุดชั่วคราว

 

ฮังอวี่เมื่อตัวถึงน้ำ ก็ใช้โอกาสนี้ว่ายน้ำอย่างบ้าคลั่ง ราวกับคนพึ่งโด๊ปเลือดไก่มา

 

อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่ฮังอวี่คิดว่าเขารอดแล้ว ดันมีเรื่องไม่คาดฝันปรากฏขึ้น

 

จู่ๆเขาก็พบร่างใหญ่สองร่างดักซุ่มอยู่เบื้องหน้า … มิใช่ใดอื่น เป็นจระเข้ลายดำ!

 

ชิบหาย!

 

ทำไมถึงมีจระเข้ลายดำอยู่ตรงปากทางออกถ้ำ? ตอนขามาฉันจำได้ว่าไม่มีนี่!

 

พริบตาเดียวสถานการณ์ของฮังอวี่กลายเป็นย่ำแย่ สภาพแวดล้อมมีแต่น้ำ ฮังอวี่ไม่สามารถระเบิดพลังรบของเขาออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ บวกกับในพื้นที่แคบๆ คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกมัน

 

 

ขณะเดียวกัน

 

หมาหวังเอ๋อแบกห่อถุงใบใหญ่และกระเป๋าใบเล็ก เดินวนไปวนมาอยู่บนฝั่งหน้าปากถ้ำ

 

นับแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่ฮัสกี้รู้สึกวิตกกังวล

 

แม้เจ้านายจะเป็นคนเข้มงวด แม้เจ้านายจะชอบตีหมา แม้เจ้านายจะบังคับให้มันเรียนอยู่เสมอ แต่หวังเอ๋อเข้าใจว่าเจ้านายเจตนาดี อีกฝ่ายแค่ต้องการให้มันเติบโตขึ้นโดยเร็วที่สุด

 

ครั้งแรกที่เจอกันเจ้านายพามันออกจากครัวของอ้วนต้าไห่ พากลับมาเลี้ยงที่บ้านไม่ปล่อยให้เป็นสุนัขจรจัดอีก

 

นับแต่นั้นหวังเอ๋อได้ตัดสินใจแล้วว่าเจ้านายคือเจ้าของชีวิตเพียงคนเดียวของมัน และในมุมมองของสุนัข ชีวิตเจ้านายสำคัญที่สุด สำคัญยิ่งกว่าตัวเอง สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด

 

“ฮ่ง! ทำไมเจ้านายยังไม่ออกมาอีก? หรือจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น? รีบออกมาเถอะ เปิ่นหวังสัญญาว่าจะตั้งใจอ่านหนังสือ เปิ่นหวังจะเป็นนักเรียนที่ดีทำให้เจ้านายภูมิใจ!”

 

ระหว่างกำลังคิด จู่ๆหวังเอ๋อก็ได้ยินเสียงน้ำกระเซ็น

 

“ฮ่ง ฮ่ง! เจ้านาย!”

 

ฮัสกี้เห็นฮังอวี่ว่ายออกจากอุโมงค์ถ้ำแคบๆ มันกระดิกหางด้วยสีหน้ามีความสุข

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ช้าฮัสกี้ก็หยุดกระดิกหางของมัน มันสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ของเจ้านายไม่สู้ดีนัก

 

อันที่จริงสถานการณ์ของฮังอวี่ไม่สู้ดีจริงๆ พูดว่ากำลังแย่เลยก็ได้

 

เขาถูกจระเข้ซุ่มโจมตีระหว่างออกจากถ้ำ แม้พยายามดิ้นรนต่อสู้แต่ก็ยังสลัดพวกมันไม่หลุด แถมยังโดนกัดขาอย่างแรง ถูกกระชากเนื้อชิ้นใหญ่ไป แผลลึกถึงกระดูกได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

อีกทั้งเขาอยู่ในน้ำ ไม่สามารถดื่มโพชั่นได้

ฮังอวี่พยายามว่ายขึ้นฝั่ง

 

แต่ปากเปื้อนเลือดของจระเข้กัดเข้าที่แขนข้างหนึ่งเขา

 

ฮังอวี่หมุนตัวไปเตะท้องมัน แต่เจ้าหมอนี่ดื้อด้านมาก กัดแล้วไม่ยอมปล่อย

 

ไอ้ทุเรศเอ๊ย! ในน้ำออกแรงได้ไม่เต็มที่ แล้วแบบนี้จะเอาชนะจระเข้ที่ทรงพละกำลังได้ยังไง?

 

จระเข้เริ่มลากฮังอวี่กลับไป

 

ไม่ได้การ!

 

ข้างหลังมีจระเข้อย่างน้อยสิบตัวเรียงแถวรอหม่ำเขา

 

หากถูกลากกลับไป ต้องตายอย่างแน่นอน!

 

จ๋อม!

 

เสียงกระโจนลงน้ำดังขึ้น

 

เป็นฮัสกี้

 

มันทิ้งของที่แบกไว้บนหลัง กระโดดลงน้ำแล้วว่ายมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว งับปากจระเข้อย่างแรง

 

จระเข้เมื่อถูกหวังเอ๋อกัด มันคลายปากออกจากแขนของฮังอวี่

 

แขนของฮังอวี่เวลานี้เนื้อเลอะเลือนไปด้วยเลือด ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยสีแดง มีอาการบาดเจ็บทั้งแขนและขาในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ความเร็วเชื่องช้าลงเป็นอย่างมาก

 

ขณะเดียวกันจระเข้อีกหลายตัวว่ายตรงเข้ามา พวกมันถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นเลือด เริ่มเข้าโจมตีในเวลาเดียวกัน

 

ท่ามกลางวิกฤตหัวเลี้ยวหัวต่อ สิ่งที่ฮังอวี่คาดไม่ถึงได้ปรากฏขึ้น

 

หมาหวังเอ๋อ …

 

หมาที่มักตะกละและขี้เล่น

 

หมาที่ขลาดเขลาทุครั้งเวลาเผชิญหน้ากับอันตราย

 

เวลานี้กลับระเบิดพลังออกมาราวกับหมาบ้าเข้าสิง ว่ายเข้ามาอย่างกล้าหาญ ขวางฝูงจระเข้เอาไว้ ขวางหน้าจระเข้ที่มีขนาดใหญ่กว่าหมาฮัสกี้ถึงสามเท่า!

 

ขณะเดียวกันมันร้องตะโกนว่า “เจ้านายรีบหนีไป!”

 

จระเข้หลายตัวพุ่งเข้าขย้ำอย่างดุเดือด

 

ตัวหนึ่งกัดคอหวังเอ๋อ อีกตัวกัดขาหน้า ตัวแล้วตัวเล่าว่ายมารุมทึ้งมัน

 

จระเข้กระตุกปากอย่างแรง กระชากขาหน้าหวังเอ๋อขาด กระดูกคอถูกกัดจนหัก

 

หวังเอ๋อรู้สึกเจ็บปวดและหวาดกลัวมาก มันตระหนักได้ว่าตนได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังแค่ไหน เมื่อเผชิญกับความตาย สัญชาตญาณหวาดกลัวก็จะถูกกระตุ้นออกมาเช่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม ฮัสกี้ไม่ถอยหนี ในหัวมันว่างเปล่า ปราศจากความคิดฟุ้งซ่าน ราวกับว่าส่วนลึกของจิตใจมันได้สั่งการเอาไว้แล้ว … ว่าต้องทำแบบนี้! และต้องฝืนทนให้จงได้!

 

สุนัขที่ปกติมักขี้ขลาดพยายามขวางทางออกถ้ำอย่างสุดความสามารถ ปากของมันยังคงกัดจระเข้ไม่ยอมปล่อย

 

เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่ในน้ำ แล้วมันจะสู้กับจระเข้ยักษ์ได้อย่างไร?

 

ตอนนี้เจ้านายปลอดภัยแล้วใช่ไหม?

 

นี่คือความคิดสุดท้ายก่อนที่สติของหวังเอ๋อจะหายไป

 

ฮังอวี่ปีนขึ้นฝั่งสำเร็จ เมื่อมองย้อนกลับไป เขาได้เห็นฉากหมาฮัสกี้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เศษขนและชิ้นส่วนศพสุนัขลอยอยู่เหนือแม่น้ำ

 

น้ำใต้ดินที่เดิมใสสะอาด แต่เวลานี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด

 

หวังเอ๋อ!!”

 

คลื่นโทสะลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นในใจฮังอวี่

 

เขาไม่ได้โกรธสุดขีดแบบนี้มานานแล้ว ตอนนี้ในหัวมีอยู่ความคิดเดียวคือฆ่าจระเข้พวกนี้ให้หมด

 

“หมาฉัน นอกจากฉันแล้วไม่อนุญาตให้ใครทำร้ายมัน!” เขาดื่มโพชั่นฟื้นพลังชีวิตและโพชั่นแก้ปวด ถือหน้าไม้ในมือซ้าย มือขวาถือดาบสั้น กัดฟันพูดกับฝูงจระเข้ที่กำลังขึ้นฝั่ง

 

“ไอ้พวกสัตว์เลื้อยคลานสารเลว! ไปลงนรกซะ!”