3/8

 

Ep.941

 

“ซูเฉิน พวกมันกำลังจะฆ่าข้า ช่วยข้าด้วย!” บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรตะโกนขอความช่วยเหลือจากซูเฉิน

 

ซูเฉินหรี่ตาลง กวาดสายตาเย็นชาไปทางสองระดับเทวะของเผ่าปีศาจราตรี

 

แม้ไม่ได้เอ่ยคำใด แต่กลับสร้างความรู้สึกกดดันอย่างแรงกล้าแก่ทั้งสอง

 

แต่แล้วหนึ่งในระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีพลันฉุกคิดได้ถึงเรื่องหนึ่ง ความหวาดกลัวในตอนแรกมลายหายไป ก่อนหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ซูเฉิน ที่นี่คือมิติภายนอก มิใช่แผ่นดินใหญ่ เจ้าคิดหรือว่าจะทำตัวอวดดีต่อหน้าพวกเราได้?”

 

หากอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ระดับฐานฝึกตนของพวกเขาจะถูกสะกดไว้ที่ขั้น 10 ซึ่งไม่มีทางสู้ซูเฉินได้ แต่ในมิติภายนอก ฐานฝึกตนไม่ถูกสะกดเอาไว้

 

มีข่าวลือว่าซูเฉินเป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 เท่านั้น แล้วแบบนี้จะสู้กับพวกเขาในระดับเทวะได้อย่างไร?

 

ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรซีดเผือด เขานึกได้แค่ว่าซูเฉินน่ะแข็งแกร่ง แต่ลืมคิดไปเลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน

 

ท่ามกลางมิติภายนอก ซูเฉินจะสามารถรับมือกับระดับเทวะสองคนได้อย่างไร?

 

“พวกแกคิดแบบนั้นจริงๆน่ะหรอ?”

 

มุมปากซูเฉินยกโค้ง ผุดรอยยิ้มดูแคลน จากนั้นระเบิดพลังจิตออกมาทันที พันธนาการเผ่าปีศาจราตรีที่พูดได้อย่างง่ายดาย

 

“นี่เจ้าอยู่ในระดับเทวะแล้ว? เป็นไปได้อย่างไร!”

 

ใบหน้าของระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีเปลี่ยนเป็นสยองเกล้า ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ

 

พลังจิตของซูเฉินพันธนาการเขาไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้ นี่แสดงให้เห็นว่าซูเฉินอยู่ในระดับเทวะอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีโอกาสสูงที่จะเป็นระดับเทวะขั้น 2

 

แต่ว่าก็ว่าเถอะ ตอนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ซูเฉินมีฐานฝึกตนอยู่แค่ขั้น 10 ไม่ใช่หรอ?

 

แล้วทำไมพอเข้าสู่มิติภายนอก ถึงสามารถยกระดับทีเดียวสองขั้นติดต่อกันได้?

 

อันที่จริงระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรียังไม่รู้ ว่าซูเฉินได้เลื่อนขั้นเป็นระดับเทวะตั้งนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้เปิดเผยมันออกมา จึงถูกเข้าใจผิดว่ายังเป็นขั้น 10 อยู่

 

“ซูเฉินเลื่อนขั้นเป็นระดับเทวะแล้ว … ” ใบหน้าของบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรเต็มไปด้วยความตกใจ พึมพำอย่างเหม่อลอย

 

“ยังมีอีกหลายเรื่องที่พวกแกยังไม่รู้!” ซูเฉินควบคุมพลังแห่งจิตวิญญาณของเขา ดึงระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีเข้ามา แล้วซัดหมัดออกไปทันที

 

บังเกิดเสียงดังปัง!

 

ร่างของระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีระเบิดเป็นชิ้นๆ กลายเป็นละอองเลือด

 

“ระดับเทวะขั้น 2 … ”

 

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรตะลึงจนอ้าปากค้าง

 

ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเผ่าปีศาจราตรีสูงส่งเพียงใดใครๆก็ทราบ ถือเป็นอันดับต้นๆของบรรดาหมื่นเผ่าพันธุ์

 

ทว่าซูเฉินกลับสามารถระเบิดร่างอีกฝ่ายได้ในหมัดเดียว บ่งบอกว่าเขาต้องเป็นระดับเทวะขั้น 2 อย่างแน่นอน

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรยังจำได้ดี ว่าครั้งแรกที่พบกับซูเฉิน ตอนนั้นอีกฝ่ายมีฐานฝึกตนแค่ขั้น 7 เท่านั้น

 

แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆแค่สองปี ซูเฉินกลับสามารถเติบโตขึ้นมาได้ถึงจุดนี้ กลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 2

 

ความเร็วในการฝึกตนของเขา น่าสะพรึงถึงขีดสุด!

 

ระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรีอีกคน หลังจากตระหนักว่าซูเฉินคือการดำรงอยู่ระดับเทวะขั้น 2 ก็หวาดกลัวอกแทบแตกตาย ทั้งร่างสั่นระริก

 

เมื่อสายตาของซูเฉินจ้องมองมา หัวใจเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ร้องตะโกนว่า “ซูเฉิน ผู้ฝึกตนจากหมื่นเผ่าพันธุ์นับเป็นพวกเดียวกัน เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้! หากเจ้าฆ่าข้า ผู้ปกครองโลกาจะไม่ละเว้นเจ้า!”

 

เจ้าตัวรู้ดี ว่าซูเฉินไม่มีทางปล่อยเขาไป หากอยากรอด มีวิธีเดียวคืออ้างชื่อผู้ปกครองโลกามาข่มซูเฉินเท่านั้น

 

“คิดใช้เหล่าหวู่มากดดันฉันงั้นหรอ?”

 

ซูเฉินแค่นเสียงฮึเบาๆ ง้างแขนและชก [หมัดดาวตก] ดับชีวิตอีกฝ่ายลงอย่างง่ายดาย

 

ข้อตกลงระหว่างเขากับหวู่ซางก็คือ ห้ามสังหารตามอำเภอใจบนแผ่นดินใหญ่ แต่ในมิติภายนอก ไม่ถือว่าละเมิดข้อตกลง

 

“เหล่ายวี้ มากับผมสิ”

 

ซูเฉินเก็บชิ้นส่วน หันไปเรียกบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูร และเดินกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรไม่ลังเลแม้แต่น้อย เดินตามหลังซูเฉินไป

 

4/8

 

Ep.942

 

“เหล่ายวี้ ทำไมเผ่าปีศาจราตรีสองคนนั้นถึงไล่ตามคุณ” ซูเฉินเอ่ยถามอย่างใจเย็น

 

“ข้ามีเรื่องบาดหมางกับหนึ่งในสองคนนั้น วันนี้บังเอิญพบหน้า พวกเขาเลยคิดใช้จำนวนเข้าว่า รุมสังหารข้า” บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรกล่าวอย่างไม่ลังเล

 

ซูเฉินชะงักงัน จับจ้องบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรอย่างว่างเปล่า ลอบพูดในใจว่า “ตาแก่นี่โกหกได้หน้าไม่อาย มาดูกันว่าฉันจะง้างปากเขายังไง!”

 

เขามั่นใจมาก ว่าที่สองระดับเทวะของเผ่าปีศาจราตรีไล่ล่าบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูร ก็เพราะมหาเพลิงเอกลักษณ์อย่างแน่นอน และจุดประสงค์ที่ซูเฉินมาที่นี่ก็เพื่อมันเช่นกัน

 

ในเมื่อบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรไม่ยอมสารภาพอย่างตรงไปตรงมา งั้นเขาก็มีวิธีอื่นงัดปากอีกฝ่าย

 

“ซูเฉิน ทำไมเจ้าถึงเข้าสู่มิติภายนอก?”

 

ในตอนนั้นเอง บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรเอ่ยถาม

 

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาได้ แสร้งทำเป็นอารมณ์เสีย กล่าวเสียงเย็นว่า “ผมบังเอิญได้ตัวมหาเพลิงเอกลักษณ์ธาตุสายฟ้ามา แต่เผลอปล่อยมันหลุดไป ตอนนี้กำลังตามหามันอยู่”

 

มหาเพลิงเอกลักษณ์ธาตุสายฟ้า?

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรอ้าปากค้าง เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

 

ซูเฉินพ่นลมออกทางจมูก กล่าวต่อว่า “ถ้าผมรู้ว่าใครเป็นคนเอามหาเพลิงเอกลักษณ์ของผมไป ผมจะฉีกแขนฉีกขามัน แยกออกเป็นชิ้นๆ แล้วตามไปล้างบางเผ่าพันธุ์ของมัน ต่อให้ผู้ปกครองโลกามาห้าม ก็อย่าหวังเลยว่าจะหยุดผมได้!”

 

อึก!

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรกลืนน้ำลาย ณ ตอนนี้ เขากระจ่างแล้ว ว่าซูเฉินต้องรู้ว่าตนมีมหาเพลิงเอกลักษณ์ธาตุสายฟ้าอยู่กับตัวแน่ๆ เป้าหมายของอีกฝ่ายคือต้องการปล้นมัน และเหตุผลที่พูดแบบนี้ออกมา ก็เพื่อข่มขู่เขา ให้ยอมปล่อยมืออย่างว่าง่าย

 

‘ช่างไร้ยางอาย!’

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรรู้สึกเกลียดชังในหัวใจ แต่ไม่กล้าแสดงท่าทีใดๆออกมา กลับเผยรอยยิ้มประจบประแจงบนใบหน้า แล้วกล่าวว่า

 

“ข้าบังเอิญไปเจอมหาเพลิงเอกลักษณ์ตัวหนึ่งเข้าพอดี เจ้าลองดูสิว่ามันใช่ของเจ้ารึเปล่า”

 

พูดไปพูดมา เขาก็นำมหาเพลิงเอกลักษณ์ เพลิงอสนีเก้าวิญญาณออกมาจากถุงสัตว์เลี้ยงวิญญาณ

 

เพลิงอสนีเก้าวิญญาณ บนร่างของมันเต็มไปด้วยไฟสีฟ้า มีขนาดแค่ฝ่ามือ ดูไปดูมามีลักษณะคล้ายลูกสุนัข น่ารักน่าชัง

 

“เป็นมัน!”

 

ซูเฉินคว้าเพลิงอสนีเก้าวิญญาณมาไว้ในมือ ดีดหน้าผากมันคราหนึ่ง ดุว่า “คราวหน้าคราวหลังถ้าหนีไปมั่วซั่วอีก ฉันจะหักขานาย!”

 

เพลิงอสนีเก้าวิญญาณกลายเป็นโง่งม พวกเราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกไม่ใช่อ่อ? แล้วบิดาหนีไปจากเอ็งตอนไหนกัน?

 

ซูเฉินไม่เปิดโอกาสให้มันพูด สะบัดมือคราเดียวโยนเข้าไปใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] ปล่อยให้โลกันต์เยือกแข็งและอัคคีผลาญแปดทิศคอยดูแล

 

หลังจากบรรลุความต้องการแล้ว เขาก็หันไปมองบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูร กล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “เหล่ายวี้ ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมาก”

 

“ด้วยความยินดี” ใบหน้าของบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา

 

ซูเฉินกระแอมในลำคอ จากนั้นเอ่ยต่อว่า “คุณช่วยผมหามหาเพลิงเอกลักษณ์ ส่วนผมช่วยชีวิตคุณไว้ ถือว่าพวกเราหักลบกลบหนี้กัน”

 

‘ปล้นมหาเพลิงเอกลักษณ์ของข้าไป โดยไม่คิดมอบอะไรตอบแทนเลยหรือ?’

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงเรื่องที่หากซูเฉินปรากฏตัวไม่ทันเวลา เขาคงประสบกับเคราะห์ร้ายจริงๆ ความไม่พอใจในหัวใจก็โล่งกว่าเดิมมาก

 

“เหล่ายวี้ คุณจะไปไหนต่อ?” ซูเฉินถาม

 

ซูเฉินกำลังรีบมุ่งหน้าไปยังป่าหยานเย่ จึงไม่คิดเสียเวลาสนทนากับบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรอีกต่อไป

 

“มิติภายนอกอันตรายเกินไป ข้าตั้งใจจะกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ของเผ่าราชวงศ์อสูร” บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรตอบ

 

ซูเฉินพยักหน้า เปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว “งั้นผมไม่ขอรบกวนคุณแล้ว เชิญ”

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรตัวแข็งทื่อ นี่ซูเฉินกำลังไล่แขกใช่หรือไม่?

 

พอได้มหาเพลิงเอกลักษณ์ไป ก็ไล่คนทันทีเลยหรอ? นี่มันออกจะโหดร้ายไปหน่อยกระมัง?

 

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรถึงกับอ้าปากค้าง แต่ก็ยอมหาทางลงให้ตัวเอง

 

“ข้าก็กำลังรีบกลับเช่นกัน ขอบอกลาเจ้าเลยแล้วกัน”

 

สิ้นเสียง เขาก็ลงจากรถ

 

ทันทีที่ก้าวลงมา [รถศึกอัจฉริยะ] ระเบิดความเร็ว ชั่วพริบตาเดียวหายวับไปท่ามกลางหมู่ดาวอันเวิ้งว้าง