3/10

 

Ep.931

 

ซูเฉินค่อนข้างพอใจกับค่าชดเชยนี้ เขายิ้มและกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนผู้อาวุโสแล้ว”

 

หวู่ซางพยักหน้า ก่อนเอ่ยเตือนว่า “ซูเฉิน ข้าหวังว่าเจ้าจะเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นชีวิตของเจ้าจะตกอยู่ในอันตราย”

 

เอ๋?

 

คิ้วของซูเฉินขมวดเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหวู่ซางถึงพูดแบบนั้น

 

หวู่ซางอธิบายว่า “จะมากจะน้อยข้าพอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับนักพรตเทียนซ่านมาบ้าง เป็นเขานี่แหละที่อยากฆ่าเจ้ามากที่สุด!”

 

นักพรตเทียนซ่าน?

 

ใบหน้าของซูเฉินเริ่มตึง เอ่ยปากถาม “ผู้อาวุโส ฐานฝึกตนของนักรพรตเทียนซ่านอยู่ในขั้นไหน?”

 

เรื่องที่นักพรตเทียนซ่านต้องการฆ่าเขา ซูเฉินรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ทว่านักพรตเทียนซ่านแข็งแกร่งเพียงใด ข้อมูลนี้ยังไม่ชัดเจน

 

“ระดับเทวะขั้น 10!” หวู่ซางเฉลยออกมา

 

“ซู๊ดดดดด!”

 

ลมหายใจซูเฉินไหลย้อนกลับ แม้เขาจะเดาได้นานแล้วว่านักรพรตเทียนซ่านแข็งแกร่งมาก แต่ไม่นึกว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้

 

ระดับเทวะขั้น 10 นั่นเป็นรองแค่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทพเจ้าเท่านั้น!

 

หากเขาเข้าสู่มิติภายนอก ไม่ใช่ว่าจะถูกสังหารในพริบตาเดียวหรอกหรือ?

 

“ผู้อาวุโส จากคำพูดของท่าน แบบนี้ไม่ใช่ว่าข้าคงไม่มีทางได้เข้าสู่มิติภายนอกหรอกหรือ?” ซูเฉินถามเสียงหม่น

 

“ได้สิ เจ้าไปได้” หวู่ซางตอบกลับมา แล้วเอ่ยเสริมว่า “ข้าจะป้องกันไม่ให้นักพรตเทียนซ่านลงมือกับเจ้าโดยตรงเอง อย่างไรก็ตาม หากเขาส่งคนมาฆ่าเจ้า ข้าไม่สนใจนะ”

 

‘ตาแก่นี่จะเอายังไงกันแน่?’ ซูเฉินยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกว่าหวู่ซางคาดเดาไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวบอกจะป้องกันนักพรตเทียนซ่านไม่ให้มาฆ่าเขา เดี๋ยวก็บอกจะมีลูกน้องอีกฝ่ายมา นี่มันไม่ขัดแย้งกันเองหรอ?

 

“ผู้อาวุโส เช่นนั้นถ้านักพรตเทียนซ่านส่งระดับเทวะขั้น 8 หรือ 9 มาสังหารผม ไม่ใช่ว่าผมก็ไม่มีทางรอดเหมือนกันหรอกหรอ?” ซูเฉินกล่าวด้วยสีหน้ามืดมน

 

“สิ่งที่เขาสามารถทำได้มากที่สุดก็คือ ส่งผู้แข็งแกร่งกว่าเจ้าสองขั้นมาสังหารเจ้าเท่านั้น นี่คือคำสั่งของข้าเอง เขาไม่กล้าขัดขืนหรอก” หวู่ซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ก็แล้วในเมื่อสามารถสั่งนักพรตเทียนซ่านได้ งั้นทำไมไม่บอกให้นักพรตเทียนซ่านหยุดจองล้างจองผลาญฉันเสียเล่า?

 

ปล่อยค้างๆคาๆแบบนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

 

ซูเฉินเต็มไปด้วยความสับสนงงงวย แต่ก็รู้ดี แม้ถามออกไป ผู้เฒ่าหวู่คงไม่คิดเอ่ยปากอยู่ดี

 

เห็นซูเฉินเงียบ หวู่ซางก็กล่าวว่า “ซูเฉิน เจ้าต้องจำไว้ให้ดี ว่าจงรีบเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าโดยเร็วที่สุด หากนักพรตเทียนซ่านก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้าก่อนเจ้า ข้าไม่เพียงไม่หยุดเขา แต่ยังจะช่วยเขาสังหารเจ้าด้วย!”

 

ช่วยเขาสังหารฉัน?

 

การแสดงออกทางสีหน้าของซูเฉินสั่นสะท้าน เอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโส ใช้เวลานานเท่าไหร่กว่านักพรตเทียนซ่านจะเลื่อนขั้นสู่ระดับเทวะ?”

 

เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย เขาต้องรู้ให้มันชัดเจน

 

“อีกเพียงไม่กี่ร้อยปี หรืออาจยาวนานถึงพันปี” หวู่ซางครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนตอบกลับ

 

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินถอนหายใจโล่งอก สำหรับเขา การก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้า มันใช้เวลาไม่ถึงสิบปีด้วยซ้ำ

 

ด้วยประการฉะนี้ นักพรตเทียนซ่านไม่สามารถคุกคามเขาได้อย่างแน่นอน

 

เมื่อถึงเวลานั้น คนที่ต้องกังวลก็คือตัวนักพรตเทียนซ่านเอง

 

“ผู้อาวุโส แล้วผมจะได้ของชดเชยเมื่อไหร่?” ซูเฉินถอนหายใจโล่งอก หันมาถาม

 

“เจ้ารออยู่ในทวีปเผ่าเทพ เดี๋ยวข้าจะส่งคนไปมอบให้เอง” หวู่ซางตอบกลับ ระหว่างนั้นลอบชำเลืองมองซูเฉิน เมื่อเห็นท่าทีโล่งใจของซูเฉิน เขาก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ “ซูเฉิน นี่เจ้าไม่กังวลเลยหรือ?”

 

ซูเฉินมีพรสวรรค์มาก ความเร็วในการฝึกฝนก็รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่การจะเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าในเวลาหลักร้อยปีช่างยากเย็นแสนเข็ญ

 

แล้วเขาจะไม่กังวลสักหน่อยเลยหรือ ว่านักพรตเทียนซ่านจะก้าวสู่ขอบเขตเทพเจ้าก่อนเขา?

 

มุมปากของซูเฉินยกโค้ง กล่าวด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยความหมายว่า “เมื่อวันนั้นมาถึง ผู้อาวุโสจะเข้าใจเอง”

 

หวู่ซางตกตะลึง ก่อนหน้านี้เขาก็พูดกับซูเฉินประมาณนี้เหมือนกัน ไม่นึกเลยว่าจะถูกซูเฉินตอกกลับด้วยความหมายแบบเดียวกัน

 

หวู่ซางส่ายหัว ค่อยๆกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ามั่นใจมาก เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะถามแล้ว ขอตัวก่อนแล้วกัน หวังว่าครั้งหน้าที่พวกเราเจอกัน เจ้าจะกลายเป็นยอดฝีมือในขอบเขตเทพเจ้า”

 

“ผู้อาวุโสเชื่อใจผมได้เลย” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

4/10

 

Ep.932

 

หวู่ซางไม่ได้พูดอะไรอีก พริบตาเดียวหายวับไปจากสายตาซูเฉิน

 

ความมืดรอบกายก็หายไปพร้อมพร้อมกับตัวเขาเช่นกัน

 

เวลานี้ ซูเฉินพบว่าตัวเองได้กลับมาอยู่บน [รถศึกอัจฉริยะ] อีกครั้ง

 

“เจ้านาย คุณตื่นแล้ว?”

 

ในตอนนั้นเอง [รถศึกอัจฉริยะ] จู่ๆก็พูดขึ้น

 

ซูเฉินใช้เวลาเรียกสติครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามว่า “เสี่ยวจือ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน?”

 

“เจ้านาย เหมือนว่าคุณจะหลับไป” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบตามความจริง

 

ซูเฉินพยักหน้า เมื่อครู่ไม่ทราบหวู่ซางใช้กลวิธีใด ดึงเอาจิตเทวะของเขาเข้าสู่ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด

 

เจอเหตุการณ์แบบนั้นเข้าไป จนถึงตอนนี้ซูเฉินยังมีอาการใจสั่นอยู่เลย

 

“เสี่ยวจือ หาที่เหมาะๆจอดพัก” ซูเฉินสั่ง

 

หวู่ซางได้กล่าวไว้ ว่าอีกสิบวันจะมีคนมาส่งของ ระหว่างช่วงเวลานั้น แค่รออยู่เฉยๆก็พอ

 

ต่อมา เขาเปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] และดูรายการต่างๆ ในเมื่อตอนนี้ไม่มีอะไรทำ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะแลกเปลี่ยนเพื่อยกระดับกำลังรบของสมาชิกรอบตัวเขา

 

ในที่สุด ซูเฉินเหลือทิ้งไว้เพียง 100,000 จุดเป็นแต้มพลังงานสำรอง ส่วนที่เหลือทั้งหมดถูกแลกเปลี่ยน [โพชั่นกายภาพ] ในขั้นต่างๆ

 

อู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางทั้งสองอยู่ในระดับเสมือนเทวะ แต่ละคนจึงได้รับ [โพชั่นกายภาพขั้น 12 ] คนละหนึ่งขวด

 

ฉางไช่หลี่กับผู้ฝึกตนขั้น 10 คนอื่นๆ ล้วนได้รับ [โพชั่นกายภาพ ขั้น 11]

 

รอจนเข้าสู่มิติภายนอก แล้วค่อยดื่มพวกมัน พวกเขาก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นเสมือนเทวะ

 

สำหรับเฉินเฟิงและคนอื่นๆ เนื่องจากยังไม่ถึงขั้น 10 ดังนั้นยังไม่ถูกจำกัดระดับพลัง สามารถดื่มโพชั่นกายภาพ แล้วเลื่อนขั้นได้ทันที

 

รอจนสามารถปรับตัวกันได้แล้ว ซูเฉินก็มอบ [โพชั่นกายภาพ] ให้อีกครั้ง ส่งผลให้ระดับฐานฝึกตนของทุกคนยกระดับสู่ขั้น 10 ในคราเดียว

 

ส่วนตันหลินและคนอื่นๆ เนื่องจากระดับฐานฝึกตนต่ำเกินไป จึงไม่อาจเลื่อนขั้นต่อเนื่องได้ เป็นเหตุผลที่ถูกหยุดอยู่แค่ขั้น 8 เท่านั้น

 

ช่วงเวลานี้นอกจากช่วยทุกคนยกระดับแล้ว ซูเฉินยังมีตันหลินและหยางเฉียนคอยอุ่นเตียง มหาศึกหงส์ร่อนมังกรรำดำเนินต่อเนื่องหลายวันหลายคืน กว่าทั้งคู่จะถูกปล่อยตัวออกมา

 

สิบวันผ่านไปราวกับพริบตา เมื่อถึงเวลาที่ตกลงวันไว้ ปรากฏชายเผ่าเทพคนหนึ่งเดินทางมาพบซูเฉิน

 

“ซูเฉิน ข้านำทุกอย่างมาให้เจ้าแล้ว จงออกมา!”

 

ชายเผ่าเทพขึ้นเสียง ตะโกนไปทาง [รถศึกอัจฉริยะ] เมื่อมองหน้าชัดๆ ก็พบว่าอีกฝ่ายมีท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจมาก

 

ซูเฉินก้าวลงจากรถ กวาดสายตามองอีกฝ่ายขึ้นๆลงๆ กล่าวเสียงเย็น “โยนมันมา”

 

ขายเผ่าเทพไม่ลังเล ถอดถุงสมบัติที่ห้อยอยู่ข้างเอว แล้วโยนให้ซูเฉิน จากนั้นเอ่ยเตือนว่า “นี่ของๆเจ้า ได้แล้วก็รีบไสหัวออกจากทวีปเผ่าเทพของพวกเราซะ!”

 

ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง

 

อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้น 10 เท่านั้น แต่ดันกล้สพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังสั่ง มันคิดจริงๆหรือว่าเขาจะไม่กล้าลงมือ?

 

เป็นเรื่องจริงที่ซูเฉินได้ให้สัญญากับหวู่ซาง แต่นั่นอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าอีกฝ่ายต้องไม่ยั่วยุเขา

 

“ถ้าแกกล้าพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนั้นอีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะหั่นแกเป็นชิ้นๆ!”

 

ประกายเย็นเยียบฉายวาบในแววตาของซูเฉิน จ้องเขม็งไปทางชายเผ่าเทพ

 

ชายเผ่าเทพตะลึงงันไปชั่วขณะ ก่อนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ซูเฉิน! เจ้ามันบ้า! ผู้ปกครองโลกาได้กล่าวไว้ ว่าเจ้าไม่สามารถทำร้ายพวกเราได้ หรือเจ้ากล้าขัดคำสั่งท่าน?”

 

“คิดจะเอาผู้ปกครองโลกามากดดันฉันหรอ?” ซูเฉินแค่นเสียงหัวเราะ ขณะที่เขากำลังจะลงมือ พลันปรากฏฝ่ามือใหญ่ฟาดลงมาจากฟากฟ้า ประทับลงในตำแหน่งที่ชายเผ่าเทพยืนอยู่อย่างแรง

 

บรึ้มมมมมม!

 

ปรากฏรอยฝ่ามือใหญ่ขึ้นเบื้องหน้าซูเฉิน ชายเผ่าเทพผู้นั้นศพหายไปไม่เหลือแม้แต่กระดูก จบชีวิตตายคาที่!

 

ในเวลาเดียวกัน เสียงของหวู่ซางดังสะท้อนเข้ามาในหูของซูเฉิน

 

“เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ข้าจะเตือนพวกเขาเอง”

 

“เช่นนั้นก็ขอบคุณผู้อาวุโส” ซูเฉินกล่าวเสียงเรียบ

 

เมื่อเห็นว่าหวู่ซางไม่ตอบ ซูเฉินก็หันมาตรวจสอบสมบัติข้างในถุง