6/7

Ep.93

“ใครรู้ที่อยู่ของคฤหาสน์ของเจ้าเมืองหนุ่มให้ก้าวออกมาข้างหน้า แล้วฉันจะไว้ชีวิต” ซูเฉินประกาศเสียงดัง

เขาไม่รู้ที่ตั้งของคฤหาสน์เจ้าเมืองหนุ่ม แต่ทหารเหล่านี้ต้องรู้แน่ จึงเอ่ยถามข้อมูลจากอีกฝ่าย

ทหารรักษาการณ์หลายสิบคนมองหน้ากัน คล้ายกับรับรู้ได้ถึงความหมายที่แฝงอยู่ในแววตาอีกฝ่าย แยกกันหนีกระเจิดกระเจิงไปทุกทิศทาง

พวกเขารู้ดี ว่าตนไม่อาจเอ่ยถึงที่ตั้งคฤหาสน์เจ้าเมืองหนุ่มมั่วซั่วได้ หากพูดออกไปแล้ว คงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งใดไม่ควรพูด ก็ห้ามปริปากออกมา

คิดได้ก็พากันหลบหนีทันที แต่คนอย่างซูเฉิน จะยอมปล่อยพวกเขาไปได้อย่างไร?

“คิดหรอว่าพวกแกจะหนีไปได้?”

ซูเฉินเยาะหยัน สองมือโบกสะบัดต่อเนื่อง ยิงใบมีดสายลมออกไปทุกทิศทาง ขณะเดียวกันเขาได้ปลดปล่อยพลังจิต ตรึงร่างทหารรักษาการณ์สองคนที่อยู่ใกล้ที่สุดเอาไว้

ตามมาติดๆด้วยเสียงกรีดร้องลั่นดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ ทหารที่หนีไปถูกฆ่าตายทีละคน ทีละคน จนเหลือเพียงสองคนแรกที่ยังรอดชีวิตอยู่

“นายรู้จักคฤหาสน์ของเจ้าเมืองหนุ่มไหม?” ซูเฉินก้าวไปข้างหน้า จ้องหนึ่งในสองทหาร

“ฉันพูดไม่ได้ ถ้าพูดไป ฉันตายแน่ๆ!” ทหารรักษาการณ์ตะโกนด้วยความตื่นตระหนก

“อ้อเหรอ งั้นก็ตายซะ!”

ซูเฉินไม่พูดพล่ามทำเพลง ง้างฝ่ามือและทุบลงบนหัวอีกฝ่าย จากนั้นหันไปมองทหารคนสุดท้าย “จะบอกฉันได้รึยัง?”

ชายคนนั้นหวาดกลัวจนเกือบฉี่ราด รีบตอบคำถาม “อย่าฆ่าฉัน ฉันยอมบอกแล้ว ยอมบอกทุกอย่างเลย!”

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หันไปเรียก [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ มานี่”

ได้รับคำสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็รีบขับมาหยุดข้างกายซูเฉิน

ซูเฉินลากทหารคนสุดท้ายเข้าไป โยนลงหน้ารถ กล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า “นำทางไป ถ้ากล้าโกหก บิดาเชือดทันที”

“ไม่กล้า ฉันไม่กล้า!” ทหารรักษาการณ์ตอบลิ้นพัน รีบชี้เส้นทาง

[รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มความเร็ว เคลื่อนออกไปตามทิศทางที่ได้รับมอบหมาย

ขับไปได้ประมาณหนึ่งกิโลเมตร ทันใดนั้นปรากฏกลุ่มทหารรักษาการณ์นับร้อย วิ่งเข้ามาขวางถนนเบื้องหน้า

ทหารรักษาการณ์เหล่านี้เป็นกองกำลังชั้นยอดของเมืองจิงกัง ในหมู่พวกเขา มีผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 อยู่สามคน และมีผู้วิวัฒนาการเลเวล 1 อีกนับสิบ

สามารถกล่าวได้เลยว่า ด้วยสมาชิกของกลุ่มนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะต่อกรกับคลื่นซอมบี้ขนาดเล็ก

“พี่เฉิน พวกเขาเป็นกองกำลังหลักของเมืองจิงกัง ความสามารถในการต่อสู้ทรงพลังมาก ในกลุ่มมีผู้วิวัฒนาการอยู่ไม่น้อย” สีหน้าของสือต้าหนิวซีดเผือด รีบเตือนซูเฉิน

“ก็แค่ฝูงปลาซิวปลาสร้อย”

ซูเฉินไร้ซึ่งความหวาดกลัว ระหว่างที่พูดก็หยิบ [ดาบเสริมมนตรา] ออกจากถุงเก็บของ ก้าวลงจากรถอย่างสบายๆ

“พี่เฉิน … ” มุมปากของต้าหนิวสั่นระริก

เดิมเขาต้องการที่จะเกลี้ยกล่อมซูเฉินให้รีบหนีไป แต่หลังจากที่ได้เห็นร่างของซูเฉินยืนหยัดดั่งขุนเขา ความรู้สึกอันยากจะอธิบายก็ผุดขึ้นในใจเขา

เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งนับร้อย แต่ซูเฉินยังคงสงบเช่นเดิม เป็นไปได้ไหมว่าเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง ว่าจะสามารถเอาชนะได้จริงๆ

“เจ้าคนคลุ้มคลั่งไร้สติ กล้าดียังไงถึงมาก่อเรื่องวุ่นวายในเมืองจิงกัง? พี่น้องทั้งหลาย! ร่วมมือกันกำราบเขา! ไม่ต้องสนว่าจะเป็นหรือตาย!”

หลายร้อยคนฝั่งตรงข้ามมองซูเฉินเป็นสายตาเดียว ชายฉกรรจ์วัยกลางคนคนหนึ่งก้าวออกมาจากฝูงชน อ้าปากร้องตะโกนดังลั่น กุมขวานยักษ์ในมือ ปรี่เข้าหาซูเฉินเป็นคนแรก

“ฆ่า!”

เสียงโห่ร้องฆ่าฟันดังกึกก้อง ทหารรักษาการณ์หลายร้อยคนดาหน้าเข้ามาพร้อมกัน มองไกลๆเหมือนคลื่นที่โหมกระหน่ำบนท้องทะเล จิตสังหารคุกรุ่นไปทั่วบริเวณ

มนุษย์คนไหนบังเอิญจมอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ จะมิอาจสูดหายใจ

ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่แคบลง [ดาบเสริมมนตรา] ในมือเขาถูกอัดฉีดพลังเวทย์ลมลงไป ส่งเสียงหึ่งหึ่งพร้อมระเบิดโจมตี

และเมื่อทหารเหล่านั้นใกล้เข้ามา คมดาบก็สะบั้นออกไป