5/10

 

Ep.889

 

ซูเฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนหันไปถามฉีมู่เฟิงว่า “พี่ฉี คุณเรียกใช้พลังระดับเทวะในอาณาจักรนี้ได้ไหม?”

 

“สถานที่แห่งนี้พิเศษมาก ข้าไม่รู้สึกถึงร่องรอยของอำนาจเขตแดน ไม่มีปัญหาในการปลดปล่อยความแข็งแกร่งระดับเทวะ” ฉีมู่เฟิงกล่าวตามจริง

 

ฉีมู่เฟิงไม่ถูกสะกดพลัง นี่หมายความว่าทางฝั่งซอมบี้เองก็สามารถปลดปล่อยพลังระดับเทวะได้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม ซูเฉินไม่สนใจ ระดับเทวะขั้น 2 ไม่คณามือเขา

 

ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า เขามีแต้มพลังงานอีกมากกว่าแสนแต้ม หากใช้มันยกระดับสู่เทวะขั้น 2 ไม่น่าจะเป็นปัญหา

 

ด้วยความสามารถคงกระพันในระดับเดียวกันของเขา บวกกับความสามารถในการสังหารศัตรูข้ามขั้น กล่าวได้เลยว่าในอาณาจักรซอมบี้แห่งนี้ ไม่มีใครหยุดเขาได้ สามารถเดินเหินไปทุกหนแห่งได้ดั่งใจนึก

 

“เสี่ยวจือ ค้นหาเป้าหมายถัดไป ”

 

ซูเฉินออกคำสั่ง เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ไม่ถูกสะกดพลังโดยอำนาจเขตแดน เขาจึงตั้งใจจะเพิ่มระดับฐานฝึกตนของตัวเอง

 

เผื่อวันหน้ายามเข้าสู่มิติภายนอก จะได้ช่วยรับประกันความปลอดภัยได้มากขึ้น

 

[คุณสมบัติเลเวล 11 อย่างเต็มรูปแบบ] ใช้ 15,000 แต้มพลังงาน

 

ซูเฉินไม่ลังเลแม้แต่น้อย จัดการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน

 

เมื่อแลกเปลี่ยนสำเร็จ ฐานฝึกตนของเขาก็ขยับขึ้นเป็นเสมือนเทวะอย่างเป็นทางการ

 

จากนั้น เขามองไปยัง [คุณสมบัติเลเวล 12 อย่างเต็มรูปแบบ] เมื่อเห็นว่าต้องใช้ 20,000 แต้มพลังงาน ก็เกิดความลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็แลกมันออกมา

 

“ระดับเทวะขั้น 1 ..!”

 

ซูเฉินกำหมัดแน่น ยากที่จะเก็บซ่อนความตื่นเต้นได้

 

ยกระดับสองขั้นซ้อน ซูเฉินก็ไม่คิดจะแลกเปลี่ยนอีกต่อไป

 

ฐานฝึกตนเมื่อขยับขึ้นเร็วเกินไป หากไม่รอให้เกิดกระบวนการตกตะกอน มีโอาสสูงที่จะเกิดความเสียหายกับร่างกาย สุดท้ายส่งผลลัพธ์ตรงกันข้าม

 

แลกเปลี่ยนชิ้นส่วนคุณสมบัติทั้งหมดเสร็จ เขาก็หันไปดูรายการที่มีราคาหมื่นแต้ม

 

จวบจนถึงตอนนี้ นอกจาก [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ] , [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] และ [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] แล้วก็ไม่เหลืออะไรอีก

 

ซูเฉินกวาดสายตามองทั้งสามรายการนี้ สุดท้ายตัดสินใจใช้หมื่นแต้มแลก [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง]

 

[หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ดูจากชื่อแล้วน่าจะเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์สายกระบี่ เรื่องความสามารถของพลังสายนี้ ซูเฉินค่อนข้างเข้าใจดี เพราะเคยประสบด้วยตัวเองมาแล้ว

 

ไม่ว่าจะเป็นวิชากระบี่รวมเป็นหนึ่ง หรือวิชากระบี่หมื่นอัสนี พลังทำลายล้างของพวกมันสูงมาก จนทำให้ซูเฉินอยากครอบครองวิชากระบี่แบบนั้นมานานแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าที่เขาเลือกแลกเปลี่ยน [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง]

 

หลังแลกเปลี่ยนสำเร็จ ข้อมูลก็ถูกส่งเข้ามา

 

รอซูเฉินกลั่นกรองมันจนจบ เจ้าตัวก็ตกตะลึงเล็กน้อย

 

[หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] คือพลังศักดิ์สิทธิ์สายกระบี่จริงๆ แต่มันซับซ้อนและลึกซึ้งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] สามารถแบ่งออกเป็นสามขั้น

 

ขั้นแรก เรียกว่า ร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่ง เขาสามารถควบคุมกระบี่เทวะร้อยเล่มเพื่อโจมตีได้

 

ขั้นสอง เรียกว่า พันกระบี่คืนสู่หนึ่ง สามารถควบคุมกระบี่เทวะพันเล่มเพื่อโจมตีได้

 

ขั้นสาม หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง สามารถควบคุมกระบี่เทวะ 5,000 , กระบี่มนตราอีก 2,500 เล่ม และกระบี่พลังจิตอีก 2,500 เล่มเพื่อใช้โจมตีได้

 

อาจกล่าวได้เลยว่า ความยากลำบากในการฝึกฝน [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] เป็นอะไรที่เลวร้ายมาก ยกตัวอย่างเช่นในขั้นแรก ต้องการกระบี่เทวะ 100 เล่ม

 

แต่กระบีเทวะไม่ใช่อาวุธธรรมดา ขอถามหน่อยเถอะ ว่าจะมีซักกี่คนในใต้หล้าที่สามารถครอบครองสิ่งประดิษฐ์เทวะถึง 100 ชิ้นได้?

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่สิ่งประดิษฐ์เทวะเหล่านั้น ทุกชิ้นต้องเป็นกระบี่

 

ยิ่งเป็นในขั้นสาม มันต้องการกระบี่เทวะถึง 5,000 เล่ม! ไหนจะต้องมีพลังแห่งจิตวิญญาณและเวทมนต์อีก

 

นี่แสดงให้เห็นว่า หากอยากบรรลุขั้นสาม คุณต้องเป็นผู้ฝึกตนทุกอาชีพเท่านั้นจึงจะทำได้

 

ซูเฉินลองจินตนาการดู ว่าในโลกใบนี้ ว่าคนที่สามารถฝึกฝน [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ถึงขั้นสามได้ เกรงว่าจะมีเขาคนเดียว

 

อย่างไรก็ตามเขาเองก็รู้เช่นกัน ว่าโอกาสสำเร็จมีน้อยมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วกระบี่เทวะ 5,000 เล่ม มันอาจพบเจอได้แค่ในฝันเท่านั้น

 

6/10

 

Ep.890

 

ซูเฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะฝึกฝนร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่งก่อน ฉะนั้นต้องรวบรวมกระบี่เทวะร้อยเล่ม

 

แม้จะลำบากยากเข็ญ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

 

ปัจจุบัน เขามีกระบี่ทั้งสิ้นเจ็ดเล่มแล้ว หากไม่นับ [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล] และ [กระบี่ต้องห้าม] ก็ยังมีกระบี่เทวะของหานเจี้ยนฉีอีกห้าเล่ม

 

ด้วยประการฉะนี้ จึงต้องการอีกแค่ 93 เล่มเท่านั้น

 

ซูเฉินครุ่นคิด ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะหาที่เหลือครบ ก็ได้ตัวเลือกมาว่า หนึ่งปล้นชิงจากพวกต่างเผ่า สองหาซื้อได้ตามงานประมูล สามให้อู๋หยาจื่อสร้าง สุดท้ายคือแลกเปลี่ยนมันจาก [ร้านค้าวันสิ้นโลก]

 

แน่นอน ซูเฉินรู้ดีว่าหนทางนี้ยังอีกยาวไกล จึงไม่เร่งด่วนใจร้อนอะไร

 

ต่อมา เขาปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] และเริ่มพักผ่อน

 

สามชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ขับมาถึงหน้าเมืองใหญ่ ก่อนหยุดลง

 

ในเวลานั้นเอง นกสำรวจได้ร้องเตือนว่า “เจ้านาย มีสิ่งมีชีวิตทรงพลังหลายตนอยู่ในเมืองนั้น สมควรเป็นระดับเทวะ”

 

ซูเฉินค่อยๆลืมตาขึ้น สั่งว่า “เสี่ยวจือ สแกนออกไป ว่าในเมืองมีระดับเทวะกี่ตน”

 

อาณาจักรซอมบี้มีระดับเทวะ ข้อมูลนี้เขาทราบมาก่อนแล้ว เลยไม่รู้สึกแปลกใจที่ได้พบการดำรงอยู่ระดับเทวะในที่แห่งนี้

 

“เจ้านาย มีซอมบี้สี่ตัวอยู่ในระดับเทวะขั้น 1 และหนึ่งตัวในระดับเทวะขั้น 2 ” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับทันที

 

ระดับเทวะห้าตน?

 

ซูเฉินเลิกคิ้ว ตามข้อมูลที่เขาได้รับมา ในอาณาจักรซอมบี้มีระดับเทวะไม่เกินสิบตน แต่ในเมืองนี้กลับมีถึงห้า ทั้งระดับเทวะขั้น 2 ที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

 

นี่แสดงให้เห็นว่า เมืองแห่งนี้น่าจะเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรซอมบี้

 

“เจ้านาย ซอมบี้ระดับเทวะทั้งห้าตนกับผู้แข็งแกร่งจำนวนมากเริ่มทยอยกันออกจากเมืองแล้ว” [รถศึกอัจฉริยะ] เตือน

 

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ท่าทีของเขายังคงสงบ กล่าวอย่างใจเย็น “ออกไปดูกัน”

 

ว่าจบ เขาก็เปิดประตูและเดินออกไป

 

ฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆไม่ลังเลแม้แต่น้อย ตามเขาไปติดๆ

 

ซูเฉินเพิ่งลงจากรถ พวกซอมบี้ก็ตรงเข้ามาใกล้แล้ว มันจ้องเขม็งมาที่เขา

 

“มนุษย์ เหตุใดเจ้าถึงฆ่าคนของเรา?”

 

ซอมบี้ระดับเทวะขั้น 1 ที่ตัวเตี้ยแคระ ตวาดถามซูเฉินด้วยความโกรธเคือง

 

“แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้?”

 

ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

 

ซอมบี้และมนุษย์ก็เหมือนน้ำกับไฟ เป็นเรื่องปกติที่จะฆ่าแกงกัน

 

“นี่เจ้ากระทำโดยไม่มีเหตุผลงั้นหรือ?” สีหน้าของซอมบี้ตัวสูงที่อยู่ในระดับเทวะขั้น 2 กลายเป็นมืดมน จับจ้องซูเฉินด้วยความโกรธ

 

“จะคิดแบบนั้นก็ได้” ซูเฉินพยักหน้า ยอมรับอย่างใจกว้าง

 

จุดประสงค์หลักในการฆ่าซอมบี้ก็เพื่อรวบรวมชิ้นส่วน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะล่วงเกินเขาหรือไม่ก็ตาม มันคือสิ่งที่ต้องทำอยู่ดี

 

“จะรังแกกันมากไปแล้ว!”

 

ซอมบี้แคระระดับเทวะขั้น 1 ระเบิดความเดือดดาล ร้องคำรามพุ่งเข้าสังหารซูเฉิน

 

แต่ซอมบี้ระดับเทวะที่เหลือยังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ไม่ได้ขัดขวางซอมบี้ตัวแรก

 

เนื่องจากพวกมันยังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน เลยต้องการให้ซอมบี้แคระทดสอบดู

 

“ช่างไม่รู้จักรประมาณตน!”

 

ซูเฉินยิ้มดูแคลน ระเบิดพลังแห่งจิตวิญญาณ กวาดไปข้างหน้า

 

เขามาถึงระดับเทวะขั้น 1 แล้ว พลังแห่งจิตวิญญาณในเวลานี้ รุนแรงยิ่งกว่าระดับเทวะขั้น 2 ซะอีก

 

หลังจากซอมบี้แคระถูกพลังจิตปกคลุม มันก็สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวทันที ในเวลาเดียวกันร่างกายก็เริ่มบิดเบี้ยว สุดท้ายถูกม้วนเป็นลูกบอลกลมๆ และระเบิดปัง! อย่างแรง

 

ซู๊ดดดด

 

ได้เห็นฉากนี้ บังเกิดเสียงสูดหายใจเย็นๆ จากรอบด้าน ซอมบี้ทั้งหมด ในดวงตาบังเกิดความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ

 

กระทั่งระดับเทวะขั้น 2 ยังสั่นสะท้านไปทั้งตัว

 

ส่วนฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆ ทุกคนอ้าปากค้าง ตกใจจนเกินบรรยาย