5/8

 

Ep.845

 

ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางสลับสับเปลี่ยน ไม่นานก็ปรากฏร่างของชายสองคนขึ้น

 

ดูจากรูปร่างภายนอกแล้ว สองคนนี้ไม่แตกต่างจากเผ่ามนุษย์เลย

 

แต่ที่น่าสังเกตก็คือ บนร่างของหนึ่งในนั้นมีสายฟ้าแปลบปลาบ สว่างวาบออกมาเป็นครั้งคราว ขณะที่อีกคนทอประกายแสงสีเขียว ราวกับว่ากำลังปลดปล่อยเวทมนต์ออกมาตลอดเวลา เป็นอะไรที่แปลกตานัก

 

“เป็นพี่น้องกู่ชวนกับกู่หลินแห่งตระกูลกู่!”

 

พอได้เห็นหน้าตาของทั้งสองชัดๆ ใบหน้าของฉีมู่เฟิงก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

ตระกูลกู่?

 

ซูเฉินพึมพำเบาๆ เอ่ยถามว่า “พี่ฉี ตระกูลกู่มีชื่อเสียงมากหรอ?”

 

ฉีมู่เฟิงพยักหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ตระกูลกู่กับตระกูลฉีของพวกเรามีกำลังรบทัดเทียมกัน ในมิติภายนอกเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสิบเผ่าพันธุ์เร้นลับอยู่ในมิติที่ว่างเปล่า”

 

สิบเผ่าพันธุ์เร้นลับ?

 

หนังตาของซูเฉินกระตุกทันใด

 

ตระกูลฉีมีบรรพชนระดับเทวะขั้น 5 หากกล่าวว่ามีกำลังรบทัดเทียม งั้นแสดงว่าพวกเขาก็คือขุมกำลังใหญ่ในมิติภายนอกเช่นกัน

 

“พี่ฉี ตระกูลกู่มาจากเผ่าพันธุ์อะไร? ซูเฉินถามด้วยความสงสัย

 

แม้กู่ชวนกับกู่หลินจะมีหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่เขาไม่ใช่เผ่ามนุษย์อย่างแน่นอน

 

“พวกมันเป็นเผ่าจิตพิสุทธิ์”

 

ฉีมู่เฟิงตอบกลับ ก่อนเอ่ยกำชับอีกครั้งว่า “เผ่าจิตพิสุทธิ์สามารถกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในจักรวาล”

 

หนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจที่สุด?

 

ซูเฉินงุนงง เผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจที่สุดไม่ใช่สุดยอดห้าเผ่าพันธุ์หรอกหรือ? ไหงจู่ๆมีเผ่าจิตพิสุทธิ์โผล่มาได้?

 

“เผ่าจิตพิสุทธิ์แข็งแกร่งกว่าสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ไหม?” ซูเฉินลองถามหยั่งเชิง

 

“สุดยอดห้าเผ่าพันธุ์แข็งแกร่งที่สุดในทวีปแผ่นดินใหญ่ นั่นคือเรื่องจริง แต่ไม่ใช่ในมิติภายนอก ยังมีอีกหลายเผ่าพันธุ์ในมิติภายนอกที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา ซึ่งรวมไปถึงเผ่าราศรีมังกรของพวกเราเช่นกัน” ฉีมู่เฟิงอธิบาย

 

“อ้อ”

 

ซูเฉินค่อยเข้าใจ จากนั้นถามต่อว่า “แล้วความสามารถของพวกเผ่าจิตพิสุทธิ์เป็นยังไง?”

 

“ชาวจิตพิสุทธิ์ทุกคนล้วนเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างปรมาจารย์มนตราและผู้วิวัฒนาการ ดังนั้นกำลังรบของพวกเขาจึงเหนือกว่าในระดับเดียวกัน”

 

ฉีมู่เฟิงตอบกลับ ก่อนชี้ไปทางหนึ่งในชาวเผ่าจิตพิสุทธิ์ “เขาชื่อกู่ชวน มีระดับฐานฝึกตนอยู่ระดับเทวะขั้น 1 ทั้งร่างเขาปกคลุมไปด้วยสายฟ้า ต่อให้ข้าเป็นคู่ต่อสู้ ก็ยังไม่แน่ว่าจะชนะ”

 

“งั้นแสดงว่าพวกมันก็ยังพอแข็งแกร่งอยู่บ้าง ” ซูเฉินพึมพำกับตัวเอง

 

เขาเคยเห็นกำลังรบของฉีมู่เฟิงมาก่อน หากเป็นในสภาวะขั้น 10 ด้วงเขมือบทองคำ และต้นหลิววัชระไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

 

กู่ชวนแข็งแกร่งกว่าฉีมู่เฟิงเล็กน้อย งั้นก็แสดงว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำคนหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ซูเฉินคิดไม่ตกก็คือ เขาไม่เคยข้องเกี่ยวกับชาวเผ่าจิตพิสุทธิ์มาก่อนเลย เช่นนั้นกู่ชวนกับกู่หลินมาที่นี่เพื่ออะไร?

 

“พี่ฉี ตระกูลฉีกับตระกูลกู่มีความแค้นเคืองอะไรกันรึเปล่า?” ซูเฉินถาม

 

เขามีข้อสงสัยว่าทั้งสองอาจมาหาฉีมู่เฟิงใช่หรือไม่

 

“ข้าว่าไม่นะ” ฉีมู่เฟิงส่ายหัว กล่าวอย่างช้าๆว่า “แม้ตระกูลกู่กับตระกูลฉีของพวกเราจะไม่ถึงขั้นสนิทสนมกัน แต่ก็ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ”

 

“งั้นพวกมันก็มาที่นี่เพราะฉัน”

 

ซูเฉินหรี่ตาลง จะใช่หรือไม่ แค่รอให้อีกฝ่ายมาถึงก็รู้เอง

 

ไม่นาน สองพี่น้องตระกูลกู่ก็มาถึงเบื้องหน้า [รถศึกอัจฉริยะ]

 

ทั้งสองมองสำรวจรถศึก ก่อนที่กู่ชวนจะตะโกนขึ้นว่า “ซูเฉิน! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างใน ออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าทำตัวเป็นเต่าหัวหด!”

 

“พวกมันมาหาฉันจริงๆ!”

 

ซูเฉินเดาะลิ้น เปิดประตูและก้าวลงไป

 

ฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆก็ลงจากรถเช่นกัน

 

จู่ๆเห็นคนลงจากรถเป็นจำนวนมาก แถมสามคนในนั้นยังมาจากตระกูลฉี สีหน้าของกู่ชวนแข็งค้างไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ฟื้นคืนสติ ก่อนกล่าวว่า “ใครคือซูเฉิน”

 

“ฉันเอง”

 

ซูเฉินใช้นิ้วชี้ปาดจมูกเขา ก้าวออกไปข้างหน้า

 

6/8

 

Ep.846

 

“อย่างที่ข่าวลือว่าไว้จริงๆ” กู่ชวนกวาดสายตาสำรวจมองซูเฉิน กล่าวในสิ่งที่คิดออกมา

 

“พวกแกทั้งคู่ มาหาฉันมีเรื่องอะไร?” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย

 

“เพื่อฆ่าเจ้า!” แววตาของกู่หลินฉายแววดูแคลน ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

ได้ยินแบบนั้น อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆต่างหัวเราะพรืด

 

ผู้ฝึกตนขั้น 10 คิดสังหารซูเฉิน? ช่างไร้สาระสิ้นดี! พูดออกมาได้อย่างไรไม่กลัวกัดลิ้นตัวเองหรือ?

 

“อาศัยแค่แกน่ะหรอ?”

 

ซูเฉินหรี่ตามองกู่หลิน แค่นเสียงเบาๆ

 

“แน่นอน ข้าอาจฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่พี่ชายข้าสามารถทำได้ดั่งพลิกฝ่ามือ!” กู่หลินตอบ

 

“ทำไมพวกแกถึงอยากฆ่าฉัน?”

 

ซูเฉินไม่โกรธ เขาถามอย่างใจเย็น

 

ระหว่างพวกเขา ไม่มีทั้งความแค้นและความเกลียดชัง ทว่าอีกฝ่ายกลับบุกมาสังหารเขา เป็นไปได้ไหมว่ามีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง?

 

“เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะทั้งสมาพันธ์เผ่ามนุษย์และพี่น้องต่างสายพันธุ์ ได้ออกคำสั่งไล่ล่าเจ้า และข้าก็เพิ่งได้ข่าวมา เลยอยากฆ่าเจ้าซะ!”

 

กู่ชวนไม่ได้ปิดบัง ตอบตามความจริง แถมดูจากสีหน้าเขาแล้ว ยังมีท่าทีราวกับว่าจะกลืนกินซูเฉินไปทั้งตัว

 

“ได้ข่าวมา? ฉันกลัวว่าพวกแกคงได้มาไม่ครบแล้วล่ะ ไม่เคยได้ยินเรื่องที่ฉันทำมาก่อนเลยรึไง?” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ

 

กระทั่งด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะเขายังสังหารมาแล้ว ซึ่งนั่นเพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขา แต่กู่ชวนยังกล้าบุกมาฆ่า ซูเฉินเลยเดาว่ากู่ชวนอาจไม่ทราบถึงเรื่องนี้

 

“แน่นอนข้ารู้” กู่ชวนกล่าวเสียงเย็น พูดจาฉะฉาน “เจ้าได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนตกตายด้วยน้ำมือเจ้า และหนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการสังหารชนชั้นเทวะเผ่ามนุษย์ และด้วงเขมือบทองคำแห่งเผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์”

 

“ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมยังกล้าหาเรื่องฉันอีก?” ซูเฉินไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก

 

ด้านกำลังรบ กู่ชวนแข็งแกร่งกว่าฉีมู่เฟิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วทำไมถึงได้มั่นใจนัก?

 

“ทำไมน่ะหรือ? เพราะงานอดิเรกของข้า คือการสังหารอัจฉริยะอย่างไรเล่า! ทำเช่นนี้จนผู้คนต่างตั้งสมญาว่า ผู้พิฆาตอัจฉริยะ!”

 

แม้สีหน้าท่าทียามเอ่ยประโยคนี้ออกมาจากดูสงบ แต่ความรู้สึกเย่อหยิ่งจองหองของเขานั้นแสดงออกชัดมาก

 

ผู้พิฆาตอัจฉริยะ?

 

อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆตัวแข็งทื่อ ทั้งหมดเกิดความสงสัยในใจว่ากู่ชวนใช่เป็นคนงี่เง่าหรือไร?

 

แค่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิฆาตอัจฉริยะต่อหน้าคนอื่นก็ปัญญาอ่อนพอแล้ว แต่นี่ยังกล้าเรียกตัวเองแบบนั้นต่อหน้าซูเฉิน ไม่ใช่เป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ?

 

“ไอ้นี่มันบ้ายิ่งกว่าฉันซะอีก” ซูเฉินอดเดาะลิ้นไม่ได้

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าพฤติกรรมของตนช่างบ้าบิ่นและเผด็จการ แต่เมื่อเทียบกับกู่ชวนแล้ว มันดูเล็กน้อยไปเลย

 

พิฆาตอัจฉริยะ?

 

งานอดิเรก?

 

นี่มันโคตรจะอวดดีเลย!

 

“ในเมื่อแกคิดจะฆ่าฉัน งั้นก็รีบเข้ามาสิ ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง” ซูเฉินขึ้นเสียง เขาไม่คิดปล่อยให้กู่ชวนอวดดีอีกต่อไป

 

“ซูเฉิน ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ฝั่งเจ้าทุกคนเข้ามาพร้อมกันได้เลย!”

 

กู่ชวนไม่ได้ลงมือทันที แต่เอ่ยเตือนเป็นอย่างแรก

 

เข้ามาพร้อมกัน?

 

นี่มันคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานจริงๆเหรอ?

 

อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆแสดงสีหน้าไม่พอใจ

 

“ไม่นึกเลยว่าจะเจอคนโง่ขนาดนี้บนโลก”

 

ฉีมู่เสวี่ยอดเหน็บแนมออกมาไม่ได้ แม้เธอจะเกลียดซูเฉินเล็กน้อย แต่ก็ยอมรับในความแข็งแกร่งของซูเฉิน

 

ในวันนั้น ยอดฝีมือหลายคนปิดล้อมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ ยังไม่อาจทำอะไรมันได้ แต่ทุกอย่างกลับพลิกผัน เมื่อซูเฉินบุกเข้าไปเพียงลำพัง

 

เขาจัดการทุบทำลายกิ่งก้านของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย กำลังรบที่สำแดงออกมานั้นชัดเจน

 

แต่กู่ชวนยังคงคิดสังหารซูเฉิน เกรงว่าในสมองของเขาคงมีแต่น้ำ

 

“ในเมื่อแกรนหาที่ตายเอง งั้นฉันจะทำให้สมหวัง!”

 

ซูเฉินขยับเท้า ทั้งคนทั้งร่างพรั่งพราว พุ่งเป็นเส้นแสงดาราเข้าสังหารกู่ชวน

 

“ว่องไวอะไรอย่างนี้!”

 

กู่หลินสะดุ้งโหยง รีบถอยออกไป

 

ในทางกลับกันสีหน้าของกู่ชวนยังดูสงบนิ่ง พ่นลมหายใจเย็นชา ทันใดนั้นรอบตัวเขาก็ท่วมท้นไปด้วยลำแสงทำลายล้างสีน้ำเงิน

 

ในเวลาเดียวกัน คลื่นความผันผวนอันบ้าคลั่งของเวทย์สายฟ้า แพร่กระจายออกจากร่างเขา