4/7

Ep.84

เสียงโลหะถูกกระแทกดัง เคร้ง เคร้ง..!

ณ ขณะนี้ ซอมบี้เริ่มพุ่งเข้าโจมตี [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างต่อเนื่อง

เพียงแต่ว่า ซอมบี้เหล่านี้เป็นแค่ซอมบี้ธรรมดา เกรงว่าต่อให้พวกเขาโจมตีไปตลอดชีวิต ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความเสียหายกับ [รถศึกอัจฉริยะ]

ซูเฉินไม่สนใจพวกมันแม้แต่น้อย สายตาจดจ้องไปยังชายหนุ่มหอคอยเหล็ก

“พี่คะ รีบหนีไปเถอะ ขอร้องล่ะ!” เมื่อเห็นว่าพี่ชายของเธอปฏิเสธที่จะจากไป เด็กหญิงร่ำไห้ด้วยความกังวล

ชายหนุ่มหอคอยเหล็กไม่ขยับเขยื้อน มุ่งมั่นที่จะปกป้องเธอ มีดยาวในมือกวัดแกว่งตลอดเวลา สามารถสังหารซอมบี้ได้หลายตัว

อย่างไรก็ตาม มีซอมบี้เป็นสิบกำลังรุมล้อมเขา

ภายใต้การบุกโจมตีอย่างหนัก ชายหนุ่มหอคอยเหล็กเริ่มอ่อนล้า ไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป

หลังจากสังหารซอมบี้ไปอีกตัวหนึ่ง เขาก็ถูกซอมบี้อีกตัว ฉวยโอกาสกัดเข้าที่แขน มีดในมือร่วงหล่นลง

เมื่อสูญสิ้นอาวุธ เกรงว่าในไม่ช้า ชะตากรรมของชายหนุ่มหอคอยเหล็กคงไม่พ้นความตาย

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เขาก็ยังยืนกรานที่จะปกป้องน้องสาว

เห็นแค่เพียงเจ้าตัวใช้ร่างตนเองนอนทับน้องสาวเอาไว้ คิดปกป้องเธอด้วยชีวิต

แค่ลมหายใจเดียว ตามร่างกายเขาเต็มไปด้วยรอยกัดของซอมบี้ พวกมันกระชากชิ้นเนื้อจนฉีกขาด เลือดสดๆไหลรินออกมา

เห็นฉากนี้ ซูเฉินรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย

ในวันสิ้นโลก สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือความโหดเหี้ยมและไร้ปราณีซึ่งเป็นสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ และเอาจริงๆที่กล่าวมมามันรวมถึงตัวซูเฉินเองด้วย ซึ่งเวลาพบเจอกับคนส่วนใหญ่เขามักแสดงถึงด้านที่เย็นชา

แต่แน่นอน ด้านเย็นชาที่ว่าปกติแล้วมักปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าเท่านั้น

หากเป็นสหายหรือญาติมิตร ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ซูเฉินก็จะต้องช่วยพวกเขาให้ได้

อันที่จริงชายหนุ่มหอคอยเหล็กเบื้องหน้า ก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าของเขา อย่างไรก็ตาม ซูเฉินกลับต้องการช่วยเหลืออีกฝ่าย

เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะอีกฝ่ายยินดีปกป้องน้องสาวโดยไม่คำนึงถึงชีวิต อุปนิสัยเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างแน่นอน

ซูเฉินลองคิดกลับกัน ว่าหากเป็นตัวเองที่เจอสถานการณ์แบบนี้ ตนจะยินยอมเสียสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือน้องสาวหรือไม่?

นอกจากนี้เขายังพิจารณาถึงเรื่องสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ว่า การเอาชีวิตรอดในวันสิ้นโลก การต่อสู้เพียงลำพังไม่ได้ผลเสมอไป จำเป็นต้องมีกลุ่มลูกน้องที่ซื่อสัตย์และภักดีคอยช่วยงาน

มองไปยังการกระทำของชายหนุ่มหอคอยเหล็ก ซูเฉินจึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือ และให้อีกฝ่ายเป็นลูกน้องเขา

“เสี่ยวจือ เปิดประตูรถ” ซูเฉินสั่ง

[รถศึกอัจฉริยะ] รับคำ เปิดประตูอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ซอมบี้ข้างนอกก็พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

แต่พวกมันยังไม่ทันได้ก้าวเหยียบประตู ทั้งหมดก็ถูกซูเฉินสังหารลงอย่างง่ายดาย

จากนั้น ซูเฉินเดินไปหาชายหนุ่มหอคอยเหล็ก โจมตีอย่างรวดเร็ว ปลิดชีวิตซอมบี้ทุกตัว

“พี่ใหญ่ นี่คุณเป็นคนฆ่าพวกมันทั้งหมดงั้นหรือ?”

เมื่อพบว่าซอมบี้ที่อยู่รอบๆตายลงอย่างน่าฉงน และซูเฉินปรากฏตัวขึ้น ชายหนุ่มหอคอยเหล็กก็ไม่สนใจความเจ็บปวดตามร่างกาย กัดฟันถาม

ซูเฉินเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง เมื่อโดนอีกฝ่ายเรียกคำ ‘พี่ใหญ่’

เฮ้ เฮ้ ปีนี้ฉันเพิ่งอายุแค่ 17 ปีเองนะ แล้วดูสารรูปเอ็งสิ

มองไปยังชายหนุ่มหอคอยเหล็ก ใบหน้าของอีกฝ่ายราวกับผ่านพ้นโลกมาอย่างโชกโชน แบบนี้อายุอย่างน้อยก็น่าจะ 25-26 ปีแล้ว

แต่ดันมาเรียกเขาว่า ‘พี่ใหญ่’ นี่ทำให้ซูเฉินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพราะมันทำให้ดูเหมือนเขาอายุมากกว่าเป็นสิบปี

ซูเฉินกระแอมเล็กน้อย กล่าวว่า “ฉันเป็นคนฆ่าพวกมันเอง”

ทันทีที่คำพูดนี้ของซูเฉินตกลง ชายหนุ่มหอคอยเหล็กคุกเข่าเสียงดัง ‘ปึก’ กล่าวด้วยความสำนึกคุณ “ขอบคุณพี่ใหญ่ที่ช่วยชีวิต น้องเล็กมีเรื่องอยากขอร้อง”

ซูเฉินเดาะลิ้น “ทำไมนายไม่ลุกขึ้นก่อนล่ะ?”

อีกฝ่ายไม่เพียงเรียกซูเฉินว่า ‘พี่ใหญ่’ แถมยังคุกเข่าต่อหน้าตัวเอง ยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดเข้าไปอีก

ชายหนุ่มหอคอยเหล็กยังคงคุกเข่ากับพื้น เริ่มอ้อนวอน “พี่ใหญ่โปรดรับน้องสาวของฉันไปด้วย น้องเล็กสัญญาว่าจะตอบแทนพระคุณนี้ ยอมเป็นวัวเป็นม้าให้พี่ใหญ่ในชีวิตหน้า”

ว่าจบ อีกฝ่ายก็โขกศีรษะให้ซูเฉิน จากนั้นหยิบมีดขึ้นมา เตรียมปาดคอตัวเอง

“พี่คะ อย่านะ อ๊าาา!”

สาวน้อยกรีดร้องสุดเสียง พยายามที่จะหยุดการฆ่าตัวตายของชายหอคอยเหล็ก

แต่ทว่า เธออายุเพียง 6-7 ขวบเท่านั้น ไม่มีแรงที่จะฆ่าไก่ด้วยซ้ำ แล้วจะไปหยุดอีกฝ่ายได้อย่างไร?

เมื่อเห็นว่ามีดกำลังปาดลงบนคอชายหอคอยเหล็ก ในจังหวะนั้นเอง ซูเฉินก็เริ่มเคลื่อนไหว