5/10

 

Ep.827

 

ไม่นาน งานประมูลรอบสองก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัตถุวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับพลังชีวิตมีน้อยมาก ดังนั้นการประมูลสิ้นค้าชิ้นนี้จึงค่อนข้างเงียบเหงา มีผู้เสนอราคาเพียงสิบกว่าคน และราคาเสนอสูงสุดคือน้ำยาแก่นชีวิตเพียงสองขวดเท่านั้น

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเสนอราคาต่อ ซูเฉินก็เตรียมลงมือ แต่ในตอนนั้นเอง เขาพลันได้ยินสัญญาณเตือนอย่างรุนแรงจากนกสำรวจใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]

 

ดูท่าทางแล้วนกสำรวจเหมือนจะรีบร้อนมาก มีโอกาสสูงว่ามันสังเกตเห็นถึงการดำรงอยู่ของสิ่งอันตราย

 

แต่มันจะมีอันตรายอะไรกันในเมืองเยว่กวง?

 

ซูเฉินนึกไม่ออก แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] แล้วถามทันทีว่า “เสี่ยวซุ่น มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”

 

สกสำรวจตอบด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน “เจ้านาย ข้ารู้สึกได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอันน่าพรั่นพรึงกำลังตรงมาที่นี่”

 

สิ่งมีชีวิตอันน่าพรั่นพรึง?

 

ซูเฉินอุทานออกมาเบาๆ “แล้วมันแข็งแกร่งแค่ไหน?”

 

“กลิ่นอายของมันมหาศาลมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ” นกสำรวจตอบ

 

แม้จักเป็นถึงระดับเทวะ ทว่าในทวีปแผ่นดินใหญ่ พวกเขาสามารถสำแดงพลังได้มากสุดแค่ขั้น 10 เท่านั้น ไม่น่าก่อภัยคุกคามใดๆต่อซูเฉินได้นี่นา

 

ซูเฉินเอ่ยถามด้วยสงสีย “เสี่ยวซุ่น นายใช่คาดการณ์ผิดไปรึเปล่า?”

 

“เจ้านาย ประสาทสัมผัสของข้าไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน”

 

นกสำรวจอธิบาย จากนั้นกล่าวว่า “เจ้านาย สิ่งมีชีวิตอันน่าพรั่นพรึงนี้มิได้ถูกสะกดฐานฝึกตน สิ่งที่เขาปลดปล่อยออกมาคือกลิ่นอายระดับเทวะจริงๆ!”

 

นั่นเป็นไปได้หรือ?

 

คิ้วของซูเฉินขมวดเข้าหากันอย่างลึกล้ำ ยังไม่ค่อยเชื่อสนิทใจนัก เพราะถึงอย่างไรฐานฝึกตนถูกสะกดในทวีปใหญ่เสมอมา เรื่องนี้เป็นที่ราบกันโดยทั่วไป แล้วอีกฝ่ายจะรักษาฐานฝึกตนระดับเทวะไว้ได้อย่างไร?

 

เป็นไปได้ไหมว่านี่เกิดจากการเล่นตุกติกกับเขตแดน?

 

ฉีมู่เฟิงสังเกตเห็นสีหน้าของซูเฉินว่ามีบางอย่างผิดปกติ เอ่ยถามเสียงต่ำ “ซูเฉิน มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”

 

ซูเฉินไม่ได้ปิดบัง บอกเล่าสิ่งที่นกสำรวจเตือนต่อคนอื่นๆ

 

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

 

ถ้าในเมืองเยว่กวงปรากฏระดับเทวะที่ไม่ถูกอำนาจเขตแดนสะกด เกรงว่าหากคนผู้นี้คิดกระทำการร้ายใดๆ คงไม่มีใครในงานประมูลสามารถหยุดได้

 

“ความสามารถในการรับรู้ของนกสำรวจคือพรสวรรค์โดยกำเนิด หากมันพูดแบบนี้ คงไม่มีทางผิดพลาด พวกเราควรรีบออกจากที่นี่ทันทีเลยดีไหม?” ฉีมู่อวี้เตือน

 

“นั่นสิ รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ” ซูเฉินครุ่นคิดพักหนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจ

 

งานประมูลครั้งนี้มีจุดที่น่าสงสัยมาตั้งแต่ช่วงต้นๆแล้ว หลังจากเชื่อมโยงกับเรื่องระดับเทวะที่จู่ๆก็ตรงเข้ามาอย่างกะทันหัน ก็ยิ่งบ่งบอกว่า งานประมูลครั้งนี้อาจเป็นกับดัก

 

ส่วนเป้าหมายก็คือเหล่าผู้คนที่เข้าร่วมประมูล

 

ซูเฉินตัดสินใจแล้ว และคนอื่นก็ไม่คัดค้าน

 

แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป จู่ๆก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นซะก่อน

 

รู้สึกได้เพียงสถานที่ประมูลสั่นสะเทือน ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันชนิดหาตัวจับยากกวาดฮือลงมาจากเบื้องบน ชวนให้รู้สึกหนักอึ้งและอึดอัดมาก กระทั่งการหายใจเข้าออกยังกลายเป็นเรื่องยากผิดปกติ

 

กลิ่นอายระดับเทวะ!?

 

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

 

เสียงอุทานดังขึ้นในงานประมูล หลายคนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ มีผู้แข็งแกร่งระดับเทวะปะปนอยู่มากมาย ซึ่งทุกคนต่างคุ้นเคยดีกับกลิ่นอายนี้

 

ปัจจุบัน ตลอดทั้งงานประมูลตกอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่ เกือบทั้งหมดที่เข้าร่วมงานไม่ใช่บุคคลธรรมดา ดังนั้นย่อมรู้ดีว่าโดยปกติแล้ว ในทวีปแผ่นดินใหญ่ ไม่มีทางปลดปล่อยกลิ่นอายระดับเทวะออกมาได้

 

แต่กลับเกิดเรื่องประหลาดเช่นนี้ขึ้น มันทำให้สัญชาตญาณของพวกเขาร้องเตือนด้วยความตื่นตระหนก

 

หึ่ง หึ่ง!

 

ระหว่างนั้นเอง สถานที่ประมูลเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงอีกครั้ง เห็นแค่เพียงร่มไม้ขนาดใหญ่ ค่อยๆบดบังดวงอาทิตย์ที่ทอแสงลงมาจากท้องฟ้า ปกคลุมตลอดทั้งงานประมูลอย่างสิ้นเชิง

 

6/10

 

Ep.828

 

“ที่แท้กลิ่นอายระดับเทวะนี้ก็มาจากพืชปีศาจ?”

 

สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่แพร่ออกมาจากต้นไม้ใหญ่เบื้องบน ซูเฉินพึมพำ

 

“นั่นไม่ใชพืชปีศาจระดับเทวะ แต่เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเอลฟ์!” ฉีมู่เฟิงอธิบาย

 

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเอลฟ์?

 

แต่ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะ แล้วมันมาโผล่ที่นี่เพื่ออะไร?

 

ซูเฉินยิ่งสับสน เอ่ยถามเสียงกระซิบว่า “พี่ฉี ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้มีความเป็นมายังไง?”

 

ฉีมู่เฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวอย่างช้าๆว่า “ต้นไม้ศักดิ์สิทธ์ต้นนี้ถูกเรียกว่า เทพพิทักษ์แห่งเผ่าเอลฟ์ เนื่องจากการดำรงอยู่ของมัน เผ่าเอลฟ์จึงยังสามารถเป็นไทได้ท่ามกลางหมื่นเผ่าพันธุ์”

 

“งั้นก็แสดงว่ามันแข็งแกร่งมาก?” ซูเฉินใคร่ครวญ จากนั้นถามต่อว่า “แล้วฐานฝึกตนของมันอยู่ในขั้นไหน?”

 

“ระดับเทวะขั้น 5!” ฉีมู่เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันลึกล้ำ

 

ซู๊ดดดด!

 

ฉางไช่หลี่และคนอื่นๆสูดหายใจลึก ส่วนซูเฉินยังถึงกับอ้าปากค้าง

 

เดิมที เขาก็รู้สึกอยู่หรอกว่าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ทรงพลังมาก แต่ก็นึกไม่ถึงว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดนี้

 

ฐานฝึกตนระดับเทวะขั้น 5 นี่เทียบเท่ากับบรรพชนของตระกูลฉีได้เลย

 

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ เกรงว่าต่อให้ทุกคนในงานประมูลร่วมมือกัน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสังหารเขา

 

“ฐานฝึกตนระดับเทวะขั้น 5 ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์นั้นไม่ธรรมดาก็จริง ทว่ามีข่าวลือหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน ว่ามันได้มาถึงช่วงบั้นปลายชีวิตแล้ว ระดับฐานฝึกตนลดหลั่นลงกว่าเมื่อก่อนมาก ปัจจุบันไม่ควรอยู่ขั้น 5 อีกต่อไป” จู่ๆอู๋หยาจื่อก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน

 

ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นระดับเทวะแห่งเผ่าคนแคระมาก่อน เลยพอได้ยินข่าวคราวมาบ้าง เรื่องนี้มีมูลความน่าเชื่อถือมาก

 

ฉีมู่เฟิงพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าเองก็เคยได้ยินข่าวลือนี้มาก่อนเช่นกัน ”

 

หัวใจของซูเฉินเริ่มเต้นแรง สื่อสารกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ทันที “เสี่ยวจือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ข้างบนอยู่ในขั้นไหน?”

 

“ระดับเทวะขั้น 1 ” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบอย่างรวดเร็ว

 

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ระดับฐานฝึกตนของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ลดลงไปมาก หากอยู่แค่ขั้น 1 ระดับเทวะ ก็ยังพอสู้ได้ อารมณ์ความรู้สึกกระสับกระส่ายในตอนแรกจึงเริ่มสงบลง

 

“ซูเฉิน พวกเราออกไปกันได้รึยัง?” ฉีมู่เฟิงถาม

 

การปรากฏตัวของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ ได้สร้างแรงกดดันต่อจิตใจของเขาอย่างรุนแรง

 

หากเป็นไปได้ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะหนีไปจากที่นี่

 

“อย่าเพิ่งรีบร้อน” ซูเฉินตอบ

 

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ปรากฏตัวที่นี่ มันต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแน่ หากรีบจากไป เกรงว่ามีโอกาสสูงที่จะตกเป็นเป้าสายตาของมัน และถูกโจมตีเป็นคนแรก

 

ดังนั้นรอดูก่อนดีกว่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยากจะรู้จังว่ามันจะเล่นกลอะไรให้ชมดู

 

“ห้องส่วนรตัวหมายเลข 1 หมายเลข 17 … หมายเลข 1,350 จงมอบสมบัติในมือพวกเจ้าออกมา!”

 

ทันใดนั้นเอง เสียงอันเย็นเยือกของเยว่หลิงดังออกมาจากบนเวทีประมูล

 

ซูเฉินสังเกตเห็นได้ ว่าห้องที่เยว่หลิงร้องเรียก ล้วนเป็นเหล่าคนที่เสนอราคาประมูลหุ่นเชิดระดับเทวะและหัวใจจักรกล

 

“เผ่าเอลฟ์ของพวกเจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? คิดจะปล้นพวกเราหรือ?”

 

เสียงคำรามด้วยความโกรธดังออกมาจากห้องหมายเลข 1

 

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น เกิดเสียงระเบิดดังปัง! ห้องส่วนตัว 1 แตกเป็นชิ้นๆ จากนั้นชายราต่างเผ่าที่ดูน่าเกรงขามได้ก้าวออกมา

 

“ลีชางหงแห่งป้อมปราการตระกูลว่าน!”

 

ฉีมู่เฟิงระบุตัวคนผู้นั้นได้อย่างรวดเร็ว ป้อมตระกูลว่านก็ถือเป็นขุมกำลังค่อนข้างใหญ่ในมิติภายนอก และลีชางหงเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะเช่นกัน เรียกได้ว่ามีศักดิ์ศรีของระดับเทวะเต็มเปี่ยม ยามถูกข่มเหงโดยเผ่าเอลฟ์ ไหนเลยจะยอมก้มหัวง่ายๆ?

 

“ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนของป้อมตระกูลว่านนี่เอง”

 

ทันใดนั้น ใบหน้าชราของมนุษย์ก็ผุดขึ้นมาจากกลางลำต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ มันเหลียวมองไปทางลีชางหง กล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมน

 

“จงบอกมา ว่าเจ้ามีจุดประสงค์อะไร?”

 

ลีชางหงใบหน้าบึ้งตึง แค่นเสียงเย็นชา

 

“จงนำทุกสิ่งที่เจ้ามีออกมา มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”

 

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ฉีกยิ้มมืดมน น้ำเสียงของมันเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ราวกับว่าหากลีชางหงไม่ปฏิบัติตาม มันจะลงมือสังหารจริงๆ