1/10

 

Ep.767

 

“ไม่มี”

 

หุ่นเชิดทองคำส่ายหัว

 

“งั้นก็ยากแล้วสิ” ซูเฉินถอนหายใจ

 

แต่ในเวลานั้นเอง หุ่นเชิดทองคำได้เปิดปากพูดอีกครั้ง “แต่ถ้าเจ้าต้องการหัวใจจักรกลอย่างเร่งด่วน ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้ ”

 

“เอ๋?”

 

ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “แต่ถ้ามอบให้ฉัน ไม่ใช่ว่าคุณจะตายหรอ?”

 

หุ่นเชิดทองคำอธิบายว่า “เมื่อสูญเสียหัวใจจักรกล ข้าจะเข้าสู่สภาวะหลับลึก ไม่ได้ถึงขั้นตาย เอาไว้เมื่อไหร่ที่เจ้าหาหัวใจจักรกลดวงใหม่เจอ ค่อยติดตั้งลงในตัวข้า แล้วข้าจะฟื้นคืนชีพขึ้นเอง”

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” ซูเฉินพึมพำ

 

สนทนาถึงประโยคนี้ เขารู้สึกได้เลย ว่าคำพูดของหุ่นเชิด มันแฝงไปด้วยความหมายว่าต้องการติดตามเขา

 

หากเป็นเช่นนั้น ซูเฉินย่อมตกปากรับคำอย่างแน่นอน

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาได้พิสูจน์กำลังรบของหุ่นเชิดทองคำด้วยตัวเองมาแล้ว ฉะนั้นหากได้หุ่นเชิดทรงพลังเช่นนี้มาเป็นพวก ทำไมต้องปฏิเสธด้วยเล่า?

 

อย่างไรก็ตาม หุ่นเชิดทองคำจะต้องการเช่นนี้จริงหรือไม่ เขาขอถามให้ชัดเจนก่อน

 

ซูเฉินกระแอมเบาๆ เอ่ยถามว่า “เหล่าตี๋ ในเมื่อคุณยินดีมอบหัวใจจักรกลให้ฉัน งั้นคุณจะเอายังไงต่อ อยากหลับใหลอยู่ที่นี่? หรือเดินทางไปด้วยกันกับฉัน?”

 

“ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากติดตามไปกับเจ้า” หุ่นเชิดทองคำกล่าวอย่างจริงจัง

 

หลังจากจักรวรรรดิจักรกลล่มสลาย ยากนักที่จะพบเจอชาวเผ่าจักรกล ดังนั้นมันไม่เต็มใจที่จะแยกทางกับ [รถศึกอัจฉริยะ]

 

เนื่องจาก [รถศึกอัจฉริยะ] เลือกที่จะติดตามซูเฉิน เช่นนั้นมันก็ขอตามไปด้วย

 

ซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยังคงพูดอย่างใจเย็นว่า “เอาล่ะ คุณเต็มใจที่จะมอบหัวใจจักรกลจริงๆใช่ไหม?”

 

หุ่นเชิดทองคำพยักหน้า ก่อนอธิบายว่า “พลังงานข้างในหัวใจจักรกลของข้าเหลืออีกไม่มากแล้ว ต่อให้ข้าไม่มอบมันแก่เจ้า อย่างมากก็อยู่ได้อีกแค่ 3-5 ปีเท่านั้น หากปล่อยทิ้งไว้คงเสียของ”

 

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันยินดีรับคุณเข้าร่วมกลุ่ม”

 

ซูเฉินตอบ จากนั้นให้สัญญาว่า “และขอให้คุณวางใจ ฉันจะหาหัวใจจักรกลดวงใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อพาคุณกลับมาอีกครั้ง”

 

“ขอบใจเจ้ามาก”

 

หุ่นเชิดทองคำพยักหน้าเล็กน้อย เปิดรอยต่อบริเวณหน้าอกอย่างไม่ลังเล และดึงอัญมณีสีแดงเลือดออกมาจากข้างใน

 

ทันทีที่อัญมณีนี้ออกจากร่าง ดวงตาของหุ่นเชิดทองคำสูญเสียสีสัน ร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน เหมือนเป็นแค่กองเศษเหล็ก

 

ซูเฉินหยิบอัญมณีสีแดงไว้ในมือ เปิดถุงเก็บของ แล้วใส่หุ่นเชิดทองคำไว้ข้างใน จากนั้นหันมาพูดกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ นี่คือหัวใจจักรกลใช่ไหม?”

 

“มันคือหัวใจจักรกลจริงๆ แต่พลังงานเหลือไม่มากแล้ว หากต้องการใช้มันอัพเกรดฉันเป็นขั้น 8 จำเป็นต้องเติมหินพลังงานขั้น 8 ด้วยอีกสามก้อน” [รถศึกอัจฉริยะ] กล่าว

 

ซูเฉินไม่สนใจว่าจะต้องใช้หินพลังงานเท่าไหร่ ตราบใดที่มันสามารถอัพเกรดเป็นขั้น 8 ได้ ต่อให้หินขั้น 8 ถูกใช้จนหมดก็ไม่สำคัญ

 

ต่อมา เขาติดตั้งหัวใจจักรกลและหินพลังงานขั้น 8 จำนวน 3 ก้อนให้กับ [รถศึกอัจฉริยะ]

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ก็สามารถอัพเกรดเป็นขั้น 8 ได้สำเร็จ

 

ซูเฉินสนทนากับมัน “เสี่ยวจือ เท่านี้นายก็จะพาพวกเราออกไปจากที่นี่ได้แล้วใช่ไหม”

 

“ใช่ ฉันทำได้แล้ว แต่จะเป็นการดีที่สุดหากเริ่มกระบวนการในตำแหน่งที่เขตแดนอ่อนแอ เพราะมันจะช่วยให้การข้ามทวีปง่ายขึ้น” [รถศึกอัจฉริยะ] กล่าว

 

“งั้นก็ค่อยๆออกค้นหาตำแหน่งที่ว่าแล้วกัน”

 

ซูเฉินกล่าวเสียงกระซิบ กวักมือเรียกอู๋หยาจื่อและหลีกุยหยางขึ้นรถ

 

ยังมีพวกต่างเผ่าอีกไม่น้อยในดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง นั่นนับเป็นความมั่งคั่งมหาศาล เขาเลยตั้งใจว่าก่อนจะจากไป ต้องฆ่าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อได้ชิ้นส่วนติดไม้ติดมือเพิ่ม

 

หลายวันถัดมา ซูเฉินและคนอื่นๆออกไล่ล่าสังหารพวกต่างเผ่าในดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง สังหารหมู่จนช่วงหลังๆ แทบไม่สามารถค้นพบร่องรอยของพวกต่างเผ่าได้อีก

 

และสินสงครามโดยรวม มันช่วยให้ซูเฉินได้รับแต้มพลังงานเพิ่มขึ้นอีก 20,000 แต้ม

 

หลังจากคัดแยกเสร็จสิ้น และแปลงเป็นแต้มพลังงานแล้ว ทำให้จำนวนแต้มโดยรวมของเขา–

 

–มีมากกว่า 40,000 แต้ม!

 

2/10

 

Ep.768

 

และช่วงเวลานี้ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ค้นพบจุดที่เขตแดนค่อนข้างอ่อนแอพอดีเช่นกัน สามารถออกจากที่นี่ได้ตลอดเวลา

 

หลังจากการสนทนากับ [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินได้รู้ข้อมูลมาว่า การเดินทางออกจากดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง จะเป็นการเข้าสู่ทวีปอื่นแบบสุ่ม

 

เนื่องจากเขตแดนยังไม่คงที่ เลยอาจถูกส่งไปยังทวีปของพวกต่างเผ่า อย่างไรก็ตาม พวกเขามีโอกาสเข้าสู่ทวีปของเผ่ามนุษย์ได้เช่นกัน

 

สำหรับเรื่องนี้ ซูเฉินไม่สนใจ เพราะด้วยกำลังรบในปัจจุบันของเขา ต่อให้เป็นศัตรูในระดับเทวะขั้น 1 เขาก็สามารถรับมือได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น ภายในทวีปแผ่นดินใหญ่ ต่อให้เป็นเสมือนเทวะ ความแข็งแกร่งก็ยังถูกสะกดลงเหลือแค่ขั้น 10 นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าปลายทางจะเป็นทวีปใด ล้วนสามารถเดินเหินได้อย่างอิสระ

 

เนื่องจากพวกเขาจะออกจากที่นี่แล้ว ซูเฉินเลยตั้งใจจัดงานเฉลิมฉลอง เขาเรียกทุกคนออกมา ร่วมกันเตรียมอาหาร

 

หลังจากวุ่นกันพักหนึ่ง เบื้องหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยเนื้อย่างของสัตว์กลายพันธุ์มากกว่า 10 ตัว ผลไม้และเครื่องดื่มต่างๆ

 

หลี่กุยหยางไม่เคยเห็นอาหารหรูหรามากขนาดนี้มาเป็นพันปีแล้ว น้ำลายไหลออกจากมุมปากเขา

 

รอซูเฉินส่งสัญญาณว่า ‘เชิญ’ ทุกคนก็เริ่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย

 

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว ซูเฉินเรียกหลีกุยหยางมาหาเขา

 

“ผู้อาวุโส ถ้าท่านออกจากดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง ท่านจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ถูกไหม? ” ซูเฉินเลียบเคียงถามดู

 

“อายุขัยของข้าหมดไปนานแล้ว เมื่อออกไป ไม่น่าจะรอดเกินสามวัน” หลีกุยหยางตอบอย่างมั่นใจ

 

แม้รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองต้องตาย แต่เขากลับดูไม่โศกเศร้าแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ดันมีท่าทีโล่งใจแทน

 

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “งั้นก่อนท่านจะออกไป ถ้าได้รับวัตถุวิญญาณบางอย่างที่ช่วยเพิ่มอายุขัยได้ ท่านจะรอดไหม?”

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้อยู่กับหลีกุยหยาง เขารู้สึกว่าหลีกุยหยางไม่ใช่คนเลว นอกจากนี้ กำลังรบของอีกฝ่ายยังอยู่ในระดับเสมือนเทวะ ซูเฉินจึงตั้งใจที่จะเก็บเขาไว้

 

“ก็ใช่ น่าจะเป็นไปได้ แต่วัตถุวิญญาณที่สามารถช่วยเพิ่มอายุขัย ล้วนเป็นขุมทรัพย์ที่ยากจะครอบครอง ขนาดโลกภายนอกยังหายาก ไม่ต้องกล่าวถึงดินแดนที่ถูกทอดทิ้งแห่งนี้” หลีกุยหยางถอนหายใจ

 

ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันที กล่าวต่อว่า “ผู้อาวุโส ถ้าท่านสาบานว่าจะอยู่เคียงข้างผม ผมสามารถมอบวัตถุวิญญาณที่ช่วยเพิ่มอายุขัยแก่ท่านได้ ”

 

“เจ้ามีหรือ?”

 

หลีกุยหยางมองซูเฉินด้วยความประหลาดใจ ยิ่งนานยิ่งพบว่าซูเฉินลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ

 

ซูเฉินยังเด็กนัก แต่กลับมีกำลังรบมากพอที่จะบดขยี้เสมือนเทวะได้ ไหนจะครอบครองสมบัตินับไม่ถ้วน บางทีเขาอาจมีวัตถุวิญญาณที่ช่วยเพิ่มอายุได้จริงๆ

 

คิดได้แบบนี้ ลมหายใจของหลีกุยหยางเริ่มถี่รัว

 

หากสามารถออกไปจากที่นี่ได้ แล้วยังรอดชีวิต แน่นอนว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

ต่อให้เขาต้องยอมจำนนต่อซูเฉิน ก็แล้วไง? ซูเฉินคืออัจฉริยะแบบสุดโต่ง ทรงพลังชนิดหาผู้ใดเปรียบ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล

 

หากได้ติดตามผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่ถือว่าน่าอับอายเลย ตรงกันข้าม เกรงว่าจะได้รับโอกาสซะอีก

 

“ขอเพียงผู้อาวุโสตอบตกลง ผมจะมอบสิ่งนั้นให้ทันที” ซูเฉินกล่าวอยางจริงจัง

 

“ข้าตกลง”

 

หลีกุยหยางไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

 

ซูเฉินมีความสุขมาก หยิบเอาศิลาปฏิญาณออกมา รอจนหลีกุยหยางสาบานเสร็จ เขาก็หยิบเอาผลอายุวัฒนะผลหนึ่งออกมา และกล่าวว่า “ผู้อาวุโส นี่คือผลอายุวัฒนะ หลังจากรับประทาน สามารถเพิ่มอายุขัยได้ 10 ปี”

 

“ 10 ปี?”

 

หลีกุยหยางถึงกับอ้าปากค้าง หน้าตาเหลอหลา

 

ผลไม้เพียงลูกเดียวสามารถเพิ่มอายุขัยได้สิบปี นี่แสดงให้เห็นว่ามันคือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย

 

หลีกุยหยางถือผลอายุวัฒนะด้วยมือที่สั่นเครือ ถอนหายใจ กล่าวเนิบๆว่า “กินตอนนี้ก็เสียเปล่า ข้าจะรอจนกว่าจะออกไปจากที่นี่ แล้วค่อยใช้มัน!”

 

พูดไปพูดมา เขาก็ยื่นผลอายุวัฒนะคืนซูเฉิน

 

ซูเฉินไม่รับมัน เขายิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเก็บไว้เองเถิด”

 

หลีกุยหยางสาบานแล้วว่าจะเป็นคนของเขา ดังนั้นซูเฉินไม่จำเป็นต้องระวังอีกฝ่ายอีกต่อไป