2/5

Ep.72

หลังจากเก็บชิ้นส่วนแล้ว ซูเฉิน​ , [นักรบจักรกล] และหมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสาม ก็ร่วมมือกันสกัดกั้นฝูงซอมบี้ ซื้อเวลาให้สามตระกูลหยางขุดหินพลังงาน

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ปริมาณของซอมบี้ที่บุกเข้ามา อาจถึงขั้นสามารถเรียกว่าเป็นคลื่นซอมบี้ได้แล้ว ทุกคนเหนื่อยหอบแทบไม่มีเวลาพักหายใจ

หมาป่ากลายพันธุ์ทั้งสามถูกย้อมไปด้วยเลือด โชคดีก็คืออาการบาดเจ็บของพวกมันเกิดจากสัตว์กลายพันธุ์ หากถูกซอมบี้กัดขึ้นมา ถึงตอนนั้นคงเป็นปัญหาแล้ว

เนื่องจากซูเฉินมี [โพชั่นต้านไวรัส] เหลืออยู่ 2 ขวดเท่านั้น เขาสามารถช่วยเหลือหมาป่ากลายพันธุ์ได้มากสุดแค่ 2 ตัว

ช่วงเวลานี้ หยางหลิงเทียนและคนอื่นๆขุดหินพลังงานได้เป็นจำนวนมาก นับรวมกับที่เคยขุดหน้าก่อนหน้านี้ มีจำนวนมากเกิน 1,000 ชิ้นแล้ว

การกอบโกยในครั้งนี้ ซูเฉินค่อนข้างพอใจ เขาเรียกทุกคนกลับเข้าไปในถ้ำ

ทันทีที่เข้ามา ซูเฉินก็ปลูก [เมล็ดพันธุ์ผลไม้แข็ง] สองเมล็ดอย่างรวดเร็ว

ภายใต้สายตาประหลาดใจของทุกคน เมล็ดพันธุ์ทั้งสองเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นผลแข็งทรงวงรี ปิดกั้นปากถ้ำอย่างแน่นหนา

ซอมบี้ที่อยู่นอกถ้ำหินพุ่งชนผลแข็งอย่างบ้าคลั่ง แต่พวกมันไม่อาจทะลวงเข้ามาได้แม้เพียงครึ่งก้าว

ผลแข็งทั้งสองดูเหมือนจะเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นดิน ไม่สามารถสั่นคลอนได้

หากใช้วิธีธรรมดา เป็นการยากที่จะทำลาย ซูเฉินทดสอบด้วยตัวเองเช่นกัน เขาต่อยมันด้วยมือเปล่า โดยไม่ใช้อาวุธและเวทมนต์ พบว่าผลแข็งทั้งสองนี้ กระทั่งรอยเล็กๆก็ไม่มี

ถึงจุดนี้ ในที่สุดเขาก็โล่งใจ

เพราะตราบใดที่ไม่มีซอมบี้สูงกว่าเลเวล 3 อยู่ข้างนอก การป้องกันนี้ก็จะไม่มีวันถูกทำลาย

จากนั้น ซูเฉินได้เรียกทุกคนมานั่งล้อมวงพักผ่อนกัน

หยางฮ่าวทิ้งตัวลงกับพื้น สูดหายใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “พี่เฉิน ผมหิวแล้ว พี่มีอาหารเหลือบ้างไหม?”

ซูเฉินยิ้ม เขารู้ว่าหยางฮ่าวกำลังนึกถึงบาร์บีคิว จึงหยิบ [เตาอเนกประสงค์] และหมูย่างที่เหลือออกมา

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือด ทุกคนต่างหิวโหย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณอาหารที่หมาป่าทั้งสามสวาปาม มันเยอะจนน่าตกใจ

ซูเฉินกลัวว่าอาหารจะไม่พอ จึงนำหมีศิลาคลั่งออกมาอีกตัว

“หยางฮ่าว นายมารับหน้าที่ย่างเนื้อ ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการ” ซูเฉินกล่าว

“ได้เลยครับ” หยางฮ่าวลุกขึ้น เดินมารับหน้าที่แทนซูเฉิน

ตอนนี้เขาได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นน้องชายของซูเฉินเป็นที่เรียบร้อยล้ว ดังนั้นเชื่อฟังเป็นอย่างดี

ชนิดที่ว่าต่อให้หยางหลิงเทียนในฐานะพ่อสั่งพร้อมกัน เขาก็จะทำตามคำสั่งของซูเฉินก่อน

หยางเฉียนก็เข้ามาช่วยเช่นกัน เธอรู้สึกว่าในศึกนี้ ตนเองมีส่วนร่วมน้อยที่สุด ดังนั้นอะไรที่เธอสามารถทำได้ เธอก็จะทำ

นอกจากนี้ หากได้สนทนากับซูเฉินมากขึ้น แม้จะไม่กี่คำ แต่ก็ยังดี

ซูเฉินไม่คัดค้าน สอนวิธีย่างเนื้อให้พวกเขา ก่อนแยกตัวออกไปมุมหนึ่งเพียงลำพัง และนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมาศึกษา

ตอนแรกที่ได้รับ [รถศึกอัจฉริยะ] เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับข้อมูลของมันแล้ว ซูเฉินก็ตั้งตารอที่จะตรวจสอบมัน

หินพลังงานถูกติดตั้งลงบน [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างรวดเร็ว ซูเฉินวางมันไว้ในมือ เพ่งมองอย่างระมัดระวัง

แต่ระหว่างนั้นเอง ปรากฏเสียงหนึ่งดังออกมาจาก [รถศึกอัจฉริยะ]

“เจ้านาย ไม่ทราบมีอะไรให้ฉันรับใช้?”

ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกาย กล่าวเบาๆว่า “นี่นายพูดได้ด้วย?”

“ในฐานะหนึ่งในยานพาหนะที่มีฟังก์ชั่นพร้อมอัพเกรดที่สมบูรณ์แบบที่สุดในจักรวาล ความสามารถในการพูดเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยไม่ต่างจากของเด็กเล่น”

สีหน้าของซูเฉินทอแววประหลาดใจ เขาสัมผัสได้ถึงความภาคภูมิและอวดโอ้ในคำพูดของ [รถศึกอัจฉริยะ]

กระแอมไอเล็กน้อย กล่าวต่อว่า “นายทำอะไรได้บ้าง?”

“ป้องกัน , โจมตี , ขยายขนาด , ลดขนาด , ตรวจจับ … ทะยานสู่อวกาศ สามารถทำได้ทั้งนั้น”

“เอาแล้วไง ฉันเจอรถศึกขี้โม้เข้าให้แล้ว ..” ซูเฉินส่ายหัว

ประโยคแรกๆของ [รถศึกอัจฉริยะ] ยังค่อนข้างน่าเชื่อถือ แต่ยิ่งมันพูดมากเท่าไหร่ ฟังก์ชั่นหลังก็ยิ่งลึกล้ำไม่น่าเชื่อขึ้นเท่านั้น

สามารถทะยานสู่อวกาศได้อย่างงั้นหรือ?

ไอ้บ้าเอ๊ยแกเป็นรถศึกนะ ไม่ใช่ยานอวกาศ! จะโม้อะไรก็ให้มันน้อยๆหน่อย!