5/10

 

Ep.671

 

ซูเฉินไม่ได้อธิบายอะไรอีก หันไปพูดกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ช่วยตรววจสอบให้ที ว่ามีใครซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้ไหม?”

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ตอบกลับว่า “เจ้านาย ไม่พบอะไรเลย”

 

แม้ได้รับคำตอบนี้ แต่ซูเฉินยังไม่คลายใจ ครุ่นคิดอยู่หนึ่ง ก่อนนึกบางอย่างออก ปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณ กวาดไปทุกทิศทาง

 

ฟังก์ชั่นการตรวจจับของ [รถศึกอัจฉริยะ] ไม่ใช่ทำได้ทุกอย่าง ยังมีบางสิ่งที่มีความสามารถซ่อนตัว และมันไม่สามารถค้นหาได้

 

ก่อนหน้านี้ก็ยักษ์ทะเลแห่งเผ่าสมุทร หรือด้วงเขมือบทองคำในชั้นสสารพิษ มันก็ไม่สามารถตรวจพบร่องรอยได้เหมือนกัน

 

เมื่อพลังจิตแผ่ขยายไปถึงต้นไม้ธรรมดาที่อยู่ห่างออกไป 20 เมตร คิ้วของซูเฉินก็ขมวดเข้าหากันทันที เพราะเขารับรู้ได้ถึงคลื่นพลังงานอ่อนๆ แม้มันจะถูกซ่อนไว้อย่างดี แต่ก็ยังโดนเขาจับทางได้

 

ต้นไม้ธรรมดาจะไม่มีความผันผวนของคลื่นพลังงาน ซึ่งหมายความว่าต้นไม้นี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล

 

“ไสหัวออกมา! อย่าบังคับให้ฉันต้องลงมือ!”

 

ซูเฉินหรี่ตาลง ล็อคเป้าต้นไม้นี้จากระยะไกล ตวาดเสียงเย็นชา

 

“เฮียซู นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เฉินเฟิงและคนอื่นๆตกใจที่จู่ๆเขาก็ตะโกน มองมาทางซูเฉินเป็นสายตาเดียว

 

“ต้นไม้นั่นมีบางอย่างแปลกๆ” ซูเฉินชี้ออกไป กล่าวเสียงต่ำ

 

เฉินเฟิงและคนอื่นๆไม่เข้าใจ เลยหันไปตามทิศทางนิ้วของซูเฉิน แต่ก็พบแค่ต้นไม้ธรรมดา เลยยิ่งงงหนักเข้าไปอีก

 

“งั้นมาดูกันว่าแกจะฝืนต่อไปได้ซักแค่ไหน”

 

เห็นว่าต้นไม้ไม่ตอบสนอง ซูเฉินกางฝ่ามือและยิงลูกไฟออกไป แผดเผามัน

 

ขณะที่ลูกไฟกำลังจะชนต้นได้ กลิ่นอายคาวเลือดก็ลุกฮือขึ้นไปถึงชั้นฟ้าจากในตำแหน่งที่ต้นไม้ตั้งอยู่

 

“กี๊​ กี๊ กี๊!”

 

ตามมาด้วยเสียงหวีดแหลม เห็นแค่เพียงต้นไม้ค่อยๆลุกจากพื้นดิน สีบนต้นของมันเปลี่ยนเป็นแดงเลือดในชั่วพริบตา

 

ขณะเดียวกัน แรงกดดันอันทรงพลังถูกปลดปล่อย ทะยานไปถึงขั้น 9 อย่างน่าตกใจ

 

ณ ใจกลางของลำต้นของพืชปีศาจขั้น 9 ต้นนี้ มีใบหน้าชราที่ดูชั่วร้ายผุดขึ้น มันหวีดร้องเสียงแหลม อ้าปากที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด กลืนลูกไฟที่ยิงเข้ามาลงท้องโดยตรง

 

“พืชปีศาจขั้น 9 !”

 

เห็นฉากนี้ เฉินเฟิงและคนอื่นๆต่างหน้าเปลี่ยนสี

 

ซูเฉินแค่นลมหายใจเบาๆ สีหน้ายังคงสงบตั้งแต่ต้นจนจบ

 

แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับพืชปีศาจขั้น 9 แต่เขาเคยสังหารผู้ฝึกตนขั้น 9 ไปหลายคนแล้ว

 

ดังนั้นการปรากฏตัวของพืชปีศาจขั้น 9 จึงไม่น่าตกใจกลัวแม้แต่น้อย

 

เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจก็คือ พืชปีศาจขั้น 9 ที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนจะเป็นพืชโลหิต แต่กลิ่นอายที่เล็ดลอดออกมาจากมัน ไม่เหมือนกับต้นที่เขาเคยฆ่าบนเกาะเฉียนหยูเลย–

 

–กลิ่นอายของพืชปีศาจขั้น 9 ต้นนี้ ดูเหมือนจะผสมปนเปกับปราณมรณะ!

 

ด้วยความสงสัย เขาจึงเปิด [พื้นที่เพาะปลูก] เพื่อถามไถ่ต้นผลอายุวัฒนะ

 

“เสี่ยวโซ่ว พืชปีศาจตรงหน้าใช่พืชโลหิตรึเปล่า?”

 

“มันคือพืชโลหิต แต่ไม่ใช่พืชโลหิตธรรมดา เป็นพืชโลหิตกลายพันธุ์” ต้นผลอายุวัฒนะวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยตอบ

 

“พืชโลหิตกลายพันธุ์?”

 

ซูเฉินขมวดคิ้วเล้กน้อย เขาย้อนนึกไปว่า ในหมู่พวกซอมบี้เองก็มีพวกกลายพันธุ์อยู่เหมือนกัน และซอมบี้เหล่านั้นจะแข็งแกร่งกว่าซอมบี้ทั่วๆไป

 

แน่นอน พิชโลหิตกลายพันธุ์ย่อมทรงพลังกว่าพืชโลหิตทั่วๆไป ดูจากการที่มันอ้าปากกลืนลูกไฟเข้าไปโดยตรง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ก็เห็นได้ชัดแล้ว

 

“น้องซู มันคือพืชปีศาจขั้น 9 พวกเรารีบถอยกันเถิด” กู่เทียนฮวาร้องเตือนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

“ฮี่ ฮี่ ฮี่” ในตอนนั้นเอง พืชโลหิตกลายพันธุ์หัวเราะเยาะหยัน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อเราผู้เฒ่าเผยโฉมแล้ว พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”

 

สิ้นเสียง ร่างขนาดใหญ่ของมันก็สั่นไหวเล็กน้อย กิ่งก้านใบเต้นระบำอย่างบ้าคลั่ง ด้ายสีแดงเลือดนับไม่ถ้วนเหวี่ยงสะบัดออกมาจากมัน พริบตาเดียวห่อหุ้มพวกซูเฉินและคนอื่นๆเอาไว้

 

6/10

 

Ep.672

 

“นี่มันบ้าอะไรกัน?”

 

เฉินเฟิงและคนอื่นๆพยายามสลัดมันอย่างสุดชีวิต แต่ด้ายสีเลือดหนาแน่นเกินไป ไม่มีที่ว่างให้พวกเขาหลบหนีเลย

 

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาจึงทำได้เพียงต่อสู้กลับเท่านั้น

 

โชคดีที่พวกเขาทั้งหมดเป็นศิษย์อัจฉริยะ แต่ละคนล้วนมีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา แม้มือเท้าจะปัดป่ายยุ่งเหยิงเพราะความตกใจไปบ้าง แต่ก็สามารถสกัดไม่ให้ด้ายโลหิตเข้ามาใกล้ได้สำเร็จ

 

ตำแหน่งที่ซูเฉินยืนอยู่คือด้านหน้า จึงกลายเป็นเป้าหมายหลักของพืชโลหิตกลายพันธุ์ไปโดยปริยาย

 

ด้ายโลหิตนับพันสายเฆี่ยนตีมายังเขา มองไกลๆดั่งคลื่นที่กำลังท่วมทับ หมายจมเขาให้ตาย

 

เห็นฉากนี้ ดวงตาของซูเฉินทอประกายเย็นยะเยือก ตามมาด้วยเสียงดังกร๊อบ ทันใดนั้นทั้งร่างเขาสูงชะลูดขึ้นไปเป็นสิบจั้ง

 

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น พลังแห่งจิตวิญญาณที่เทียบได้เลยกับขั้น 9 ได้แผ่กระจายออกไป ปิดกั้นด้ายโลหิต ขวางพวกมันเอาไว้ภายนอก ไม่ปล่อยให้เข้าถึงตัว

 

“น้องซูแข็งแกร่งจริงๆ!”

 

เห็นซูเฉินอาศัยความแข็งแกร่งของตัวเองเพียงลำพัง ก็สามารถปิดกั้นด้ายโลหิตได้มากกว่าครึ่ง เหลิงมู่เย่และคนอื่นๆต่างตกตะลึง

 

“วิชาเปลี่ยร่าง! พลังจิตขั้น 9!”

 

พืชโลหิตกลายพันธุ์เริ่มตื่นตัวเล็กน้อย หลังจากเหม่อมองซูเฉินอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาของมันพลันฉายแววอำมหิตออกมา

 

ตามมาติดๆด้วยด้ายโลหิตทั้งหมดที่กำลังร่ายระบำกระจัดกระจาย เวลานี้ทั้งหมดกลับมารวมเข้าด้วยกัน โถมโจมตีซูเฉินแต่เพียงผู้เดียว

 

แคร่ก แคร่ก แคร่ก ..!

 

จมอยู่ภายใต้การโจมตีอันเข้มข้นดุเดือด ม่านพลังจิตของซูเฉินค่อยๆปริร้าว เริ่มไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป ปรากฏสัญญาณว่ากำลังแตกสลาย

 

“ไป! ร่วมมือกันช่วยน้องซู!” เหลิงมู่เย่เปล่งเสียงคำราม

 

ซูเฉินแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา หากซูเฉินได้รับบาดเจ็บ คนอื่นๆคงไม่สามารถรอดชีวิตไปได้

 

กู่เทียนฮวาและคนอื่นๆต่างรู้ความจริงข้อนี้ดี ทุกคนกระโจนออกไปเบื้องหน้าอย่างไม่ลังเล

 

“วันนี้ ต่อให้เป็นพระเจ้า พวกเจ้าก็ช่วยเขาไม่ได้!” พืชโลหิตกลายพันธุ์แสยะยิ้มเย้ยหยัน จากนั้นพลันอ้าปากกว้าง พ่นลูกไฟก้อนใหญ่ออกมา ยิงใส่ซูเฉิน

 

ทันใดนั้นเอง บรรยากาศร้อนระอุราวกับภูเขาไฟปะทุแพร่กระจายไปทั่ว

 

ทุกหนแห่งที่มันลอยผ่าน พื้นดินไหม้เกรียม ชั้นอากาศโดยรอบก็เหมือนจะถูกแผดเผาไปด้วย

 

“นี่มันคาถาลูกไฟระดับไหนกัน?”

 

กงเก๋อร้องโวยวายด้วยความสยดสยองอย่างไม่อาจอธิบาย ฝีเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้าของเขาหยุดลงกะทันหัน

 

ลูกไฟที่ถูกยิงออกมา มันเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจแห่งเปลวเพลิงอย่างสุดโต่ง ให้ความรู้สึกว่าหากสัมผัสโดนแม้เพียงน้อย จักถูกทำลายเป็นเถ้าถ่านทันที

 

สีหน้าของเหลิงมู่เย่และคนอื่นๆก็เปลี่ยนไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่หยุด ยังคงวิ่งไปข้างหน้า

 

กงเก๋อเห็นแบบนี้ ก็ได้แต่กัดฟัน แล้วไล่หลังไปติดๆ

 

“พวกคุณทุกคนถอยออกไป!” ซูเฉินตะโกน ลูกไฟที่ลอยเข้ามา อานุภาพของมัน เทียบได้เลยกับเวทย์ขั้น 10 ย่อมไม่ใช่สิ่งที่เหลิงมู่เย่และคนอื่นๆสามารถต้านทานได้

 

“ศิษย์พี่เหลิง ถอยกันเถอะ”

 

เฉินเฟิงตะโกนต่อทันที ดีดตัวออกไปเป็นคนแรก

 

เขาค่อนข้างรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของซูเฉิน ในเมื่อซูเฉินบอกให้ถอย แสดงว่าอีกฝ่ายมั่นใจ 100%ว่าจะสามารถรับมือกับลูกไฟนี้ได้

 

ตรงกันข้าม หากพวกเขาชักช้าไม่ถอนตัว มีโอกาสสูงที่จะถ่วงแข้งถ่วงขาซูเฉิน

 

กู่เทียนฮวาและคนอื่นๆนิ่งงันไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไหนดี

 

“ศิษย์พี่กู่ เชื่อใจเฮียซูเถอะ พวกเราถอยกันก่อน!” เซี่ยจิงอี้ช่วยเสริม

 

“งั้นไป!”

 

กู่เทียนฮวาและคนอื่นๆไม่ลังเลอีกต่อไป ถอยไปหลบหลังซูเฉินอย่างรวดเร็ว

 

และในเวลานี้ ลูกไฟได้ลอยมาถึงด้านหน้าซูเฉินแล้ว คลื่นความร้อนอันน่าสะพรึงของมันพัดผ่าน เล่นเอาเฉินเฟิงและคนอื่นๆต่างรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังจะระเหยกลายเป็นไอ

 

“น้องซูจะต้านมันได้จริงๆน่ะหรอ?”

 

ต้องเผชิญกับเวทย์ลูกไฟอันน่าสะพรึงนี้ กู่เทียนฮวาและคนอื่นๆต่างสั่นเทิ้มด้วยความตื่นกลัว ทุกคนเริ่มเป็นกังวลแทนซูเฉิน

 

“อยากฆ่าฉัน? รอชาติหน้าเถอะ!”

 

ซูเฉินประกาศกร้าว ยกแขนข้างหนึ่งขึ้น ทันใดนั้นภูเขาสีสันสดใสขนาดเล็กปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา