4/8

 

Ep.56

 

“พวกเราเป็นเพื่อนกันจริงๆ ” ซูเฉินพยักหน้ายืนยัน ทอดสายตาไปทางต้นไม้ยักษ์  ถามว่า “คุณลุง ผลโยวหรานเติบโตบนต้นไม้นี้ใช่ไหม?”

 

ในหุบเขาหมาป่า นอกจากต้นไม้ยักษ์แล้ว รอบๆล้วนว่างเปล่า

 

หากมีผลโยวหรานอยู่จริง คงมีเพียงต้นไย้ยักษ์ที่สามารถออกผลได้

 

 “ผลโยวหรานอยู่กับฉัน มีทั้งสิ้นสี่ลูก ฉันยกให้เธอหมดเลย” หยางหลิงเทียนกล่าว หยิบผลไม้สีฟ้าอ่อนสี่ผลออกจากอกเสื้อเขา ยื่นให้ซูเฉิน

 

ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของซูเฉิน เกรงว่าเขาคงต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต

 

สำหรับหยางหลิงเทียน ซูเฉินเป็นเหมือนพระผู้ช่วยชีวิต เลยเป็นธรรมดาที่เขาจะยกผลโยวหรานทั้งหมดให้

 

“ผมขอแค่สองก็พอแล้ว” ซูเฉินยิ้ม หยิบขึ้นมาครึ่งหนึ่ง ก่อนเริ่มสำรวจพวกมัน

 

ผลโยวหรานไม่ใหญ่นัก มีขนาดเท่าลำไย บนผิวประดับด้วยแสงสีฟ้าจางๆ มีกลิ่นหอมอบอวลโชยออกมา ชวนให้หลงใหลมึนเมา

 

เหตุผลที่ซูเฉินต้องการแค่สองลูก สาเหตุหลักมาจากตันหลิน

 

ผลโยวหรานมีโอกาสสูงที่จะช่วยให้ผู้รับประทานกลายเป็นปรมาจารย์พลังจิต ดังนั้นแค่สองลูกก็พอแล้ว

 

“แค่สองลูกจะดีหรือ?” หยางหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ

 

เพราะอย่างไรเสีย ผลโยวหรานคือวัตถุดิบทางจิตวิญญาณชั้นยอดที่ไม่สามารถหาเจอกันได้ง่ายๆ ต่อให้เขาไม่ใช้มัน แต่ถ้านำไปขายทอดตลาดจะได้เม็ดเงินมหาศาล ซูเฉินสามารถต้านทานสิ่งล่อใจเช่นนี้ได้หรือ?

 

ผลโยวหรานเป็นของดีจริงๆ แต่นั่นมันสำหรับคนอื่น ส่วนตัวซูเฉินไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่นัก

 

เนื่องจากเขาสามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งได้โดยการเก็บชิ้นส่วน หากไม่ใช่เพราะตันหลิน ซูเฉินคงไม่ถ่อมาเก็บมัน

 

“คุณลุงครับ ผมเอาแค่นี้จริงๆ สบายใจได้” ซูเฉินรับปากและกล่าวต่อ “กลับกันเถอะครับ”

 

ได้ผลโยวหรานมาอยู่ในมือ หมาป่ากลายพันธุ์สามตัวก็เชื่องเรียบร้อย วัตถุประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ประสบความสำเร็จแล้ว  ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่อีกต่อไป

 

“โอเค กลับกันเถิด” หยางหลิงเทียนตอบอย่างกระตือรือร้น 

 

เขาติดอยู่ในหุบเขาหมาป่านานกว่าครึ่งปีแล้ว ที่ผ่านมาทั้งกังวลและเป็นห่วงหยางเฉียนกับหยางฮ่าวอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เลยอยากรีบกลับไปโดยเร็วที่สุดเพื่อเจอเด็กๆทั้งสอง

 

“เสี่ยวชิง นายรับหน้าที่เปิดทาง เดินนำหน้า” ซูเฉินสั่งหมาป่ากลายพันธุ์ขนเขียว

 

หมาป่าขนเขียวเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากใบมีดสายลมของเขามาก่อน แต่หลังจากรับประทาน [โพชั่นรักษา] บาดแผลบนร่างของมันก็หายเป็นปลิดทิ้ง ตอนนี้มันมีชีวิตชีวามาก

 

หลังจากได้รับคำสั่งของซูเฉิน ‘เสี่ยวชิง’ ส่งเสียงอิ๋งๆตอบรับอย่างเป็นมิตร ราวกับมันเข้าใจคำพูดของซูเฉิน วิ่งไปข้างหน้าเพื่อนำทาง

 

หยางหลิงเทียนที่อยู่ข้างๆ เหม่อมองด้วยความว่างเปล่า ลอบร้องในใจว่าซูเฉินช่างน่าเหลือเชื่อนัก

 

มิเพียงโดดเด่นในด้านความแข็งแกร่ง แต่กระทั่งวิธีควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ให้เชื่องก็น่าอัศจรรย์ไม่แพ้กัน

 

 

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง ซูเฉินกับหยางหลิงเทียนก็มาถึงหุบเขา

 

ครอบครัวตระกูลหยางได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง ทั้งหมดกอดกันกลม ร้องไห้ด้วยความปิติยินดี

 

“ซูเฉิน ขอบคุณนะ” หยางเฉียนเดินมาหาซูเฉิน ดวงตาคู่งามเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา สะท้อนให้เห็นถึงความสำนึกคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

“ด้วยความยินดี” ซูเฉินยิ้ม ตบอกตัวเองเบาๆและกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันดี! ขอเชิญทุกคนมาที่ถ้ำหินของฉัน ฉันจะจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว!”

 

ก่อนหน้านี้เขาได้สังหารหมูป่ากลายพันธุ์ไป ถึงเวลาใช้งาน [เตาอเนกประสงค์] แล้ว

 

ทันทีที่หยางฮ่าวได้ยินว่ามีเนื้อให้ย่างกิน ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นทันใด

 

จากนั้น ซูเฉินนำหมูป่ากลายพันธุ์ออกมา เริ่มหั่นเป็นชิ้นแล้วย่าง

 

ไม่นาน กลิ่นหอมหวลของเนื้อก็ลอยฟุ้งไปทั่วถ้ำหิน

 

“พี่เฉิน ฉันว่ามันยังเผ็ดไม่พอ ขอเติมอีกหน่อยได้ไหม” หยางฮ่าวกลืนเนื้อหมูไปพลาง เอ่ยถามไปพลาง

 

“ไม่มีปัญหา” ซูเฉินหมุนสวิตช์ เพิ่มความเผ็ดขึ้นเล็กน้อย

 

หยางเฉียน เธอเอ่ยปากว่ากินเผ็ดไม่ได้ ฮะฮ่า! เรื่องนั้นก็ไม่มีปัญหา แค่หมุนสวิตช์ลง

 

ส่วนหยางหลิงเทียนอยากกินเผ็ดเล็กน้อย นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ 

 

ฟังก์ชั่นของ [เตาอเนกประสงค์] สามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม สีสันของเนื้อและกลิ่นหอมที่ปรุงออกมา ล้วนสามารถปรับแต่งได้ รวมไปถึงรสชาติเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้สามตระกูลหยางรู้สึกประหลาดใจมาก