9/10

 

Ep.373

 

ขณะเดียวกัน สาวงามจากเผ่าราชวงศ์อสูรค่อยๆสำรวจมองซูเฉิน

 

ในสายตาเธอ ซูเฉินคือชายหนุ่มหล่อเหลา ร่างสูงใหญ่ และมีบุคลิกไม่ธรรมดา

 

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเขาคือหนุ่มรูปงามที่หาได้ยากยิ่งในโลกใบนี้

 

มองเพียงแวบเดียว นัยน์ตาของสาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรทอประกายวาววับออกมา เกิดความคิดล่องลอยในจิตใจ

 

“มนุษย์ เข้าจะมอบโอกาสรอดชีวิตแก่เจ้า”

 

สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรจ้องมองซูเฉิน กล่าวอย่างสบายๆ แม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะอ่อนโยน แต่ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ราวกับว่าเธอสามารถควบคุมความเป็นความตายของซูเฉินได้อย่างสิ้นเชิง

 

“มอบโอกาสรอดชีวิตแก่ฉัน? ต้องทำยังไงไหนลองบอกมาซิ” ซูเฉินปาดจมูกเขา เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

 

“ตราบใดที่เจ้าสัญญาณว่าจะเคียงข้างข้า เปิ่นกงไม่เพียงไม่ฆ่าเจ้า แต่ยังปรนเปรอเจ้า ให้เจ้าได้เพลิดเพลินไปกับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งเหนือคณานับ!” สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรกล่าวอย่างจริงจัง มีร่องรอยของความคาดหวังปรากฏขึ้นเล็กน้อยบนใบหน้าเธอ

 

สีหน้าของซูเฉินมืดครึ้มลงทันใด

 

ความหมายในคำพูดของอีกฝ่ายนั้นชัดเจน คือต้องการให้เขาไปเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ!

 

ประณาม! นี่มันจะดูถูกกันเกินไปแล้ว

 

ผู้หญิงจากเผ่าราชวงศ์อสูรไร้ยางอายแบบนี้แทบทุกคนเลยงั้นหรือ? เรื่องแบบนี้กล้าพูดออกมาได้อย่างไร?

 

“ขอโทษที ฉันไม่สนใจนังแพศยาแบบแก” ซูเฉินแค่นเสียงเย็น

 

เขาสามารถเดาได้จากคำพูด ว่าการที่อีกฝ่ายเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ออกมา แสดงว่าข้างกายคงรวบรวมบุรุษมาได้ไม่น้อย

 

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจ

 

ได้ยินแบบนั้น ความขุ่นเคืองก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสาวงามเผ่าราชวงศ์อสูร แต่เธอก็ยังพยายามระงับความโกรธ กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากปฏิเสธเราเปิ่นกง สิ่งใดจะเกิดขึ้นกับตัวเจ้า?”

 

ซูเฉินเบ้ปาก ผุดยิ้มดูแคลน “บิดาคิดจะถอนรากถอนโคนเผ่าราชวงศ์อสูรของพวกแกอยู่แล้ว ยังจะต้องหวาดกลัวคำขู่ของแกอีกหรือ?”

 

“คิก คิก .. ”

 

น่าแปลก คราวนี้สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะ สายตาที่มองมายังซูเฉิน คล้ายแสดงถึงความชื่นชม

 

ในความคิดเธอ แม้ดูเฉินจะใช้คำพูดไร้มารยาทไปบ้าง แต่ก็ยังร้อนแรงกระหายเลือด

 

เธอไม่ได้เจอผู้ชายแบบนี้มานานแล้ว

 

เป็นผลให้ยิ่งรู้สึกสนใจซูเฉินยิ่งกว่าเดิม

 

“เช่นนั้นเจ้าก็ลองรับมือกับงูยักษ์ของเราดู หากผ่านมันไปได้ ค่อยมาอาละวาดต่อเราเปิ่นกง”

 

สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรร้องเบาๆ จากนั้นกล่าวด้วยความดูแคลนว่า “แม้งูยักษ์จะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 แต่มันคือเลเวล 5 ที่ร้ายกาจที่สุดในเผ่าราชวงศ์อสูรของพวกเรา หากเจ้าโค่นมันลงไม่ได้ วันนี้เราเปิ่นกงจะจับเจ้าไปเป็นบ่าวรับใช้!”

 

“ไม่ต้องพล่ามแล้ว เข้ามาทั้งคู่นั้นแหละ อยากรู้เหมือนกันว่านังแพศยาจะมีความสามารถซักแค่ไหน”

 

ซูเฉินถุยน้ำลาย ไม่ได้จริงจังกับคำขู่ของอีกฝ่ายเลย

 

สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรกัดริมฝีปากบางๆของเธอเบาๆ ใบหน้าเริ่มแสดงออกถึงความโกรธเป็นครั้งแรก

 

ซูเฉินเอ่ยปากทีก็เรียกเธอว่า ‘แพศยา’ ความอดทนของเธอมาถึงขีดจำกัดแล้ว

 

“ในเมื่อเจ้าไม่รักดี เช่นนั้นจงลิ้มรสความร้ายกาจของเราเปิ่นกงดู!”

 

สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรกรีดร้อง เธอยกมือขึ้น ปลดปล่อยคลื่นสีขาวออกมา ยิงใส่ซูเฉิน

 

ในเวลาเดียวกัน งูยักษ์อ้าปากแยกเขี้ยวและพ่นหมอกสีขาวออกมาเช่นกัน กวาดไปทางซูเฉิน

 

“เวทย์น้ำแข็งเลเวล 5 !”

 

ซูเฉินสัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกปะทะใบหน้าเขา ต้องเลิกคิ้วเล็กน้อย โคจรพลังเวทย์ไฟอย่างลับๆ

 

เมื่อคลื่นสีขาวและหมอกพุ่งเข้าใกล้ซูเฉิน จู่ๆมันก็พลันเกาะตัวกันแน่น กลายเป็นโดมน้ำแข็ง ห่อมหุ้มร่างของซูเฉินเอาไว้

 

เห็นแค่เพียง ร่างของซูเฉินค่อยๆถูกแช่แข็งอย่างช้าๆ ไล่จากเท้าขึ้นไป

 

“ซูเฉิน … ”

 

“พี่เฉิน … ”

 

สีหน้าของคนบน [รถศึกอัจฉริยะ] แปรเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง ในหัวใจของพวกเต็มไปด้วยความกังวลอย่างหาที่เปรียบมิได้

 

“วาจาใหญ่โต แต่น่าเสียดายที่กำลังรบช่างอ่อนแอ”

 

นัยน์ตาของสาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรเต็มไปด้วยความรังเกียจ

 

ก่อนหน้านี้ ซูเฉินพูดจาฉะฉาน ทำให้เธอหลงคิดว่าอย่างน้อยซูเฉินก็น่าจะรับมือเธอได้ซักสองสามกระบวนท่า แต่ไม่เคยคิดเลย ว่าแม้แต่กระบวนท่าแรกเขาก็ยังรับไม่ได้

 

นี่ทำให้เธอคิดว่า ซูเฉินแท้จริงแล้วดีแต่เปลือก เป็นแค่ดอกไม้สีสันงดงามที่ดีแต่พล่าม

 

“แกคิดแบบนั้นจริงๆหรือ?”

 

ซูเฉินหัวเราะเย็นชา ทันใดนั้นเอง เปลวเพลิงปะทุขึ้นจากมือเขา ว่ายวนรอบกาย ละลายน้ำแข็งบนร่างเขาอย่างรวดเร็ว

 

10/10

 

Ep.374

 

ร่างกายของซูเฉินมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] สามารถต้านทานเวทมนต์เลเวล 5 บางส่วนได้ ควบคู่ไปกับพลังเวทย์ธาตุไฟที่ผสานเข้ากับ [เพลิงทะเลทราย] ทำให้สามารถทำลายผนึกน้ำแข็งเลเวล 5 ได้อย่างไม่ยากเย็น

 

“ซูเฉินไม่เป็นอะไร!”

 

“พี่เฉินสุดยอดไปเลย!”

 

เมื่อเห็นว่าซูเฉินสามารถทำลายสองเวทมนต์เลเวล 5 ได้อย่างง่ายดาย ภายใน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ระเบิดเสียงเฮออกมา

 

“เจ้า .. เจ้าทำได้อย่างไร?”

 

มุมปากของสาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรกระตุกเล็กน้อย สายตาที่มองมายังซูเฉิน ราวกับเธอกำลังเห็นผี

 

เธอไม่เข้าใจจริงๆ เห็นอยู่ชัดๆว่าซูเฉินมีเลเวลแค่ 4 แล้วเหตุใดเวทย์เลเวล 5 ที่เธอและงูยักษ์ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน ถึงไม่สามารถหยุดเขาได้

 

หรือว่าเขาจะเก็บงำความแข็งแกร่งเอาไว้?

 

แต่ต่อให้เขาเป็นถึงปรมาจารย์มนตราเลเวล 6 ก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับเวทย์แช่แข็งเลเวล 5 พร้อมกันถึงสองมนต์ในคราวเดียว ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้ได้

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าซูเฉินยังอายุไม่ถึง 20 ปี แค่ขึ้นมาเป็นเลเวล 4 ได้ก็น่าเหลือเชื่อมากแล้ว ฉะนั้นจะเป็นเลเวล 6 ไปได้อย่างไร?

 

เมื่อไม่อาจเข้าใจสถานการณ์ สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรเริ่มกระสับกระส่ายเล็กน้อย

 

“ถ้าให้มันจบลงแค่นี้คงเสียมารยาทน่าดู ในเมื่อฉันได้เห็นเทคนิคแช่แข็งของแกแล้ว งั้นมาลองเจอเทคนิคแช่แข็งของฉันบ้าง!”

 

มุมปากของซูเฉินยกโค้งเป็นรอยยิ้มพิศวง

 

“นี่เจ้าสามารถใช้เวทย์ธาตุน้ำแข็งได้ด้วย?”

 

สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรตกตะลึง

 

สิ่งที่ซูเฉินเพิ่งปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่คือพลังเวทย์ไฟอันทรงพลัง นั่นบ่งบอกว่าเขาคือปรมาจารย์มนตราธาตุไฟ

 

แล้วทำไมจู่ๆเขาถึงบอกว่าจะใช้เวทย์น้ำแข็ง?

 

หรือว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์มนตราสองธาตุ?

 

คิดถึงเรื่องนี้ สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรก็สั่นสะท้าน เฝ้ามองไปยังซูเฉิน

 

ในสายตาของเธอ เห็นซูเฉินหยิบดาบสีดำสนิทขึ้นมาไว้ในกุมมือ และสับมันลงมายังตำแหน่งที่เธอยืนอยู่

 

จากนั้น พบว่ามีคลื่นสีขาวพุ่งออกมาจากใบดาบ ไอเย็นยะเยือกอันน่าสยดสยองแผ่ซ่านออกมา ทุกที่ที่มันผ่าน อุณหภูมิจะลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งทันที

 

คล้ายกับว่าพบพานกับความหนาวจัดจนแม้แต่อากาศยังถูกแช่แข็ง

 

ผู้คนใน [รถศึกอัจฉริยะ] แม้อยู่ห่างออกมามากพอสมควร แต่เวลานี้พวกเขาบังเกิดความรู้สึกว่า คล้ายถูกส่งเข้ามาอยู่ในโลกน้ำแข็ง อดหนาวสั่นไม่ได้

 

สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรย่อมสัมผัสไอเย็นนี้ได้ชัดเจนยิ่งกว่า หัวใจเธอสั่นระรัว

 

เวทย์น้ำแข็งที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา มันเหนือกว่าเลเวล 5 อย่างสิ้นเชิง แม้ตัวเธอจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เคยพานพบเวทย์น้ำแข็งเลเวล 6 ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน

 

เวทย์น้ำแข็งที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมา มันหลอมรวมเข้ากับ [เหมันต์เยือกแข็งทางตอนเหนือ] และ [เหมันต์เก้าเร้นลับ] ควบคู่ไปกับคุณสมบัติของ [ดาบเสริมมนตรา] ทำให้พลังของมันเหนือยิ่งกว่าเวทย์เลเวล 6

 

ก็สมเหตุสมผลแล้วที่สามารถสำแดงอานุภาพและแรงกดดันได้ขนาดนี้

 

“สรุปแล้วเขาเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวลไหนกันแน่?”

 

เมื่อต้องเผชิญกับคลื่นสีขาวที่กวาดเข้ามา สาวงามเผ่าราชวงศ์อสูรบังเกิดความสิ้นหวัง เธอไม่สามารถต้านทานมันได้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่ปล่อยให้คลื่นสีขาวกลืนผ่านร่างเธอไป

 

ในเวลาต่อมา เธอก็ถูกแช่กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง สีหน้ายังคงแสดงให้เห็นถึงความไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่กลิ่นอายแห่งชีวิตบนร่างเธอ ก็ถูกทำลายล้างไปอย่างสิ้นเชิง

 

ส่วนสัตว์ขี่งูยักษ์ของเธอ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน มันกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งที่ยาวกว่า 30 เมตรไปแล้ว

 

“เทคนิคน้ำแข็งของพี่เฉินร้ายกาจสุดยอดไปเลย!”

 

หยางฮ่าวกำหมัดแน่น ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเคารพเทิดทูน ความชื่นชมที่มีต่อซูเฉินเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง

 

เมื่อได้เห็นซูเฉินสังหารผู้แข็งแกร่งเลเวล 5 กับตาตัวเอง เหล่าเผ่าราชวงศ์อสูรที่ติดตามมาจากทางผ่านเขตแดนก็หวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ

 

“วิ่งเอาชีวิตรอด!”

 

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน แต่เผ่าราชวงศ์อสูรพลันแตกฮือ หนีไปยังทิศทางคฤหาสน์เจ้าเมืองทันที

 

ซูเฉินกวาดมองไปรอบๆ ซัด [หมัดดาวตก] กำลังจัดเผ่าราชวงศ์อสูรที่หลบหนีไป

 

เผ่าราชวงศ์อสูรส่วนใหญ่ถูกฆ่า ที่เหลือบาดเจ็บสาหัส ต่อมา [นักรบจักรกล] ก็ก้าวเข้าไปไล่สังหารพวกทีเหลือทีละตัว