Ep.354

 

ซูเฉินไม่สนไม่แคร์ว่าศัตรูมาจากขุมอำนาจไหน ตราบใดที่พวกมันเคยปล่อยจิตสังหารใส่เขา เขาไม่มีทางยอมเมตตา

 

[ดาบเสริมมนตรา] ฟาดฟันไปข้างหน้าใบมีดสายลมยักษ์สีเทากวาดผ่านไป

 

“อ๊าาาา!”

 

เสียงกรีดร้องบีบหัวใจดังสะท้อนไปทั่วทางเดิน

 

เมื่อเสียงเหล่านั้นหยุดลง ทั่วทั้งทางเดินก็ถูกปูไปด้วยชิ้นส่วนมนุษย์

 

นอกจากพนักงานแล้ว ทุกคนจากนิกายวูหยิน รวมถึงตัวแทนจากเมืองทงเทียน ล้วนถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุ

 

“นี่ … ”

 

พนักงานเหม่อมองไปยังทางเดินที่บัดนี้ดั่งเส้นทางสู่ขุมนรก ร่างเขาสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม

 

เขาเป็นแค่คนธรรมดา แล้วจะเคยเห็นฉากอันน่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อนได้อย่างไร?

 

ชั่วขณะนี้ หัวใจเขาแทบหยุดเต้น ทั้งคนทั้งร่างแข็งทื่อคล้ายกลายเป็นหิน

 

“ไปเถอะ พวกเราคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว เปลี่ยนที่พักกัน” ซูเฉินส่ายหัว ก้าวนำออกไป

 

ทางเดินเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของเลือด เรื่องนี้ส่งผลต่อบรรยากาศในที่พักอย่างร้ายแรง และเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป

 

เดินออกจากประตูโรงแรมห่าวเยว่ ซูเฉินมุ่งหน้าไปยังที่ว่างมุมหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป และนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา

 

ด้วยความวุ่นวายที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ คนจากเมืองทงเทียนและนิกายวูหยินย่อมไม่ยอมรามืออย่างแน่นอน

 

หากเข้าพักในโรงแรมต่อไป เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

 

ดังนั้นเขาตั้งใจจะพักผ่อนใน [รถศึกอัจฉริยะ]

 

อย่งาไรก็ตาม เมืองทงเทียนมีกฏข้อบังคับอย่างชัดเจน ว่าไม่อนุญาตให้ยานพาหนะของขุมกำลังอื่นเข้ามา

 

การที่ซูเฉินนำ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ถือเป็นการท้าทายเมืองทงเทียนอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แต่แล้วไง?

 

เมื่อครู่เขาได้สังหารตัวแทนของเมืองทงเทียนไปแล้ว ฉะนั้นยังต้องมามัวสนใจกฏระเบียบอยู่อีกหรือ?

 

หากคนในเมืองทงเทียนไม่รู้จักกาลเทศะ กล้าทวงถามปัญหาจากเขา

 

สุดท้ายก็จะพบหายนะครั้งใหญ่เหมือนเช่นเมืองจิงกังในอดีต

 

หลังจาก [รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มความยาวเป็น 20 เมตร ซูเฉินและคนอื่นๆก็เข้าไปในรถ

 

แม้ว่าสถานที่ที่เขาเลือกจะค่อนข้างห่างไกล แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของผู้ที่สัญจรไปมา

 

หลายคนรวมตัวกันรอบๆ [รถศึกอัจฉริยะ] ชี้ไม้ชี้มือ

 

“รถฐานทัพคันนี้สวยจัง! เศรษฐีคนไหนกันที่เป็นเจ้าของ? ว่าแต่รถฐานทัพสามารถใหญ่ได้ขนาดนี้เลยหรอ?”

 

“สวยบ้าบออะไร! อย่าลืมสิว่าเมืองทงเทียนไม่อนุญาตให้รถฐานทัพคันอื่นเข้ามา เจ้าหมอนี่ทำแบบนี้ อีกเดี๋ยวคงต้องพบกับความโชคร้าย”

 

“นายพูดถูก เจ้าของมันคงบ้าไปแล้วแน่ๆ กล้าขับรถฐานทัพเข้ามา เดี๋ยวคงได้เห็นดีกัน”

 

ซูเฉินรู้สึกรำคาญกับเสียงข้างนอกมากๆ เปิดประตูรถดังผัวะ ตะโกนว่า“มีอะไรน่าสนใจนัก? ไสหัวไปให้พ้น!”

 

เมื่อคำนี้หลุดออกมา ก็สร้างความขุ่นเคืองให้ฝูงชนทันที

 

ให้ตายเถอะ!

 

ที่นี่คืออาณาเขตของเมืองทงเทียน แล้วแกเป็นใครถึงกล้าอวดดีแบบนี้?

 

แกคิดว่าเมืองทงเทียนเป็นบ้านตัวเองรึไง?

 

แค่มุงดูก็ผิดหรือ? กล้าดียังไงมาด่าพวกเรา?

 

บังอาจคุกคามประชากรในเมืองทงเทียน จักต้องได้รับโทษทัณฑ์สูงสุด และอาจถึงขั้นจบชีวิตลงเลยก็ได้

 

เมื่อคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกแน่ๆ ชาวเมืองที่มุงดูก็ไม่สนคำขู่ของซูเฉิน ยังคงยืนเฉย และมีหลายคนเริ่มตะโกนด่าสาปแช่งเขา

 

ชายกำยำหน้าบึ้งตึง ชี้หน้าซูเฉิน ตะโกนเสียงเย็นว่า “ไอ้ลูกหมา แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? บิดาไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น! อยากรู้เหมือนกันแกจะทำอะไรฉันได้? แน่จริงก็กระดิกหางเข้ามากัดฉันสิวะ!”

 

ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง เขารู้ดี ว่าถ้าไม่เชือดไก่ให้ลิงดู คนพวกนี้ไม่มีทางจากไป

 

“ฉันคงไม่ไปกัดแกหรอก –แต่จะฆ่าแกแทน!”

 

หลังจากแค่นเสียงเย็น ซูเฉินก็ปลดปล่อยพลังจิตออกมา บีบร่างของชายคนนั้นไม่ต่างจากบิดผ้าเปียก เปลี่ยนพื้นที่ใต้เท้าเขากลายเป็นแอ่งเลือดในทันที

 

“กรี๊ดดดด! เขากล้าฆ่าคน!”

 

“แต่เขาทำได้อย่างไร? ฉันไม่เห็นเขาขยับตัวเลยสักนิด”

 

“หยุดพูดเถอะ เผ่นเร็ว เจ้าหมอนี่มันโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป!”

 

เห็นซูเฉินเอ่ยปากว่าจะฆ่าก็ฆ่าทันที อารมณ์ดุร้ายเช่นนี้ ฝูงชนที่มุงดูต่างหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ เตลิดหายไปเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย