Ep.284

 

‘เขาเป็นปรมาจารย์มนตราธาตุสายฟ้า! แต่ทำไมเวทย์สายฟ้าถึงได้ดูทรงพลังนัก?’

 

มองไปยังกระแสสีฟ้าที่ถาโถม ชายกำยำชุดหนังสัตว์ลอบร้อง‘ชิบหาย’ในใจ

 

เขาเคยเห็นเวทย์สายฟ้ามาก่อน เพราะถันสือไห่เองก็เป็นปรมาจารย์มนตราธาตุสายฟ้าเลเวล 4

 

แต่เวทย์เลเวล 4 ที่ถันสือไห่ปลดปล่อยออกมา เมื่อวัดกับของซูเฉินแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลย

 

พายุสายฟ้าของซูเฉิน เหนือกว่าเลเวล 4 อย่างสิ้นเชิง อันที่จริงเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่าเลเวล 5 ด้วยซ้ำ

 

ขณะที่ชายกำยำชุดหนังสัตว์เป็นเพียงผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 เวทย์เลเวล 4 ยังต้านทานไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉะนั้นเวทย์สายฟ้าเลเวล 5 คงไม่ต้องกล่าวถึง ในดวงตาเขาสะท้อนไปด้วยความสิ้นหวัง

 

คนอื่นๆบนเรือใหญ่เองก็สัมผัสได้ถึงความตายที่กำลังใกล้เข้ามา พวกเขาแตกกระเจิง วิ่งหนีไปทุกทิศทางเพื่อเอาชีวิตรอด

 

วินาทีถัดมา กระแสสีฟ้าก็ปะทะเข้ากับเรือใหญ่ ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง พลังทำลายล้างแผ่ซ่านไปทั่ว

 

ชายกำยำชุดหนังสัตว์ถูกโจมตีเป็นคนแรก โดนสายฟ้าฟาดสลายเป็นเถ้าถ่าน คนอื่นๆก็ทยอยกันถูกคลื่นสายฟ้าเข้ากลืนกิน ตายลงทีละคน ทีละคน

 

หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ คลื่นสายฟ้าก็หายไป

 

ผู้คนนับร้อยบนเรือใหญ่ บัดนี้ไม่กลายเป็นเถ้าถ่าน ก็มีสภาพเป็นศพไหม้เกรียมโดยไม่มีข้อยกเว้น

 

ตัวเรือใหญ่เองก็ปรากฏรูขนาดยักษ์ บังเกิดเสียงดังกรึก! ตัวเรือแยกออกเป็นสองซีก พริบตาเดียวแหลกเป็นกองเศษไม้ลอยอยู่บนผิวทะเล

 

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ทุกคนตกตะลึง

 

ทั่วบริเวณ บังเกิดความเงียบสงัดอันน่าขนลุก

 

กระบวนท่าเดียว .. เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น! ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าสามารถสังหารคนนับร้อย แต่กระทั่งเรือใหญ่ที่มีความยาวเป็นร้อยเมตรก็ยังถูกทำลายลงเป็นซาก

 

ความแข็งแกร่งของซูเฉินได้เป็นที่ประจักษ์ต่อทุกสายตา!

 

ขนาดหวู่หยางและคนอื่นๆที่รู้จักซูเฉินเป็นอย่างดี และเคยเห็นซูเฉินสังหารศัตรูมานักต่อนัก

 

แต่เวลานี้ กระทั่งพวกเขาก็ยังตกใจกับภาพตรงหน้า

 

บรรดาคนของเมืองถันไห่บนเรือเล็กที่ตั้งใจจะบุกเข้ามา ขวัญกระเจิงจนไล่ตามกลับมาไม่ทัน

 

ในชีวิตพวกเขา เคยเห็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงและทรงพลังครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นได้ อาจมีถันสือไห่จากสิบสามเมืองแห่งทะเลแห่งการหลงเลือนเท่านั้น

 

ทว่าต่อหน้าซูเฉิน ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายยังสู้ลมตดของซูเฉินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

 

เมื่อตระหนักว่าได้บังอาจล่วงเกินคนที่ไม่สมควรยั่วยุ สมาชิกของเมืองถันไห่ก็หันหัวเรือกลับ แยกย้ายกันหลบหนีไปทุกทิศทาง

 

ซูเฉินเหลือบมองไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] เอ่ยสั่งว่า “เสี่ยวจือ ฆ่าพวกมัน”

 

“รับทราบ”

 

[รถศึกอัจฉริยะ] ควบคุม [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] ระดมยิงออกไปอย่างบ้าคลั่ง

 

ในลมหายใจเดียว

 

ภายใต้อำนาจของห่ากระสุน คนจากเมืองถันไห่ รวมไปถึงเรือเล็กที่พวกเขาโดยสาร ถูกยิงเป็นรังผึ้ง บังเกิดเสียงกรีดร้องดังแข่งกับเสียงคลื่นทะเล

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอยู่ไกลเกินไป เลยมีเรือเล็กลำหนึ่งสามารถหลุดจากรัศมีโจมตีไปได้

 

ทว่ากุ้งตัวเล็กเช่นนั้น ซูเฉินคร้านจะไล่ตาม หันมาพูดกับทุกคนว่า “เอาล่ะ ทุกคนเริ่มงานกันเถอะ”

 

มีสัตว์ทะเลถูกสังหารลงประมาณ 1,000 ตัว ดรอปชิ้นส่วนมากกว่า 100 ชิ้น

 

ซูเฉินก้าวลงเหยียบบนผิวทะเล วิ่งเหยาะๆไปคว้าชิ้นส่วนที่ใกล้ที่สุด

 

คนอื่นๆก็เริ่มเก็บกู้ซากศพ ขุดเอาหินพลังงานออกมา

 

ซูเฉินคว้าชิ้นส่วนสีดำ บังเกิดเสียงแปลกๆดังก้องในใจเขา

 

“คุณได้รับ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (9/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”

 

“ไม่แลก”

 

ว่าจบ ซูเฉินก็เริ่มครุ่นคิด

 

หลังจากไล่เก็บชิ้นส่วนมานาน รายการ [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] ก็ขาดอีกเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

 

แล้วอีกอย่าง อัตราแลกเปลี่ยนของมันใน [ร้านค้าวันสิ้นโลก] คือหนึ่งชิ้นส่วนต่อ 10 แต้มพลังงาน

 

อาจกล่าวได้ว่า ตราบใดที่ซูเฉินเอ่ยปาก เขาสามารถแลกเปลี่ยนมันได้ตลอดเวลา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนนึกไปว่า [อุกกาบาตเพลิงปฐพี] อาจเป็นของที่คล้ายๆกับ [หินบดดาราเทียนกัง]

 

เขาก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไป

 

[หินบดดาราเทียนกัง] มีน้ำหนักกว่าหมื่นจิน ซึ่งเขายังไม่สามารถถือมันได้ในตอนนี้

 

ดังนั้น [อุกกาบาตเพลิงปฐพี]ในตอนนี้ ต่อให้เขาแลกเปลี่ยนมันไป ก็เป็นได้แค่เครื่องประดับ ฉะนั้นจะดีกว่าไหมหากเก็บแต้มพลังงานเอาไว้ เพื่อเตรียมแลกเปลี่ยน [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า]