Ep.256

 

“เจ้าหมอนี่อวดเบ่งชะมัด”

 

ซูเฉินเบ้ปาก อัดฉีดพลังเวทย์ธาตุสายฟ้าเข้าสู่ [ดาบเสริมมนตรา] ตวัดฟันออกไป

 

เผ่าโลหิตตัวสูงมาถึงเบื้องหน้าซูเฉินพอดี พริบตานั้นสายฟ้าพลันปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตามัน

 

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ประกายจากสายฟ้ายิ่งมายิ่งเจิดจ้า พรั่งพราวใหญ่โตขึ้นเรื่อย

 

จนในที่สุดขยายเป็นกระแสสีฟ้าที่มีความหนาเท่าชามใหญ่ โถมกลืนเข้าหามัน

 

สัมผัสได้ถึงสายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวและคลื่นความผันผวนที่แฝงอยู่ในกระแสสีฟ้า เผ่าโลหิตตะลึงลานไปครู่หนึ่ง ก่อนตะโกนด้วยความสยองเกล้า “เวทย์ธาตุสายฟ้า! นี่เจ้ายังเป็นปรมาจารย์มนตราด้วย!”

 

มันไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าซูเฉินไม่เพียงเป็นปรมาจารย์พลังจิตและผู้วิวัฒนาการ แต่ยังเป็นปรมาจารย์มนตราอีกด้วย

 

และเวทย์สายฟ้าที่ปลดปล่อยออกมา ก็เหนือกว่าเลเวล 4 อย่างสิ้นเชิง ทั้งยังดูเหมือนจะแกร่งของเวทย์เลเวล 5 อยู่เล็กน้อย

 

น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง!

 

มนุษย์รุ่นเยาว์ตรงหน้ามัน ไม่เพียงครอบครองสามอาชีพหลัก แต่ระดับการฝึกฝนในส่วนของปรมาจารย์มนตรา น่าจะอยู่ในเลเวล 5

 

เมื่อเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่อันร้ายกาจเช่นซูเฉิน ต่อให้เผ่าโลหิตมีความภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างสูง มันก็ยังอดหวาดกลัวอย่างขึ้นมาไม่ได้

 

อันที่จริงแล้ว ระดับการฝึกฝนในฐานะปรมาจารย์มนตราของซูเฉินอยู่แค่เลเวล 4 เท่านั้น แต่เหตุผลที่เขาสามารถระเบิดอานุภาพเทียบเท่ากับเลเวล 5 ได้

 

เป็นเพราะ [สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งความป่าเถื่อน] ที่ถูกหลอมรวมเข้ากับเวทย์สายฟ้า

 

อีกทั้งเวทย์สายฟ้ายังเป็นศัตรูตัวฉกาจของเผ่าโลหิต เวทย์สายฟ้าเลเวล 5 จึงมากพอที่จะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่มันได้

 

นี่จึงเป็นเหตุผลเผ่าโลหิตบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัว ถึงขั้นเกิดความคิดที่จะหนีออกจากที่นี่ทันที

 

เพียงแต่ว่า ระยะห่างระหว่างทั้งสองมันแคบเกินไป หากคิดหนีหรือหลบเลี่ยง เห็นได้ชัดว่าสายไปเสียแล้ว

 

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เผ่าโลหิตตัวสูงทำได้เพียงกัดฟัน และยกสองแขนขึ้นบดบังเบื้องหน้า เพื่อป้องกันกระแสสีฟ้าของเวทย์สายฟ้า

 

วินาทีถัดมา กระแสสีฟ้าปะทะเข้าใส่มันอย่างจัง ชั่วพริบตาเดียว เผ่าโลหิตตัวสูงจมอยู่ภายใต้ธารสายฟ้า

 

ได้ยินเพียงเสียงฟ้าร้องฟ้าลั่นดังกึกก้อง

 

เผ่าโลหิตตัวสูงปลิวประเด็นออกไป

 

ทันทีที่สองเท้าแตะลงกับพื้น ทุกคนก็เห็นว่าสองแขนของมัน ในเวลานี้เปื้อนไปด้วยเลือด นอกจากนี้ตามร่างกายยังมีรอยไหม้เกรียมปรากฏขึ้นหลายแห่ง

 

เดิมที ร่างกายของเผ่าโลหิตมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูตัวเองที่สูงมาก ทว่าภายใต้อำนาจทำลายล้างของเวทย์สายฟ้า มันกลับไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นตัวเลย

 

“อ๊อกกก!”

 

เผ่าโลหิตตัวสูงล้มลงกับพื้น ปากอ้ากระอักเลือด ลมหายใจของมันหอบถี่ อ่อนแรงลงเป็นอย่างมาก แทบรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้

 

เผ่าโลหิตที่เหลืออีกแปดตัวบนอากาศ เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทั้งหมดสั่นสะท้าน

 

ความแข็งแกร่งเช่นซูเฉิน พวกมันเพิ่งเคยประสบเป็นครั้งแรกในชีวิต

 

สามารถกำราบผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ด้วยการโจมตีเพียงครั้งนี้ อำนาจอันน่าสะพรึงเช่นนี้ มิใช่สิ่งที่พวกมันจะสามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน

 

เมื่อรู้อย่างนี้ ทุกตนก็ตัดสินใจล่าถอยพร้อมกัน

 

“คิดหนี? ก็ลองดูว่าพวกแกจะทำได้รึเปล่า”

 

ซูเฉินยิ้มเหยียดหยาม ซัดหมัดออกไป

 

ในชั่วพริบตา เงาหมัดนับร้อยปรากฏขึ้นกลางอากาศ ส่งเสียงฉวัดเฉวียนระดมชกใส่เผ่าโลหิตทั้งแปด

 

ผัวะ ผัวะ ผัวะ!

 

ท่ามกลางเสียงกระหน่ำอย่างรุนแรง กระดูกของเผ่าโลหิตทั้งแปดถูกทุบจนแหลกเป็นๆ ลำแสงแปดสายร่วงตกลงมาจากฟากฟ้าอย่างช้าๆ

 

“ชิ้นส่วนแปดชิ้น!” ริมฝีปากของซูเฉินคลี่ยิ้ม แสดงออกถึงความสุข

 

เผ่าโลหิตตัวสูงที่นอนหมอบอยู่กับพื้น ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ มันก็ไม่คิดฝืนตัวเองอีกต่อไป ศีรษะพับลง แน่นิ่งไป

 

หวู่หยางในรถ เมื่อเห็นซูเฉินกำจัดศัตรูทั้งหมดในคราวเดียว เขาก็สูดหายใจลึก

 

ในใจอดนึกถึงความสามารถของซูเฉินที่เขาประเมินไว้ในครั้งก่อนขึ้นมาไม่ได้

 

ตอนแรกเขาคิดว่าซูเฉินแค่คงกระพันในเลเวลเดียวกัน แต่ตอนนี้ต่อให้เป็นศัตรูระดับสูงกว่าหนึ่งขั้น ก็ยังกำจัดได้ง่ายดายไม่ต่างจากการล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า!

 

ความแข็งแกร่งของซูเฉิน ได้เหนือล้ำเกินกว่าที่ปุถุชนเช่นเขาจะเอื้อมถึงไปเรียบร้อยแล้ว