Ep.255

 

“ช่างอวดดี!”

 

สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าตอนแรกแค่นเสียงเย็นชา แต่แล้วพลันชะงักไป “มนุษย์ เหตุใดเจ้าสามารถเอ่ยภาษาเผ่าโลหิตของพวกเราได้?”

 

หยางฮ่าวและคนอื่นๆบนรถก็รู้สึกสับสนเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นซูเฉินคุยกับพวกต่างเผ่าพันธุ์

 

“พี่เฉินพูดภาษาต่างเผ่าได้ด้วยหรอ?” หยางฮ่าวเบิกตากว้าง

 

สือต้าหนิวที่อยู่ข้างๆกล่าวเสียงหวั่น “พี่เฉินสุดยอดจริงๆ ไม่ใช่ตัวตนที่คนธรรมดาอย่างพวกเราจะทำความเข้าใจได้ ฉันคิดว่าในโลกใบนี้ คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วที่พี่เฉินทำไม่ได้”

 

เฉาหรานกับหยางฮ่าวมองหน้ากัน ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย

 

หากเป็นสือต้าหนิวคนก่อน จะไม่มีทางเอ่ยคำ ‘พี่เฉินสุดยอด’ ออกมาแน่ๆ เป็นไปได้ไหมว่าอีกฝ่ายถูกพวกเขาสองคนพูดกรอกหูจนจดจำและเผลอเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว?

 

ภายนอกรถ ซูเฉินกวาดสายตามองเผ่าโลหิต แค่นเสียงเบาๆ “ฉันยังมีอีกหลายอย่างที่รู้ แต่ทำไมฉันต้องบอกพวกแกด้วย? อาศัยแค่เผ่าโลหิต คู่ควรให้มาเสียเวลานั่งอธิบายหรือ?”

 

“ปากแส่หาที่ตาย!”

 

เผ่าโลหิตตัวสูงสุดโกรธจัด ฟันกัดเสียงดัง กรอด กรอด

 

เผ่าโลหิตไม่ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุดในบรรดาทุกเชื้อชาติก็จริง แต่พวกมันก็ยังถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์อันดับต้นๆเช่นกัน

 

ในขณะที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ เป็นที่กล่าวขวัญว่าคือเผ่าพันธุ์อ่อนแอที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งปวง

 

ในสายตาของพวกมัน มนุษย์เป็นแค่มดหรืออาหารเท่านั้น

 

แต่มดที่ว่า เวลานี้กลับกล้าหัวเราะเยาะเผ่าพันธุ์โลหิต ช่างไม่รู้จักที่ตาย!

 

“กำจัดมันซะ!”

 

เผ่าโลหิตตัวสูงเลียริมฝีปาก ส่งสายตาให้พวกพ้องที่อยู่ข้างๆ

 

ทันใดนั้นเอง เผ่าโลหิตสี่ตนพลันหุบปีก ทิ้งตัวแหวกอากาศเข้าหาซูเฉิน

 

พิจารณาจากแรงกดดันที่อีกฝ่ายปล่อยออกมา ซูเฉินได้ข้อสรุปว่าพวกต่างเผ่าทั้งสี่ตนนี้ เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 ทั้งสิ้น

 

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของเผ่าโลหิต หากเป็นคนอื่นคงลนลานไปนานแล้ว แต่ซูเฉินกลับยังคงสงบ ใบหน้าเขาเผยกระทั่งร่องรอยของความเหยียดหยาม

 

เขาปลดปล่อยพลังจิตออกมา ในเวลาเดียวกันถือ [ดาบเสริมมนตรา] ตัดกวาดออกไปในแนวนอน

 

เผ่าโลหิตสี่ตนที่บินเข้าหาซูเฉิน ขณะที่พวกมันกำลังจะลงมือ ทั้งหมดราวกับจมลงไปในบึงโคลน แค่ขยับนิ้วยังทำไม่ได้

 

“ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 4!”

 

ตระหนักถึงเรื่องนี้ ความตื่นตระหนกสะท้อนเข้ามาในแววตาของพวกมัน

 

เพราะความแข็งแกร่งของปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 4 มิใช่สิ่งที่พวกมันจะสามารถต้านทานได้

 

เมื่อถูกจำกัดการเคลื่อนไหว สิ่งที่ต้องเผชิญหลังจากนี้ ไม่ต้องบอกก็คงทราบได้

 

เผ่าโลหิตทั้งสี่ตนไม่ต้องการรอความตาย พยายามดิ้นรนสุดชีวิต

 

กระนั้น ซูเฉินก็ไม่เปิดโอกาสให้พวกมัน [ดาบเสริมมนตรา] ตัดกวาดออกไป สะบั้นหัวพวกมันอย่างหมดจดและเฉียบขาด

 

ช่วงจังหวะที่สี่ศพร่วงลงกับพื้น ปรากฏลำแสงสี่สายสะท้อนขึ้นมา

 

เห็นสิ่งนี้ มุมปากของซูเฉินยกสูงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นมองไปยังร่างสูงใหญ่ กล่าวเยาะเย้ยว่า “เผ่าโลหิต ที่แท้ก็มีฝีมือแค่นี้!”

 

เผ่าโลหิตตัวสูงกัดฟันด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

การตายของสหายในเผ่าทำให้มันโมโหมาก อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งที่ซูเฉินสำแดงออกมา กลับทำให้มันประหลาดใจยิ่งกว่า

 

ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 4 บวกกับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 มีถึงสองอาชีพหลักในร่างเดียว อัจฉริยะเช่นนี้ กระทั่งในเผ่าโลหิตก็ยังไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดเจ้าถึงกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้ ที่แท้ก็พอมีความสามารถอยู่บ้าง” ดวงตาของเผ่าโลหิตตัวสูงทอประกายเย็นยะเยือก มันพึมพำ ก่อนแสยะยิ้มและกล่าวอีกครั้งว่า “แต่ถึงเจ้าจะแข็งแกร่ง มันก็ไม่อยู่ในสายตาข้าอยู่ดี วันนี้ ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็น ว่าคำว่าทรงพลัง แท้จริงเป็นอย่างไร!”

 

สิ้นเสียง แรงกดดันอันน่าพรั่นพรึงพลันระเบิดออกจากกายเขา และความแข็งแกร่งที่ถูกเปิดเผยออกมา คือระดับของผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 !

 

“ทรงพลังมาก!”

 

หวู่หยางและคนอื่นๆใน [รถศึกอัจฉริยะ] สีหน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย อดเหงื่อแตกแทนซูเฉินไม่ได้

 

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … มนุษย์เอ๋ย รู้สึกถึงความสิ้นหวังแล้วหรือยัง!”

 

เผ่าโลหิตหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง บินเข้าหาซูเฉิน