Ep.235

 

จากนั้น ซูเฉินก็เริ่มเก็บชิ้นส่วนต่อ

 

“คุณได้รับ [เพลิงทะเลทราย] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (9/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”

 

“ไม่แลก”

 

“คุณได้รับ [เมล็ดพันธุ์ต้นแอปเปิ้ล] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (1/1) , จำนวนองค์ประกอบครบแล้ว คุณต้องการเลือกปลดล็อคหรือแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงาน?”

 

“แลกแต้มพลังงาน”

 

“คุณได้รับ [อัญมณีฟิวชั่นเวทมนต์] *1 , ชิ้นส่วนที่ต้องการ (4/10) , จำนวนองค์ประกอบยังไม่ครบ ไม่สามารถปลดล็อคได้ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นแต้มพลังงานหรือไม่?”

 

“ไม่แลก”

 

 

หลังจากเก็บชิ้นส่วนเรียบร้อยแล้ว หวู่หยางและคนอื่นๆ ก็ฆ่าซอมบี้ที่เหลือได้พอดี ตอนนี้กำลังก้มขุดหินพลังงาน

 

ซูเฉินเดินไปเก็บชิ้นส่วนทางฝั่งนู้นต่อ

 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ชิ้นส่วนที่เหลือก็ถูกเก็บ ซูเฉินเริ่มนับสินสงครามที่ได้มา

 

คราวนี้มีชิ้นส่วนดรอปมากกว่า 1,000 ชิ้น ส่วนใหญ่ถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน ส่งผลให้จำนวนแต้ม เพิ่มขึ้นเกินหลักพันอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ [เพลิงทะเลทราย] สามารถรวบรวมชิ้นส่วนได้ครบ และหลอมรวมเข้ากับเวทมนต์ธาตุไฟแล้ว

 

ปัจจุบัน มีเวทมนต์สี่ธาตุที่สามารถหลอมรวมชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ได้แก่

 

ธาตุไฟถูกรวมเข้ากับ [เพลิงทะเลทราย]

 

ธาตุไม้ถูกรวมเข้ากับ [ไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งสระวิเศษ]

 

ธาตุสายฟ้าถูกรวมเข้ากับ [สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งความป่าเถื่อน]

 

ธาตุน้ำถูกรวมเข้ากับ [เหมันต์เก้าเร้นลับ]

 

พลังเวทย์ของทั้งสี่ธาตุนี้ ทรงพลังยิ่งกว่าธาตุอื่นๆมาก และพวกมันแทบไม่ด้อยไปกว่าเวทย์เลเวล 5 เลย

 

ยิ่งเวลาถูกปลดปล่อยโดย [ดาบเสริมมนตรา] อำนาจโจมตีของมันจะเหนือกว่าเลเวล 5 อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะใช้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อผู้วิวัฒนาการเลเวล 5

 

นอกจากนี้ ซูเฉินยังได้รับ [โพชั่นกายภาพ] มากว่า 20 ขวด ในบรรดาพวกมันมีเลเวล 3 รวมอยู่ด้วยถึงสองขวด

 

ซึ่งเป็นจำนวนพอดีที่จะช่วยให้หวู่หยางและหยางหลิงเทียนเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3

 

หลังจากนับสินสงครามแล้ว หันกลับไปมองเมืองอี้เถียน

 

ในเมืองอี้เถียนมีครึ่งออร์ค นั่นหมายความว่าจะต้องมีทางผ่านเขตแดนอยู่ข้างใน

 

นอกจากนี้ ทางผ่านที่ว่าคงยังไม่สมบูรณ์ เลยไม่สามารถเข้าออกตามต้องการได้

 

มิฉะนั้นแล้ว เผ่าครึ่งออร์คที่บุกเข้ามาสู้กับซูเฉิน คงมีมากกว่าหนึ่งตน

 

“หัวหน้าหวู่ ผมจะเข้าไปดูในเมือง ฝากทางนี้ด้วย”

 

ก่อนออกเดินทาง ซูเฉินเข้าไปคุยกับหวู่หยาง กำชับเขา

 

“วางใจได้เลย” หวู่หยางยิ้ม

 

ปัจจุบัน ซอมบี้ทั้งหมดถูกกวาดล้างแล้ว ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆอีกต่อไป

 

นอกจากนี้ ยังมีผู้พิทักษ์อย่าง [นักรบจักรกล] ที่เทียบได้กับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ดังนั้นปลอดภัยหายห่วง

 

ซูเฉินพยักหน้า มุ่งลึกเข้าไปในเมืองอี้เถียน

 

ภายในเมืองอี้เถียนรกร้างว่างเปล่า ปรากฏตึกรามพังทลายทุกหนแห่ง คล้ายกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว

 

บริเวณโดยรอบเงียบสงัด เต็มไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุก

 

ซูเฉินกวาดสายตามองรอบๆ แต่ไม่พบซอมบี้หรือครึ่งออร์คเลย

 

ส่วนทางผ่านเขตแดน ไม่ทราบเหมือนกันว่าซ่อนอยู่ที่ไหน

 

หลังจากเดินสำรวจรอบเมือง ก็ยังไม่พบเบาะแสใดๆ ซูเฉินจึงปลดปล่อยพลังจิตกระจายออกตรวจสอบ

 

ไม่นาน เขาก็สัมผัสได้ว่าตรงเชิงเขาแห่งหนึ่ง มีคลื่นความผันผวนของพลังงานเล็กน้อย

 

“ตรงนั้นน่าจะเป็นทางเข้าทางผ่านเขตแดน” ซูเฉินหรี่ตาลง พึมพำกับตัวเอง

 

ทางผ่านเขตแดน ก่อนหน้านี้เขาเคยเจออีกแห่งหนึ่งในเหมืองที่เทือกเขาฮวงเจ๋อ

 

ในตอนนั้นเนื่องจากกังวลว่าจะเจออันตราย เลยไม่ได้เข้าไปสำรวจอย่างรอบคอบ

 

แต่ปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งทะยานอย่างก้าวกระโดด ต่อให้เป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ก็สามารถสังหารได้ ดังนั้นเกิดความคิดที่จะสำรวจทางผ่านเขตแดนให้ละเอียด

 

เดินมาถึงตีนเขา ซูเฉินชกไปที่ผนังกำแพงหิน

 

ซึ่งเป็นตำแหน่งที่คลื่นพลังงานเล็ดลอดออกมา

 

กราว กราว …

 

หลังจากที่กำแพงหินพังทลายลง ก็ปรากฏทางเดินสีขาวพรั่งพราวขึ้น มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสามเมตร ส่องสว่างสดใส ภายในนั้นยังแฝงไปด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว

 

บางครั้งก็เลือนลาง บางครั้งก็รุนแรงมาก ดูเหมือนยังไม่เสถียรเท่าที่ควร

 

ซูเฉินไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะจิตสังหารนี้ทำให้เขารู้สึกใจสั่น

 

หลังจากเพ่งมองอย่างตั้งใจครู่หนึ่ง เขาก็เหยียดมือ และยิงบอลสายฟ้าเข้าไปในช่องทางเดิน