Ep.183

 

เมื่อเห็นซอมบี้ตัวนั้นเอ่ยปากเป็นเสียงของมนุษย์ พร้อมประกาศชื่อตัวเอง

 

ซูเฉินก็ยิ่งมั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นซอมบี้ที่มีสติปัญญา

 

“แกเข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่ใช่กลุ่มเดียวกับพวกมนุษย์ที่นี่ ดังนั้นระหว่างเราไม่มีข้อตกลงหรือกฏเกณฑ์ใดๆ” ซูเฉินปาดจมูกเขา ก้าวออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่ใช่พวกเดียวกันหรือ?”

 

เจียงเฉิงเฟิงมองสำรวจซูเฉิน ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เช่นนั้น ในเมื่อแกไม่ใช่มนุษย์ของเมืองหวังเยว่ แล้วทำไมถึงต้องสังหารประชาชนของฉันด้วย?”

 

เขาเห็นว่าซูเฉินยังเด็ก ทว่ายามเผชิญหน้ากับกองกำลังซอมบี้ อีกฝ่ายกลับยังสามารถรักษาความสงบเอาไว้ได้ เจียงเฉิงเฟิงจึงรู้สึกได้รางๆ ว่าซูเฉินไม่ใช่คนธรรมดา

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว กลิ่นอายอันน่าสะพรึงที่ก่อกำเนิดขึ้นจากซอมบี้นับพัน มิใช่อะไรที่ทุกคนจะสามารถระงับสติอารมณ์ได้

 

ซูเฉินยิ้มเยาะและกล่าวว่า “แกคือซอมบี้ ส่วนพวกเราเป็นมนุษย์ แต่ละฝ่ายเสมือนน้ำกับไฟ ฉะนั้นแน่นอนว่าฉันมาที่นี่เพื่อล่าพวกแก”

 

“ล่าพวกเรา?”

 

เจียงเฉิงเฟิงตะลึงงันไปชั่วขณะ ก่อนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าหนู แกมันบ้า! กล้าดียังไงถึงได้มาพูดจาอวดดีต่อหน้าเราราชา! มาดูกันว่าแกจะรอดไปได้ซักกี่น้ำ!”

 

สิ้นเสียง เจียงเฉิงเฟิงกวักมือส่งสัญญาณไปข้างหลัง กองกำลังซอมบี้ของเขาพุ่งเข้าหาซูเฉินอย่างบ้าคลั่ง

 

แม้ยังไม่ทราบความแข็งแกร่งของซูเฉิน แต่ดูจากรูปลักษณ์ที่ยังเด็ก ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้วิวัฒนาการ ก็สมควรมีเลเวลไม่เกิน 2 แน่นอน

 

ขณะที่ตัวเขาเองก็เป็นซอมบี้เลเวล 2 บวกกับกองกำลังซอมบี้อีกมากกว่า 7,000 ตัวทั้งหมดที่นี่ เจียงเฉิงเฟิงมีความมั่นใจมากว่าจะสามารถบดขยี้ซูเฉินและคนอื่นๆได้

 

“ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”

 

ซูเฉินหรี่ตาลง แค่นเสียงเย็นชา สั่งการ [นักรบจักรกล] “เสี่ยวตี๋ ไปฆ่าไอ้หมอนั่นซะ!”

 

[นักรบจักรกล] ยกระดับเป็นเลเวล 3 แล้ว กำลังรบของมันแกร่งพอที่จะรับมือกับซอมบี้เลเวล 4

 

แม้ซูเฉินจะไม่ทราบว่าเจียงเฉิงเฟิงแข็งแกร่งเพียงใด แต่ในความเห็นเขา อีกฝ่ายคงไม่ดีไปกว่าจิ่นเฟยซีมากนัก

 

เขาจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า [นักรบจักรกล] จะสามารถกำจัดศัตรู

 

และเมื่อเจียงเฉิงเฟิงถูกฆ่าตาย ซอมบี้ทั้งหมดก็จะสูญเสียการควบคุม กลับคืนสู่สันดานดิบ

 

ด้วยวิธีนี้ ซูเฉินก็ไม่ต้องกังวลว่าพวกซอมบี้จะหลบหนีอีกต่อไป เขาสามารถหว่านแหจับพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว

 

“รับทราบ”

 

[นักรบจักรกล] พยักหน้าให้ซูเฉินอย่างเชื่อฟัง จากนั้นลอบตรงเข้าหาเจียงเฉิงเฟิงอย่างเงียบๆ

 

เป้าหมายหลักของ [นักรบจักรกล] คือเจียงเฉิงเฟิง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกเปิดเผย มันจึงไม่กำจัดซอมบี้ที่อยู่รอบๆ

 

นอกจากนี้ มันคือหุ่นยนต์ ดังนั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของซอมบี้มากเกินไป เป็นเรื่องง่ายที่จะลอบเข้าไปประชิดตัวเจียงเฉิงเฟิง

 

ในเวลาเดียวกัน หวู่หยางและคนอื่นๆได้ก้าวออกมา เตรียมพร้อมสู้ศึกกับซอมบี้แล้ว แม้สถานการณ์จะอยู่ในสภาวะเลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้เลยว่าอาศัยเพียงจำนวน ก็สะกดข่มได้อย่างชัดเจน แต่พวกเขาหาหวาดกลัวไม่

 

ซอมบี้นับไม่ถ้วนดาหน้าเข้ามา ตัวที่แข็งแกร่งสุดคือเลเวล 1 ดังนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวู่หยางและหยางหลิงเทียน

 

แต่หยางฮ่าวและคนอื่นๆก็กล้าหาญและไม่ธรรมดาเช่นกัน พวกเขาไล่สังหารซอมบี้เหมือนหั่นผักหั่นแตง สามารถฆ่าซอมบี้เลเวล 1 ได้โดยไม่ต้องใช้กระบวนท่าใดๆแม้แต่น้อย

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสือต้าหนิว ตัวเขาเสมือนดั่งเครื่องจักรสังหาร

 

มือของเขากวัดแกว่ง [ค้อนสวรรค์] ไปมา และทุกครั้งที่มันถูกเหวี่ยง จะมีซอมบี้อย่างน้อยหนึ่งตัวกลายเป็นเศษเนื้อเลอะเลือน

 

กระดูกเปราะๆของซากศพ เมื่อถูกของหนักทุบ ก็เละเป็นข้าวต้ม

 

ตันหลินและสาวๆก็ต่อสู้ได้อย่างร้อนแรงเช่นกัน ทุกครั้งที่ยิงกระสุนออกไป จะมีซอมบี้ตัวหนึ่งหัวระเบิดตาย

 

ซอมบี้หลายร้อยตัวจบชีวิตลงทันที

 

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ไม่เพียงแต่เจียงเฉิงเฟิงเท่านั้นที่ตกใจ กระทั่งชายอ้วนและมนุษย์คนอื่นๆในระยะไกลก็ตกใจไม่แพ้กัน

 

“หัวหน้าทีม พวกเขาแข็งแกร่งเกินไปรึเปล่า เจียงเฉิงเฟิงและคนอื่นๆไม่สามารถหยุดพวกเขาได้เลย” ชายคนก่อนหน้านี้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

 

ชายอ้วนกลืนน้ำลาย พยายามทำใจให้สงบ “ไม่ต้องรีบร้อน เจียงเฉิงเฟิงยังไม่ลงมือ”

 

แผนเดิมของเขาคือให้ซูเฉินกับพวกซอมบี้กลายเป็นปลาติดอวน แล้วพวกตนในฐานะชาวประมงค่อยกอบโกยในตอนท้าย

 

แต่เมื่อเห็นว่ากองกำลังซอมบี้ของเจียงเฉิงเฟิงไม่สามารถต้านทานได้ เขาก็เริ่มกังวลเล็กน้อย

 

หากซอมบี้ทั้งหมดถูกฆ่า แล้วซูเฉินและคนอื่นๆยังมีชีวิตอยู่ แบบนั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถฉกฉวยผลประโยชน์ใดๆจากศึกนี้ได้เลยน่ะสิ