ลง 155 156

Ep.155

“งั้นนายต้องใช้หินพลังงานกี่ก้อน ถึงจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3 ได้?” ซูเฉินถามอีกครั้ง

เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3 แล้ว พลังโจมตีและป้องกันของมันย่อมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นเกรงว่าแม้แต่ผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ก็ไม่สามารถหยุดมันได้

ในจุดนั้น ซูเฉินยังคงตั้งตารอคอยเช่นกัน

“การเลื่อนขั้นต่อไป ฉันต้องการหินพลังงานหรือหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 3 จำนวน 100 ก้อน”

“100 ก้อน … ” ซูเฉินใคร่ครวญ

ปัจจุบัน เขามีหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 3 เพียง 37 ก้อนเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลนัก

แล้วอีกอย่าง หินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 3 ยังต้องสำรองไว้สำหรับ [นักรบจักรกล]

ในตอนนี้เลยไม่มีทางเลือก ได้แต่สลัดความคิดที่จะเลื่อนขั้นรถศึกเป็นเลเวล 3 ออกไปก่อนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยสมรรถนะของ [รถศึกอัจฉริยะ] ในตอนนี้ ต่อให้ไม่อัพเกรดมัน อาศัยแค่เลเวล 2 ในปัจจุบันก็เพียงพอที่จะกวาดล้างศัตรูได้แล้ว

จากนั้น ซูเฉินเติมหินต้นกำเนิดพลังงานธรรมดากับหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 1 ที่เหลือทั้งหมด แบ่งลงใน [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] และ [ปืนใหญ่เพาส์]

บวกกับหินพลังงานที่เคยติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้จำนวนกระสุนของ [ปืนกลแก็ตลิ่ง (ไม่จำกัดเลเวล)] มีมากกว่า 10,000 นัด

มากเกินพอสำหรับล้างบางคลื่นซอมบี้ขนาดเล็ก

ต่อมา ซูเฉินหยิบ [อัญมณีอัพเกรด] ขึ้นมาอีกก้อน

ปัจจุบัน เขามีหินต้นกำเนิดพลังงานเลเวล 3 พร้อมแล้ว ดังนั้นถึงเวลาอัพเกรด [นักรบจักรกล] เสียที

หลังจากใช้ [อัญมณีอัพเกรด] [นักรบจักรกล] ก็เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 3 ได้สำเร็จ

[นักรบจักรกล] ในเลเวล 3ยังคงสูงประมาณ 2 เมตร แต่ร่างกายของมันกลับ ‘บึกบึน’ กว่าเมื่อก่อนมาก

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า [นักรบจักรกล] ถูกสร้างขึ้นจากโลหะ เช่นนั้นพลังป้องกันของมันสมควรแข็งแกร่งกว่าผู้วิวัฒนาการในเลเวลเดียวกันมาก และน่าจะมีกำลังรบมากกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อยู่เล็กน้อย

สรุปก็คือ [นักรบจักรกล] เลเวล 3 สามารถรับมือกับผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ได้

จากนั้น ซูเฉินเก็บหินพลังงานเลเวล 2 และหินพลังงานเลเวล 4 ลงในถุงเก็บของ แล้วหาจุดว่างๆสำหรับพักผ่อน

หลับเต็มอิ่มหนึ่งคืน เช้าวันรุ่งขึ้น

ซูเฉินและคนอื่นๆออกจากเทือกเขาเฟิงหลวนด้วยความกระปรี้กระเปร่า

ทันทีที่เดินออกจากแนวทิวเขา ซูเฉินหยิบ [รถศึกอัจฉริยะ] ออกมา และสั่งให้ขยายขนาดยาว 15 เมตร

ขีดจำกัดขนาดของ [รถศึกอัจฉริยะ] ปัจจุบันอยู่ที่ 50 เมตร แต่ซูเฉินรู้สึกว่าด้วยสมาชิกที่มี ยังไม่ต้องการพื้นที่มากขนาดนั้น

นอกจากนี้ [รถศึกอัจฉริยะ] มีขนาดใหญ่เท่าใด หินพลังงานที่ต้องใช้ในการขับเคลื่อนก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น เขาไม่อยากโยนทิ้งมันไปเปล่าๆ

เพียงแต่ว่า รถศึกออกเดินทางได้ไม่นาน ไฟสีแดงก็กะพริบบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง พร้อมเสียงเตือนที่ดังขึ้น

“คำเตือน ห่างออกไป 5 กิโลเมตร ตรวจพบซอมบี้จำนวนมาก คาดการณ์ว่าน่าจะมีมากกว่า 10,000 ตัว กำลังตรงเข้ามาทางพวกเราด้วยความเร็วสูง”

“คลื่นซอมบี้ขนาดเล็ก?” ซูเฉินงึมงำ ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นทันใด

เดิมเขาตั้งใจจะไปล่าซอมบี้ในสถานชุมชนชางเยว่ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกซอมบี้จะส่งตัวเองมาถึงประตูบ้านเขา นี่ช่วยให้ซูเฉินประหยัดเวลาเดินทางได้ไม่น้อย

คนอื่นๆตอนแรกก็ตกใจ แต่สักพักเริ่มกระตือรือร้นที่จะได้พบเจอพวกมัน ทุกคนตั้งตารอการมาถึงของคลื่นซอมบี้

หากเป็นเมื่อก่อน ถ้าพวกเขาได้ยินว่ามีซอมบี้ 10,000 ตัวใกล้เข้ามา ทั้งหมดคงแทบทนไม่ไหวต้องวิ่งหนีทันที

แต่วันนี้มันต่างจากวันวาน

ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน มันทำให้พวกเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

และประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเขามีซูเฉิน

เรื่องความแข็งแกร่งของซูเฉินไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ประกอบกับอำนาจการยิงอันทรงพลังของ [รถศึกอัจฉริยะ] อย่าว่าแต่การกำจัดคลื่นซอมบี้ขนาดเล็กเลย

ต่อให้ต้องเผชิญกับคลื่นซอมบี้ขนาดกลางที่มีมากกว่า 100,000 ตัว รถศึกก็ยังมีกำลังสู้ได้

“เตรียมตัวให้พร้อม เมื่อซอมบี้มาถึง ทุกคนจะร่วมกันสู้กับฉัน” ซูเฉินกล่าว

การล่าซอมบี้สามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้การฝึกฝนก้าวหน้าขึ้นด้วย เรื่องนี้ซูเฉินพิจารณามาดีแล้ว

แน่นอน เหตุผลข้อหลักที่เขาตัดสินใจเช่นนี้ ก็เพราะเขามี [ระบบรับสมัครทหาร] ที่ผูกการเชื่อมต่อกับทุกคนอยู่

ไม่ว่าใครฆ่าซอมบี้ ก็ล้วนมีโอกาสดรอปชิ้นส่วน

มิฉะนั้นแล้ว ซูเฉินเรื่องการหาประสบการณ์ให้คนอื่นๆ ซูเฉินคงคิดไม่ตกไม่น้อย

“พี่เฉิน ครั้งนี้พวกเราออกไปช่วยพี่ได้ด้วยหรอ?” ดวงตาของหยางฮ่าวเปล่งประกาย ขณะเดียวกันก็อดสับสนเล็กน้อยไม่ได้

ที่แล้วๆมา ซูเฉินรับหน้าที่สังหารซอมบี้เพียงลำพัง แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงยอมให้พวกเขาเข้าร่วมด้วย?