****

ขอบคุณสำหรับทุกโหวตครับ  ใน 3 เรื่องจะลงแค่ 2 เรื่องที่ผลโหวตมากที่สุดนะครับ

****

5/10

 

Ep.1139

 

“นี่ซูเฉินยังเหลือไพ่ตายอีกงั้นหรือ?” จางเฉินคุนยืดหลังตรง ตั้งตารอรับชม

 

ชาวเผ่าชิงเหอคนอื่นๆก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน ทุกสายตาจับจ้องไปยังซูเฉิน หากมองลึกเข้าไปจะเป็นถึงประกายแห่งความหวัง

 

ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น แล้วเอ่ยปากว่ายังเหลือไพ่ตายอยู่ เกรงว่าพวกกเขาคงหัวเราะเยาะออกมาทันที

 

แต่ซูเฉินน่ะต่างออกไป กำลังรบของเขาทรงพลังมาก นับแต่ต้นจนถึงบัดนี้ สร้างความตกใจชนิดไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนแก่พวกเขาหลายต่อหลายครั้ง

 

หากซูเฉินยังเหลือไพ่ตายอีกจริงๆ  บางทีมันอาจพลิกสถานการณ์ได้ในคราเดียว

 

ภายใต้การจับจ้องของผู้คนนับหมื่น ซูเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆง้างแขนและซัดกำปั้นออกไป

 

หมัดนี้คือ [พายุกาแลคซี]

 

นับแต่เริ่มฝึกตน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้งานในระหว่างการต่อสู้จริง

 

เมื่อหมัดนี้ถูกปล่อยออกมา อวกาศที่ว่างเปล่าเกิดการสั่นสะเทือน พื้นดินและฟ้าเบื้องบนเริ่มเปลี่ยนสี

 

เห็นแค่เพียงดวงดารานับไม่ถ้วนผุดขึ้นกลางอวกาศ มองไปราวกับทางช้างเผือกที่เชื่อมต่อสวรรค์และปฐพีเข้าด้วยกัน

 

วินาทีถัดมา หมู่ดาวนับร้อยดวงบรรจบกัน ก่อตัวเป็นพายุธารดารากินรัศมี 100 จั้ง กลบกลืนฟ้าบดบังแสงอาทิตย์

 

พลังอำนาจที่แผ่ออกมา สามารถทำลายได้ทั้งสรวงสวรรค์และนรกภูมิ! ชวนให้ผู้คนรู้สึกราวกับว่า วันโลกาวินาศกำลังมาเยือน

 

เมื่อ [พายุกาแลคซี] ก่อตัวขึ้น บริเวณรอบด้านตกอยู่ในความเงียบสงัดยากจะหายใจ

 

ทุกคนตกอยู่ในอาการเหม่อลอยอื้ออึง ในสายตาเต็มไปด้วยความตกใจและสยองขวัญอย่างลึกล้ำ

 

กระบวนท่าสังหารอันน่าหวาดกลัวอย่างสุดโต่งนี้ อย่าว่าแต่ได้เห็น กระทั่งได้ยินยังไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

นี่มันวิชาเทพเซียนอันใดกัน!?

 

ถึงตอนนี้  ลมหายใจของทุกคนหยุดนิ่ง

 

“ซูเฉินแข็งแกร่งจริงๆ” ฟันของจางเฉินคุนกระทบกันดังกึกๆ

 

ขนาดผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าสามดาราเช่นเขา เมื่ออยู่ต่อหน้าวิชาเทพเซียนเช่น [พายุกาแลคซี]  ก็ยังถูกกดดันอย่างหนักหน่วง

 

ถึงขั้นลองจินตนาการดู ว่าถ้าเป้าหมายของ [พายุกาแลคซี] คือเขา เกรงว่าเพียงแรกสัมผัสคงถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“เขามีกระบวนท่าสังหารที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?” หัวใจของผางฮุ่ยหวาดกลัวถึงขีดสุด ความรู้สึกว่ากำลังจะถูกทำลายเกิดขึ้นในใจเขา

 

เขารู้ดี เผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารเช่นนี้ ต่อให้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งทนทานเพียงใด มันก็ไม่สามารถต้านทานได้

 

เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา เขาไม่พูดพล่ามทำเพลง หันหลังและเลือกวิ่งหนีทันที

 

การหนีโดยไม่คิดต่อสู้ สำหรับผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทพเจ้าสามดาราแล้ว นับเป็นความอัปยศอดสู แต่เพื่อเอาชีวิตรอด เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

 

หน้าตาอันใด?

 

ศักดิ์ศรีบ้าบออะไร?

 

เมื่อเทียบกับชีวิตน้อยๆของเขา พวกมันนับเป็นสิ่งใด?

 

“คิดหรอว่าจะหนีรอดไปได้!”

 

ซูเฉินยิ้มดูแคลน ชกหนึ่งหมัดออกไป

 

เห็นแค่เพียง [พายุกาแลคซี] ที่บดบังแผ่นฟ้าหายไปจากที่เดิมพร้อมเสียงหวีดหวิว เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็ห่อหุ้มร่างของผางฮุ่ยได้อย่างสิ้นเชิง

 

ครืนนนน ครืนนนนน

 

ในพริบตา เสียงระเบิดดังกระหน่ำกึกก้อง สั่นสะเทือนอวกาศ

 

หลายอึดใจต่อมา [พายุกาแลคซี] โหมกระน่ำอยู่พักหนึ่ง ก่อนค่อยๆสลายไป

 

เห็นแค่เพียงรอยแยกมิติที่ที่ปกคลุมหนาแน่น สุดท้ายก่อตัวเป็นจุดมิติโกลาหล และใจกลางของ [พายุกาแลคซี] ที่เริ่มสลายตัว มีร่างหนึ่งยืนตระหง่านอยู่

 

เป็นผางฮุ่ย

 

เวลานี้ทั้งตัวเขาปคลุมไปด้วยเลือด บางจุดสามารถมองเห็นกระดูกขาวได้อย่างชัดเจน กลิ่นอายอ่อนแอถึงขีดสุด

 

แม้ยังไม่ตาย แต่ลมหวยใจรวยริน ทำได้มากสุดตอนนี้แค่ฝืนยืนนิ่งเท่านั้น

 

“ขอบเขตเทพเจ้าสามดารามีดีแค่นี้เองหรอ?” ซูเฉินหรี่ตาลง เอ่ยปากเหยียดหยาม

 

“เจ้า ..!”

 

ผางฮุ่ย เพียงอ้าปากก็กระอักเลือดออกมา ร่างเขาสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง กลิ่นอายเหือดหายลงอย่างรวดเร็ว

 

“ฉันจะส่งแกไปสบายเอง”

 

เห็นภาพนี้ ซูเฉินง้างแขนและชก [หมัดดาวตก] ออกไป

 

100 เงาหมัดทองคำพรั่งพราว วิ่งเป็นเส้นแสงราวฝนอุกกาบาตพุ่งใส่ร่างผางฮุ่ย ทุบตีเขา ระเบิดร่างจนไม่เหลือแม้แต่ซาก

 

เมื่อผางฮุ่ยจบชีวิตลง ชิ้นส่วนนับแสนปรากฏขึ้น ทอประกายวาววับท่ามกลางอวกาศ

 

6/10

 

Ep.1140

 

“ผางฮุ่ยตายแล้ว?”

 

ใบหน้าของจางเฉินคุนเต็มไปด้วยความตกตะลึง ตั้งแต่แรกจนถึงบัดนี้ เขาไม่เคยนึกฝันเลย ว่าผางฮุ่ยผู้สามารถท่องไปได้ทั่วเขตแดนมู่กวง วันนี้จะถูกกุดหัวโดยซูเฉิน

 

ขนาดเขายังตกอยู่ในห้วงภวังค์ ชาวเผ่าชิงเหอคนอื่นๆยิ่งแล้วใหญ่ แต่เมื่อได้สติต่างก็พากันกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

 

เมื่อผางฮุ่ยตาย เผ่าหงโม่ก็เปรียบดั่งมังกรไร้หัว แม้จะมีคนเยอะกว่า แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนที่อย่างถูกทิศทางได้

 

ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า ฝ่ายศัตรูยังมียอดฝีมืออย่างซูเฉิน ชาวเผ่าหงโม่ยิ่งไม่รับมือไหว

 

“ท่านหัวหน้าเผ่าตายได้อย่างไร?” ชาวเผ่าหงโม่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อาจทำใจเชื่อว่าผางฮุ่ยตายแล้ว แต่ความจริงอยู่ตรงหน้า แม้ในใจไม่อยากเชื่อ ก็ได้แต่ต้องยอมรับ

 

เมื่อพวกเขาตระหนักว่าผางฮุ่ยตายแล้วจริงๆ ความตื่นตระหนกก็ได้แพร่กระจายไปในห้องหัวใจของพวกเขา

 

ก็ขนาดผางฮุ่ยในขอบเขตเทพเจ้าสามดารายังถูกซูเฉินฆ่าได้ แล้วพวกเขาจะเหลือหรือ

 

คำตอบมันชัดเจน

 

ซูเฉินขู่ว่าจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดตั้งแต่ตอนมาถึง เวลานี้เมื่อปราศจากที่พึ่งพิงอย่างผางฮุ่ย ซูเฉินย่อมไม่พลาดโอกาสโจมตีพวกเขา

 

เมื่อฉุกคิดถึงเรื่องนี้ ชาวเผ่าหงโม่ในระดับขอบเขตเทพเจ้าเหลียวมองหน้ากัน หมุนตัวหันหลังโดยไม่ต้องนัดแนะใดๆ ตัดสินใจหนีโดยละทิ้งนักรบระดับเทวะของเผ่าอย่างไม่ใยดี

 

ระดับเทวะเผ่าหงโม่ที่เหลือตะลึงงัน แต่ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับขอบเขตเทพเจ้าหนีไปกันหมดแล้ว จะให้พวกเขานั่งรอความตายอยู่เฉยๆหรือ?

 

ในคราเดียว ชาวเผ่าหงโม่แตกฮือ กระจัดกระจายหนีไปทุกทิศทาง

 

แน่นอนว่าซูเฉินจะไม่ยอมปล่อยให้พวกมันหนีไป ชาวเผ่าหงโม่ทุกคนล้วนเป็นระดับเทวะขั้นสูง  ทุกชีวิตที่ฆ่าดรอปชิ้นส่วนได้เป็นจำนวนมาก หากสามารถฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด อย่างน้อยก็น่าจะดรอปชิ้นส่วนได้เป็นล้านชิ้น

 

“ผู้อาวุโส ผมฝากจัดการพวกระดับเทวะเผ่าหงโม่ด้วย ฆ่ามันอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว” ซูเฉินตะโกนไปทางภูเขาห้าสี  จากนั้นบินไล่ตามขอบเขตเทพเจ้าเผ่าหงโม่ไปอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่มีปัญหา! ” ภูเขาห้าสีตอบกลับ พร้อมกลายร่างเป็นลิงยักษ์ห้าสี ไล่ตามระดับเทวะเผ่าหงโม่ไปติดๆ

 

ตัวมันเดิมมีฐานฝึกตนในขอบเขตเทพเจ้าหนึ่งดารา แต่หลังจากผสานรวมเข้ากับ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] กำลังรบเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก ความสามารถในการต่อสู้จริงๆเทียบเท่าได้กับขอบเขตเทพเจ้าสองดารา

 

หากคิดจัดการกับกลุ่มระดับเทวะ นั่นไม่ต่างจากการไล่สังหารฝ่ายเดียว

 

ต่อมา เสียงกรีดร้องน่าสังเวชสะท้อนไปทั่วสนามรบ

 

อีกด้านหนึ่ง ซูเฉินใช้ [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ระเบิดว่องไวจนถึงขีดสุด หลังจากไล่ตามเหล่าขอบเขตเทพเจ้าเผ่าหงโม่ทัน ก็จัดการเชือดพวกมันทีละคน

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูเฉินบินกลับมาจากระยะไกล

 

จางเฉินคุนกับชาวเผ่าชิงเหอยืนเรียงกันด้วยความเคารพนอบน้อม รอต้อนรับการกลับมาของซูเฉิน

 

แม้ว่าฐานฝึกตนของซูเฉินจะน้อยกว่าเขา  แต่ความสามารถในการต่อสู้เหนือล้ำกว่ามาก จางเฉินคุนจึงปฏิบัติต่อซูเฉินในฐานะผู้แข็งแกร่ง วางตัวเป็นผู้น้อย

 

หลังจากซูเฉินกลับมา เขานับจำนวนชิ้นส่วนทั้งหมด ปริมาณสุทธิที่ได้ คือ 1.2 ล้านชิ้น ถือเป็นผลกอบโกยที่สมบูรณ์แบบ

 

จากนั้น เขาเดินเข้ามาหาจางเฉินคุนและคนอื่นๆ

 

“สหายเผ่ามนุษย์ ข้าในนามของเผ่าชิงเหอ ขอขอบคุณสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้”

 

จางเฉินคุน กล่าวอย่างซาบซึ้งจริงใจ

 

วันนี้ หากซูเฉินไม่ปรากฏตัวขึ้น เผ่าชิงเหอของพวกเขาคงถูกกำจัดอย่างหมดสิ้น

 

ดังนั้น ความสำนึกในบุญคุณที่มีต่อซูเฉินจึงมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

“ผมชื่อซูเฉิน ก็แค่ยื่นมือเข้าช่วยเล็กๆน้อยๆ ไม่จำเป็นต้องเกรงอกเกรงใจกันไป” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ หันไปพูด “หัวหน้าเผ่าจาง ผมมีเรื่องอยากรบกวนคุณสักเรื่องหนึ่ง”

 

“เรื่องอะไรหรือ? เจ้าว่ามาเถอะ” จางเฉินคุนตอบกลับทันที

 

บุญคุณที่ซูเฉินมีต่อเผ่าชิงเหอ ลึกล้ำดั่งมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากเย็นเพียงใด เขาจะหาวิธีทำให้มันสำเร็จให้จงได้