1/8

 

Ep.1051

 

“ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องไปเขตแดนลับมิติอยู่แล้วหรอกหรือ? ข้าว่าแค่เฉพะที่นั่นก็น่าจะมีแร่มากพอที่เจ้าต้องการแล้วนะ” ผู้สูงศักดิ์จินกวงกล่าว

 

“อ้อจริงด้วย”

 

ซูเฉินพยักหน้าว่าใช่ ตอนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ฉีมู่เฟิงเคยพูดเรื่องนี้กับเขา เล่าว่ามีสมบัติดีๆมากมายอยู่ในเขตแดนลับมิติ หากไม่ใช่เพราะถูกจินกวงย้ำเตือน ซูเฉินคงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

 

“เหล่าจิน ผมหมดธุระแล้ว ไว้เจอกันใหม่คราวหน้า” ซูเฉินกล่าวร่ำลา เตรียมตัวออกเดินทาง

 

เขารู้ที่อยู่ของหินแก่นแท้พลังงานแล้ว การเดินทางครั้งนี้นับว่าไม่สูญเปล่า จำต้องรีบกลับไปให้เร็วที่สุด เดี๋ยวจะไม่ทันเวลาเปิดเขตแดนลับมิติ

 

“เข้าใจแล้ว ไว้เจอกันใหม่”

 

ผู้สูงศักดิ์จินกวงถอนหายใจยาว ทุกวินาทีที่ซูเฉินยังอยู่ เขาหายใจไม่ทั่วท้อง เวลานี้ในที่สุดก็จะได้ผ่อนคลายเสียที

 

ซูเฉินเองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน หมุนตัวและเดินกลับมายัง [รถศึกอัจฉริยะ]

 

แต่ใครจะทันคิด ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆนกสำรวจก็ร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย! มีผู้แข็งแกร่งกำลังใกล้เข้ามาหาพวกเรา”

 

“แข็งแกร่งแค่ไหน?”

 

แม้เอ่ยปากถาม แต่ดูเหมือนซูเฉินจะไม่ค่อยใส่ใจมากนัก

 

“ดูเหมือนจะเป็นระดับเทวะขั้น 7 ” นกสำรวจตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

ระดับเทวะขั้น 7?

 

หางตาของซูเฉินกระตุกทันที หากต่ำกว่าระดับเทวะขั้น 6 เขาคงไม่สนใจ แต่ระดับเทวะขั้น 7 นับว่ามีโอกาสเป็นภัยคุกคามแก่เขา

 

อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายมาหาเขาใช่หรือไม่ เรื่องนั้นยังไม่แน่ใจ

 

ไม่นาน ยานอวกาศสีทองก็ปรากฏขึ้นในสายตา ความเร็วของมันไวมาก เมื่อเทียบกับ [รถศึกอัจฉริยะ] แล้วไม่ด้อยกว่ากันเลย

 

“เป็นโม่ชางไห่แห่งเขาเป่ยลู่! ทำไมเขาถึงมาที่นี่?”

 

สีหน้าของจินกวงหมองลงถนัดตา กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

 

นั่นเพราะโม่ชางไห่ไม่ได้เป็นแค่ ระดับเทวะขั้น 7 เท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังมีหุ่นเชิด ระดับเทวะขั้น 6 อยู่กับตัว สามารถเรียกได้เลยว่าเป็นผู้ครอบครองกำลังรบที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ

 

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา ทำให้ผู้สูงศักดิ์จินกวงเกิดความไม่สบายใจ

 

ซูเฉินไม่รีบร้อนจากไป เขาชักเริ่มมั่นใจแล้วว่าโม่ชางไห่คงมาหาเขาแน่ๆ

 

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อให้เขาขึ้นรถออกเดินทาง สุดท้ายก็จะถูกอีกฝ่ายขวางอยู่ดี

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาอยากดูเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

 

หลังจากยานอวกาศทองคำบุกมาถึง ประตูห้องโดยสารก็เปิดออกทันที ชายชราคนหนึ่งก้าวออกมาจากข้างใน

 

ชายชราหรี่ตาลง เบนมองไปรอบๆ ก่อนหยุดลงบนร่างซูเฉิน กล่าวเสียงเย็น “เจ้าคือซูเฉิน?”

 

“ถ้าใช่แล้วจะทำไม?” ซูเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส

 

“เราผู้เฒ่ามาเยือนเพราะมีสองเรื่องต้องจัดการ หากเจ้ายอมตกลง ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากใจ” โม่ชางไห่กล่าวเสียงเป็นธรรมชาติ

 

“ลองว่ามาสิ” ซูเฉินถูจมูกตัวเอง กล่าวอย่างใจเย็น

 

แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นถึง ระดับเทวะขั้น 7 แต่เขากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย นั่นเพราะเขาสะสมแต้มพลังงานไว้เป็นจำนวนมาก สามารถแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนเพื่อยกระดับฐานฝึกตนขึ้นเป็น ระดับเทวะขั้น 5 ได้ทุกเวลา

 

“สมแล้วกับสมญานามเทพสังหาร นับว่าพอมีความกล้าอยู่บ้าง”

 

เมื่อเห็นท่าทีของซูเฉินยังสงบเยือกเย็น โม่ชางไห่ปรบมือชมเชย จากนั้นกล่าวต่อว่า “มอบหุ่นเชิดทองคำและสมบัติที่นักพรตเทียนซ่านต้องการมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

 

“นักพรตเทียนซ่านส่งแกมา?”

 

ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง ในแววตาทอประกายเย็นยะเยือก

 

หากอีกฝ่ายถูกเทียนซ่านส่งมาจริงๆ เขาจะไม่มีทางปล่อยมันไปอย่างแน่นอน

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ แค่บอกมาว่าจะให้หรือไม่ก็พอ ” โม่ชางไห่แค่นเสียงเย็น กล่าวด้วยสีหน้าดุร้าย

 

ในเวลาเดียวกัน แรงกดดันมหาศาลแพร่กระจายออกจากร่างเขา

 

ผู้สูงศักดิ์จินกวงได้รับผลกระทบนี้ ชักฝีเท้าถอยไม่หยุด

 

ฉีมู่เฟิง และคนอื่นๆใน [รถศึกอัจฉริยะ] สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไป

 

ทั้งหมดสังเกตเห็นแล้ว ว่าโม่ชางไห่คือตัวตนระดับเทวะขั้น 7 ซึ่งนั่นสูงกว่าซูเฉินถึง 3 ระดับ เช่นนั้นแล้วซูเฉินจะเป็นคู่ต่อสู้ได้หรือไม่?

 

ณ ขณะนี้ ทั้งหมดอดกังวลขึ้นมาไม่ได้

 

2/8

 

Ep.1052

 

“ก็แล้วถ้าฉันไม่ให้ แกจะทำไม?” ซูเฉินพ่นลมหายใจ

 

“ในเมื่อไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นเราผู้เฒ่าคงต้องกุดหัวเจ้า!!”

 

โม่ชางไห่สีหน้าบึ้งตึง ในดวงตาทอประกายเย็นวาบ แสดงท่าทีราวกับสามารถกลืนกินซูเฉินได้ทั้งตัว

 

จะกุดหัวฉัน?

 

ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวเหยียดหยาม “น่ากลัวว่าแกคงไม่มีโอกาสนั้น ”

 

สิ้นเสียง ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้น เมื่อสูงถึงสิบจั้ง เขาใช้แต้มพลังงาน 200,000 เพื่อแลกเปลี่ยน [คุณสมบัติเลเวล 16 อย่างเต็มรูปแบบ] ทันที

 

ด้วยเหตุนี้เอง ระดับฐานฝึกตนของเขาจึงทะยานขึ้นเป็น ระดับเทวะขั้น 6

 

“วาจาใหญ่โต! คิดว่าด้วยกำลังรบอันน้อยนิดของเจ้าจะสามารถจองหองต่อหน้าข้าได้หรือ? วันนี้เราผู้เฒ่าจะสอนให้ได้รู้ ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร!”

 

โม่ชางไห่แผดเสียงเย็น ขณะที่กำลังจะลงมือ ทันใดนั้นฝีเท้าเขากลับชะงักไป

 

ระหว่างนี้ เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมาได้อย่างชัดเจน ว่ามันบรรลุถึงระดับเทวะขั้น 6 แล้ว

 

ยังไงก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าซูเฉินอยู่แค่ระดับเทวะขั้น 4 เท่านั้น ต่อให้ใช้วิชาแปลงร่างก็ขยับมาได้ถึงขั้น 5 เท่านั้น แล้วไฉนตอนนี้มันถึงขึ้นเป็น ระดับเทวะขั้น 6 เล่า?

 

อย่าบอกนะว่าซูเฉินซ่อนระดับฐานฝึกตนเอาไว้?

 

เมื่อฉุกคิดได้ถึงเรื่องนี้ หนังศีรษะของโม่ชางไห่ด้านชา เขาเคยได้ยินเรื่องความสามารถในการต่อสู้ของซูเฉินมาก่อน ว่าสามารถสังหารศัตรูข้ามขั้นได้ราวกับพลิกฝ่ามือ

 

ในตอนแรก เหตุผลที่เขากล้าบุกเข้ามาหาซูเฉิน เป็นเพราะเขามีฐานฝึกตนสูงกว่าซูเฉินถึงสองขั้น เลยคิดว่าสามารถบดขยี้ซูเฉินได้อย่างง่าดาย

 

แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน ซูเฉินเป็น ระดับเทวะขั้น 6 แล้วเขาจะบดขยี้ซูเฉินได้อย่างไร? ดีไม่ดีชีวิตน้อยๆของเขาอาจต้องจบลงที่นี่

 

“ซูเฉินตัดผ่านไปได้อีกขั้นแล้ว!”

 

สีหน้าของจินกวงตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้ ตามข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ ในงานประลองระดับดวงดาว ซูเฉินเพิ่งตัดผ่านสู่ ระดับเทวะขั้น 4 เท่านั้น ซึ่งมีพยานหลายคน ข้อมูลไม่น่าจะผิดพลาด

 

นั่นหมายความว่า ซูเฉินใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถทะลวงอุปสรรค ยกระดับไปอีกขั้น

 

แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ การยกระดับของเหล่าเทวะนั้น แต่ละขั้นต้องใช้เวลาหลายสิบหรือหลายร้อยปีในการตัดผ่าน ทว่าความเร็วในการเลื่อนขั้นอันน่าสะพรึงเช่นซูเฉิน เป็นอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!

 

หากมีคนถามว่าสัตว์ประหลาดที่มากพรสวรรค์ที่สุดในโลกคือใคร คำตอบคงมีเพียงหนึ่งเดียว

 

หลังจากที่รู้ว่าซูเฉินเลื่อนขั้นแล้ว ฉีมู่เฟิงและคนอื่นๆตื่นเต้นมาก ความกังวลในใจพลันสลายไป

 

“นี่เจ้า … ซ่อนกำลังรบเอาไว้อย่างนั้นหรือ?”

 

โม่ชางไห่เหม่อมองซูเฉิน มุมปากของเขาเริ่มสั่นระริก ไม่คาดฝันเลยว่าซูเฉินจะสามารถยกระดับได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

 

เขาจึงตั้งข้อสันนิษฐานว่าซูเฉินน่าจะซ่อนระดับฐานฝึกตนไว้

 

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่แกต้องสนใจหรอก” ซูเฉินยิ้มดูแคลน จากนั้นกล่าวยั่วยุว่า “แกมาเพื่อฆ่าฉันไม่ใช่หรอ มัวรออะไรอยู่ รีบลงมือซักทีสิ ฉันรอจนเมื่อยแล้ว”

 

โม่ชางไห่กลืนน้ำลาย กล่าวด้วยน้ำเสียบสั่นเครือ “ซูเฉิน ข้าแค่ล้อเจ้าเล่น ขออย่าได้ถือสา ”

 

ซูเฉินได้มาถึง ระดับเทวะขั้น 6 แล้ว เขาย่อมไม่กล้าลงมือกับซูเฉิน ได้แต่พูดดีๆด้วยเท่านั้น และภาวนาให้ซูเฉินไม่ถือสาเขา

 

ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของจินกวงสาดประกายดูแคลน

 

ก่อนหน้านี้โม่ชางไห่ทำตัวหยิ่งผยองมาก เอาแต่พูดว่าจะฆ่าซูเฉิน แต่หลังจากรู้ว่าซูเฉินยกระดับ ก็พลิกลิ้นทันที ช่างเป็นความเสื่อมเสียเกียรติของ ระดับเทวะขั้น 7 นัก

 

แม้แต่ศักดิ์ศรีของตัวเองก็ยังไม่เหลือไว้ นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?

 

ซูเฉินแค่นเสียงหัวเราะ กล่าวอย่างเฉยเมย “ในเมื่อแกไม่กล้าลงมือ ถ้างั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ!”

 

สิ้นเสียง เขาขยับเท้าวูบ กลายเป็นเส้นแสงดาราพรั่งพราว พุ่งตรงเข้าสังหารโม่ชางไห่

 

“จะรังแกกันมากเกินไปแล้ว!”

 

โม่ชางไห่กัดฟันแน่น คว้าอากาศที่ว่างเปล่า เรียกแท่งเหล็กที่ทอประกายดวงดาราระยิบระยับออกมา พุ่งเข้าหาซูเฉิน

 

ในเมื่อซูเฉินไม่คิดปล่อยเขาไป เช่นนั้นโม่ชางไห่ก็ไม่เหลือทางอื่นนอกจากสู้ตาย!

*เรื่องนี้จะจบลงในอีก 100 ตอน