9/10
Ep.1049
ซูเฉินมองสำรวจพักหนึ่ง ก่อนออกคำสั่งแก่ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ลงจอดบนเกาะ”
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] ค่อยๆลดระดับ ลงจอดอย่างช้าๆ
เมื่อมันแตะพื้น เห็นแค่เพียงชายชราในชุดคลุมสีทองบินลงมาจากอาคารที่อยู่ไม่ไกล เห็นได้ชัดว่าบุคคลนี้คือสมาชิกของนิกายซ่อนวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม แม้เห็นว่า [รถศึกอัจฉริยะ] บุกเข้ามา แต่เขากลับไม่โกรธเลยสักนิด ตรงกันข้าม กลับปรากฏรอยยิ้มจางๆประดับอยู่บนใบหน้าเขา คล้ายเพิ่งได้พบเจอมิตสหายที่จากกันไปเนิ่นนาน จึงออกมาทักทาย
ซูเฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เปิดประตูรถ ก้าวลงมาคนเดียว
“ซูเฉิน ในที่สุดเจ้าก็มา เราผู้เฒ่ารอเจ้าอยู่นานแล้ว”
ชายชราชุดคลุมสีทองมองซูเฉิน กล่าวทักทายอย่างสุภาพ
“หืม?”
ซูเฉินอุทานเบาๆ ความสุภาพของอีกฝ่ายทำให้เขาอึดอัดเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณคือ ..?”
“เราผู้เฒ่าคือผู้สูงศักดิ์จินกวง เป็นประมุขคนปัจจุบันของนิกายซ่อนวิญญาณ ” ชายชราชุดคลุมสีทองกล่าว
ประมุขนิกายซ่อนวิญญาณ?
ซูเฉินทวนคำ ดวงตาค่อยๆหรี่ลง ในแววตาเริ่มทอประกายเย็นยะเยือก
วัตถุประสงค์หลักของการเดินทางครั้งนี้คือทำลายนิกายซ่อนวิญญาณ ดังนั้นผู้เฒ่าจินกวงในฐานะประมุข ซูเฉินย่อมไม่ปล่อยไป
แต่ว่า ท่าทีที่จินกวงแสดงออกมา มันทำให้เขาสับสนเล็กน้อย
“คุณน่าจะรู้จุดประสงค์ที่ผมเดินทางมาที่นี่ ถูกไหม?” ซูเฉินจ้องมองจินกวง เอ่ยถามเสียงเย็น
“ย่อมรู้อยู่แล้ว” ผู้สูงศักดิ์จินกวงพยักหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าต้องมาเพราะเรื่องของหยางซิวลี่ … มาเพื่อให้พวกเราชดใช้ ใช่หรือไม่?”
“ในเมื่อรู้แล้ว งั้นลองบอกมาสิว่าคุณแค่คนเดียว มีความสามารถพอจะหยุดผมไหม?” ซูเฉินกล่าว
ตอนนี้ เขาเกิดข้อสงสัยหลายอย่างขึ้นในใจ ก็ในเมื่อทราบว่าเขาต้องมา แล้วทำไมนิกายซ่อนวิญญาณถึงไม่ส่งกลุ่มเหล่ายอดฝีมือออกมารับหน้า? เกิดอะไรขึ้นถึงมีแค่จินกวงคนเดียว?
เป็นไปได้ไหมว่าอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของจินกวงสามารถกำจัดเขาได้?
“แม้ตัวข้าจะมีสถานะเป็น ระดับเทวะขั้น 6 แต่แน่นอนย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า”
ผู้สูงศักดิ์จินกวงยอมรับอย่างใจกว้าง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วพวกเราแค่เข้าใจผิดกัน เรื่องนี้สามารถอธิบายกันอย่างสันติได้ ไม่จำเป็นต้องต่อสู้เข่นฆ่า”
เข้าใจผิด?
ซูเฉินแค่นเสียงหัวเราะ “หยางซิวลี่จากนิกายซ่อนวิญญาณของคุณลอบทำร้ายผม แล้วคุณยังกล้าบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดอีก? คิดว่าผมเป็นเด็กสามขวบรึไง?”
เมื่อจินกวงเห็นว่าซูเฉินเริ่มโกรธ ก็รีบอธิบายออกมา “แม้หยางซิวลี่จะเป็นคนของนิกายซ่อนวิญญาณเรา แต่แท้จริงได้ถูกขับไล่ ออกจากนิกายไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว เรื่องที่นางลงมือกับเจ้า เป็นการกระทำส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนิกายซ่อนวิญญาณเรา”
“คิดว่าผมจะเชื่อหรอ?” ซูเฉินเบ้ปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ พอเกิดเรื่องก็จัดการตัดความสัมพันธ์ ข้อแก้ตัวของจินกวงไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย
จินกวงยังคงอธิบายต่อไปว่า “เจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดพวกเราถึงได้ขับไล่หยางซิวลี่? นั่นเพราะนางเป็นสายลับที่นักพรตเทียนซ่านส่งมาสืบข้อมูลจากนิกายซ่อนวิญญาณของพวกเรา ”
“มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรือ?”
ซูเฉินพึมพำ หากเป็นแบบนั้นจริงๆอย่างที่จินกวงพูด เขาก็คงไม่คิดทวงถามนิกายซ่อนวิญญาณอีก เพราะถึงอย่างไรเสีย แม้ตัวเขามักกระทำการโดยไร้ความปราณี แต่ก็ยังมีหลักการ
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ล่วงเกินเขา แต่หากเขากลับฆ่าล้างนิกายอีกฝ่าย มันค่อนข้างไม่ยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะจริงหรือเท็จยังไม่ได้ข้อสรุป นอกจากนี้ เขาเดินทางมาตั้งไกล ยังไม่ได้กอยโกยสิ่งใดเลย แบบนี้คงไม่ดีนัก
“คุณมีอะไรที่พอจะพิสูจน์ได้บ้างว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นความจริง?” ซูเฉินถามแกมบังคับ
10/10
Ep.1050
“ข้าสามารถสาบานต่อสวรรค์ได้!”
ผู้สูงศักดิ์จินกวงยินดีกล่าวคำปฏิญาณ
หากขอให้เขานำหลักฐานออกมาแสดง เกรงว่าคงไม่มี ดังนั้นคำสาบานต่อสวรรค์ ที่มีพันธะผูกพันธ์กับพลัง จึงถูกใช้เป็นเครื่องพิสูจน์คำพูด และพอมีความน่าเชื่อถือยู่หลายส่วน
ซูเฉินตกใจเล็กน้อย ซักพักกล่าวว่า “งั้นขอให้คุณสาบานต่อสวรรค์”
จินกวงไม่ลังเลแม้แต่น้อย เอ่ยคำสาบานต่อสวรรค์ทันที
เมื่อเห็นท่าทีเด็ดขาดของจินกวง ซูเฉินก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะโกหกจริงๆ
“เหล่าจิน ถึงยังไงหยางซิวลี่ก็ยังเป็นคนของนิกายซ่อนวิญญาณ แม้เธอจะถูกไล่ออกแล้ว แต่ความรับผิดชอบในเรื่องนี้ ก็ไม่น่าจะบอกปัดได้ ถูกไหม?” ซูเฉินกล่าวอย่างสบายๆ
เมื่อไม่สามารถทำลายนิกายซ่อนวิญญาณได้ เช่นนั้นอย่างน้อยขอได้รับผลประโยชน์บางอย่างกลับมาบ้าง มิฉะนั้น ซูเฉินคงไม่ยินยอม
ผู้สูงศักดิ์จินกวงมองทะลุปุโปร่ง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน นิกายซ่อนวิญญาณของพวกเราต้องมีความรับผิดชอบ เราจะชดใช้ให้เจ้าสำหรับเรื่องนี้ … ”
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย เกิดความรู้สึกว่าจินกวงมีน้ำใจไม่เลว
“นิกายซ่อนวิญญาณของเราอาศัยการรวบรวมข่าวสารและขายข้อมูลเป็นหลัก ฉะนั้น ทางเราจะส่งข้อมูลลับบางอย่างให้เจ้าฟรีๆเป็นค่าชดใช้ แบบนี้พอจะได้ไหม?” จินกวงเสนอ
ซูเฉินพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกำชับว่า “มันก็ได้ แต่ข้อมูลที่ผมสนใจ ย่อมไม่ใช่ข้อมูลธรรมดา มันต้องเป็นข่าวล้ำค่าบางเรื่องที่ใครได้ฟังก็ไม่อาจมองข้าม ”
เหมือนกับข่าวเรื่องน้ำพุแห่งชีวิตที่ฉีมู่เฟิงได้รับจากที่นี่ มันเย้ายวนใจมาก
“เจ้าอยากรู้ข่าวด้านไหน?” จินกวงถาม
เพื่อให้ซูเฉินพอใจ เขาเลยเป็นฝ่ายเอ่ยถามซูเฉินเอง
“ขอข่าวเกี่ยวกับหินแก่นแท้พลังงาน” ซูเฉินลองเลียบเคียงถาม
สำหรับตอนนี้ สิ่งที่สามารถช่วยเขาได้มากที่สุดก็คือหินแก่นแท้พลังงาน เพราะเขามีหุ่นเชิดระดับขอบเขตเทพเจ้า และมันสามารถถูกปลุกได้ทุกเมื่อหากมีหินที่ว่านั่น
และเมื่อถึงเวลานั้น นักพรตเทียนซ่านจะไม่สามารถคุกคามเขาได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ซูเฉินรู้ดี ว่าจำนวนหินแก่นแท้พลังงานในโลกใบนี้มีอยู่น้อยนิด จากการสอบถามคนจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา พบว่าไม่มีใครรู้อะไรเลย จนเขาเผลอคิดว่า ต่อให้เป็นนิกายซ่อนวิญญาณที่รวบรวมข่าวสาร ก็ไม่น่าจะทราบข้อมูลของเรื่องนี้เช่นกัน
แต่อย่างน้อยเมื่อมีโอกาสก็ควรถามออกไป แม้ไม่ได้คาดหวังอะไรก็ตาม
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของจินกวงแปรเปลี่ยนไป
หินแก่นแท้พลังงานคือแร่ที่ใช้ขับเคลื่อนหุ่นเชิดในขอบเขตเทพเจ้า ซึ่งตนทราบเรื่องนี้ดี อย่างไรก็ตาม สมบัติเช่นนั้น เป็นของหายากที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย และมีน้อยคนนักที่จะรู้
แต่บังเอิญจริงๆ ที่เขาพอจะทราบเกี่ยวกับเรื่องของมันมาบ้าง
ผู้สูงศักดิ์จินกวงลังเลเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “ดูเหมือนที่วิหารสวรรค์หวนหยูจะมีหินแก่นแท้พลังงานอยู่”
ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายทันที เอ่ยถามย้ำว่า “คุณแน่ใจหรอ?”
เดิมเขากำลังจะแวะไปที่วิหารสวรรค์หวนหยูอยู่แล้ว หากที่นั่นมีหินแก่นแท้พลังงาน ก็เท่ากับโชคหล่นทับสองชั้นซ้อน
“นี่เป็นคำบอกเล่าต่อๆกันมา ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
ผู้สูงศักดิ์จินกวงตอบกลับ ก่อนย้ำเตือนว่า “ซูเฉินเจ้าในตอนนี้อาจยังไม่พร้อม ทางที่ดีอย่ารีบร้อนไปยังวิหารสวรรค์หวนหยูจะดีกว่า”
ซูเฉินพยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบอะไร
พื้นที่รอบๆวิหารสวรรค์หวนหยูไม่เพียงเต็มไปด้วยจุดมิติโกลาหลเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงอีกมากมายอยู่ข้างใน
ยังไงก็ตาม เพื่อยกระดับอสูรเทพปลุกพลังให้ขึ้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าโดยเร็วที่สุด คงหลีกเลี่ยงอันตรายในครั้งนี้ไม่ได้
แน่นอน เขาจะไปก็เมื่อคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพอ
“เหล่าจิน งั้นคุณพอรู้ไหมว่ามีแร่ชั้นยอดอยู่ที่ไหนบ้าง?” ซูเฉินสลายความคิดข้างบนไป แล้วถามต่อ
หากอยากให้เหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณและสามเพลิงเอกลักษณ์ยกระดับอย่างรวดเร็ว คงไม่พ้นต้องรวบรวมแร่ชั้นดี
และแร่ที่เขาได้มาก่อนหน้านี้ในเขตแดนลับ มันใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นต้องรีบหามาเพิ่ม
ในเมื่อจินกวงทราบกระทั่งว่าหินแก่นแท้พลังงานอยู่ที่ไหน เช่นนั้นสถานที่ที่มีแร่ชั้นยอดอยู่ เขาต้องรู้เช่นกันอย่างแน่นอน
