ไซตามะต่างโลก Ep.22 – มนุษย์ปีศาจกิง

 

ท่ามกลางท้องทะเล ปรากฏให้เห็นถึงเรือที่ถูกตกแต่งด้วยหัวปลาหน้าตาน่าเกลียดขนาดใหญ่ลอยลำอยู่ที่นั่น

 

นี่คือภัตตาคารลอยทะเลบาราติเอ

 

ต้องขอบคุณไซตามะ ที่ทำให้ปัญหาเกี่ยวกับโจรสลัดในอีสต์บลูลดน้อยลง จะมีบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้นที่มีโจรสลัดอย่างบากี้โผล่ขึ้นมา -แม้อวนจะใหญ่เพียงใด สามารถกวาดต้อนปลาได้มากเพียงไหน สุดท้ายก็มิอาจจับปลาได้ทั้งหมด อย่างไรก็ต้องมีบ้างที่หลุดออกไปตัวสองตัว

 

ยังไงก็ตาม ด้วยฝีมือของไซตามะ สภาพแวดล้อมทางทะเลนับว่ายิ่งนานก็ยิ่งค่อยๆปลอดภัยขึ้น

 

เรือพานิชย์หรือเรือท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลมาทอดสมอที่นี่ เพลิดเพลินไปกับอาหารอร่อยที่พบเจอได้ยากยิ่ง ท่ามกลางท้องทะเลอันแสนน่าเบื่อ

 

“บอกว่าจะเลี้ยงก็จริงอยู่หรอก แต่ที่เลี้ยงน่ะแค่นาย ไม่คิดเลยว่าจะหน้าด้านมากันเยอะขนาดนี้ … ”

ภายในร้านอาหาร ไซตามะกับฟูลบอดี้นั่งแยกโต๊ะออกมา โดยมีทหารเรือของไซตามะติดตามมากินฟรีด้วย นั่งกระจายออกไปถึง 3 โต๊ะโดยรอบ

 

ฟูลบอดี้ปาดเหงื่อบนหน้าผาก หัวเราะฮะฮ่าในใจ “โชคดีจริงๆที่วันนี้เตรียมเงินมามากพอ … เดิมทีเงินนี่ฉันตั้งใจจะเอาไปเปย์สาวแท้ๆ ฉันมันบ้าเองที่พลั้งปากไป … เอาเถอะไว้ค่อยไปอธิบายให้เธอฟังทีหลังก็แล้วกัน”

พอกวาดตาอ่านเมนู ไซตามะก็เอ่ยปากถาม “แล้วลูกเรือของนายล่ะไปอยู่ที่ไหน? ไม่ใช่ว่าพวกเขาก็ต้องกินด้วยกันหรอ?”

 

“ฉันสั่งพ่อครัวไปแล้ว ว่าให้ช่วยจัดส่งอาหารสำหรับ 7 คนไปที่เรือรบด้วย”

 

ฟูลบอดี้ส่ายหัว “ด้วยตำแหน่งของพวกเขา มันไม่สามารถอนุญาตให้ละทิ้งเรือได้ ยิ่งในเรือมีนักโทษอันตรายที่มีค่าหัว ก็ยิ่งต้องเฝ้าระวังอย่าใกล้ชิด”

 

“โอ้ ลำบากน่าดูเลยนะ”

 

ไซตามะกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ เขาเริ่มกวาดตาหาพวกเมนูโค๊กหรือพิซซ่า บังเอิญหันไปด้านข้าง เห็นพนักงานเสิร์ฟผมทองกำลังกำลังช่วยลูกค้าหญิงเลือกเมนูอยู่ เอ่ยปากทักไปว่า “สวัสดี พอดีว่าฉันไม่เจออาหารที่ต้องการในเมนูน่ะ นี่คือร้านอาหารตะวันตกไม่ใช่หรอ มันควรจะมีเฟรนช์ฟรายรึเปล่า?”

“เฟรนช์ฟราย?”

 

ชายคิ้วม้วนหันมาตอบเขา เอ่ยงึมงำด้วยความสับสน “นั่นมันเมนูอะไรน่ะ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

 

ไซตามะทำท่าทางประกอบ “เอ่อ .. ก็เมนูที่ใช้มันฝรั่ง หั่นเป็นชิ้นยาวๆเล็กๆ หลังจากเอาไปทอดแล้วมันจะมีสีเหลืองทอง ทั้งกรอบ ทั้งรสชาติดีมากๆ ยิ่งชิ้นไหนยาวเป็นพิเศษนะ อร่อยจนไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย”

 

“อาหารที่ทำจากมันฝรั่งงั้นหรอ … ”

 

ชายคิ้วม้วนพ่นควันบุหรี่ออกจากปากพลางขบคิด “มันฟังดูคล้ายกับพายมันฝรั่งเลย แต่ถึงมันจะไม่มีอยู่ในเมนูก็เถอะ ตราบใดที่มันเป็นอาหาร และพอจะรู้วิธีคร่าวๆ ก็ไม่มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้หรอก … รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมาเสิร์ฟให้”

 

ไซตามะพยักหน้า “รบกวนนายแล้ว”

 

รอจนกระทั่งชายคิ้วม้วนจากไป ฟูลบอดี้ค่อยเริ่มเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พูดกันตรงๆเลยนะ มีข่าวลือว่าไซตามะซังมาจากโลกอื่น หมายความว่าเฟรนช์ฟรายที่นายสั่งก็มาจากโลกอื่นด้วยใช่ไหม?”

“ใช่”

ไซตามะเอนหลังพิงเก้าอี้ สองมือเอื้อมไปประกบกันเบื้องหลังอิงศีรษะ และกล่าว “ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะมีสิ่งแปลกๆอยู่มากมาย อย่างเช่นเด็นเด็นมูชิที่คล้ายๆโทรศัพท์กับทีวีผสมกัน แต่พวกสื่อสิ่งพิมพ์ที่ให้ความบันเทิงหรืออาหารขบเคี้ยวกลับแทบไม่มีอยู่เลย … ไม่มีการ์ตูน ไม่มีเกม ไม่มีเฟรนช์ฟราย คิดว่าคงเป็นเพราะผู้คนอยู่ในยุคสมัยแห่งโจรสลัด พวกเขาเลยรู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่มีเวลาศึกษา .. ”

 

ระหว่างกล่าว ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างกระทันหัน ตามด้วยทหารเรือที่โชกเลือดวิ่งเข้ามา

 

“แย่แล้วท่านร้อยโทฟูลบอดี้!”

 

ทหารเรืออ้าปากหอบหายใจ ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนกอย่างไม่อาจควบคุม “พรรคพวกที่เหลือรอดของกองเรือโจรสลัดครีก ‘มนุษย์ปีศาจกิง’ ได้หนีออกจากห้องขังไปแล้ว! ผมขอโทษจริงๆ พวกเรายังไม่ทันจะได้ตอบโต้ เขาก็-”

 

“ว่าไงนะ!”

 

ฟูลบอดี้ผุดลุกจากที่นั่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน! ตอนที่พวกเราจับได้ มันกำลังจะตายอยู่แล้ว แล้วมันมีแรงมากพอที่จะทำลายห้องขังแล้วลอบโจมตีพวกนายได้ยังไงกัน”

 

ไซตามะที่นั่งอยู่ถัดมาเอ่ยถามในเวลาที่เหมาะสม “แล้วนี่ .. ต้องการให้ฉันช่วยรึเปล่า?”

 

“ไม่ต้องหรอก เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องถึงมือนายพลจัตวา”

 

ฟูลบอดี้ใส่สนับมือ เตรียมที่จะออกไปจับตัวคนร้ายหลบหนี “ ถึงแม้ว่า ‘มนุษย์ปีศาจกิง’ จะมีชื่อเสียงว่าเลือดเย็น สังหารทั้งพลเรือนและกองทัพไปมากมาย แต่เจ้าบ้านั่นมันกำลังหิวโซอยู่ ถ้าจะจัดการกับมัน แค่ฉันคนเดียวก็น่าจะพ-”

 

“ปัง!”

 

ยังไม่ทันจะจบประโยค เสียงปืนก็ดังขึ้นหน้าประตูร้านอาหารอย่างกระทันหัน

 

ทหารเรือที่พึ่งเข้ามารายงานตัวล้มลง แอ่งเลือดเริ่มเจิ่งนองบนพื้นล่างตัวเขา

 

พริบตานั้นตลอดทั้งร้านอาหารพลันจมลงสู่ความเงียบ

 

“ชิส์ เจ้าหมอนี่มันยังมีชีวิตอยู่ซะได้ ทั้งๆที่ฉันลอบโจมตีมันแล้วแท้ๆ เห็นได้ชัดเลยว่าตอนหนีออกมา ร่างกายของฉันยังอ่อนแอเกินไป ..”

ชายวัยกลางคนที่สวมผ้าคาดหัว ใบหน้าหมองคล้ำสกปรก ปรากฏขึ้นเบื้องหลังทหารเรือ ดวงตาหม่นหมองของเขาจ้องมองมาทางฟูลบอดี้ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม “ขอบคุณมากนะ สำหรับอาหารของ 7 คนที่นายสั่งไปส่งที่เรือ น้ำกับอาหารพวกนั้น ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งเลย”

 

หากอีกฝ่ายกลับมามีกำลังวังชาแล้ว ฟูลบอดี้ก็ตระหนักชัดว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม แต่เบื้องหลังเขามีพลเรือนอยู่ แล้วในฐานะกองทัพเรือ ตนจะมุดหัว ไม่สู้ได้อย่างไร?

 

“ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องรีบหนีไปซะ!”

 

ฟูลบอดี้โบกมืออย่างเกรี้ยวกราด ทั้งคนทั้งร่างของเขาตึงเครียด ก้าวฉับๆเข้าหามนุษย์ปีศาจกิง “ในเมื่อฉันจับแกได้ครั้งนึงแล้ว ทำไมฉันจะจับแกอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้! สมบัติแห่งความชอบธรรมย่อมไม่มีวันพ่ายแพ้แก่พวกโจรสลัด!”

 

“มันจะเป็นอย่างนั้นรึเปล่านะ”

 

มนุษย์ปีศาจกิงแสยะยิ้ม เขาเหวี่ยงพลองลูกตุ้มเหล็กคู่ออกมาจากสองแขน “ฉันใช้เด็นเด็นมูชิของนายติดต่อกับกัปตันครีกที่หลบซ่อนตัวอยู่ในอีสต์บลูแล้ว และเขากำลังนำพรรคพวกที่รอดชีวิตของเรามาปล้นที่นี่ จากนั้นก็ฆ่าพวกทหารเรือทั้งหมด … แต่ก่อนหน้านั้นไหนขอฉันดูหน่อยซิว่าจะมีใครหน้าไหนสามารถจัดการกับฉ-”

 

กล่าวยังไม่ทันจะจบประโยค

 

พริบตานั้นบังเกิดเสียง ‘ปัง!’ ขึ้น

 

ร่างกายส่วนบนของมนุษย์ปีศาจกิงระเบิดเละเหลว!

 

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฟูลบอดี้หันขวับไปข้างกายเขาด้วยหัวใจที่เต้นระทึก

 

เมื่อกี้นี้ … เหมือนกับว่ากำปั้นของไซตามะจะเหวี่ยงออกไป

 

ใช่แล้ว …

 

เมื่อครู่นี้ต้องเป็นฝีมือของเขาแน่นอน!

 

ข่าวลือทั้งหมดเป็นความจริง!

 

ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งขนาดไหน ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้านายพลจัตวาผู้ควบคุมโร๊คทาวน์ ล้วนถูกโค่นลงด้วยหมัดเดียว!

 

แม้ว่าระยะห่างระหว่างทั้งสองจะมากกว่า 10 เมตร แต่เขาก็สามารถระเบิดการทำลายล้างอันยิ่งใหญ่ได้อย่างแม่นยำ!

 

หมัดของมนุษย์ สามารถทรงพลังได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ?

 

บังเกิดเสียงกรีดร้องดังระงม

 

เชฟในครัวทยอยกันวิ่งออกมา ยังไม่ทราบว่ามันเกิดเรื่องราวใดขึ้น

 

สภาพแวดล้อมโดยรอบอึงอลไปด้วยเสียงชวนปวดหู

 

ทหารเรือในสังกัดของไซตามะ เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาพากันไปปลอบใจคนทานอาหารที่กำลังหวาดกลัว

 

ไซตามะลุกจากที่นั่ง เดินตรงไปยังประตู

 

เขาไม่ได้เหลียวมองมนุษย์ปีศาจกิงที่บัดนี้กลายเป็นก้อนเลือด แต่กลับก้มลงเอื้อมมือไปอังลมหายใจของหทารเรือที่พึ่งถูกปืนยิงและล้มลง “เขายังมีชีวิตอยู่! รีบพาเขาไปโรงพยาลที่อยู่ใกล้เคียงที่สุดเร็วเข้า!”

 

“อา รับทราบ!”

 

ฟูลบอดี้ตื่นจากห้วงภวังค์แห่งความฝัน เขาวิ่งไปทางไซตามะ แบกทหารเรือที่กำลังใกล้ตายไว้บนหลัง และกล่าวขอโทษเล็กน้อยกับเขา “เดิมทีฉันแค่ชวนนายมาทานอาหารด้วยกันแท้ๆ ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ช่างน่าละอายจริงๆ .. ”

 

ไซตามะโบกมือ “ไม่เป็นไรหรอก อย่ากังวลไปเลย เอาไว้ถ้าฉันได้พบกับนายอีกครั้ง ฉันจะเลี้ยง- ไม่ดีกว่า เอาเป็นนายเลี้ยงฉันก็แล้วกัน”

 

ฟูลบอดี้ไม่สนใจประโยคท้ายๆ เขาเอ่ยทวนซ้ำ “หลังจากนั้น?”

 

“หมายความว่านี่นายจะไม่ไปกับพวกเราหรอ?”

 

“อา คงไปไม่ได้หรอก”

 

ไซตามะเหลียวไปมองรอบๆ เลือกเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับประตูที่สุด จากนั้นก็นั่งลง “เพราะฉันต้องรอใครบางคนที่กำลังจะมาถึงอยู่ นายพาเขาไปรักษาตัวก่อนเถอะ เอาไว้พวกเราค่อยมานัดกันภายหลัง”