2 ตอน

 

ไซตามะต่างโลก Ep.19 – นามิ

 

‘ไม่สิ นี่มันไม่ถูกต้อง …’

 

ขณะกำลังรวบรวมสมบัติใส่หีบ จู่ๆหญิงสาวก็ตระหนักถึงบางสิ่งได้อย่างกระทันหัน

 

‘แล้วทำไมฉันต้องย้ายเอาสมบัติพวกนี้ไปใส่เรือของตัวเองด้วยล่ะ?’

 

‘ในเมื่อตอนนี้ นอกเหนือไปจากเจ้าโง่สามตัวที่สลบเหมือดอยู่ข้างนอกแล้ว มันก็ไม่มีใครอีกเลยนี่ ฉะนั้น ตราบใดที่พวกมันสามตัวถูกโยนออกไปจากเรือ สมบัติทั้งหมดก็จะตกเป็นของฉัน แถมยังยึดเรือโจรสลัดขนาดใหญ่มาได้อีกด้วยไม่ใช่หรอ!’

 

‘ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเลวร้ายไปสักหน่อย แต่มันก็คุ้มค่า ได้มากกว่าเสียชัดๆเลยนี่?’

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หญิงสาวก็วางสิ่งที่อยู่ในมือของเธอลง เดินออกจากห้องโดยสาร ฟาดไม้พลองย้ำอีกครั้งใส่ทั้งสามที่กำลังสลบอยู่ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ จากนั้นก็มัดพวกเขา แล้วจับโยนลงทะเลไป

 

ทว่า หญิงสาวไม่คาดคิดเลย ว่าทุกการกระทำทั้งหมดนี้ มันล้วนอยู่ในสายตาของชายหัวล้านที่จ้องมองมาจากบนชายฝั่ง

 

ระหว่างกำลังลอยคออยู่กลางทะเล คลื่นทะเลค่อยๆได้ซัดสาดฤทธิ์แอลกอฮอล์ของโจรสลัดทั้งสาม เริ่มเรียกสติของทั้งสามกลับมา

 

ตามกระแสคลื่น ในที่สุดทั้งสามก็ลอยเข้ามาถึงชายฝั่ง นอนเกยอยู่ข้างๆกับเท้าของไซตามะ

 

ไซตามะก้มลงมองดูพวกเขา แต่พวกเขาที่ถูกจับมัดรวมกันอยู่เหมือนว่าจะไม่สังเกตเห็นไซตามะ

 

“ไอ้ … บ้าเอ๊ย!”

 

ทั้งสามสะบัดหัวแรงๆ พยายามเรียกสติให้กระจ่าง กัดฟันขบเขี้ยวและกล่าว “ที่แท้ก็เป็นแผนของนางเด็กนั่น! รอให้กัปตันบากี้กลับมาก่อนเถอะ เขาจะต้องสับเธอออกเป็นชิ้นๆ!”

 

 

“เอ่อคือว่า .. ”

 

ไซตามะก้มตัวลง ยื่นมือส่ายไปมาข้างหน้าทั้งสาม “เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

ทันทีที่ดวงตาของทั้งสามกระจ่างใส พวกเขาก็พบกับชายหัวล้านที่ดูไม่เป็นอันตรายใดๆต่อมนุษย์และสัตว์

 

จ้องมองไปยังใบหน้าที่แลดูเกียจคร้าน คล้ายกับแกะอ้วนที่สามารถถูกปล้นได้ตลอดเวลา ทั้งสามก็ได้สติกลับคืน

“เฮ้! เจ้าหัวล้าน รีบแก้มัดเชือกให้พวกเราเร็วๆเข้า!”

 

หนึ่งในโจรสลัดตะโกนใส่ไซตามะ “กัปตันของพวกเราคือท่านบากี้ โจรสลัดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่งทั้งอีสต์บลูเชียวนะ! ถ้าแกไม่เชื่อฟัง แล้วกัปตันกลับมาถึงเมื่อไหร่ล่ะก็ … ”

 

“ … ”

 

ไซตามะยกมือขึ้นลูบคาง ครุ่นคิดเป็นเวลานาน ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้าเชือกของทั้งสาม

 

สามโจรสลัดโห่ร้องยินดี “ต้องอย่างนั้นสิ! ต่อไปก็แก้มัดให้พวกเร-”

 

แต่ก่อนที่ประโยคนี้จะจบลง ไซตามะก็กำเชือกที่มัดทั้งสามติดกัน เหวี่ยงแขนง้างไปยังเบื้องหลัง หมุนควงเป็นวงสวิงเล็กน้อย และฟุ้ม! โยนทั้งหมดที่พึ่งลอยคอมากลับลงสู่ท้องทะเล

 

เหตุการณ์พลิกผันอย่างกระทันหัน ทั้งสามแปรเปลี่ยนเป็นโง่งม ความคิดในหัวแตกต่างกันออกไป

 

‘แม่จ๋า!’

 

‘อ๋า? นี่มันภาพหลอนรึเปล่านะ’

 

‘ทำไมจู่ๆพวกเราถึงมาลอยอยู่กลางอากาศได้กันล่ะนี่?’

 

แต่ก่อนที่ทั้งสามจะตื่นจากภวังค์ เงาดำมหึมาพลันผุดขึ้นมาใกล้ผิวน้ำ เบื้องล่างทั้งสามที่กำลังลอยอยู่ และง่ำ! ปรากฏถึงร่างของฮิปโปจ้าวทะเลกระโจนขึ้นมา อ้าปากงับทั้งสาม กลืนลงท้องไป

 

บนชายฝั่ง ไซตามะปัดๆมือของเขา ย่อตัวเล็กน้อย กระโจนไปยังทิศทางของเรือโจรสลัดบากี้ที่แล่นหนีไกลออกไป

 

บนดาดฟ้าเรือ สาวผมส้มกำลังปลดใบเรืออยู่

 

ตุบ ..

 

เมื่อได้ยินถึงเสียงฝีเท้าจากเบื้องหลัง หัวใจของหญิงสาวก็กระตุกวูบ! เธอหันขวับกลับไป

 

แย่ล่ะสิ !

 

เจ้ากัปตันบากี้มันกลับมาแล้วอย่างงั้นหรอ?

 

แล้วทีนี้จะทำยังไงดี!?

 

แผนสาวงามคงไม่เหมาะกับผู้ชายแบบนี-

 

“พรวดดด!”

 

แต่ก่อนที่เธอจะทันได้คิดอะไรมากไปกว่าที่พิมพ์มา หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อเห็นสภาพของชายที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ “ทำไมนายถึงโป๊ล่ะ!!!”

 

“อ๋า?”

 

ไซตามะก้มลงมองแสงศีลธรรมที่สาดปิดบังพญามังกรของเขา “ลืมซะสนิทเลย ฉันกะว่าจะขอยืมเสื้อผ้าจากตาลุงนั่น .. ”

 

หญิงสาวชี้ไม้ชี้มือมาทางหัวล้าน ตวาดด้วยความโกรธ “อย่าพูดเรื่องแบบนี้ด้วยท่าทีเหมือนกับว่าไม่รู้สึกละอายใจนะ! ไอ้วิปริต! รีบออกไปจากเรือของฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันหยาบคาย!”

“ก็ได้ๆ ออกจากเรือก็ได้”

ไซตามะกล่าว ทว่าสองเท้าของเขากลับก้าวตรงเข้ามาในห้องโดยสาร กวาดสายตามองไปรอบๆ “แต่ฉันคงต้องจัดการสิ่งที่ถูกขโมยไปซะก่อนที่จะกลับไป มันอาจจะเสียเวลานิดหน่อย พยายามใจเย็นๆก่อนก็แล้วกันนะ”

 

เจ้าหมอนี่ …

 

“อย่ามาพูดเองเออเอง หรือคิดทำอะไรตามอำเภอใจนะ!”

 

หญิงสาวล้วงกระบองสามท่อนที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากที่ไหนออกมา ประกบมันเชื่อมติดกันเป็นพลองยาว วิ่งเข้าหาไซตามะ กวาดมันเป็นแนวนอน ปิดกั้นทางเดินของไซตามะเอาไว้ “เห็นแบบนี้แล้วยังไม่ชัดเจนอีกหรอ? นี่มันเรือของฉัน! ดังนั้นสมบัติทั้งหมดนี้ย่อมเป็นของฉัน! ถ้านายกล้าเข้ามาอีกก้าวเดียว แล้วบาดเจ็บขึ้นมา ก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”

 

ไซตามะหยุดเท้า กล่าวด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า “น้องสาว การโกหกมันไม่ดีนะ”

 

“ใครเป็นน้องสาวนาย!”

 

หญิงสาวเริ่มร้อนใจ เหวี่ยงไม้พลองในมือ ฟาดเข้าใส่หัวของไซตามะ “ดูเหมือนว่า ไม่ว่ายังไงนายก็คงจะไม่ยอมฟังฉัน อย่าได้คิดฝันเลยว่าจะขโมยของจากโจรได้ ฮึ! ลงไปนอนนับดาวซะเถอะเจ้าหัวล้าน!”

 

ไม้พลองหวดฟาดอย่างรวดเร็ว เสียงฟึบ! แหวกอากาศของมันหวีดคำราม ทุบเข้าไปหัวแวววับของไซตามะตรงๆ!

 

เป๊าะ!

 

ทว่าทันทีหลังจากนั้น ไม้พลองก็หักออกเป็นสองท่อน แต่หัวแวววับกลับไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย

 

มันยังคงเปล่งประกายสดใส สะท้อนแสงแยงตาของผู้คนดังเดิม

 

“โลกใบนี้นี่มันมีแต่เรื่องจริงๆ … ”

 

ไซตามะถอนหายใจอย่างหมดหนทาง เหยียดนิ้วออกไปเบาๆ และดีดใส่หน้าผากหญิงสาว “ไม่ว่าจะหน้าไหนก็ชอบทำร้ายคนอื่นกันหมดเลย”

ขณะที่ทางฝั่งไซตามะกำลังบ่นงึมงำ

 

ย้อนกลับมาทางหญิงสาว

 

เห็นได้ชัดว่าตรงหน้าผากเธอมันไร้ร่องรอยและไม่มีอาการปวดใดๆ

 

ทว่าในวินาทีต่อมา ทั้งคนทั้งร่างของหญิงสาวพลันปลิวกระเด็นไปเบื้องหลัง กระแทกปัง! เข้ากับประตู ร่วงกรูดลงกับพื้น แน่นิ่งไปเป็นเวลานาน

 

ดวงตาของหญิงสาวกลายเป็นพร่ามัว เธอทำได้แต่เฝ้ามองหัวล้านค่อยๆรวบรวมสมบัติออกไป

 

คนๆนี้ …

 

ทั้งๆที่หน้าตาของเขาดูไม่มีพิษมีภัยแท้ๆ!

 

แต่ทำมกัน! แค่นิ้วเดียวของเขากลับส่งเธอลอยกระเด็นจนสิ้นท่าได้ถึงขนาดนี้!?

 

“ไม่ยอมหรอก … ”

 

หญิงสาวผมส้มพยายามลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก ในหัวใจฟุ้งไปด้วยความไม่ยินยอม “สมบัติพวกนี้มันเป็นของฉัน ไม่มีใครเอามันไปจากฉันได้ และในเมือนายเป็นผู้ชายวิตถาร ถ้าอย่างงั้นฉันก็จะใช้เทคนิคสาวงามอีกครั้ง!”

 

ระหว่างคิด เด็กสาวก็เอื้อมมือไปดึงคอเสื้อ แหวกมันมาพาดไว้ตรงไหล่ แสดงท่าทีเขินอาย ส่งสายตาหยาดเยิ้มมาทางไซตามะที่กำลังเก็บรวบรวมสมบัติ

 

“นี่ ตอนนี้มาเปิดอกคุยกันดีกว่านะ … ”

 

หญิงสาวโปรยเสน่ห์ ขยิบตาไปทางไซตามะ “ฉันชื่อว่านามิ แล้วนายล่ะชื่ออะไร?”

 

ยังคงไร้ซึ่งความแปรปรวนใดๆทางสีหน้าของหัวล้าน แต่เจ้าตัวก็หยุดมือและตอบกลับไป “ไซตามะ”

 

‘เพ้ย! ทัศนคติแบบนั้นมันอะไรกัน!’

 

ในหัวใจของนามิมืดมน แต่สีหน้าของเธอกลับยังเผยรอยยิ้มประจบประแจง

“อื้มมม ชื่อว่าไซตามะนี่เอง”

 

นามิจิ้มๆนิ้วชี้สองข้างของตัวเองเบาๆ ทำสีหน้าอ้อนวอน “ที่นี่มีสมบัติตั้งมากมาย นายอย่าเอามันไปคนเดียวทั้งหมดเลยนะ แบ่งให้ฉันสักครึ่งนึงเถอะ และแน่นอน ว่าสมบัติที่แบ่งมาฉันจะใช้วิธีอื่นชดเชยให้ … ” ระหว่างกล่าว นามิก็จงใจเหยียดขาข้างนึงมาข้างหน้า พรมนิ้วมือของเธอไต่ลงไปตามเรียวขา แสดงท่าทีเซ็กซี่

 

ทว่าน่าเสียดาย

 

คราวนี้ไซตามะกลับไม่สนใจเธอเลย

 

มือข้างหนึ่งผลักตัวนามิออกไป ไซตามะที่ใบหน้าไร้ซึ่งร่องรอยของความเขินอาย เดินตรงออกไปพร้อมกับกล่องสมบัติในอ้อมแขน

 

เบื้องหลังเขา นามิยืนนิ่งงันอยู่ตรงจุดเดิมเป็นเวลานาน ก่อนที่จะทันได้ตอบสนอง

 

นี่ตัวเอง …

 

ถูกเมินอย่างงั้นหรอ!?

 

อ๊าาาาาาา

 

“หยุดนะไอ้บ้า!”

 

นามิโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดึงคอเสื้อที่พาดกับไหล่กลับคืน ชี้นิ้วไปทางไซตามะ “หยุด! อย่ามาทำเป็นเมินฉัน แล้วก็วางสมบัติของฉันลงเดี๋ยวนี้นะไอ้หัวล้าน!”