บทที่ 85

ณ หน้าประตูภูเขานิกายเซียวเหยา

“ครั้งนี้ศิษย์พี่ฉินออกจากนิกายไปก็นานกว่าสองเดือนแล้ว”

สาวกชายที่เฝ้าประตูภูเขาถอนหายใจ

“ใช่ แต่ว่าก็ว่าเถอะ พอศิษย์พี่ไม่อยู่ที่นี่ นิกายเซียวเหยาเงียบลงมาก”

สาวกหญิงอีกคนพยักหน้า

“ข้าได้ยินมาว่ายอดเขาเซียวเหยากำลังมีชื่อเสียงมาก พวกเขาให้กำเนิดอัจฉริยะสองคน น่าทึ่งจริงๆ ”

“พูดถึงอัจฉริยะ ข้าก็พอรู้เรื่องมาบ้าง ได้ยินว่าภายในเวลาแค่สองเดือน คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเลื่อนขั้นจากขอบเขตเปิดภูมิปัญญาขั้นหนึ่งไปขั้นสี่ จุ๊ๆ … แต่ความไวนี้ ก็ยังเทียบศิษย์พี่ฉินไม่ได้อยู่ดี”

“ถูกของเจ้า … หือ?”

สาวกหญิงพยักหน้า แต่แล้วก็อุทานขึ้นอย่างกะทันหันว่า “ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของศิษย์พี่ฉิน”

สาวกชายเงยหน้าขึ้นฟ้า แต่พบเพียงความว่างเปล่า แต่ตอนที่เขากำลังจะเอ่ยปาก ก็เห็นลำแสงพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตรงเข้านิกายเซียวเหยา และเลี้ยวไปทางยอดเขาเทียนหยุน

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เอ่ยชื่นชมว่า “น่าทึ่งนัก เขาอยู่ไกลขนาดนั้น เจ้าสัมผัสได้อย่างไร?”

“ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไม คิดว่าคงเป็นสัญชาตญาณของสตรีล่ะมั้ง”

“อาจารย์ ข้ากลับมาแล้ว”

ฉินห่าวร่อนลงบนยอดเขาเทียนหยุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อืม ครั้งนี้ศิษย์ข้าได้อะไรกลับมาบ้างเล่า?” เทียนหยุนลืมตาขึ้น เพ่งมองคร่าวๆ แต่ก็พบว่าฐานบำเพ็ญเพียรของฉินห่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลง

“ฮี่ ฮี่ ครั้งนี้ข้าสามารถเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ที่เกินกว่าท่านจะจินตนาการ!” ฉินห่าวแสร้งทำเป็นยิ้มลึกลับ

ใหญ่เกินกว่าจินตนาการ?

ร่างของเทียนหยุนสั่นเล็กน้อย

อย่าบอกนะว่าครั้งนี้เจ้าไปปล้นนิกายชั้นหนึ่งมา อืม ไม่สิ ไปหยิบของๆพวกเขามา?

“ศิษย์เอ่ยถึงความสำเร็จขนาดนี้ อาจารย์อย่างข้าก็ชักเริ่มอยากจะเห็นแล้วเหมือนกัน” สีหน้าของเทียนหยุนแข็งทื่อเล็กน้อย หากที่คาดเดาเป็นจริง เขาอาจรับมือไม่ไหวอีกต่อไป!

“สถานที่นี้เล็กเกินไปที่จะปล่อยของ” ฉินห่าวกวาดมองในห้อง

“อืม เช่นนั้นก็เปลี่ยนที่เถอะ”

ได้ยินแบบนี้ หัวใจของเทียนหยุนกระตุกวูบ แม้ห้องเขาจะไม่ใหญ่โต แต่ก็มีพื้นที่หลักพันตาราวา แต่นี่ยังไม่พอ?

เมื่อทั้งสองออกมา ฉินห่าวก็โบกมือ และกองสมบัติก็ร่วงตกลงเบื้องหน้าเขา เขาหันไปพูดกับเทียนหยุนโดยไม่สนใจสายตาเหม่อลอยนั่น “อาจารย์ คราวนี้ศิษย์ไปเจอนิกายอมตะมา”

สมองของเทียนหยุนว่างเปล่า นิกายอมตะงั้นหรือ?

จากนั้น ฉินห่าวก็พูดต่อว่า “มีอาวุธระดับเสวียนหลายร้อยชิ้น อาวุธระดับตี้หลายสิบชิ้น และกระบี่ระดับเทียนสองเล่ม แน่นอน ดูเหมือนพวกเราจะใช้มันไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถนำกลับไปหลอมและสร้างใหม่ โดยที่ยังมีคุณภาพเท่าเดิม”

“แล้วก็มีสมบัติชั้นยอดหลายชิ้น และสมบัติระดับเทียนอีกมากมาย ที่สำคัญที่สุดคือตำราทักษะฝึก!”

เทียนหยุนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังโง่งม แต่เนื่องจากต้องรักษาหน้าอาจารย์ เขายังคงพยักหน้าอย่างเยือกเย็น

“ทักษะฝึกนี้ได้มาเยอะทีเดียว มีระดับเสวียนนับพันตำรา ระดับตี้นับหลายร้อย และระดับเทียนนับหลายสิบ”

ระหว่างกล่าว ฉินห่าวโบกมือวูบ ตำราทักษะฝึกปรากฏขึ้นและเอ่ยอย่างลึกลับว่า “ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ มีทักษะฝึกที่เหนือกว่าระดับเทียนอยู่ด้วย เหมือนพวกมันจะถูกเรียกว่าระดับชิง มีทั้งสิ้นสิบกว่าเล่ม! ส่วนที่อยู่เหนือกว่าระดับชิงคือระดับเยว่ มีทั้งสิ้นห้าเล่ม!”

เทียนหยุน “ … ”

ถึงขนาดนี้ เขามั่นใจแล้วว่านี่ไม่ใช่การปล้นนิกายชั้นหนึ่งแน่นอน เพราะนิกายชั้นหนึ่งไม่มีทางครอบครองอะไรเช่นนี้ จะต้องเป็นนิกายอมตะดั่งที่ศิษย์ว่าไว้แน่ๆ

ระดับชิง ระดับเยว่ อะไรเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!

“อาจารย์ ทักษะฝึกเหล่านี้ท่านเก็บมันไว้ก่อน แน่นอน ศิษย์รู้ว่าอาจารย์ไม่สนใจพวกมัน แต่ข้าอยากอาศัยภูมิปัญญาของท่าน ช่วยทำสำเนาออกมาแล้วให้ศิษย์ตรวจทาน”

ขณะพูด เขาก็หยิบทักษะที่เหนือกว่าระดับเทียนออกมาแล้วมอบให้กับเทียนหยุน

“อ้อ ข้ายังได้สมบัติบางอย่างข้างในมาด้วย แม้มันจะไม่ค่อยมีค่า แต่ก็เป็นความตั้งใจของศิษย์ที่อยากมอบให้ หากท่านชอบชิ้นไหน สามารถหยิบไปได้เลย”

ฉินห่าวแสดงสีหน้าเคารพนับถือ ตอนแรกท่านอาจารย์มอบตำราวิชาให้เขามากมายโดยไม่หวงของ ถึงตอนนี้เขาจึงต้องตอบแทน แน่นอนว่าทัศนคติที่แสดงออกเป็นเรื่องสำคัญมาก เขาต้องพูดแบบไม่บังคับอาจารย์ แต่ขอให้เขาช่วยแทน

“นี่ .. ก็ได้ แม้ข้าจะไม่อยากได้มัน แต่ในเมื่อเป็นน้ำใจของศิษย์ อาจารย์จะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยคงไม่ได้”

เทียนหยุนพยักหน้าอย่างลำบากใจ และเริ่มเลือกมัน