บทที่ 80 กระบี่พลังชี่

เขาตายแล้วหรอ?

ใจของหลงหวางเอ๋อสั่นสะท้าน ก่อนหน้านี้เธอพึ่งยุ่งอยู่กับการก่อไฟเลยไม่ได้ให้ความสนใจกับการต่อสู้ระหว่างพวกเขานัก แต่ตอนนี้ใบหน้าสวยของหญิงสาวซีดลงเพราะเธอเห็นว่าเย่เฟิงสามารถหลบการโจมตีเมื่อกี้ได้อย่างแน่นอน แต่เขากลับเลือกที่จะยืนปกป้องเธออยู่ตรงหน้า

เลือดของเย่เฟิงที่อยู่ระหว่างหญิงสาวและหลี่ฮวาสาดกระจายจนทำให้โลกใบนี้แดงฉานเหมือนกับนรกบนดิน

ใต้แสงจันทร์และแสงดาว เงาสะท้อนของชายวิปริตที่ใช้กระบี่สะบั้นวายุปรากฎขึ้นมาท่ามกลางความมืดราวกับมาจากนรก

อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนกลับรู้สึกผิดท่า

ทำไมเลือดที่สาดกระจายไปทั่วถึงได้ดูไม่เหมือนจริงกัน? ตอนที่มันกระเด็นมาโดนร่างพวกเขามันกลับกลายเป็นสายหมอกและค่อยๆสลายไป แม้กระทั่งตอนที่ร่างของเย่เฟิงถูกตัดเป็นชิ้นๆเขากลับไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของมัน

“เป็นไปไม่ได้ เป็นเงาภาพติดตางั้นรึ?”

หัวใจของชายวิปริตสั่นด้วยความตระหนกเมื่อมันรู้ตัวว่าโดนหลอกเสียแล้ว อย่างไรก็ตามมันแย้มยิ้มที่มุมปากอย่างซ่อนเร้นและจ้องไปที่หลงหวางเอ๋อด้วยความใคร่

ถึงแม้ว่าเย่เฟิงจะสามารถหลอกมันด้วยภาพติดตาได้ แต่ความแข็งแกร่งก็คือความแข็งแกร่งอยู่ดี อุบายการหลอกที่น่าขำนี้ไม่สามารถทำให้เจ้าหน้ากากเป็นผู้ชนะไปได้หรอก

“เจ้าหนู ในเมื่อแกหนีไปแล้ว งั้นฉันขอรับสาวงามคนนี้ไปละกันนะ!”

ลิ้นของชายวิปริตเลียไปรอบริมฝีปากมันควงกระบี่สะบั้นวายุอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาหลงหวางเอ๋อเตรียมเพื่อเตรียมพร้อมจะสับหญิงสาวเป็นชิ้นๆ!

ตอนนี้เองที่ดวงตาของหลงหวางเอ๋อเห็นชายวิปริตพุ่งเข้ามา หญิงสาวอยากจะกระโดดหลบไปในน้ำแต่สภาพขาของเธอไม่อยู่ในสภาพที่ดีนัก หญิงสาวไม่มีทางเลือกมากแล้ว!

ท่ามกลางช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ร่างของเย่เฟิงปรากฎขึ้นอย่างเงียบงันด้านหลังของหลี่ฮวาไปประมาณสิบเมตร พร้อมกับตวัดกระบี่เจินชี่ ทันใดนั้นปรากฎกระบี่พลังชี่สีน้ำเงินตัดผ่านอากาศเร็วประดุจสายฟ้าฟาดฟันเข้าใส่เป้าหมาย!

ฉัวะ!

เสียงกระบี่ตัดผ่านเนื้อดังขึ้นมา ทันใดนั้น หยดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่ทันทีที่แสงของกระบี่ฟันผ่านไป ในชั่วพริบตาแสงของกระบี่จางหายไป กระบี่เล่มยาวลอยล่องและตกไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกล

“อ๊ากกกกกก!”

เสียงที่น่าสมเพชของหลี่ฮวาพลันดังกึกก้องไปทั่ว

เมื่อแสงของกระบี่หยุดลง หลงหวางเอ๋อถึงพึ่งรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและนิ่งทึ่งไปพักหนึ่ง หญิงสาวพึ่งพบว่าแขนข้างหนึ่งของหลี่ฮวาถูกฟันขาดเสมอไหล่ สายเลือดยังคงไหลทะลักออกมาอย่างน่ากลัว มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างเหลือแสน!

“มันเป็นไปได้ยังไง? กระบี่พลังชี่”

ขณะที่ร่างกายโซเซ หลี่ฮวาหันรีบกลับไปมองเย่เฟิงที่สวมหน้ากากอยู่ ความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวปรากฎขึ้นบนใบหน้าเขาทันที

เมื่อกี้ มันคือกระบี่พลังชี่ไม่ผิดแน่!

ในโลกยุทธภพคนส่วนใหญ่จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ต่อสู้กับคนสองพวก จำพวกแรกคือผู้เชี่ยวชาญอาวุธลับ จำพวกสองคือผู้ที่สามารถดึงพลังชี่ออกมาข้างนอกได้ เพราะคนจำพวกนี้มีความสามารถใช้กระบี่พลังชี่ ดาบพลังชี่ และอื่น ๆได้อย่างร้ายกาจ

อย่างเช่นพ่อของหลงหวางเอ๋อ หลงโมหลันซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลมังกร เขาก็สามารถปลดปล่อยกระบี่พลังชี่ออกมาได้อย่างร้ายกาจ เพราะเขามีวรยุทธระดับ 50 ปีซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

และเพราะว่ามีคนจำนวนน้อยมากในโลกยุทธภพที่มีความสามารถเช่นนี้ ชายสวมหน้ากากคนนี้เป็นใครกันแน่?

หลี่ฮวายังไม่รู้ว่าเย่เฟิงมีความแตกต่างจากคนอื่นเพราะพลังของเขาคือเจินชี่ นอกจากนี้ มันยังไม่รู้ว่าเจินชี่และพลังชี่ภายในนั้นมีความต่างกันมาก

เหตุผลที่พลังชี่ภายในถูกเรียกว่า“พลังชี่ภายใน” ในเพราะมันยากที่จะใช้ออกมาภายนอก มันสามารถไหลเวียนได้เพียงแค่ในร่างกายและในอาวุธของผู้ใช้เท่านั้น

แต่สำหรับเจินชี่กลับมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า และหลักการของทั้งสองยังมาจากพื้นฐานที่ต่างกัน

ดังนั้น หลี่ฮวาจึงเกรงกลัวที่จะเผชิญหน้ากับใครที่สามารถใช้กระบี่พลังชี่ได้ ตัวมันเองเป็นแค่มือกระบี่ธรรมดาที่มีระดับวรยุทธ์แค่ 15 ปี มันย่อมไม่อาจต่อกรกับผู้ใช้กระบี่พลังชี่ได้

หลี่ฮวาไม่อยากบอกเรื่องศัตรูของไห่ถังให้ใครรู้ มันจึงรีบห้ามเลือดและคว้ากระบี่ยาวในพุ่มไม้ จากนั้นจึงรีบพุ่งไปยังทางออกของหุบเขาอย่างรวดเร็ว

ชายวิปริตเกรงกลัวอย่างยิ่งว่าเย่เฟิงจะใช้กระบี่พลังชี่ไล่ล่ามันอีกครั้ง

เคราะห์ดี เย่เฟิงเพียงแค่มองดูชายวิปริตวิ่งหนีไปโดยที่ไม่ได้ลงมืออะไร

ความจริงแล้ว ชายหนุ่มอยากจัดการคนชั่วอย่างมันให้สิ้นซาก แต่เวลานี้ เขาแทบไม่เหลือพลังอีกแล้ว

ข้อมูลเกี่ยวกับกระบี่มังกรไร้หัวท่าแรกก่อนหน้านี้ ถูกส่งมาจากแหวนกระบี่มังกรโบราณเข้าสู่ใจเขา ซึ่งท่าแรกเป็นพื้นฐานของการใช้กระบี่พลังชี่ โดยผู้ฝึกต้องปลดปล่อยเจินชี่ภายในร่างออกมาเคลือบกระบี่ของตนไว้

“มรดกกระบี่มังกร มาพร้อมกับแหวนดาบมังกรโบราณ…….”

เย่เฟิงอ้าปากค้าง กระบี่เจินชี่สีส้มอมแดงในมือเขาพลันหายไปทันที

กระบี่มังกรไร้หัวท่าแรก เย่เฟิงพึ่งจะเข้าใจและสามารถใช้มันออกมาได้ หากใครรู้เรื่องนี้เข้า คนเหล่านั้นย่อมทึ่งในพรสรรค์ของชายหนุ่มคนนี้

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่เรื่องธรรมดาของเย่เฟิง

ในโลกเทวะ เหตุผลที่เซียนเหมันต์ซูเฟยหยิ่งชื่นชอบเขาและรับชายหนุ่มเป็นศิษย์มีเพียงเหตุผลเดียวคือเย่เฟิงเป็นอัจริยะนั้นเอง!

ในการฝึกวรยุทธ์วิถีเซียน ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกหรือระดับวรยุทธ์คือสิ่งสำคัญที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น พรสรรค์ของผู้ฝึกก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเช่นกัน

บางคนจำเป็นต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือนเพื่อสำเร็จทักษะเซียนทั่วๆไปอย่างเช่น ทักษะอำพราง , สะกดจิต , เต่ามังกรกลั้นใจ และอีกหลายอย่าง แต่กรณีของเย่เฟิง เขาใช้เวลาเพียงไม่นานเท่านั้นในการสำเร็จวิชาเหล่านี้

พรสวรรค์ที่สูงส่งของคนไม่เพียงทำให้สามารถสำเร็จวิชาเซียนอย่างรวดเร็วเท่านั้น มันยังทำให้คนผู้นั้นมีระดับวรยุทธ์ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับระดับของทักษะเซียนนั้น ผู้ที่ด่อยพรสวรรค์จะสามารถฝึกฝนได้เพียงทักษะระดับแรก ส่วนผู้ที่มีพรสวรรค์สูงจะสามารถฝึกฝนระดับที่สอง สาม สี่ และที่สูงกว่านี้ต่อไปได้อีกเรื่อยๆ

เย่เฟิงไอสองครั้งและไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง บนตัวเขามีบาดแผลฉกรรจ์สองแห่งที่อกและอีกแห่งที่ต้นขาที่ถูกฟันจนลึกถึงกระดูก ซึ่งเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด

ดาบคู่วายุของหลี่ฮวานั้นไม่อาจมองข้ามได้ เพียงแค่ช่วงสั้นๆ ร่างของเขาก็มีบาดแผลปรากฏขึ้นมากมาย หากการต่อสู้นี้ยังคงดำเนินต่อไปอีก เย่เฟิงย่อมไม่อาจต่อกรกับมันได้ โชคดีที่แขนของหนึ่งของมันถูกตัดออกไปแล้วด้วยกระบี่เจินชี่ของขา

“คุณ คุณเป็นอย่างไรบ้าง!”

ภายใต้แสงดาวที่สลัว และควันไฟที่ปลกคลุมไปทั่ว เมื่อเห็นท่าทางโซเซของเย่เฟิง หลงหวางเอ๋อรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มด้วยความเป็นกังวล

เมื่อหลงหวางเอ๋อเห็นบาดแผลน้อยใหญ่มากมายบนร่างชายหนุ่ม รวมทั้งบาดแผลฉกรรจ์ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน หญิงสาวก็รู้สึกเจ็บปวดใจราวกับถูกคมมีดนับร้อยเสียดแทง

“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แค่ก แค่ก……”

เย่เฟิงหัวเราะเล็กน้อย สาวสวยคนนี้หลงรักเขาแล้วหรืออย่างไรกัน?

“เดี๋ยวรอให้พ่อฉันมาถึงที่นี่ แล้วกลับไปตระกูลมังกรกับฉัน”

หลงหวางเอ๋ออยู่ในอารมณ์ไม่ดี คิ้วคู่งามของเธอขมวดเข้าด้วยกัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ห้ามปฏิเสธ บาดแผลเหล่านี้ หากเขากลับไปยังตระกูลมังกรและนอนพักสักเดือน เขาย่อมกลับมาแข็งแรงดังเดิม

หญิงสาวตั้งใจจะพาเขากลับไปยังบ้านของเธอ ด้วยพรสวรรค์ของเขา พ่อของเธอย่อมรับในตัวเขาแน่

ส่วนตอนนี้…..

“ถอดหน้ากากออกได้ไหม ให้ฉันได้เห็นใบหน้าของคุณ ฉันจะไม่ทอดทิ้งคุณไม่ว่าใบหน้าของคุณจะน่าเกลียดแค่ไหนก็ตาม”

หลงหวางเอ๋อพูดขณะจ้องมองมาที่ชายหนุ่ม

น่าเสียดายที่คำขอทั้งสองของหญิงสาว เย่เฟิงไม่อาจทำตามได้ หากเขาถอดหน้ากากออก หรือกลับไปกับเธอ คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

………………………….

แปลโดยทีมงาน GSI